กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-05-2023, 22:47
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,599
ได้ให้อนุโมทนา: 219,376
ได้รับอนุโมทนา 766,675 ครั้ง ใน 37,529 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-05-2023, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ตรงกับวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ซึ่งกระผม/อาตมภาพนั้นยังไม่ได้โกนหัวกับใครเลย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าอากาศช่วงเช้าวันนี้อยู่ที่ลบ ๑ องศาเซลเซียส แต่ความรู้สึกว่าหนาวมากกว่าปกติ

เมื่อสอบถามดู จึงได้รู้จาก "เจ้าแม่นภิสราเทวี" ว่าจำเป็นที่จะต้องให้หนาวเข้าไว้ ถ้าหากว่าความหนาวยังคงตัวอยู่ก็จะดันหิมะไม่ให้เข้ามา เพราะว่าถ้ามีความชื้นไหลเข้ามาอยู่ในระดับที่พอเหมาะพอดี หิมะก็จะตก แล้วเครื่องบินจะลงไม่ได้ ไม่ต้องไปพูดถึงว่าจะขึ้นได้หรือไม่ ขอให้พวกเราและคณะอดทนต่อความหนาวกันสักเล็กน้อย เพื่อที่อย่างไรจะได้เดินทางจากเลห์ไปยังกรุงนิวเดลีได้โดยปลอดภัย

สำหรับวันนี้ทางโรงแรม Trikaya Hotel ได้จัดอาหารเช้าให้ในเวลา ๖ โมงเช้าตามที่คณะของเราร้องขอ เนื่องเพราะทราบดีว่า ถ้าหากว่าพลาดขึ้นมาเมื่อไรก็อาจจะตกเครื่องบินกัน พวกเราจึงกินอาหารกันอย่างเร่งรีบ แล้วไปนั่งรอกันอยู่บนรถ

แต่ปรากฏว่าคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม นัดรถเอาไว้ว่าให้ออกตอน ๗ โมงเช้า พวกเราเมื่อขึ้นไปแล้วจึงไม่ยอมลงมาหนาวกันอีก นั่งรอกันอยู่บนรถไปเลย จนกระทั่งคุณนวลจันทร์มาขึ้นรถ คันของกระผม/อาตมภาพซึ่งมีลุงเชอร์ริง โจลเดนเป็นพลขับ ก็พาพวกเราวิ่งตรงไปยังสนามบินเลห์ ซึ่งมีชื่อค่อนข้างจะยาวเหยียดอยู่บ้าง จำได้แต่คำสุดท้ายว่า Rimpoche ซึ่งเป็นฉายานามของพระผู้ใหญ่ที่กลับชาติมาเกิด

เมื่อไปถึงและพวกเราขนข้าวของลงแล้ว ก็มีรายการที่จะแจกทิปให้กับพลขับและไกด์ แต่คุณนวลจันทร์บอกว่าเงินทั้งหมดที่เก็บไปนั้น รวมค่าทิปเหล่านี้อยู่แล้ว ทางเอ็น ซี ทัวร์ได้จ่ายให้กับทุกคนเป็นที่เรียบร้อย แต่กระผม/อาตมภาพบอกว่าอยากจะให้เป็นการพิเศษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-05-2023, 00:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนแรกก็ว่าจะให้เป็นเงินรูปี แต่พอดีล้วงดูแล้ว กระผม/อาตมภาพยังเหลือแบงค์ดอลล่าร์อเมริกันอยู่หลายใบ จึงมอบให้ลุงโจลเดนกับเพื่อนพลขับคนละ ๑๐ ดอลลาร์ แล้วก็ให้ด็อกเตอร์เทนซิน โซนัม ไกด์ผู้ไม่เอาไหนของเรา เนื่องเพราะว่ามัคคุเทศก์ท่านนี้จบปริญญาเอกมา ทำงานในลักษณะของการเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นแบบ "ไซด์ไลน์" ก็คือมีงานประจำเป็น "ไลฟ์โค้ช" คอยให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นอยู่แล้ว

ดังนั้น..ไม่ว่าพวกเราจะพูด จะบอก จะกล่าวอะไรก็ตาม แกไม่ฟังทั้งสิ้น..! กระผม/อาตมภาพจึงให้ไปแค่ ๕ ดอลลาร์แค่นั้น ถ้าหากรู้ว่าคนจบ ป.๔ อย่างลุงโจลเดนกับตัวแกที่จบปริญญาเอก ได้ทิปไม่เท่ากัน แถมได้น้อยกว่าคนที่จบ ป.๔ เป็นเท่าตัว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแกจะทำหน้าอย่างไร ?

พวกเราเข้าไปด่านตรวจด่านแรกเลย ก็คือด่านตรวจที่ดูเรื่องของพาสปอร์ตกับตั๋วเครื่องบินว่าชื่อตรงกันหรือไม่ แล้วกระผม/อาตมภาพก็โดนเหมือนเดิม ก็คือผู้ตรวจบอกว่าชื่อยาวมาก ครั้นเข้าไปทางด้านในแล้ว ต้องไปรวมพลกันก่อนเพื่อที่จะรอในการเฉลี่ยน้ำหนักกระเป๋า

เนื่องเพราะว่าทางเอ็น ซี ทัวร์ นั้น ขนเอาข้าวปลาอาหารไทยไปเยอะมาก เมื่อเฉลี่ยน้ำหนักกันแล้วก็ยังมีส่วนเกินอีก เนื่องจากว่าเมื่อคืนมีการออกไปช็อปปิ้งกัน จึงต้องเรียกบุคคลที่ตรวจตั๋วล่วงหน้าเข้าไปแล้วกลับออกมา เพื่อขอเฉลี่ยน้ำหนักกัน จนกระทั่งลงตัว เมื่อได้บัตรขึ้นเครื่องมาแล้ว พวกเราก็ต้องผ่านด่านตรวจเพื่อเข้าไปยังประตูขึ้นเครื่องอีกรอบ

กระผม/อาตมภาพเองอุตส่าห์ถอดข้าวของทุกชิ้นออกมาจนหมดแล้ว แต่ปรากฏว่าลืมไปว่าตนเองใส่รองเท้าหุ้มข้ออยู่ เจ้าหน้าที่ไล่ให้ออกไปถอดรองเท้าใส่ถาด เพื่อเอาไปผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ด้วย..! ทำให้ต้องมาต่อท้ายแถวเขาอีก จึงเสียเวลาไปนานมาก เมื่อเดินผ่านเข้าไป ปรากฏว่าไม่มีเสียงดังตรงเครื่องเอ็กซเรย์รูปประตู แต่ว่าเครื่องเอ็กซเรย์มือถือในมือของเจ้าหน้าที่นั้น เมื่อกวาดผ่านทีไรก็ดังทุกครั้ง จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพต้องเปิดผ้าเปิดผ่อนให้ดูแทบทุกชิ้นว่า "ไม่มีอะไรจริง ๆ"

ท้ายที่สุดก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีปลัดขิกสาลิกา ของหลวงพ่อขริก วัดสาวชะโงกอยู่ ๑ ตัว ถ้าหากว่าทุกท่านไม่รู้จักหลวงพ่อขริก วัดสาวชะโงก ก็ขอให้รู้ว่าหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เจ้าของปลัดขิกอันดับ ๑ ของเมืองไทยนั้น ก็คือลูกศิษย์ของหลวงพ่อขริก วัดสาวชะโงกเอง โดยเฉพาะชื่อของท่าน กลายเป็นสิ่งที่เขานำมาพูดถึงวัตถุมงคลของท่านว่า "ปลัดขิก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-05-2023, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นก็ถามว่าอะไร ? กระผม/อาตมภาพตอบว่า "Shiva Lingam" เป็นภาษาอินเดีย แปลว่าศิวลึงค์ เจ้าหน้าที่ก็เข้าใจ หลังจากตรวจสอบทั้งตัวว่าไม่มีอะไรแล้ว เขาก็ขอให้ล้วงเอาศิวลึงค์ดอกนี้ออกมาให้ดูอีกที มีการพนมมือไหว้เหนือหัวด้วย แต่ว่าเพื่อนที่ตรวจอยู่ช่องข้าง ๆ นั้น ขอเอาไปเจิมหัวตัวเองเป็นการใหญ่ กระผม/อาตมภาพรอไปก็หัวเราะไป เมื่อรับ "องค์กำเนิดพระศิวะ" คืนมาแล้ว จึงเข้าไปแต่งตัวใหม่ทางด้านใน

เสร็จสรรพเรียบร้อยก็ยังต้องมานั่งรอ เนื่องเพราะว่าสถานที่นี้ยังเป็นตัวเมืองเลห์ ยังเป็นพื้นที่สูงมาก ทำกิจกรรมเพียงแค่นั้นก็ทำให้เหนื่อยสาหัส คุณนวลจันทร์อุตส่าห์ไปหาชาร้อนมาให้ ๑ แก้ว เพื่อที่ให้หลวงพ่อจะได้มีอะไรรองท้องไปก่อน เมื่อรอจนกระทั่งเขาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว ปรากฏว่าเมื่อตรวจตั๋วผ่านเข้าไปด้านในแล้ว ยังต้องขึ้นไปนั่งรถบัสกันก่อน จากนั้นรถบัสค่อยพาวิ่งไปขึ้นเครื่องที่กลางสนามบิน

เมื่อขึ้นเครื่องเรียบร้อย ทุกคนก็ถอนหายใจโล่งอก เนื่องเพราะว่าฟ้ามืดมาชนิดที่เมฆแทบจะย้อยติดหัวแล้ว..! คาดว่าเมื่อเครื่องของเราทะยานพ้นสนามบินเลห์ขึ้นมา หิมะก็น่าจะตกตามหลังไปเลย แต่ตอนนั้นพวกเราก็คงไม่รับรู้อะไรด้วยแล้ว..!

เมื่อได้เวลา ๐๙.๒๕ น. ของประเทศอินเดีย แอร์โฮสเตสก็นำอาหารเช้ามาแจกให้กับผู้โดยสารทุกคน กระผม/อาตมภาพที่ไม่ได้รังเกียจอาหารแขกก็จัดการกวาดจนเรียบวุธตามเดิม แถมยังบอกกล่าวกับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ว่า "ต้องฝึกให้ได้ว่า ไม่ว่าอาหารอะไรที่มนุษย์กินลงไปได้ เราก็ต้องฉันได้ด้วย..!"

เมื่อถึงเวลา ๑๐.๒๕ น. เครื่องของเราก็มาลงที่สนามบินนานาชาติอินทิราคานธี เรื่องยุ่งยากใหญ่หลวงมาเกิดขึ้นในตอนนี้เอง เนื่องเพราะว่าพวกเราจะต้องต่อเครื่องกลับไปยังกรุงเทพฯ แต่ว่าเมื่อมารอรับกระเป๋าจนกระทั่งสายพานหยุดเดิน แปลว่ากระเป๋าหมดแล้ว..! ยังมีน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ไม่ได้กระเป๋าใหญ่ ๑ ใบ ทำให้คุณนวลจันทร์ต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่ แจ้งว่ากระเป๋าหาย ทางเจ้าหน้าที่สอบถามว่า กระเป๋าหน้าตาแบบใด ? ขนาดไหน ? สีอะไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-05-2023, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้สิ่งที่กระผม/อาตมภาพถ่ายภาพไปเรื่อย เพื่อส่งมาทางเมืองไทยให้ไอ้ตัวเล็กลงเฟซบุ๊กวัดท่าขนุนก็ปรากฏผลดีขึ้นมาตอนนี้เอง เพราะว่ามีภาพของน้องเล็กที่ถือกระเป๋าในขณะที่กำลังรอขึ้นเครื่องอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่พอทราบแล้วก็รีบติดต่อทางด้านภาคพื้นดินเป็นการด่วน..!

ปรากฏว่ากระเป๋าของน้องเล็กนั้น "แท็ก" ก็คือบัตรเครื่องหมายต่าง ๆ ว่ากระเป๋าใบนี้ควรจะไปกับสายการบินไหน ? ควรที่จะไปกับสายพานไหน ? นั้นขาดหายไป..! ปรากฏว่าเมื่อ "แท็ก" ขาด เจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าจะส่งไปไหน ก็เลยวางกองเอาไว้เฉย ๆ ดังนั้น..ไม่ถึง ๑๐ นาทีก็ได้กระเป๋ามาแล้ว แต่พวกเราก็ยังคงหลงทางอีก แทนที่จะไปตรวจตั๋วเช็คอินในช่องของนานาชาติ กลับไปตรวจในช่องผู้โดยสารเข้าเมืองปกติ ยังดีที่รู้ตัวทันและเปลี่ยนมาทางช่องนานาชาติแทน

แต่ปรากฏว่าเมื่อมาแล้ว กระผม/อาตมภาพ คุณนวลจันทร์ คุณฉัตตริน ตลอดจนกระทั่งน้องเล็ก ต้องรวมพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินเป็นชุดเดียวกันเพื่อเฉลี่ยน้ำหนัก รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ รอจนกระทั่งเบื่อหน่าย จนสงสัยว่าคุณเจ้าหน้าที่คนสวยเธอทำอะไรอยู่กันแน่ ?

หลังจากที่หน้ายุ่งอยู่ครึ่งค่อนชั่วโมง เธอก็ต้องโทรศัพท์ไปถามโน่นถามนี่จากคนอื่น กว่าที่จะมาจัดการให้เราเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็เกือบจะได้เวลาขึ้นเครื่องอยู่แล้ว..! เหตุผลก็คือชื่อของกระผม/อาตมภาพนั้น เมื่อพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษแล้วยาวมาก แถมยังไม่มีนามสกุลอีกด้วย ทำให้น้องหนูเธอจัดการไม่ถูก..!

เมื่อได้บัตรขึ้นเครื่องมาแล้ว พวกเราก็ต้องวิ่งมาผ่าน ตม.ซึ่งต้องให้ตรวจกระจายทุกอย่างเหมือนเดิม กว่าที่จะผ่านไปได้ก็เป็นเวลา ๑๒.๔๖ น.แล้ว..! เขาจะเรียกขึ้นเครื่องตอน ๑๒.๕๐ น. กระผม/อาตมภาพกับน้องเล็ก บอกกับคุณนวลจันทร์ว่า "ไม่รอแล้วนะ" เพราะว่าคุณนวลจันทร์จะไปตามคุณเอ (ฉัตตริน เพียรธรรม) ลูกชาย ที่ไปสั่งอาหารกลางวันที่ร้านแม็คโดนัลด์มาให้กับพวกเรา เมื่อไปถึงประตูขึ้นเครื่องช่อง ๑๗A ปรากฏว่ายังไม่ทันจะหย่อนก้นลงนั่ง เจ้าหน้าที่ก็เรียกขึ้นเครื่องเสียแล้ว..!

คราวนี้ก็ต้องคอยดูว่าใครที่มีปัญหายุ่งยากมาก ก็ปรากฏว่ามีป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) กับบุญชู (นายบุญชู ถาแก้ว) สองคน ที่โดนตม.อินเดียสุ่มตรวจกระเป๋า ทำให้มีปัญหาต้องแยกออกจากกลุ่มไป พวกเราจึงกระจัดกระจายกันอยู่คนละทิศคนละทาง คนที่มาถึงแล้วก็ขึ้นเครื่องไปตามที่เขาเรียก คนที่เพิ่งมาถึงทีหลัง ก็ยืนงง ๆ ว่าจะไปทางไหนดี ? ยิ่งเจอภาษาอังกฤษสำเนียงแขก ที่พูดเร็วมากชนิดที่ไม่เกรงใจคนฟัง ก็ยิ่งไม่เข้าใจกันไปยกใหญ่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 05-05-2023, 00:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ในที่สุดก็มารวมพลบนเครื่องจนกระทั่งครบถ้วน โดยเฉพาะคุณนวลจันทร์และคุณเอ นำเอาแม็คโดนัลด์ทั้งปลาและไก่ ขึ้นมาถวายแล้วก็มอบให้กับทุกคนตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าอาหารกลางวันมื้อนี้หมดไปเท่าไร แต่ว่าพวกเราต้องกระมิดกระเมี้ยนกินกัน เพราะว่าผู้โดยสารอื่นเขาไม่มี ถ้าขืนไปกินแบบโจ่งแจ้ง อาจจะโดนไล่ลงหรือห้ามกิน โดนยึดอาหารไปเลยก็ได้..!

เมื่อเครื่องบินขึ้นจากสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี มุ่งกลับคืนมาตุภูมิคือประเทศไทยของเรา ทุกคนก็รู้สึกโล่งใจ แต่ว่าบางคนไม่รู้สึกโล่งใจอย่างเดียว รู้สึกว่ากำลังใจที่ทรงตัวดีมากตลอดระยะเวลา ๗ วันที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ทราบว่าจะเอาชีวิตไปทิ้งตอนไหน เมื่อรู้สึกปลอดภัย ปรากฏว่ากำลังใจคลายออกมา จากที่กำลังใจเป็นพรหม เป็นเทวดา ก็กลายเป็นหมาตามเดิม..! แล้วยังมีหน้ามาถามกระผม/อาตมภาพอีกว่า "หลวงพ่อรักษากำลังใจอย่างไร ถึงได้ไม่หวั่นไหวกับอะไรเลย ?" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่บอกว่า "แค่อย่าไปยึดอะไรก็หมดเรื่อง..!"

พวกเรานั่งเครื่องมาจนกระทั่งถึงเวลาทุ่มกว่าของเมืองไทย ก็ลงแตะพื้นสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว จึงได้มาเจอกันที่สายพาน ๑๔ หลังจากที่รอจนได้กระเป๋าครบถ้วน กระผม/อาตมภาพก็แยกจากคณะ ตรงเข้าสู่ที่พัก แม้ว่ามาถึงจะเป็นเวลา ๓ ทุ่มกว่า เกือบ ๔ ทุ่มแล้วก็ตาม ยังต้องรีบมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เพื่อส่งให้กับไอ้ตัวเล็กนำไปอัพลงยูทูบให้ญาติโยมทั้งหลายได้ฟังกันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:14



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว