กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-07-2023, 19:55
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,624
ได้ให้อนุโมทนา: 216,927
ได้รับอนุโมทนา 747,660 ครั้ง ใน 36,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-07-2023, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพหนีงานออกมา ขนาดนั้นก็ยังแทบจะไม่ทันเวลา หน้าไม่ต้องล้าง น้ำไม่ต้องสรง ต้องมาบันทึกเสียงให้พวกคุณฟังอยู่นี่..!

ความจริงวันนี้ถ้าเป็นไปตามวาระการประชุมก็คงจะไม่เสียเวลามาก แต่พอดีว่าพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ในการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า หมู่บ้านรักษาศีล ๕ ออกมาพอดี พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง องค์ประธานอำนวยการ โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ก็เลยทำพิธีมอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชให้ด้วย

คราวนี้คณะกรรมการอำนวยการส่วนใหญ่ก็อายุกาลผ่านวัยเยอะมาก ทำให้การขึ้นการลงนั้นช้าไปหมด แต่พอมาถึงท้าย ๆ ก็เร็วจนได้ เพราะว่าส่วนใหญ่คณะกรรมการดำเนินงานอายุยังน้อยอยู่ ระดับ ๖๔ เต็ม ๖๕ ปีอย่าง
กระผม/อาตมภาพนี่ เขาถือว่าอายุยังน้อยอยู่ เพราะฉะนั้น..โปรดนึกเอาว่าอายุมากนี่เท่าไร..?!

พอรับพระบัญชาเสร็จ ถ่ายรูปเสร็จ กระผม/อาตมภาพก็ต้องหนีงานก่อน ไม่อย่างนั้นจะกลับมาไม่ทันพวกท่าน มาจนกระทั่งถึงเมืองกาญจน์แล้ว มีข้อความในกลุ่มไลน์ส่งมาว่า "กรุณาเลี้ยวรถกลับมาครับ มีการประชุมเพื่อแบ่งงาน" "ไม่ทันแล้วครับ เหยียบกาญจนบุรีแล้ว จะแบ่งให้ทำอะไรก็แบ่งมาก็แล้วกัน ผมรับได้ทุกงานครับ"

คราวนี้ในวันนี้ก่อนที่จะไปประชุม พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ประธานคณะกรรมการอำนวยการเมตตาเลี้ยงอาหารที่ร้านร่มไม้ริมนา อยู่ถนนพุทธมณฑลสาย ๕ กระผม/อาตมภาพเองมีการเข้าอบรมออนไลน์เกี่ยวกับการทำวิจัย จึงขออนุญาตแยกมานั่งต่างหาก เพื่อที่จะฟังการอบรมให้จบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2023 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-07-2023, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรากฏว่าหลวงปู่พรหมา วัดจักรวรรดิราชาวาส สมณศักดิ์ของท่านคือพระธรรมวัชรวิสุทธิ์ ท่านเห็นก็มานั่งด้วย เห็นหนังสือที่กระผม/อาตมภาพอ่านอยู่ ก็ขอไปลูบ ๆ คลำ ๆ แล้วท้ายสุดก็ปรารภว่า "เด็กสมัยนี้ไม่อ่านหนังสือกันแล้ว เล่นแต่โทรศัพท์มือถือ เล่นแต่แทบเล็ต" พอปล่อยให้คนแก่บ่น คราวนี้ก็มาจน "กระบุงโกยไม่ไหว" บ่นไปยันเรื่องพระเณรในวัดว่า ท่านเองพยายามทำตัวเป็นแบบอย่าง ลงไปสวดมนต์ทำวัตร เจริญกรรมฐานทุกวัน แต่บรรดาเจ้าคณะที่ตั้งเอาไว้ให้ช่วยดูแลวัด ไม่ยอมปล่อยให้ลูกคณะมาทำวัตร เจริญกรรมฐาน อ้างว่าเสียเวลาท่องหนังสือ

คราวนี้หลวงปู่ท่านใช้คำหนึ่งที่
กระผม/อาตมภาพรู้สึกว่ากระทบใจมาก ก็คือท่านบอกว่า "วัดวาอารามจะมีพระภิกษุสามเณรมากมายเท่าไรก็ตาม ถ้าหากว่าไม่มีเสียงสวดมนต์ทำวัตร ก็ไม่ถือว่าเป็นวัด..!" กระผม/อาตมภาพฟังแล้วเห็นด้วย กราบเรียนถวายหลวงปู่ท่านไปว่า "วัดท่าขนุนของกระผม ทำวัตรเช้าเย็น ๓ รอบ บิณฑบาตและเจริญกรรมฐานทุกวัน ใครไม่ทำก็คือคนป่วย ถ้าป่วยห้ามอยู่วัด ให้ไปอยู่โรงพยาบาล"

ท่านก็ยกมือสาธุ บอกว่า "เดี๋ยวนี้เจ้าอาวาสที่คิดแบบคุณน้อยมากแล้ว ส่วนใหญ่แล้วกลัวว่าจะไม่มีพระเณรอยู่ด้วย ก็อะลุ้มอล่วยปล่อยกันเละเทะไปหมด วันทั้งวันสวดมนต์ไหว้พระไม่ทำ ก้มหน้าก้มตาอยู่แต่กับมือถือ" ไม่รู้เหมือนกันว่ามือถือไปทำหลวงปู่เจ็บช้ำน้ำใจอะไรหรือเปล่า ? บ่นเรื่องนี้จัง..!

แต่ว่าหลวงปู่ท่านเป็นพระเถระที่น่ารักมาก ก็คืออายุมากแล้ว แต่ไม่ทำตัวเป็นภาระกับคนอื่น พอเดินได้เองก็เดิน พอตักอาหารได้เองก็ตัก ต้องบอกว่าเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับพวกเราอย่างหนึ่ง ก็เพราะว่าเจ้าคุณใหญ่ ๆ โต ๆ ปัจจุบันนี้ท่านเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐เพราะว่าอายุ ๘๐ กว่าแล้ว เกษียณอายุแล้ว ก็ต้องเป็นแค่ที่ปรึกษา อยู่พระอารามหลวง คือวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร ยังมีแนวคิดอยู่ในลักษณะอย่างนี้ แล้วยังทำตัวเป็นแบบอย่างให้กับพระลูกพระหลาน

แต่พระลูกพระหลานส่วนใหญ่แล้วก็อย่างที่ว่า ไม่ได้คิดจะเอาความก้าวหน้าในทางธรรม คิดแต่จะเอาความก้าวหน้าในทางโลก ไปทุ่มเทให้กับการเรียนการศึกษา ซึ่งถ้าหากว่าใครมีวุฒิการศึกษา ก็มักจะได้รับการสนับสนุนให้เป็นใหญ่ในสายปกครอง ก็เลยทำให้ห่างไกลเรื่องการปฏิบัติธรรม ท่านใช้คำว่า "เด็กสมัยนี้ไม่มีความอดทน จะให้มานั่งอ่านหนังสือวันหนึ่งเป็นเล่ม ๆ อย่างคุณ เขาไม่อ่านกันหรอก เสียเวลาเล่นมือถือ..!" เลี้ยวมามือถืออีกแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2023 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-07-2023, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ไปตรงกับที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม องค์ประธานอำนวยการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ที่ท่านให้นโยบายเอาไว้ว่า "งานของหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เน้นไปเลยว่า ให้สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดรับผิดชอบ" เจริญ..คือแต่ละท่านที่ไป อย่างดีที่สุดก็เป็นแค่เจ้าสำนักปฏิบัติธรรม แต่กระผม/อาตมภาพเองเป็นประธานศูนย์ประสานงานสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง ๔๔ แห่งอยู่ในมือของเราคนเดียว แล้วจะไปบีบคอให้เขาทำได้อย่างไร ?

ในส่วนที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จหนกลางปรารภก็คือว่า ถ้าพูดถึงการปฏิบัติธรรม คนก็จะนึกถึงสมาธิ เรื่องของศีล ๕ เป็นเบื้องต้นของสมาธิ ก็แปลว่าถ้าหากว่าเรานำเอาโครงการรักษาศีล ๕ ไปแนะนำให้ชาวบ้านเขาปฏิบัติ ก็ต้องเขาเห็นประโยชน์ด้วยว่ารักษาศีล ๕ แล้วได้อะไร ?

พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ.๙) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ผู้ล่วงลับไปแล้ว ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า

การรักษาศีลข้อที่ ๑ เป็นการประกันชีวิต ถ้าทุกคนรักษาศีลก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาฆ่าเรา

การรักษาศีลข้อที่ ๒ เป็นการประกันทรัพย์สิน ทุกคนรักษาศีลข้อนี้ได้ ไม่ต้องกลัวว่าข้าวของจะสูญหาย

การรักษาศีลข้อที่ ๓ เป็นการประกันครอบครัว ถ้าหากว่าไม่นอกใจกัน ครอบครัวก็ไม่แตกแยก

การรักษาศีลข้อที่ ๔ เป็นการประกันสังคม ไม่โกหก ไม่หลอกลวง ไม่ส่อเสียด ยุแหย่ให้คนแตกร้าวกัน สังคมเราจะสุขสงบ รักใคร่สามัคคีกันดี

ถ้าหากว่ารักษาศีลข้อที่ ๕ เป็นการประกันสุขภาพ คนที่ไม่กินเหล้าเมายา อย่างไรเสียสุขภาพก็ต้องดีกว่าคนกินเหล้าเมายา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2023 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 04-07-2023, 01:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้ญาติโยมจะมีกำลังใจรักษาศีลได้ ต้องมีสมาธิเป็นเครื่องหนุนเสริม ถ้ากำลังสมาธิไม่พอที่จะต่อต้านกิเลส ก็อดไม่ได้ที่จะละเมิดศีล

พวกท่านทั้งหลายที่เป็นพระภิกษุสามเณรนี่ตัวดีเลย..! ใครก็ตามที่สติยังไม่พอ เผลอเมื่อไรก็จะละเมิดศีล ถ้าเป็นแบบนี้ให้เรารู้ตัวไว้ว่า กำลังสมาธิยังไม่พอใช้งาน ต้องเร่งรัดตัวเองให้มากกว่านี้ เพราะว่าสติจะแหลมคมว่องไวก็ต่อเมื่อสมาธิทรงตัว

หลังจากนั้นท่านบอกว่า ต้องสอนให้ชาวบ้านมีปัญญาด้วย ก็คือมีปัญญารู้คุณค่า ว่าศีลทั้งหลายเหล่านี้ดีอย่างไร อย่างที่ได้ยกตัวอย่างที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้ให้โอวาทเอาไว้ ถ้าชาวบ้านเขาเห็นว่าศีล ๕ มีประโยชน์ เขาจะรักษากันเอง

นี่เป็นเรื่องที่พระเถระผู้ใหญ่ท่านเห็นแนวทางอย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่พวกเราทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ที่ปัจจุบันนี้ศีลธรรมของเราเสื่อมทรามกันลงไป เพราะว่าสภาพสังคมเปลี่ยนไป สภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้คนไม่มีเวลาที่จะมารักษาศีล ปฏิบัติธรรม ซึ่งความจริงอ้างตรงนี้ก็ไม่ถูก เพราะว่าตราบใดที่เรายังหายใจอยู่ ก็ต้องมีเวลาปฏิบัติธรรรม

เพราะว่าการปฏิบัติธรรม หลัก ๆ ถ้าจะเอาดีกันเลย ก็คือต้องรับรู้ลมหายใจเข้าออกของตนเอง กำหนดสติให้อยู่เฉพาะหน้ากับลมหายใจเข้าออก ไม่ไปหวนหาอาลัยอดีต แล้วก็ไม่ไปฟุ้งซ่านกับอนาคต หยุดอยู่กับปัจจุบันนี้เท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2023 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 04-07-2023, 01:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าทำลักษณะนี้ได้ รัก โลภ โกรธ หลง จะโดนกดดับลงชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชี หรือฆราวาส ชีวิตก็จะมีความสุขมาก เพราะว่าไฟใหญ่ ๔ กองก็คือ ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ดับลงหมดแล้ว ด้วยอำนาจของสมาธิ ต่อให้ดับลงชั่วคราวก็ดับ บุคคลถ้าก้าวถึงตรงจุดนี้ จะปฏิบัติสมาธิภาวนาโดยไม่เบื่อไม่หน่าย เพราะว่าเห็นคุณค่าแล้ว มีแต่จะพยายามใช้ปัญญาของตนเอง ประคับประคองรักษาสมาธินี้เอาไว้ ไม่ยอมปล่อยให้หลุดไปง่าย ๆ เพราะเห็นจริง ๆ ว่ามีประโยชน์อย่างไร

ดังนั้น..ในเรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญาในปัจจุบันนี้ พูดแล้วยาก เพราะว่าญาติโยมมักจะอ้างความจำเป็นในการดำรงชีวิต จำเป็นที่จะต้องฆ่าสัตว์ จำเป็นที่จะต้องโกหกหลอกลวงเขา จำเป็นที่จะต้องเข้าสังคม
ถ้าหากว่าจะแนะนำญาติโยมทั้งหลาย เราต้องมั่นใจว่าตัวเองสามารถบอกให้เขาเห็นประโยชน์ของศีล สมาธิ ปัญญาได้จริง ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วก็เสียเวลาปากเปียกปากแฉะเปล่า ๆ

แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับวาระบุญ วาระกรรมของคนเหมือนกัน ถ้าหากว่ากุศลกรรมมาสนอง จากคนที่ทำชั่วมาตลอดชีวิต บางทีพลิกหลังเท้าเป็นหน้ามือ เปลี่ยนมาถือศีลปฏิบัติธรรมเฉยเลย..!

เรื่องพวกนี้ถ้ามัวแต่รออยู่ ก็อาจจะเสียประโยชน์ พวกเราจึงจำเป็นที่จะต้องทน จ้ำจี้จ้ำไชไปเรื่อย ใครบุญถึง บารมีถึง ปุพเพกตปุญญตาสร้างเอาไว้ดี เขาก็จะรู้สึกอยากทำเอง จึงเป็นภาระที่พวกเราทั้งหลายจะต้องช่วยกันต่อไป

โดยเฉพาะพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จหนกลาง โยนมาเป็นภาระของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดแล้ว ก็แปลว่า
ไม่ทำก็ไม่ได้ ทำแล้วต้องเอาดีให้ได้อีกด้วย กลายเป็นว่าทุกคนต้องเหนื่อยร่วมกัน เพื่อที่จะประคับประคองพระพุทธศาสนาของเราให้ก้าวต่อไป จนกว่าที่จะครบ ๕,๐๐๐ ปี

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2023 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:33



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว