กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-03-2023, 18:31
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-03-2023, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพทำพิธีบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และ "เสกปิด" ยาวาสนาจินดามณี ให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นพิธีที่กระผม/อาตมภาพเห็นว่าทำไปก็เสียเปล่า..!

คำว่า "ทำไปก็เสียเปล่า" ในที่นี้ก็คือ ของที่เสกมาดีแล้วก็เหมือนอย่างกับน้ำที่เต็มแก้วแล้ว เทลงไปอีกก็มีแต่จะล้นทิ้งไปเปล่า ๆ แล้วก็ยังต้องไปนิมนต์พระเกจิอาจารย์ท่านโน้นท่านนี้ จนกระทั่งถึงระดับสมเด็จพระราชาคณะมาร่วมพิธีเสกเพื่อที่จะปิด ซึ่งดูแล้วค่อนข้างจะเหลวไหล เพราะว่าทำให้ค่าใช้จ่ายมากมายขึ้นไปโดยใช่เหตุ เมื่อเข้าไปในโบสถ์ ก็เห็นรัศมีสว่างไสวทั่วถึงกันดีแล้ว
กระผม/อาตมภาพจึงไม่รู้ว่าจะทำอะไร นอกจากนั่งไปตามแกนอย่างนั้นเอง เมื่อเสร็จพิธี ทำการพรมน้ำมนต์แล้ว ก็เดินทางกลับไปยังที่พัก

ส่วนในช่วงบ่ายนั้น
กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังวัดธรรมมงคล (เถาบุญนนทวิหาร) สุขุมวิทซอย ๑๐๑ แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลพระสมเด็จวิริยังค์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อหาทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดธรรมมงคล ของอดีตสมเด็จพระญาณวชิโรดม หรือหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ของกระผม/อาตมภาพเอง

เหตุที่เรียก "หลวงพ่อ" ก็เพราะว่ารู้จักมักคุ้นกับท่านมานาน ตั้งแต่สมัยที่คุณโยมเถาถวายที่นาให้กับหลวงพ่อท่านเพื่อสร้างวัด แล้วโยมแม่ซึ่งตอนนั้นอยู่บ้านที่ซอยอ่อนนุช ก็คือซอยสุขุมวิท ๗๗ ได้เป็นกรรมการวัด ร่วมกันหาทุนสร้างจนกระทั่งได้พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ มีความสูงที่สุดในกรุงเทพมหานครขึ้นมา แม้แต่ตนเอง เมื่อบวชมาแล้วกว่า ๓๐ พรรษา แล้วไปกราบหลวงพ่อท่าน เรียนถามว่า "จำกระผมได้ไหมครับ ?" ท่านบอกว่า "จำไม่ได้แล้ว" แต่เมื่อเอ่ยชื่อโยมแม่ปุ๊บ ท่านก็นึกออก..จำได้ทันที

ดังนั้น..ด้วยความคุ้นเคยในส่วนหนึ่งของวัดธรรมมงคล เมื่อได้รับฎีกานิมนต์มาเสกวัตถุมงคลของหลวงพ่อ กระผม/อาตมภาพจึงรับด้วยความยินดี เมื่อมาถึงก็เจอตุ๊พ่อสิงห์ (พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ เจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) นี่แปลว่าลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ สายวัดท่าซุง ได้รับนิมนต์มาอยู่ที่วัดธรรมมงคล ซึ่งเป็นวัดสายธรรมยุตกันทั้งชุดเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2023 เมื่อ 01:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-03-2023, 00:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อร่วมพิธี พระท่านเริ่มสวดพุทธาภิเษก กระผม/อาตมภาพก็ยกจิตขึ้นไปกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อาราธนาบารมีของพระองค์ท่านสงเคราะห์ ได้เห็นหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต สองปรมาจารย์ใหญ่ของพระสายวัดป่า ปรากฏองค์อยู่ในพิธี ตามมาด้วยหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ แล้วก็หลวงพ่อวิริยังค์ หรือท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม ก็แปลว่างานนี้สบาย กระผม/อาตมภาพได้แต่ดูว่าครูบาอาจารย์ท่านทำอย่างไรบ้างในพิธีกรรมครั้งนี้

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อย ทำน้ำมนต์พรมแล้ว
กระผม/อาตมภาพ เดินทางออกจากพิธี เพื่อที่จะเข้าสู่ที่พักในคืนนี้ ซึ่งเป้าหมายก็คือวัดท่ามะขาม หรือวัดราษฎร์ประชุมชนาราม ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี แต่ด้วยความที่รถติดสาหัสสากรรจ์ จึงทำให้ "พี่กู" นำพาออกมาขึ้นทางด่วน มาลงที่ถนนวงศ์สว่าง แล้วก็วิ่งต่อออกมาทางด้านบางบัวทอง - สี่แยกนพวงศ์ เพื่อที่จะเข้าไปทางด้านอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ต่อกับอำเภอบางเลนของจังหวัดนครปฐม

ถ้าหากว่าในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนกระทั่งปริมณฑล ต้องยอมเชื่อว่า "พี่กู" เขาเชี่ยวชาญจริง แต่ถ้าต่างจังหวัดเมื่อไรอย่าได้เชื่อเป็นอันขาด เพราะว่าพี่ท่านชอบ "โชว์พาวฯ" ตามภาษาวัยรุ่น ก็คือจะพาเข้าป่าเข้าดงไปทางเล็กทางน้อย ประมาณจะอวดว่า "กูรู้จักทางดี" แต่ว่าพอขากลับเมื่อไรก็จะให้วิ่งกลับตามถนนใหญ่ ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าทางเล็กเป็นอันมาก แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ยอมพาไปถนนใหญ่ตั้งแต่แรก แล้วแทบทุกครั้งก็จะเป็นเช่นนั้น

อีกอย่างหนึ่งก็คือคนขับรถควรที่จะมีความรู้เกี่ยวกับเส้นทางเหล่านั้นเอาไว้บ้าง บางทีก็ไม่สามารถที่จะเชื่อถือได้ เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพโดนพาหลงมาหลายแห่งแล้ว

ล่าสุดคือการที่ไปยังมหาจุฬาอาศรม ศูนย์ปฏิบัติธรรมของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
กระผม/อาตมภาพก็หลงแล้วหลงอีก จนกระทั่งต้องจอดถามทางจากชาวบ้าน ถึงพอที่จะรู้ได้ว่าหนทางที่ถูกต้องนั้นไปทางไหน พอเข้าถูกทางได้ "พี่กู" ก็รีบบอกเชียวว่าควรที่จะมาทางนี้ ถ้าหากว่าเป็นคนทั่วไปก็ต้องตบให้หัวหลุด..! เพราะว่าครั้งแรก ๆ พาหลงแล้วหลงอีก ไม่ยอมให้มาทางนี้ เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2023 เมื่อ 01:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-03-2023, 00:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ขอยืนยันว่าเทคโนโลยีนั้น อย่าได้เชื่อถือไปทั้งหมดในทีเดียว เหตุเพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือก็สร้างขึ้นมาด้วยมนุษย์ ในเมื่อเป็นมนุษย์ ย่อมต้องมีข้อผิดพลาดเป็นปกติ เพียงแต่ว่าถ้าหากว่าเป็นบุคคลทั่วไป เกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาก็ย่อมแก้ไขได้ แต่ว่าถ้าหากว่าเป็นเครื่องมือ หรือที่เรียกกันสมัยนี้ว่า AI ป้อนข้อมูลให้อย่างไรก็ทำตามไปอย่างนั้น แปลว่าถ้าข้อมูลผิด ก็จะพาให้ผิดไปอยู่ตลอดเวลา จนกว่าที่จะได้รับการแก้ไขใหม่ จึงเป็นเรื่องที่ "กลืนไม่เข้าคายไม่ออก" ไม่สามารถที่จะไว้วางใจได้อย่าง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ทีเดียว

แต่ว่าในส่วนของสถานที่เจริญแล้วนั้น ถือว่าสามารถเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ถ้าหากวิ่งเป็นต่างจังหวัดไกล ๆ โปรดอย่าได้เชื่อถือ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า บางทีกระผม/อาตมภาพรู้จักทางดี สามารถที่จะวิ่งไปในทางใหญ่ ๔ เลนได้เลย แต่พ่อเจ้าประคุณพาลัดเข้าป่าเข้าดง ซึ่งเป็นทางลูกรัง บางทีอาจจะสั้นกว่าแค่ไม่กี่เมตร แต่ว่าคอมพิวเตอร์คำนวณแล้วว่าระยะทางนี้สั้นกว่า ก็ไม่ได้สนใจว่าเราอาจจะไปหลงอดตายอยู่ในป่าอย่างไร..! พาไปทางด้านนั้นเลยทีเดียว แต่พอเราไม่ยอมไปตาม เครื่องก็ยอมปรับเปลี่ยนมาตามทางที่เรารู้จัก ปรากฏว่าต่างกันแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่เสียเวลาน้อยกว่ามากทีเดียว

ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครใช้ยานพาหนะแล้วต้องอาศัยเครื่องไม้เครื่องมือในการบอกทาง กรุณาใช้ความสามารถของตนจดจำทางเอาไว้บ้าง ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าโดนพาหลงไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้ใครช่วยเหลือท่านได้ นอกจากใช้หลักโบราณว่า "หนทางอยู่ที่ปาก" ก็คือถามคนแถวนั้นไปเรื่อย จนกว่าที่จะได้หนทางที่ถูกต้อง

สำหรับการบันทึกเสียงในวันนี้นั้น เป็นเครื่องมือเครื่องไม้ที่ใหม่ทั้งหมด โทรศัพท์ก็เป็นของใหม่ หูฟังที่ใช้บันทึกเสียงก็เป็นของใหม่ ระบบต่าง ๆ ก็เป็นของใหม่ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบันทึกแล้วจะออกมาอย่างไร เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าโทรศัพท์เครื่องเก่านั้นใช้มา ๕ ปีกว่าแล้ว เริ่มมีอาการรวนหนัก ๆ บางทีกดเท่าไรก็ไม่ยอมทำงาน บางทีทำงานก็รู้สึกว่าแบตเตอรี่หมดเร็วเป็นพิเศษ แต่ว่า
กระผม/อาตมภาพก็ทนใช้มาเรื่อย จนกระทั่งญาติโยมทนไม่ไหว หาของใหม่มาถวาย ซึ่งกระผม/อาตมภาพยังไม่มีความคุ้นเคย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าระบบการบันทึกต่าง ๆ นั้นจะใช้ได้ถูกต้องหรือเปล่า ?

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าในขณะที่เราเคยใช้ของเก่า ต้องเสียบโน่นเสียบนี่หลายแห่งด้วยกัน แต่ว่าของใหม่ ๆ บางทีแทบไม่ต้องเสียบสายอะไรเลย จึงเป็นเรื่องที่ต้องทดลองกันไปก่อน ถ้ามีอะไรสะดุดติดขัด ก็ต้องขออภัยแก่ญาติโยมทั้งหลายมา ณ ที่นี้ด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2023 เมื่อ 01:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 26-03-2023, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับการปลุกเสกวัตถุมงคลในวันนี้ กระผม/อาตมภาพมีความรู้สึกส่วนหนึ่งว่า ญาติโยมทั้งหลายนั้นเคารพพระพุทธเจ้าก็ดี เคารพครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ก็ตาม อยู่ในลักษณะของการเคารพที่ไม่ใช่พุทธานุสติ ไม่ใช่สังฆานุสติ แต่เป็นการเคารพในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประดุจเทพเจ้า ซึ่งไม่ใช่การเคารพที่ถูกต้อง เพราะว่าเราไม่สามารถจะเข้าถึงคุณพระพุทธเจ้า หรือคุณพระสังฆเจ้าที่แท้จริง ได้แต่เกาะที่เปลือกเท่านั้น..!

ถ้าในลักษณะอย่างนี้ แม้ว่าท่านทั้งหลายจะมีสุคติเป็นที่ไปก็ตาม แต่การเวียนว่ายตายเกิดนั้นหาทางจบได้ยาก ตราบใดที่ท่านทั้งหลายยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณที่แท้จริง ไม่สามารถที่จะแยกพระพุทธเจ้าออกจากพระพุทธรูป ไม่สามารถที่จะแยกพระธรรมออกจากคัมภีร์ ไม่สามารถที่จะแยกพระสงฆ์ออกจากบุคคลทั่วไป ท่านทั้งหลายก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงคุณพระรัตนตรัยอย่างแท้จริงได้เลย..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้กล่าวไปแล้ว ท่านที่ยังไม่สามารถที่จะทำถึงได้ ก็จะรู้สึกว่ากระผม/อาตมภาพพูดอะไรขัดหู แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเข้าถึงเมื่อไร ก็จะนึกได้ทันทีว่ากระผม/อาตมภาพเคยตักเตือนมานานแล้ว

แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้นก็อยู่ในลักษณะของการ "เกาะดี" ซึ่งอย่างไรก็ยังดีกว่าท่านทั้งหลายไปเกาะความชั่ว ในเมื่อเราเกาะความดี อย่างน้อย ๆ สุคติของเราก็จะเป็นไปได้ตามที่หวัง แต่ถ้าจะเอาหลุดพ้นเลย ตราบใดที่เรายังเกาะอยู่ เราย่อมไม่สามารถที่จะหลุดไปได้ ก็ได้แต่หวังว่าท่านทั้งหลายจะเร่งรัดในการกระทำความดี จนกระทั่งความดีทั้งหลายเพียงพอแล้ว ท่านก็จะปล่อยดีไปโดยอัตโนมัติเอง

เมื่อถึงเวลานั้น ท่านก็จะเข้าใจว่าคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า และคุณพระสังฆเจ้าที่แท้จริงนั้นคืออะไร ? สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีเต็มไปหมดรอบตัวตนของเรา เต็มไปทั้งอนันตจักรวาล เพียงแต่ท่านจะเข้าถึงได้มากน้อยเท่าไรเท่านั้นเอง ถ้าท่านเข้าถึงอย่างแท้จริงเมื่อไร พระนิพพานก็อยู่ตรงนั้น พระนิพพานไม่ได้อยู่ที่ใดไกลเลย ไม่ใช่สถานที่อื่นใดเลย หากแต่ว่าอยู่ตรงที่ใจของท่านเข้าถึงและปล่อยวางอย่างแท้จริงนั่นเอง

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2023 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว