กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-06-2023, 17:56
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,577
ได้ให้อนุโมทนา: 217,016
ได้รับอนุโมทนา 748,831 ครั้ง ใน 36,476 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-06-2023, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,749
ได้ให้อนุโมทนา: 152,177
ได้รับอนุโมทนา 4,420,354 ครั้ง ใน 34,339 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพรับฎีกาหลวงอาราธนาไปร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล เนื่องในวาระครบ ๑๐๐ ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ มณฑลพิธีพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

ในงานนี้สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ แม้ว่าพระองค์ท่านจะเจริญพระชนมายุถึง ๘ รอบ ๙๖ พรรษาแล้ว แต่ก็ยังดูแข็งแรงดี

ส่วนพระเถระทั้ง ๙ รูปรวมอาตมภาพด้วยนั้น ที่คุ้นเคยกันก็มี หลวงพ่อเจ้าคุณสมชาย (พระราชพัฒนากร) วัดปริวาสราชสงคราม ท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) เป็นต้น พูดง่าย ๆ ว่ามีแต่บรรดาเจ้าคุณ ต่ำสุดก็ชั้นสามัญ แล้วอยู่ ๆ ก็มีพระครูโผล่ไปโด่เด่อยู่รูปเดียว..!

แถม มรว.จิยากร อาภากร เสสะเวช ประธานมูลนิธิราชสกุลอาภากร ยังกล่าวว่า "กราบรบกวนหลวงพ่อวัดท่าขนุนทุกงานเลยนะคะ" พูดง่าย ๆ ว่าจองตัวกันล่วงหน้า เนื่องจากว่าตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งปัจจุบัน คณะศิษย์วัดท่าขนุนและผู้มีจิตศรัทธา ไปบูชาวัตถุมงคล ซึ่งสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่จะทำคุณประโยชน์ต่าง ๆ ในนามของมูลนิธิราชสกุลอาภากรอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง จึงทำให้คุณหญิงท่านกำหนดจดจำวัดท่าขนุนได้แม่นยำเป็นพิเศษ

งานนี้
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธานในการเจิมและจุดเทียนชัย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีนั้น ปีนี้ก็ทรงเจริญพระชนมายุ ๖๘ พรรษาแล้ว เพียงแต่ว่าจากที่เห็นด้วยสายตา พูดตามภาษาชาวบ้านก็คือ "ผอมลงไปมาก"

แต่ว่าเสด็จพระราชดำเนินในลักษณะของคนแก่ ก็คือต้องเสด็จพระราชดำเนินแบบช้า ๆ และระมัดระวัง เนื่องเพราะว่าอาจจะเสด็จพระราชดำเนินไม่สะดวกอย่างหนึ่ง พระชนมายุสูงวัยแล้วอย่างหนึ่ง จึงทำให้พระองค์ท่าน ซึ่งโดยปกติแล้วก็ไม่ค่อยจะแต่งองค์ทรงเครื่องอะไรกับใคร จึงดูเป็นคนแก่ แบบเดียวกับคนแก่สมัยก่อนแถวบ้านกระผม/อาตมภาพไปเลย

แต่ว่าทุกคนก็ปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่มารับเสด็จ เพราะว่าพระองค์ท่านเพิ่งจะเสด็จพระราชดำเนินกลับจากการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศจีน มหามิตรของเรา แล้วก็เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นประธานฝ่ายฆราวาสในงานนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2023 เมื่อ 01:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 16-06-2023, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,749
ได้ให้อนุโมทนา: 152,177
ได้รับอนุโมทนา 4,420,354 ครั้ง ใน 34,339 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของการปลุกเสกวัตถุมงคลนั้น ถ้าหากว่ามีพระพุทธรูปก็เป็นเรื่องง่าย เนื่องเพราะว่าบารมีพระที่สงเคราะห์ลงมานั้น ไม่ได้ลำบากเหมือนกับวัตถุอื่น ๆ เพราะว่าวัตถุอื่น ๆ นั้นเราต้องเสกจนมีอานุภาพเหมือนพระ แต่พระพุทธรูปนั้น เสกอย่างไรก็เป็นพระอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องที่ง่าย

ขณะเดียวกันไม่ว่าจะเป็นรูปหล่อหรือว่าเหรียญของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์นั้น
กระผม/อาตมภาพได้อัญเชิญท่านมาเสกให้เองโดยตรง ท่านเองก็ยังมีการตรัสแบบที่เรียกว่าล้อกันเล่น เหมือนกับคนคุ้นเคยว่า "เรื่องแบบนี้ก็ต้องรบกวนกันด้วย" ว่าแล้วก็ชี้ไปที่หลาน ก็คือคุณหญิงจิยากร ประธานมูลนิธิราชสกุลอาภากรว่า "เล่นจุดธูปบอกตั้งแต่วันก่อน ขอโน่นขอนี่หลายอย่าง โดยเฉพาะขอไม่ให้ฝนตก ขอไม่ให้แดดร้อน ขอให้มีลมพัดตลอดเวลา" ฟังพระองค์ท่านแล้ว กระผม/อาตมภาพก็รู้สึกขำอยู่ในใจเหมือนกัน

เมื่อเสร็จพิธีแล้ว
กระผม/อาตมภาพขอตัวเดินทางกลับ เมื่อถึงที่พักแล้ว ต้องรีบมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ก็ปรากฏว่าผู้ติดตามนั้น ได้มาเบิกทองคำจำนวน ๒๖๐ บาท เพื่อที่จะไปทำวัตถุมงคลตามที่ได้รับคำสั่งมา ก็คือตะกรุดโลกธาตุ แล้วก็เป็นวัตถุมงคลเนื้อเดียวเท่านั้น คาดว่าราคาจะค่อนข้างสูง กระผม/อาตมภาพจะพยายามกดราคาให้อยู่ที่ดอกละ ๕,๐๐๐ บาท คาดว่าน่าจะมีกำไรเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย

ส่วนเมื่อวานนี้ ตอนเจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้าที่วัดท่าขนุนนั้น กระผม/อาตมภาพได้รับคาถามา พระท่านบอกว่าเอาไว้สร้างวัตถุมงคลช่วยเสริมปัญญาให้กับคนรุ่นนี้ ที่รู้สึกว่าจะค่อนข้างมีความจำย่ำแย่ เรียนหนังสือหนังหาไม่ค่อยจะได้เรื่องในสายตาของกระผม/อาตมภาพ

พระคาถาเสริมปัญญาที่ว่านั้นว่า "ปัญญาเสฏฐัง ปัญญาพะลัง ปัญญาปาสาทิโก ปัญโญภาโส ปัญญาปัชโชโต ปัญญาระตะนัง ภูริปัญโญ มหาญาณัง สัมปะฏิจฉามิ" พระท่านให้สร้างเป็นวัตถุมงคลติดตัว แล้วต้องภาวนาพระคาถานี้ทุกวัน ใครภาวนาครบ ๑๐๘ จบ ก็จะมีอานุภาพในการเสริมปัญญา ไม่ว่าจะศึกษาวิชาการอะไร ก็สามารถที่จะเข้าใจได้ง่าย แต่ถ้าขาดการภาวนาก็อย่าหวังเลยว่าจะได้ผล..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2023 เมื่อ 01:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 60 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 16-06-2023, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,749
ได้ให้อนุโมทนา: 152,177
ได้รับอนุโมทนา 4,420,354 ครั้ง ใน 34,339 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพฟังครูบาอาจารย์ท่านสั่งและบังคับแล้วก็ยังขำอยู่ในใจ โดยปกติแล้วเรื่องนี้กระผม/อาตมภาพไม่คิดที่จะทำอย่างเด็ดขาด เพราะว่าเท่ากับสนับสนุนเด็กให้ขี้เกียจ แต่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านบอกว่า "รุ่นพวกแกก็ใช้พระคาถาท่านปู่พระอินทร์ช่วย มารุ่นหลัง ๆ ที่ไม่รู้จักข้า ไม่รู้จักท่านปู่พระอินทร์ แต่ไปศรัทธาพวกแก เพราะว่าสร้างบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์กันมาในอดีต เขาก็จะฟังแกมากว่า ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แกก็ควรที่จะช่วยสงเคราะห์พวกเขาด้วย"

ในเมื่อเป็นเรื่องของครูบาอาจารย์ท่านให้ทำ คำสั่งประเภทนี้จัดว่าเลี่ยงไม่ได้ แต่กระผม/อาตมภาพ ก็กำลังมองอยู่ว่าจะทำเป็นเนื้อโลหะดี หรือว่าทำเป็นเนื้อผงดี เนื่องจากว่าในสมัยโบราณนั้น มีตะกรุดเสริมปัญญา ที่เรียกว่าตะกรุดอ้อป่อง หรือว่าตะกรุดอ้อบ่อง ซึ่งก็คือตะกรุดที่ช่วยในการทะลุทะลวง รู้แจ้งแทงตลอด นั่นก็ทำมาจากโลหะ

หรือว่าอย่างสมัยหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ท่านก็สร้างพระเสริมปัญญา ก็คือพระนักธรรมของท่าน กระผม/อาตมภาพยังเคยใช้ติดตัวอยู่ระยะหนึ่ง แต่เนื่องจากว่าทำพระคาถาท่านปู่พระอินทร์ขึ้นเสียแล้ว จึงทำให้พระนักธรรมของหลวงพ่อทรง วัดศาลาดินนั้น มีผลต่อกระผม/อาตมภาพ น้อยไปหน่อย เพราะว่าความเคยชินที่ต่างกัน

ความเคยชินจากพระคาถา เมื่อถึงเวลาน้อมจิตระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ มีท่านปู่พระอินทร์เป็นที่สุด แล้วภาวนาพระคาถา พอจะมาอาราธนาพระนักธรรมอีกทีหนึ่งก็รู้สึกว่าไปกันไม่ค่อยจะได้ เนื่องเพราะว่ากลายเป็นวิชาคนละสาย คนละอย่างกัน

แต่ว่าพระนักธรรมของหลวงพ่อทรงนั้นดีจริง กระผม/อาตมภาพขอยืนยัน เพียงแต่ว่าต้องให้คนอื่นใช้ ไม่ใช่ให้กระผม/อาตมภาพใช้เอง เมื่อมาถึงรุ่นของตนเองก็ต้องมาตัดสินใจว่า จะทำเป็นเนื้อโลหะแบบตะกรุดอ้อป่อง หรือว่าทำเป็นเนื้อผงแบบพระนักธรรมของหลวงพ่อทรง ก็คงจะต้องรอการตัดสินใจกันอีกทีหนึ่ง

เพียงแต่ว่าในส่วนนี้ เมื่อถึงเวลาถ้าครูบาอาจารย์ท่านสั่งสร้างวัตถุมงคลติด ๆ กัน ก็แปลว่ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมาก โดยเฉพาะระยะนี้ ในเรื่องของพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน อย่างโน้นก็เสร็จ อย่างนี้ก็จะส่ง งวดนั้นก็ต้องเบิก เมื่อวานนี้ก็เพิ่งจะจ่ายงวดที่ ๗ เป็นจำนวนเงิน ๘ ล้านบาทไป แต่ว่าได้หักประกันผลงานเอาไว้ ๔ แสนบาท ถ้าหากว่าผ่านไป ๖ เดือนแล้วไม่มีอะไรชำรุดเสียหาย ๔ แสนบาทนี้ก็ต้องโอนให้เขาไปอยู่ดี ก็แปลว่าในเรื่องของการสร้างวัตถุมงคลนั้น จะว่าไปแล้ว ก็ต้องลงทุนค่อนข้างมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2023 เมื่อ 01:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 16-06-2023, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,749
ได้ให้อนุโมทนา: 152,177
ได้รับอนุโมทนา 4,420,354 ครั้ง ใน 34,339 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างช่วงที่ผ่านมา การสร้างเหรียญมหาลาภเงินล้านนั้น ต้องลงทุนเม็ดเงินไปสองล้านกว่าบาท แล้วก็ยังต้องมีค่าบล็อก ค่าปั๊ม สารพัดของทางโรงงาน แล้วเหลือกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พูดง่าย ๆ ว่าได้ประมาณ ๑ ใน ๔ ของค่างวดที่ต้องจ่ายค่าสร้างพิพิธภัณฑ์ ท่านที่เห็นตัวเลขส่วนรวมก็คิดว่ามาก ท่านลองคิดดูว่า ถ้าหากท่านทั้งหลายต้องลงทุนทองคำ ๒๖๐ บาท ราคาในปัจจุบันนี้ไปถึงเท่าไรแล้ว ?กระผม/อาตมภาพตั้งใจสร้างตะกรุดโลกธาตุตามตำราหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว แค่ ๓,๐๐๐ ดอก แล้วจะกดราคาเอาไว้ที่ดอกละ ๕,๐๐๐ บาท ไม่ขาดทุนก็บุญโขแล้ว

ท่านทั้งหลายอาจจะคิดว่าทำไมกระผม/อาตมภาพไม่เอากำไรให้มากไปเลยทีเดียว ? ในเรื่องของกำไรมากนั้น
กระผม/อาตมภาพมีไว้สำหรับคนช้า ก็คือถ้ามีวัตถุมงคลเหลือก็จะขึ้นราคา แต่ถ้าหากว่าใครเร็วแล้วจองทัน ก็จะได้ราคามาตรฐานบวกกำไรนิดหน่อย ตามที่กระผม/อาตมภาพทำมาเป็นปกติ

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าถ้าเราตั้งใจเอากำไรมาก บุคคลที่ท่านเอาไปปล่อยต่ออาจจะทำกำไรไม่ได้ แต่เท่าที่ผ่านมาสังเกตดูทุกครั้ง เขาได้กำไรมากกว่าทางวัดเป็นเท่า ๆ ตัว
กระผม/อาตมภาพจึงออกอาการ "น้ำตาจิไหล" อยู่เหมือนกัน..! ว่าทางวัดต้องเหนื่อยยากลงทุนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ เป็นค่าแบบ เป็นค่าเครื่องบวงสรวง เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการสร้าง

ถึงเวลาท่านเอาไปแล้วก็กำไรมากกว่าทางวัด ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะบ่นเป็นภาษาอะไรดี ได้แต่ปราม ๆ กันไว้ตรงนี้ว่า โปรดเพลา ๆ มือลงหน่อย ถ้าหากว่าพระท่านรำคาญขึ้นมาแล้วสั่งห้ามสร้างไปเลย ท่านทั้งหลายอาจจะทำมาหากินไม่ได้ ต้องเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นแทน ถึงเวลานั้นก็ไม่ต้องโทษใคร นอกจากโทษตัวเองว่าโลภมากแล้วลาภหาย..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2023 เมื่อ 01:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 57 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว