กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 29-12-2022, 19:51
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,639
ได้ให้อนุโมทนา: 216,864
ได้รับอนุโมทนา 747,348 ครั้ง ใน 36,404 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 30-12-2022, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,662 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เช้ากระผม/อาตมภาพก็ต้องเดินทางไปที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ จากเดิมก็คือแค่ไปเป็นเกียรติกับงานของเขาเท่านั้น ทำไปทำมากลายเป็นประธานเปิดงานแล้วบรรยายพิเศษให้กับครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนของจังหวัดกาญจนบุรีไปเลย..!

เพราะว่าวันนี้พระเถระทั้งหลายมีภารกิจมากมาย โดยเฉพาะพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านติดภารกิจในการมอบตราตั้งเจ้าอาวาส เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าจะสิ้นปีแล้ว การแต่งตั้งตำแหน่งต่าง ๆ ต่อให้แต่งตั้งวันที่ ๓๑ ธันวาคม ก็ต้องนับเป็นปี ๒๕๖๕

ในเรื่องของการตั้งสมณศักดิ์ก็ดี หรือว่าเลื่อนก็ตาม ก็จะมีระยะเวลาว่า ๕ ปีหรือ ๓ ปี สมมติว่าตั้งวันนี้ ก็มีเวลาแค่ ๓ วัน แต่นับเป็น ๑ ปี เพราะว่าเลขพ.ศ.คือปี ๒๕๖๕ ต้องบอกว่าเป็นเทคนิคที่ฝ่ายปกครองตั้งใจจะสนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชาของตน จึงต้องรีบแต่งตั้งก่อนที่จะสิ้นปี ซึ่งสามารถที่จะนับอายุได้ ๑ ปีไปเลย

หลังจากที่ให้โอวาทแก่ทางด้านครูพระสอนศีลธรรม ซึ่งจำนวนทั้งหมด ๓๐๐ กว่ารูปก็ไปไม่ถึงครึ่ง เพราะว่าทางคณะผู้จัดอ่อนประชาสัมพันธ์ไปหน่อย แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองก็ได้ข่าวเมื่อวานนี้ตอน ๔ โมงเย็น เขาคงคิดว่า ทุกคนเหมือนกับหลวงพ่อวัดท่าขนุน จะช้าจะเร็วอย่างไรก็ไปงานได้ทันกระมัง ?

เรื่องของการทำงาน พวกท่านทั้งหลายต้องจำเอาไว้ว่า สำคัญที่สุดคือเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ถ้างานในระดับนั้น อย่างน้อยต้องประกาศล่วงหน้า ๑ เดือน ก็คืออาทิตย์แรกประกาศงาน อาทิตย์ที่สอง ประชาสัมพันธ์ซ้ำสัก ๓ ครั้ง อาทิตย์ที่สาม ให้ประชาสัมพันธ์วันเว้นวัน อาทิตย์สุดท้ายให้ประชาสัมพันธ์ทุกวัน

ถ้าทำในลักษณะอย่างนี้ จะไม่มีใครอ้างว่าไม่ได้ข่าว หรือว่าได้รับข่าวช้าจนไปร่วมงานไม่ทัน เป็นหลักการทำงานง่าย ๆ ทั้งนั้น ยกเว้นว่าอย่างพวกเรา สามารถที่จะรับงานเร่งด่วนได้ ถึงเวลาบอกวันนี้ พรุ่งนี้ก็สามารถไปร่วมงานได้ จัดเป็นบุคคลที่หาได้ยากอีกประเภทหนึ่ง ก็ต้องบอกว่า ถ้าหากว่ากำลังใจของพวกเราเท่ากันหมด การบริหารงานคณะสงฆ์จะง่ายกว่านี้อีกมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2022 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 30-12-2022, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,662 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้น กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) เพื่อรับไฟพระฤกษ์ของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) ที่จะนำมาจุดในการเจริญพุทธมนต์รับปีใหม่ เดี๋ยวพวกเราก็ต้องตั้งโต๊ะหมู่เพิ่มอีกชุดหนึ่งตรงกลาง เพราะว่าไฟพระฤกษ์ต้องจุดต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระสังฆราชแบบปีก่อน ๆ

แล้วก็ประดักประเดิดมากครับ เพราะเขากำหนดว่าให้ผู้นำท้องถิ่นเป็นคนต่อไฟพระฤกษ์ ส่งให้เจ้าอาวาสเป็นคนจุด พิลึกตรงที่ว่า ทำไมไม่ให้ผู้นำท้องถิ่นจุดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ต้องมาทำ ๒ ขยักด้วย ของบางอย่างถ้า "ทำของยากให้ง่าย" ก็จะเป็นเรื่องที่สะดวก คล่องตัวขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะกลายเป็น "ทำของง่ายให้ยาก"

หลังจากนั้นก็เป็นการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ และเลขานุการ ซึ่งวาระสำคัญต่าง ๆ ได้เน้นย้ำตรงการแบ่งงานรับผิดชอบกัน แบบเดียวกับที่วัดท่าขนุนของเรา ถึงเวลาก็มีเวรรับสังฆทาน มีเวรยามประจำวัน มีเวรรับผิดชอบทำความสะอาด แต่ว่านี่แค่ระดับวัดเท่านั้น

พอถึงระดับการปกครอง ตั้งแต่ตำบล อำเภอ จังหวัด พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านย้ำมากว่า "มีรองแล้วต้องรู้จักแบ่งงานให้ด้วย ก็คือ แบ่งสันปันส่วนกันรับผิดชอบงาน ไม่ใช่แบกงานไว้คนเดียว กลัวว่าคนอื่นจะเก่งกว่า..!"

โดยจริตนิสัยของกระผม/อาตมภาพเองนั้น ถ้ามีลูกน้องเก่งนี่จะสบายใจมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตัวเองไม่ต้องเหนื่อยมาก งานการทุกอย่างก็สะดวกคล่องตัว แต่ว่ามีบุคคลจำพวกหนึ่ง ที่เกรงว่าคนอื่นจะมาดึงความสำคัญไปจากตนเอง จึงไม่พยายามที่จะแบ่งงาน ให้ แล้วตัวเองก็รับงานไม่ไหว ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ขาดตกบกพร่อง

มีอยู่สมัยหนึ่ง เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิรูปหนึ่ง กระผม/อาตมภาพขอให้มีการแต่งตั้งรองเจ้าคณะตำบล เพื่อที่จะได้ช่วยรับผิดชอบงาน ท่านไม่อนุมัติ ท่านบอกว่า "ผมไม่ชอบให้ใครมาแบ่งงาน" ก็คือกลัวความสำคัญของตนเองจะลดลง ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของตน เพราะว่าท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอ ตรงนี้เป็นระดับตำบล โดยเฉพาะตำบลใหญ่ ๆ อย่างตำบลชะแล ถามว่าใหญ่โตมหึมาขนาดไหน ? จังหวัดกาญจนบุรีใหญ่เท่ากับสมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ๓ จังหวัดรวมกัน แล้วตำบลชะแลใหญ่ครึ่งอำเภอ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2022 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 30-12-2022, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,662 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนที่กระผม/อาตมภาพดูแลตำบลชะแลเขต ๒ อยู่ มี ๕ วัดกับ ๗ สำนักสงฆ์ ไม่สามารถจะใช้การติดต่อทางโทรศัพท์ได้ เพราะว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ ๙๐ เป็นอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ในเมื่อไม่มีโทรศัพท์ก็ต้องวิ่งส่งเอกสารอย่างเดียว เมื่อส่งเอกสารครบ ๕ วัดกับ ๗ สำนักสงฆ์ ดูเลขไมล์รถแล้ว วิ่งไป ๑๔๒ กิโลเมตร..! เราต้องนึกเอาว่าไกลแค่ไหน กรุงเทพฯ มาถึงกาญจนบุรีก็ ๑๒๖ กิโลเมตรเท่านั้น นี่วิ่งตำบลเดียว ๑๔๒ กิโลเมตร..! วัดสุดท้ายคือวัดคลิตี้ล่าง ห่างจากวัดท่าขนุน ๘๗ กิโลเมตร..!

ในเมื่อใหญ่ขนาดนี้ อยากจะให้มีรองเจ้าคณะตำบลช่วยรับผิดชอบงาน แต่ท่านไม่อนุญาต ก็คงประมาณว่า "กำลังใจของตนเองแค่ไหน ก็คิดว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกับตนเอง" ก็เลยทำให้อำเภอทองผาภูมิไม่มีรองเจ้าคณะตำบล จนกระทั่งผ่านเจ้าคณะอำเภอมาอีก ๒ รูปแล้วก็ยังไม่มี คงจะถือธรรมเนียมเดิมกันอยู่ ซึ่งถ้าหากว่ามี งานการทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น

หลังจากที่ประชุมกันเสร็จสรรพ เน้นการแบ่งงานแล้ว ก็ปรากฏว่าในเรื่องของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ซึ่งตั้งตามตำบลบ้านเมือง ไม่ใช่ตำบลคณะสงฆ์ เพราะว่าอย่างตำบลชะแลก็มีตำบลเดียว แต่ด้วยความใหญ่ ก็เลยทำให้ตำบลชะแลมีตำบลคณะสงฆ์ ๒ ตำบล ก็คือ ตำบลชะแลเขต ๑ กับ ตำบลชะแลเขต ๒ หรือว่าอย่างอำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรีของเรา มีตำบลบ้านเมืองอยู่แค่ ๔ ตำบล แต่มีตำบลคณะสงฆ์ถึง ๑๐ ตำบล..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเป็นการเฉลี่ยงาน ไม่ให้เจ้าคณะตำบลรับภาระมากจนเกินไป ต่ำสุดแต่ละตำบลจึงให้มีอยู่ที่ ๕ วัด ถ้ามีมากกว่านั้นก็แล้วไป ยกเว้นว่าถ้าสามารถเพิ่มเติมได้ จนครบอีก ๕ วัด ก็ให้แยกตำบลคณะสงฆ์ได้อีกตำบลหนึ่ง

ก็ปรากฏว่าทางด้านอำเภอต่าง ๆ ทั้ง ๑๓ อำเภอ อำเภอทองผาภูมิเป็น ๑ ใน ๔ อำเภอที่ส่งงานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลครบถ้วนสมบูรณ์ทุกตำบล อีก ๙ อำเภอยังขาดตกบกพร่องอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2022 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 30-12-2022, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,662 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะมีอำเภอหนึ่ง งานที่ส่งเป็นศูนย์มาตลอด หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดก็เลยจี้ลงไปที่รองเจ้าคณะอำเภอซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ว่า "เดือนหน้าต้องมีงานส่ง" เพราะว่าถ้าเรายอมเหนื่อย วิ่งถึงทุกที่ หรือว่าเลขานุการมีความสามารถ ยอมเหนื่อย วิ่งไปทวงงาน งานต่าง ๆ ก็จะครบถ้วนสมบูรณ์

งานของคณะสงฆ์ต้องการคนเสียสละ โดยเฉพาะงานทุกอย่าง แทบจะไม่ได้พึ่งพาอาศัยงบประมาณของทางราชการเลย ล้วนแล้วแต่เป็น "งบหลวง..พ่อ" ทั้งนั้น นอกจากพึ่งพาความเสียสละแล้ว ยังต้องการความอดทนอดกลั้นในการทำงานเป็นอย่างสูง เพราะว่าเหมือนกับการ "ปิดทองหลังพระ" ทำไปเป็นร้อยครั้งจะมีคนเห็นสักครั้งก็ยาก แต่ถ้าทำผิดครั้งเดียว โดยคนถล่มจมดินทันที..!

ดังนั้น..ในวันนี้ที่ไปบรรยายถวายความรู้ให้กับครูพระสอนศีลธรรมในช่วงเช้า ความจริงอยากจะพูดสั้น ๆ แค่ว่า "ครูพระทุกรูปทำให้เหมือนผมก็จบแล้ว" แต่อธิบายแค่นั้นไม่ได้ เพราะว่าบางคนปัญญาไม่ถึง เดี๋ยวก็ไปทำขาดทำเกินอีก..!

กระผม/อาตมภาพจึงต้องค่อย ๆ มาขยายความว่า ในการเป็นครูพระ เราทำอย่างไรที่จะสร้างศรัทธาให้เกิด โดยเฉพาะอันดับแรกเลยก็คือ เจ้าของสถานที่ ผู้อำนวยการแต่ละโรงเรียน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่เราจะได้เข้าไปทำหน้าที่หรือไม่ได้ทำ

ประการที่ ๒ ก็คือ สำหรับบรรดาเด็ก ๆ ทำอย่างไรที่จะให้สิ่งที่เราสอน ไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อสำหรับคนยุคใหม่ แต่ถ้าหากว่าเฮฮาบ้าจี้มากเกินไปอย่าง "หลวงพี่โดเรมอน" คนทั่วไปก็รับไม่ไหวเหมือนกัน เพราะฉะนั้น..ในส่วนของความพอเหมาะพอดีจึงเป็นเรื่องที่ยากที่สุด เพราะว่ามัชฌิมาปฏิปทาไม่ได้มีมาตรฐาน ๕๐ เปอร์เซ็นต์ แต่อาศัยกาลเทศะเป็นส่วนใหญ่

การเป็นครูพระสอนศีลธรรมจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก เหตุที่ยากเพราะว่า อันดับแรกเลยก็คือ ตนเองก็ยังแบกกิเลสท่วมหัวอยู่ ไม่สามารถที่จะบอกกล่าวคนอื่นได้เต็มปากเต็มคำ นอกจากอาศัยสอนคนอื่นไปด้วย ขัดเกลาตัวเองไปด้วย แล้วโอกาสที่จะผิดพลาดจนกระทั่งเสียหายก็มีอยู่มาก กว่าที่จะสร้างศรัทธาให้ญาติโยม ตลอดจนกระทั่งผู้บังคับบัญชาหรือว่าเด็กนักเรียนยอมรับนับถือ ก็อาจจะเสียเวลาไปเนิ่นนาน

หลังจากนั้นเราก็จะอาจจะเกษียณ แล้วคนรุ่นใหม่มา ก็จะพบกับเหตุการณ์แบบนี้อีก เป็นเรื่องที่ "หัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก" ก็ได้แต่ช่วยกันลากถูลู่ถูกังไป แต่ละปีจึงต้องปฐมนิเทศอบรมกันไป พูดแต่เรื่องซ้ำ ๆ ทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง ก็เอาเฉพาะว่า ในส่วนที่เป็นหน้าที่ของเรา ทำให้เต็มที่ก็แล้วกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2022 เมื่อ 03:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:45



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว