กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 16-02-2023, 19:46
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,564
ได้ให้อนุโมทนา: 216,954
ได้รับอนุโมทนา 748,114 ครั้ง ใน 36,432 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 17-02-2023, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,062 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖ ด้วยความที่อาการป่วยออกไปในแนวไข้หวัด หรือว่าติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ กระผม/อาตมภาพก็เลยทดสอบด้วยชุดตรวจ ATK อย่างแพง ปรากฏว่าตรวจไม่พบเชื้อ แต่คราวนี้หลักการใช้ชุดตรวจแบบเร่งด่วน เขาบอกว่า ถ้าไม่ติดเชื้ออย่าเพิ่งเชื่อ แต่ถ้าติดเชื้อให้เชื่อได้เลย จึงสงสัยอยู่ว่าตกลงจะเอาอย่างไรกันแน่ ?

วันนี้งานสำคัญก็คือการประชุมคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ และคณะกรรมการชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน วาระสำคัญก็คือการจัดงานปิดทองรอยพระพุทธบาทและทำบุญถวายอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่าน

ในเรื่องของอดีตเจ้าเมืองหน้าด่านทั้ง ๗ ท่าน หรือว่า ๗ หัวเมืองนั้น แต่เดิมแล้วส่วนใหญ่แล้วก็เป็นญาติพี่น้องเขาทำบุญกันเอง แต่พอกระผม/อาตมภาพมาเป็นประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ มีความเห็นว่า ท่านทั้งหลายเหล่านี้เป็นผู้มีบุญคุณ ช่วยเหลือปกป้องแผ่นดินไทยของเรามาตั้งแต่ปลายอยุธยา เมื่อล่วงลับดับขันธ์ไปแล้วก็ควรที่จะระลึกถึงและทำบุญไปให้ ประกอบกับก่อนหน้านี้ ทางวัดท่าขนุนของเรามีการจัดงานประจำปีในช่วงมาฆบูชา ซึ่งคนเก่า ๆ หลายท่านก็ยังจำได้ว่าเราจัดงานกัน ๓ วัน

เมื่อเปิดรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุนขึ้นมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
กระผม/อาตมภาพจึงได้นำเอา ๒ งาน ก็คือการปิดทองรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน กับการทำบุญถวายอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่านมารวมกัน เพื่อที่ให้งานยกระดับความสำคัญขึ้นมา ก่อนหน้านี้การจัดงานก็เป็นไปด้วยดี แต่ต้องมาหยุดในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด ซึ่งปี ๒๕๖๓ กับ ๒๕๖๔ ไม่ได้จัดงานเลย

ในช่วงปี ๒๕๖๑ การจัดงานมีการทรงผีแบบมอญ แล้วบรรดาอดีตเจ้าเมืองหน้าด่านก็มาเข้าทรง กระผม/อาตมภาพบอกกับท่านว่าจะทำบุญถวายให้ทุกปี ท่านยังเตือนว่า "อย่าพูดแบบนั้น ถ้าพร้อมก็ทำ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องทำ ไม่อย่างนั้นแล้วจะเป็นข้อผูกมัดให้เราเดือดร้อนทีหลัง"

ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมท่านถึงได้ว่าอย่างนั้น พอมาปี ๒๕๖๒ ปลายปี เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด ถึงได้รู้ว่าที่ท่านห้ามเอาไว้นั้น ท่านบอกล่วงหน้าตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ได้บอกตรง เพราะว่าในเรื่องของผี ของเทวดานั้น จะบอกอะไรได้ไม่เกินกฎของกรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2023 เมื่อ 03:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 17-02-2023, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,062 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหตุที่ท่านทั้งหลายเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องยึดถือกฎของกรรม ก็เพราะว่าในสภาพของโลกทิพย์ถือเรื่องบุญบาปเป็นใหญ่ ถ้าละเมิดกฎทั้งหลายเหล่านี้ อาจจะซ้ำเติมตนเองให้รับในส่วนของบาป คือความชั่วหนักขึ้น อาจจะต้องติดอยู่ในภพภูมิที่ยากลำบากไปอีกนาน จึงทำให้ในภพภูมิอื่น ๆ นั้นไม่มีการโกหกกัน แต่ว่าก็บอกกล่าวได้ไม่เกินกฎของกรรม

ดังนั้น..ในเรื่องของผี เรื่องของเทวดา ถ้าจะรักษาศีล ต่อให้เป็นศีล ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุหรือว่าศีล ๓๑๑ ข้อของภิกษุณี เขาสามารถรักษาได้ครบถ้วนสมบูรณ์ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าการล่วงละเมิดไม่มี

ในส่วนที่เราจัดงานกัน วันนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ มาร่วมประชุมด้วย แล้วก็มีพี่น้องกะเหรี่ยงจากเมืองสังขละบุรี ซึ่งเมืองสังขละบุรีในช่วงนั้นก็คือเมืองหน้าด่านท่าขนุน ก็คือเมืองท่าขนุนสมัยนั้นกินแดนไปจนถึงชายแดนพม่า นอกจากพี่น้องชาวกะเหรี่ยงจากสังขละบุรีซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญมาก อดีตเจ้าเมืองเป็นคุณพระ ได้รับพระราชทานยศศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตำแหน่งประจำก็คือพระศรีสุวรรณคีรี สืบต่อกันมาหลายยุคแล้ว

นอกจากนี้ก็ยังมีพี่น้องชาวไทยเนปาล ซึ่งกระตือรือร้นมากที่จะมาร่วมงาน เพราะว่าช่วงปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ที่มาร่วมงานกันนั้น การแสดงออกทางวัฒนธรรมของชาวเนปาลี ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม แล้วเขาก็อยากจะแสดงความเป็นตัวตนของตัวตน ให้ปรากฏต่อพี่น้องชาวไทยทั่วไป

ตอนแรกพวกเราก็ไม่คิดว่าพี่น้องชาวเนปาลจะมีมากขนาดนั้น เนื่องเพราะว่าสมัยก่อนเขาจ้างพี่น้องชาวเนปาลทำงานในเหมือง อย่างเช่นเหมืองแร่ปิล็อก เป็นต้น พออยู่ไปนาน ๆ มีลูกมีหลาน คนรุ่นหลัง ๆ ก็เรียนหนังสือไทย ประกอบอาชีพการงานอื่น ประสบความสำเร็จ แต่ไม่เคยลืมเชื้อชาติของตนเอง ก็พยายามที่จะแสดงออกถึงความมีตัวตนของเขา ถึงขนาดมีการแจ้งจดเป็นชมรมชาวไทยเชื้อสายเนปาล

ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตจะเห็นว่า แต่ละปีจะมีพี่น้องชาวเนปาลเหมารถเมล์มาทีหนึ่ง ๔ คัน ๕ คัน ถ้านับจำนวนคน ตีเสียว่าคันละ ๔๐ คน ๕ คันก็ ๒๐๐ คน มาเพื่อขอต่อใบอนุญาตประกอบอาชีพ ก็คือใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย พวกนี้ถ้าหากว่าที่ไหนไม่มีคนของเขาอยู่ก่อน เขาก็ไม่ไป แต่พวกเราก็นึกไม่ถึงว่า ทองผาภูมินั้นจะมีชาติพันธุ์ต่าง ๆ มากมายถึงขนาดนั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2023 เมื่อ 03:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 17-02-2023, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,062 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ขบวนแห่ลักษณะของกองเกียรติยศ ๗ เจ้าเมืองหน้าด่าน ปีนี้จะประกอบไปด้วยคนไทย ไทยอีสาน มอญ กะเหรี่ยง พม่า ม้ง แล้วปีนี้มาการเสนอ "ลาวพม่า" เข้ามาด้วย ซึ่งกระผม/อาตมภาพยืนยันว่าลาวพม่านั้นไม่ใช่คนลาว ลาวพม่านั้นคือคนไทยเดิมที่โดนกวาดต้อนไปสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แล้วก็โดนแยกเอาไปอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ กันไป

ช่วงที่ไปสร้างวัดหนองบัว กระผม/อาตมภาพเดินทางไปเยี่ยมเยียนพี่น้องเหล่านี้มาแล้ว ทางด้านที่อยู่ในความเจริญอย่างเมืองหงสาวดีพูดไทยกันไม่ได้แล้ว โดนพม่ากลืนภาษาไป แต่ว่ายังรู้ตัวกันอยู่ว่าตนเองเป็นคนเชื้อสายไทย บ้านก็ตั้งชื่อบ้านว่าชานหยั่วจี คำว่าชานคือสยาม คือ บ้านใหญ่ชาวสยาม

แต่ว่าทางด้านบ้านสองแคว หนองบัว ป่าหวาย สามพระยา บ้านใหม่ เหล่านี้อยู่ในที่ไม่เจริญ การคมนาคมเข้าถึงยาก ยังใช้ภาษาไทยกันอยู่เป็นปกติ แต่ว่าที่อ่านหนังสือไทยได้ เขียนหนังสือไทยได้ มีลุงทองแดงที่เป็นมัคคนายกวัดหนองบัวแค่คนเดียว ถ้าสิ้นลุงทองแดงเมื่อไร คนที่รู้หนังสือไทยก็จะหมดไป แต่ยังใช้ภาษาไทยได้เป็นปกติ

ชาวหนองบัวนี่แหละทำให้กระผม/อาตมภาพเข้าใจว่าการออกเสียงระหว่าง ญ.หญิง กับ ย.ยักษ์นั้น ออกเสียงต่างกันจริง ๆ การออกเสียง น.หนู กับ ณ.เณร นั้นต่างกันจริง ๆ เขายังออกเสียงได้ตามปกติ แต่บ้านเราออกเสียงไม่ได้แล้ว เขาพูดมาเราเข้าใจได้ทุกคำ อย่างเช่นว่า ถ่ายรูป เขาเรียกว่าตีรูป สว่าง เขาเรียกว่าแจ้ง เรือ เรียกว่าสำเภา แต่ว่าภาษาบ้านเราพัฒนาไปมาก บางทีพูดไปเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ เพียงแต่ว่าพวกเราไปเข้าใจผิดว่าเป็นคนอีสาน เพราะว่าสำเนียงเดียวกัน

กระผม/อาตมภาพยืนยันว่าสำเนียงไทยเดิมคือสำเนียงอีสาน ที่มีสำเนียงไทยภาคกลางมานี่เป็น "สำเนียงเหน่อเจ๊ก" ก็คือคนจีนพูด ในเมื่อคนจีนพูดไทยไม่ชัด แต่ว่าเมื่อผสมปนเปกันมากเข้ามากเข้า คนไทยเชื้อสายจีนมีอำนาจในด้านเศรษฐกิจ กุมในเรื่องของการค้าต่าง ๆ เอาไว้ในมือ ทุกคนก็ต้องเอาใจคนรวยด้วยการพูดตาม จนกลายเป็นสำเนียงภาคกลางขึ้นมา

เรื่องพวกนี้เราไม่ต้องเสียเวลาไปเถียงกัน ปล่อยให้นักประวัติศาสตร์หรือนักนิรุกติศาสตร์เขาไปศึกษากันเอง เราใช้วิธี "ตีหัวเข้าบ้าน" ทิ้งปัญหาไว้ให้เขาแล้วก็ "บ๊ายบาย..ไปละ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2023 เมื่อ 03:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 17-02-2023, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,062 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของงานจะมีในช่วงวันที่ ๓, ๔, ๕, ๖ มีนาคม วันที่ ๓ มีงานนิดเดียว ก็คือบวงสรวง ๗ เจ้าเมือง แล้วก็ทำบุญ โดยมีการเจริญพระพุทธมนต์แบบมอญ ส่วนวันที่ ๔, ๕, ๖ นั้น วันที่ ๔ จะมีขบวนแห่ แล้วก็มีการแสดงการละเล่นต่าง ๆ ถือว่าเป็นวันเปิดงาน ช่วงนั้นวัดเราก็จัดบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมด้วย อาศัยผู้ที่มาร่วมปฏิบัติธรรม ก็น่าจะมากพอแล้ว วันที่ ๖ เป็นวันมาฆบูชา พวกเราก็ปิดท้ายด้วยการตามประทีป แล้วก็เวียนเทียน

คราวนี้บรรดาเจ้าหน้าที่แผนกต่าง ๆ ก็ต้องรับผิดชอบงานของตนเป็นหลัก แล้วต้องประสานกับแผนกอื่นด้วย เพียงแต่ว่าระยะนี้ก็จะต้องมีการเบิกงบประมาณกันเป็นระยะไป ถ้ากระผม/อาตมภาพไม่อยู่จะทิ้งเงินเอาไว้ ถ้าใครเข้ามาเบิก บรรดาเลขาก็ช่วยดูให้ด้วย เมื่อเขาแจ้งมาแล้ว ถ้ากระผมเห็นว่าสมควรก็ให้บอกเจ๊นี้ (นางสาวสุมาลี ตีรเลิศพานิช) จะเป็นคนเอาเงินไปจ่ายให้ ไม่ต้องห่วง..เพราะว่าปีแรกที่จัดงาน ได้รับการสนับสนุนมาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ๑๕๐,๐๐๐ บาท กระผม/อาตมภาพใช้ไปเกือบ ๔๐๐,๐๐๐ บาท ต้องบอกว่าใช้เงินเป็น..!

เรื่องพวกนี้ ถ้าหากว่าไม่มีเงิน บางอย่างก็ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้าหากว่ามีแล้วประสานงานกันเป็น ปีนี้ในเรื่องของอาหารถือว่ามีผู้อาสาทำอาหารมาหลายอย่าง แต่ว่าส่วนใหญ่เป็นกับข้าว ให้ทางวัดช่วยหุงข้าวแล้วก็หาถ้วยจานชามช้อนให้เขาหน่อย งานส่วนอื่นก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2023 เมื่อ 03:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:10



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว