กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-02-2023, 20:21
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 421
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 21,847 ครั้ง ใน 902 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-02-2023, 00:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖ ทางด้านวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) และวัดพุทธบริษัทของเรา ก็ปิดการอบรมบาลีก่อนสอบไปแล้ว

ทางวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) นั้น จัดอบรมบาลีก่อนสอบมาเป็นเวลา ๔๘ ปีแล้ว บางทีอาจจะมากกว่าอายุของหลายท่าน แต่ว่าในส่วนที่เห็นผลก็คือ มีผู้ผ่านการอบรมแล้วสามารถสอบจนได้ประโยค ๙ ถึง ๑๐๐ กว่ารูป ส่วนที่โด่งดังเป็นที่จดจำเลย ก็คือสามเณรประกอบ สามเณรประยูร สามเณรสุชาติ เป็นนาคหลวงประโยค ๙ รุ่นเดียวกัน ทั้ง ๓ รูป

ปัจจุบันก็คือ พระพรหมกวี (ประกอบ ธมฺมเสฏฺโฐ ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

และพระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน ป.ธ.๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ

ทั้งสามท่านตอนที่เรียนอยู่นั้น ต้องบอกว่าเป็นทั้งกำลังใจให้เพื่อน แล้วก็ทั้งทำให้เพื่อนฝูงหมดกำลังใจ..! เพราะว่าเรียนเก่งเกินมนุษย์มนา ขณะที่คนอื่นสอบ ต้องรอลุ้นว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน แต่สามเณรทั้ง ๓ รูปดูประโยคต่อไปไว้แล้ว ก็คือไม่เสียเวลามาลุ้นตัวเองว่าสอบได้ไหม เมื่อสอบถาม สามเณรประกอบบอกว่า "ผมไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนทำให้ผมตกได้..!" อาจจะทำให้เพื่อนหมั่นไส้หน่อย แต่ว่าท่านเก่งจริง

ดังนั้น..ในเรื่องของการเรียนบาลีนั้น หลักสำคัญที่สุดก็คือรักษาพระปริยัติธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ไม่ให้คลาดเคลื่อน คำว่าบาลีมาจาก "ปาลธาตุ" ในความรักษา อยู่แล้ว แต่ว่าทั้งพระปริยัติธรรมและพระปฏิบัติธรรมนั้นจะต้องปฏิบัติควบคู่กันไป คือศึกษาเรียนรู้ตามตำราแล้วต้องทำให้เกิดผลด้วย ถึงจะเป็นปฏิเวธธรรม ก็คือผลดีเกิดแก่ทั้งตนเองและส่วนรวม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2023 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 13-02-2023, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างที่หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เรียนบาลีที่วัดสระเกศ ตั้งใจเรียนเพื่อที่จะได้แปลวิสุทธิมรรคไม่ให้ผิดพลาด เพียงแต่ว่าหลวงปู่ปานท่านไม่ได้สอบเอาประโยค ท่านเรียนเพื่อให้รู้เฉย ๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเล่าว่า หลวงปู่ปานกับอาจารย์เกี้ยวที่เป็นคู่เรียนบาลีมาด้วยกัน แล้วก็เป็นคู่เทศน์มาด้วยกัน เก่งบาลีขนาดสามารถตั้งวิเคราะห์ศัพท์วิสุทธิมรรคได้ทุกคำ..!

ท่านทั้งหลายที่เคยเรียนประโยคบาลีสูง ๆ ต้องเข้าใจว่า วิสุทธิมรรคนี้เป็นหลักสูตรของประโยค ๘ ก็แปลว่า ถ้าหลวงปู่ปานจะสอบ อย่างน้อยก็น่าจะได้ประโยค ๘ เพียงแต่ว่าท่านเรียนเพื่อไม่ได้เอาประโยค ท่านเรียนเพื่อที่จะแปลบาลีได้ถูกต้องเท่านั้น

ผู้ที่จะแปลบาลีได้ถูกต้องที่สุดนั้นต้องเป็นนักปฏิบัติ เพราะว่าสภาวธรรมที่เกิดขึ้น จะสามารถทำให้อธิบายได้ถูกต้องมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมเลย ก็คือในศัพท์เดียวกัน ในประโยคบาลีเดียวกัน สามารถอธิบายได้ชัดเจนลึกซึ้งมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติหลายเท่า

ในเมื่อเรียนเพื่อรักษาพระบาลีไว้ ก่อให้เกิดประโยชน์ส่วนเดียวก็ไม่ใช่ เพราะว่าอย่างที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ที่เป็นสนามอบรมบาลีก่อนสอบ ถึงเวลาทั้งคณะสงฆ์และญาติโยมแห่กันไปเป็นเจ้าภาพวันหนึ่งเป็นสิบ ๆ ราย เพื่อขอถวายภัตตาหารเช้า-เพล แก่ผู้เข้ารับการอบรมและคณะพระวิทยากร เมื่อรวมทั้งพระวิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมแล้ว ปีนี้มีพระเณรถึง ๔๔๘ รูป ก็เกือบจะ ๕๐๐ รูป

ถ้าเราอ่านในพระไตรปิฎกมักจะพบว่า พระมหากษัตริย์หรือว่ามหาเศรษฐี มีการนิมนต์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมพระภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูปไปรับบิณฑบาต ตรงส่วนนี้จึงทำให้บรรดาผู้ที่หวังบุญหวังกุศลทั้งหลายเห็นว่า ถ้าหากว่าจะให้เดินทางไปแต่ละวัด กว่าที่จะทำบุญกับพระได้ครบ ๔๐๐ กว่า ๕๐๐ รูป ถ้าไม่ถึงแก่ชีวิตเสียก่อน ก็อาจจะหมดสภาพเสียก่อน..!

ในเมื่อมีพระภิกษุสามเณรมารวมตัวกันมาก ๆ ทีเดียว จึงไปเป็นเจ้าภาพกันทุกวัน จัดเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ดีที่สุด ก็คือการที่พระภิกษุสามเณรอยู่ร่วมกันจำนวนมาก แล้วอยู่ในความเป็นระเบียบเรียบร้อย มุ่งการศึกษา ก่อให้เกิดศรัทธาได้ง่าย ในการเรียนบาลี ผลพลอยได้จึงมีมาก นอกจากเป็นการรักษาพระสัทธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้แล้ว ยังสามารถก่อให้เกิดศรัทธาเลื่อมใสต่อผู้ที่พบเห็น บุคคลที่สอบได้ก็ยังเป็นที่ยกย่องเชิดชูอีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2023 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 13-02-2023, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพไปร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ถวายมุทิตาสักการะพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ในโอกาสที่ได้รับพระราชทานเลื่อนพระสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมวชิรานุวัตร แต่ผู้ที่อัญเชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตรไปถวายคือนายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี นั่นระดับเจ้าคุณชั้นธรรม ซึ่งถือว่าเป็นสมณศักดิ์ที่สูงมาก ยังไม่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยตรงเลย..!

แต่ในช่วง ๒ - ๓ ปีที่ผ่านมา ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ผู้ที่สอบได้ประโยคบาลี ได้เข้ารับพระราชทานประกาศนียบัตร - ปริญญาบัตร จากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สิ่งใดก็ตามที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากเป็นเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ เกียรติคุณเฉพาะตนแล้ว ยังเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล สถานศึกษา ตลอดจนกระทั่งผู้ให้การสนับสนุนทั้งหมดด้วย

โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงศึกษาพระบาลีด้วยพระองค์เอง มีการอาราธนาพระเดชพระคุณพระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ วรทสฺสี ป.ธ.๙) วัดโมลีโลกยาราม เข้าไปถวายความรู้เกี่ยวกับพระบาลีอย่างสม่ำเสมอ และในการสอบบาลีช่วง ๒ - ๓ ปีที่ผ่านมา มีการพระราชทานภัตตาหารเลี้ยงผู้เข้าสอบบาลีทั้งหมด และส่วนหนึ่งยังได้รับพระราชทานข้าวของเครื่องใช้ในการสอบด้วย

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเราจะนับไปแล้ว จะเห็นว่าพระองค์ท่านให้การสนับสนุนการศึกษาคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก แต่พระองค์ท่านไม่ได้สนับสนุนด้านปริยัติธรรมอย่างเดียว ยังทรงปฏิบัติธรรมด้วยพระองค์เองอีกด้วย มีการอาราธนาครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณความรู้ด้านการปฏิบัติ เข้าไปถวายความรู้ในการปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

ในเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง พวกเราก็อย่าได้เรียนทิ้งเรียนขว้าง เรียนแล้วเราต้องนำมาปฏิบัติให้เกิดผลด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วก็ถือว่าเป็นโมฆะ คือเรียนรู้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ไม่ก่อให้เกิดผลอะไรเลย กระทำตัวเป็นห้องสมุด เก็บความรู้เอาไว้ รอคนอื่นเข้ามาค้นคว้าต่อ ถ้าตายเสียก่อนก็หมดประโยชน์แค่นั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2023 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 13-02-2023, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของการเรียนบาลีนี่ ต้องบอกว่าเป็นกำลัง เป็นแรงใจแก่คนรุ่นหลังที่ดีมาก ตัวอย่างชัดเจนที่สุดก็คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ ๙) วัดญาณเวศกวัน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นนาคหลวง สอบเปรียญธรรม ๙ ประโยคได้ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร

องค์ท่านมีชาติภูมิอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นแรงบันดาลใจให้กับญาติโยมท่านหนึ่ง ก็คือโยมบิดาของสามเณรประยูร มีฤกษ์ ตั้งใจให้ลูกชายบวชสามเณร เพื่อจะให้เรียนบาลีจนได้ประโยค ๙ แล้วบวชเป็นนาคหลวงบ้าง แล้วสามเณรประยูร มีฤกษ์ ก็ทำได้อย่างที่พ่อต้องการจริง ๆ..!

เราจะสังเกตได้ว่า ไม่เพียงแต่ความประพฤติปฏิบัติในด้านการศึกษา ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์จะเป็นตัวอย่างเท่านั้น แม้กระทั่งนามคือประยุทธ์ โยมก็ยังเอาไปตั้งชื่อลูกชายว่าประยูร ใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง ด้วยความหวังว่าจะสามารถทำได้อย่างที่ท่านเจ้าประคุณฯ ทำบ้าง

ปัจจุบันนี้สามเณรประยูร มีฤกษ์ ก็คือพระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. องค์อุปนายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมา ๒๐ ปี สร้างความเจริญอย่างมหาศาลให้กับการศึกษาคณะสงฆ์ แล้วก็ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อที่จะมาเป็นประธานฝ่ายเผยแผ่พระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ไทย

ดังนั้น..เรื่องของบาลี ถ้าหากว่าเป็นไปได้พวกท่านก็ควรที่จะเรียนกันเอาไว้บ้าง ไม่ต้องหวังสอบเอาประโยคก็ได้ ขอเพียงแต่ถึงเวลาสวดมนต์ไหว้พระแล้วรู้ว่าคำนี้แปลว่าอะไร ? คำนี้มีรากศัพท์มาจากไหน ? สมาสหรือสนธิเข้าด้วยกันจากศัพท์อะไรกับอะไร ? แค่นี้ก็น่าจะทำให้เรามีความเข้าใจอะไรหลายอย่างลึกซึ้งขึ้นไปอีก

เพียงแต่ว่าอย่าอยู่ในลักษณะเรียนแล้วหยิ่ง ก็คือเรียนแล้วต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราเรียนเพื่ออะไร ไม่ใช่พอมีความรู้มาก ได้ประโยคสูงแล้วก็เหลิง จนกระทั่งกลายเป็นคนจมไม่ลง ถ้าอย่างนั้นแล้วก็จะเป็นอลคัททูปมปริยัติ เรียนแบบจับงูข้างหาง เผลอเมื่อไรก็จะโดนงูกัด บาดเจ็บล้มตายไปเอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2023 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:03



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว