กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 02-03-2023, 19:58
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,648
ได้ให้อนุโมทนา: 216,888
ได้รับอนุโมทนา 747,536 ครั้ง ใน 36,418 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-03-2023, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,127 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ท่านทั้งหลายอาจจะรู้สึกแปลกตา เพราะว่ากระผม/อาตมภาพได้สั่งให้รื้อกระจกและเครื่องกั้นซึ่งใช้ในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดออกไป จนเหลือแต่โต๊ะเก้าอี้ชุดเดิม ซึ่งถ้าหากว่าใครรู้สึกแปลกตา ให้ระมัดระวังไว้ด้วยว่าพวกเรายังมีการยึดมั่นถือมั่นที่ค่อนข้างจะหนัก เรื่องพวกนี้บางทีท่านทั้งหลายก็ไม่รู้ตัว ว่าเรามีความยึดมั่นถือมั่นอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของอุปาทานก็คือยึดของเก่าเป็นหลัก พอเจอของใหม่เข้าก็จะปรับตัวไม่ทัน แล้วการยึดติด ถ้าเป็นบุคคลที่ปรารถนาความหลุดพ้น ก็ทำให้ไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว

ก่อนอื่นก็ต้องขอบพระคุณพระภิกษุสามเณรของเรา ที่ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจ ในการจัดเตรียมสถานที่ สำหรับงานประจำปีปิดทองรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน และงานทำบุญอุทิศอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่าน แม้ว่ายังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่ว่าในส่วนที่จะใช้งานในวันรุ่งขึ้นก็ถือว่าพร้อมแล้ว

คราวนี้ในส่วนของงานที่พวกเราได้ทำไปนั้นต้องบอกว่าเป็นความดีเฉพาะตัว ก็คือใครทำใครได้ เพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เป็นการฝึกฝนขัดเกลาตนเอง บุคคลใดสามารถร่วมงานกันได้โดยมีการกระทบกระทั่งกับผู้อื่นน้อยเท่าไร โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะหลุดพ้นก็มีมากขึ้นเท่านั้นเพราะว่าเรายิ่งกระทบคนอื่นน้อย ก็แปลว่าเราปล่อยวางได้ โอกาสที่จะหลุดพ้นจึงมีมากกว่าคนอื่นเขา

เนื่องเพราะว่าการทำงานนั้น คือการที่เราออกไปเผชิญกับอารมณ์ที่แท้จริง ในเมื่อของจริงมากระทบ แล้วเรารักษากำลังใจเอาไว้ได้ ก็แปลว่าพอที่จะเอาตัวรอดได้ แต่ให้ระมัดระวังเอาไว้ด้วยว่า ถ้าเราทรงฌานสมาบัติอยู่ ตอนที่กระทบกระทั่งไม่รู้สึกอะไร แต่พอผ่านไประยะหนึ่ง กำลังฌานสมาบัติลดลง พวกเราจะไปฟุ้งซ่าน โกรธเคือง ซึ่งบางทีคนอื่นอาจจะไปหลายร้อยกิโลเมตรแล้ว แต่เราเองยังไปแบกความโกรธอยู่ตรงนั้นคนเดียว..!

เรื่องพวกนี้กระผม/อาตมภาพมีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยฆราวาส ก็คือบุคคลอื่นพอเมาเหล้ามากลางดึกกลางดื่น ก็มาถีบประตูหน้าบ้าน ท้าให้ออกไปตีกัน..! กระผม/อาตมภาพก็ออกไป ยกมือไหว้ขอร้องเขาว่า "เมาก็กลับบ้านไปนอนเถอะ" ตอนช่วงนั้นเนื่องจากว่าทรงสมาธิเอาไว้ กำลังใจเย็นเหมือนซุกน้ำแข็งไว้ในอก ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไรเขาเลย แต่ว่าพระครูแสงน้องชาย ตอนช่วงนั้นเลือดร้อนกว่า ดึงกระผม/อาตมภาพออกมาแล้วเตะมันกองกับพื้น กระผม/อาตมภาพเองก็ยังแบกไปส่งที่บ้านให้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-03-2023 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-03-2023, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,127 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าหลังจากที่กลับมาถึงบ้านแล้วนอนต่อ..นอนไม่ได้ โกรธจนมือตีนสั่นไปหมด รู้สึกอยู่อย่างเดียวว่า "ถ้ากูเตะมันซะเองจะดีกว่านี้..!" นั่นก็คือกำลังใจของเราที่โดนกำลังสมาธิกดเอาไว้ แล้วไม่ค่อยจะรู้สึกรู้สากับแรงกระทบ อย่าเผลอคิดว่าตนเองดีแล้วเป็นอันขาด เพราะว่าถ้ากำลังสมาธิลดลงเมื่อไร กิเลสก็จะกำเริบได้ทันที

พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถึงได้บอกว่า ใครก็ตามที่ทำงานคันถธุระ ความจริงคำว่า คันถธุระ ก็คือการศึกษาเล่าเรียนคัมภีร์ แต่ว่าในที่นี้รวมเอางานการก่อสร้าง งานโยธาทุกประการเข้าไปด้วย ท่านบอกว่า ถ้าสามารถทำใจได้ จะเข้าถึงมรรคถึงผลได้ง่ายกว่าคนอื่น

ตอนแรกกระผม/อาตมภาพก็ไม่เชื่อ แต่ว่าหลังจากที่ทดลองภาวนาอย่างเดียวอยู่หลายปี พอกำลังใจไปกระทบอย่างอื่นก็พัง ถึงได้เข้าใจว่า ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าตราบใดที่เรายังไม่สามารถทนต่อการทดสอบได้ ตราบนั้นก็ยังหาความดีที่แท้จริงไม่ได้ เราต้องพบกับแรงกระทบต่าง ๆ แล้วสามารถก้าวข้ามไปได้ โดยที่ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่กำเริบ ถึงจะถือว่าใช้ได้

แต่ก็ต้องระมัดระวังอย่างที่บอกเอาไว้ว่า ตรงหน้าไม่กำเริบ แต่ลับหลังอาจจะอีกหลายชั่วโมง หรือหลายวัน หรือเป็นเดือนเป็นปี กำลังสมาธิลดลง ขาดความระมัดระวัง ตอนนั้นกิเลสจะกำเริบได้ แล้วก็จะทำให้เราเสียผลของการปฏิบัติไป

อีกส่วนหนึ่งก็คือในเรื่องที่พวกเราอาจจะเห็นว่า ในช่วงบ่ายมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลทองผาภูมิทั้งหมดมาเวียนเทียน แล้วก็ขอให้กระผม/อาตมภาพ กล่าวสัมโมทนียกถา อนุโมทนาในเรื่องที่เขาทั้งหลายได้ทำ แต่ปรากฏว่าส่วนใหญ่จะโดนตีแสกหน้าไปมากกว่า..!

เพราะว่าในเรื่องของการเวียนเทียนนั้น โดยประเพณีนิยมแต่โบร่ำโบราณมา บ้านเราเวียนเทียนกันอยู่แค่ ๔ วัน ก็คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา แล้วก็ วันอาสาฬหบูชา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 18-03-2023 เมื่อ 00:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-03-2023, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,127 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันมาฆบูชาเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ก็คือหลักคำสอนที่จะไปใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้เป็นไปในแนวเดียวกัน ก็คือแนะนำให้ญาติโยมทั้งหลาย ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส แล้วก็ยังเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปลงอายุสังขาร ก็คือตัดสินใจว่าอีก ๓ เดือนข้างหน้า จะปรินิพพานที่สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา พวกเราส่วนใหญ่จะจำแค่ว่าเป็นวันแสดงโอวาทปาฏิโมกข์

วันวิสาขบูชา คือวันที่พระองค์ท่าน ประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน ตามที่เราเข้าใจกันทุกคนอยู่แล้ว

วันอัฏฐมีบูชาเป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ พูดภาษาชาวบ้านคือ วันที่เผาพระพุทธเจ้า ปัจจุบันนี้ในประเทศไทยมีการจัดงานวันอัฏฐมีบูชาแค่ไม่กี่แห่ง แล้วบ้านเราถือว่าโชคดีเพราะว่ามีพระแท่นดงรัง ซึ่งเขาเชื่อกันว่าเป็นพระแท่นที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์พระปรินิพพาน จึงมีการจัดงานวันอัฏฐมีบูชาด้วย

วันอาสาฬหบูชาเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา เป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะว่าก่อนหน้านี้มีแต่พระพุทธและพระธรรมเท่านั้น จนกระทั่งพระอัญญาโกณฑัญญะรู้ทั่วถึงธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้รับการบวชโดยเอหิภิกขุอุปสัมปทา กลายเป็นพระสงฆ์รูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงมีพระรัตนตรัยครบถ้วน

ในเมื่อเป็นวันสำคัญของทางพระพุทธศาสนา การสร้างบุญกุศลที่นิยมอย่างหนึ่ง ก็คือถวายบูชาด้วยแสงสว่างด้วยการการเวียนเทียน ดังนั้น..ในเรื่องของการเวียนเทียน ไม่ใช่ว่าคิดจะเวียนเทียนวันไหนก็ได้ แต่ว่าคนไทยเรามักจะมีนิสัยอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ไม่กล้าขัดผู้มีอำนาจ ในเมื่อเจ้านายสั่ง ต่อให้ผิดก็ต้องทำ สังคมบ้านเราจึงบิด ๆ เบี้ยว ๆ ไปหมด เพราะว่าทำสิ่งผิดจนกลายเป็นถูกไปมากมายแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-03-2023 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-03-2023, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,127 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนนี้สำคัญตรงที่ว่า ถ้าท่านทั้งหลายเป็นนักปฏิบัติธรรมที่แท้จริง จะกล้าคัดค้านและกล้าพูด เพราะว่านักปฏิบัติธรรมที่แท้จริงจะเกิดเวสารัชชกรณธรรม คือหลักธรรมที่สร้างความกล้าให้เกิดแก่ตน ซึ่งประกอบไปด้วยสัทธา ก็คือความเชื่อมั่น โดยเฉพาะเชื่อมั่นในคุณพระศรีรัตนตรัย เชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อมั่นในผู้นำ เชื่อมั่นในตนเอง

ข้อที่สองก็คือพาหุสัจจะ ศึกษาเรียนรู้มามาก ในเมื่อเรียนรู้มามาก รู้ว่าอะไรถูกก็กล้าที่จะพูดในสิ่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะแก้ไขในสิ่งที่ผิดให้ถูก

ข้อต่อไปคือวิริยารัมภะ รู้จักปรารภความเพียร มีความขยันปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ยิ่งกำลังสมาธิสูงเท่าไร ยิ่งกลัวคนไม่เป็น

ถ้าหากว่าจะกล่าวถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งสูงสุด พระองค์ท่านตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า พระองค์ท่านนั่งอยู่ในหมู่ท้าวมหาพรหมก็ดี นั่งอยู่ในหมู่ท้าวมหาราชก็ดี นั่งอยู่ในหมู่พระมหากษัตริย์ก็ดี นั่งอยู่ในหมู่พราหมณ์มหาศาลก็ดี พระองค์ท่านไม่ได้มีความประหม่าเลย เพราะเชื่อมั่นว่าพระองค์ท่านตรัสรู้จริง หลักธรรมที่พระองค์ท่านสั่งสอน ทำให้คนรู้ทั่วถึงธรรมได้จริง

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าใครที่ปฏิบัติตามหลักของเวสารัชชกรณธรรม ก็จะเป็นคนที่กล้าพูดกล้าทำโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะกล้าคัดค้านในสิ่งที่ผิด แก้ไขสังคมที่บิด ๆ เบี้ยว ๆ ของเรา ทำในสิ่งที่ผิดจนกลายเป็นถูก ให้กลับไปทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมือนเดิม

แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ท่านทั้งหลายถ้าจะยึดหลักว่าควรจะกระทำสักประมาณไหน ก็เอาแค่ในงานรับผิดชอบของตนเอง ถ้าหากว่าอย่างกระผม/อาตมภาพก็ทำอยู่แค่ตรงนี้ อะไรที่สูงไปกว่าขอบเขตอำนาจของตนเองก็จะไม่แตะ ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่จะเดือดร้อนก็มีน้อย เพราะว่าบุคคลใต้บังคับบัญชาหรือบุคคลที่ต่ำกว่า ก็รับฟังเราเป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายก็อาจจะเหมือนกระผม/อาตมภาพ ก็คือโดนชาวบ้านเขาว่า "ดุอย่างกับหมา..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-03-2023 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 03-03-2023, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,127 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้ถ้าท่านทั้งหลายไม่แก้ในสิ่งที่ผิดให้ถูก พอนานไป ๆ สิ่งที่ผิดก็จะกลายเป็นถูกไปเอง เพราะคนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกัน อย่างที่วัดเรา เวลาตั้งโต๊ะหมู่บูชา เราจะไม่ตั้งโต๊ะกราบ เพราะว่าของเรากราบพระด้วยเบญจางคประดิษฐ์ การตั้งโต๊ะกราบ ๑ ศีรษะ ๒ ศอก ๒ เข่า ไม่สามารถสัมผัสพื้นพร้อมกันได้ ก็แปลว่า การตั้งโต๊ะกราบเพื่อเอาใจบุคคลที่มีอำนาจ ซึ่งมักจะเป็นประธานในงานนั้น เป็นการกระทำที่ผิด..!

แต่ที่นี่..เฉพาะที่วัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพก็ใช้เวลาอยู่หลายปี กว่าที่จะแก้ไขตรงจุดนี้ได้ ก็คือถึงเวลาถ้ามีพระเถระหรือข้าราชการผู้ใหญ่มา ก็จะกราบเรียนหรือว่าอธิบายให้ทราบว่าทำไมถึงไม่มีโต๊ะกราบ จนกระทั่งปัจจุบันหลายแห่งเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรทำตาม ก็นำไปทำในสถานที่ของตนด้วย จึงเป็นเรื่องที่นอกจากจะต้องระมัดระวัง กระทำแค่ในของเขตอำนาจของตนเอง แล้วยังต้องระมัดระวังในเรื่องของการรู้จริงรู้แจ้งหรือไม่ ถ้าให้คนอื่นคัดค้านได้ สิ่งที่เราพูดไปก็จะไร้น้ำหนัก

เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายเอง บางทีก็ยังประมาณการไม่ถูก อย่างเช่นบางคนฟังธรรมะของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เกี่ยวกับโทษของนางขุชชุตตราที่ต้องเกิดเป็นทาสของคนอื่นเขา ๕๐๐ ชาติ พอถึงเวลาญาติโยมมาบอกให้ทำอะไรบางอย่าง ก็กล่าวโทษเขาทันทีว่า "ใช้พระ..!" แต่คราวนี้ญาติโยมบางทีก็ได้รับคำสั่งจากกระผม/อาตมภาพไปให้บอกกล่าวกับพระ แต่ท่านก็ถือความเถรตรง ซึ่งไม่รู้ว่าโง่หรือฉลาด ประมาณว่าถ้าไม่ใช่หลวงพ่อสั่งกูไม่ทำ ก็ขอให้มีความสุขความเจริญต่อไป..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-03-2023 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว