กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-08-2022, 18:53
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-08-2022, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพไปร่วมงานตรวจติดตามโครงการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า หมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งงานนี้พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) ที่ปรึกษาคณะกรรมการโครงการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาส่วนกลาง มาเป็นประธานในการตรวจหมู่บ้านหนองขาว ที่วัดอินทาราม หรือในชื่อสามัญว่า วัดหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี

คณะกรรมการที่มาทั้งหมดนั้น ก็ล้วนแล้วแต่รู้จักคุ้นเคยกับกระผม/อาตมภาพเกือบทั้งสิ้น แม้กระทั่งบางท่านก็ยังเป็นลูกศิษย์ที่เคยเรียนปริญญาโท ซึ่งกระผม/อาตมภาพเคยสอนท่านที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี วัดไรขิง (พระอารามหลวง) มาก่อน

พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดีนั้น กระผม/อาตมภาพคุ้นเคยกับท่านมาตั้งแต่ก่อนที่กระผม/อาตมภาพจะบวช เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี (สนิธ เขมจารีมหาเถร) ป.ธ. ๙ อดีตเจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหารนั้น ท่านเป็นบุคคลที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง ถึงขนาดยกย่องว่าหลวงปู่สมเด็จฯ ท่านนี้เป็น "พระทองคำ" ดังนั้น...ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่สมเด็จฯ ก็คือพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดีนั้น จึงเป็นที่รู้จักมักคุ้นกันมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว

แม้กระทั่งคณะกรรมการบางท่าน อย่างพระเดชพระคุณพระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ.๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ก็ยังออกปากว่า "หลวงพ่อวัดท่าขนุน ผมติดตามงานของท่านอยู่ตลอดเลยนะ"

ตรงส่วนนี้ก็เป็นความภาคภูมิใจเป็นการส่วนตัวว่า สมัยนั้นได้ทำหน้าที่ต้อนรับพระเถรานุเถระที่ไปร่วมงานที่วัดท่าซุง ทำให้รู้จักมักคุ้นกับพระเถรานุเถระจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งกระผม/อาตมภาพทราบด้วยว่าท่านเป็นพระดีอย่างแท้จริง

เพราะว่าสมัยนั้นกระผม/อาตมภาพร้อนวิชา ใช้เจโตปริยญาณที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ เมตตาสั่งสอนและทำการฝึกฝนต่อเนื่องมาหลายปี ในการที่ดูใจพระเถระที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านนิมนต์มาร่วมงาน ว่ามีท่านใดบ้างที่เป็น "พระสุปฏิปันโน" อย่างแท้จริง จนกระทั่งไปเจอทีเด็ดของพระองค์ที่ ๑๐ ทำให้เกิดอาการที่พระองค์ที่ ๑๐ ท่านเรียกว่า "แว่นแตก"..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2022 เมื่อ 01:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-08-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องจากว่ายังไม่เข้าใจว่า เจโตปริยญาณนั้นเราดูได้เฉพาะบุคคลที่เสมอกันหรือว่าต่ำกว่าเท่านั้น บุคคลที่สูงกว่า ถ้าท่านตั้งใจปิดบัง เราก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้รู้สึกอับอายขายหน้าแต่ประการใด เพราะว่าบุคคลระดับพระองค์ที่ ๑๐ ถ้าท่านตั้งใจปิดบัง ก็คาดว่าทั่วทั้งประเทศไทย ไม่มีใครที่สามารถจะรู้กำลังใจของท่านได้เช่นกัน

ซึ่งยังมีอีกท่านหนึ่ง คือท่านอาจารย์ปถัมภ์ เรียนเมฆ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งหนังสือมหาจักรและคนพ้นโลก ก็โดนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ปิดบังกำลังใจถึงระดับ "แว่นแตก" ไปเช่นกัน ทำให้บุคคลที่ร้อนวิชาอย่างท่านอาจารย์อาจารย์ปถัมภ์ เรียนเมฆ และกระผม/อาตมภาพนั้น ต้องเจียมตัวและสำนึกตัว

ท้ายที่สุดก็เข้าใจว่า เจโตปริยญาณนั้นไม่ได้มีเอาไว้ดูใจคนอื่น หากแต่มีเอาไว้เพื่อดูใจของเราเองว่า ในขณะนี้ใจของเรามีความดีอยู่หรือไม่ ? ถ้าหากว่ายังไม่มีก็ให้รีบสร้างความดีต่าง ๆ ขึ้นมา ถ้าหากว่าพอมีอยู่บ้างแล้วก็เร่งพัฒนาให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป หรือดูว่ากำลังใจของเรามีความชั่วอยู่หรือไม่ ? ถ้าหากว่ามีอยู่ ก็ให้เร่งขับไล่ออกไป แล้วระมัดระวังไว้ไม่ให้ความชั่วทั้งหลายเหล่านั้นกลับเข้ามา

ตรงจุดนี้ทำให้กระผม/อาตมภาพ ซึ่งสมัยก่อนร้อนวิชาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อโดนพระองค์ที่ ๑๐ ท่าน "ทุบ" เข้า จึงได้สติ แล้วท้ายที่สุดก็มาโดนพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านตอกซ้ำเข้าไปอีกว่า บุคคลที่ได้วิชชา ๒ อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ ยังห่างจากขุมนรกแค่ช่วงนิ้วมือเดียว นอกจากบุคคลที่สามารถเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันอย่างแท้จริงแล้วเท่านั้น ถึงจะสามารถปิดอบายภูมิได้อย่างสิ้นเชิง

จึงทำให้กระผม/อาตมภาพได้สติ ละเว้นในเรื่องของกีฬาสมาธิที่เล่นสนุกสนานอยู่หลายปี มาเร่งรัดในเรื่องของมรรคของผล จนกระทั่งเกิดอารมณ์ใจเคารพต่อพระรัตนตรัยขึ้นมา อย่างชนิดที่เกิดความคิดขึ้นในใจว่า ต่อให้เราต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในกายสังขารนี้ไปจนอายุ ๑๒๐ ปี ถ้าสามารถเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันในชาตินี้ได้ ก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม..!!!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2022 เมื่อ 01:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-08-2022, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่กระผม/อาตมภาพทำไป ก็ล้วนแต่เป็นไปเพื่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพื่อช่วยในการค้ำจุนพระพุทธศาสนา เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง และเพื่อมรรคผลพระนิพพานของตนเอง

หลายท่านก็จะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพทำงานแบบคนมีวันนี้แค่วันเดียว ก็คือทุ่มเททุกอย่างอย่างเต็มสติ เต็มกำลัง โดยที่ไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก เพราะสำนึกได้ว่า ชีวิตของเรานี้เป็นของน้อย จะตายลงไปเมื่อไรก็ไม่แน่ ถ้าหากว่าตายลงไปโดยที่ยังไม่มีความดีอย่างแท้จริงติดตัวอยู่ ก็ถือว่าเป็นการเสียชาติเกิด และอีกส่วนหนึ่งก็คือสำนึกได้ว่า ตนเองนั้นก่อกรรมทำเข็ญมาอย่างแรงทุกชาติ ถ้าหากว่าให้วาระกรรมเข้ามาสนองด้วยตนเอง ก็อาจจะรับไม่ไหว

ดังนั้น...การที่วิ่งเข้าใส่งานทุกอย่าง เพื่อสร้างความเจริญให้แก่พระพุทธศาสนา โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ก็เพราะรู้ว่า..ถ้าเราเป็นผู้วิ่งเข้าหางานเอง เรามีกำลังเพียงพอที่จะรับงานนั้นได้ แต่ถ้าหากว่ารอให้วาระกรรมมาสนอง เราก็อาจจะรับไม่ไหว โดยมีตัวอย่างรุ่นพี่ซึ่งปรากฏให้เห็นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) ซึ่งต้องไป "เสวย" รถพ่วงบรรทุกปูนมา จนกระทั่งกายสังขารย่ำแย่ไปหลายปี ก็เพราะเหตุที่ว่าปล่อยจนกระทั่งวาระกรรมเข้ามาสนองเอง

หรือว่าหลวงพี่ทีป (พระใบฎีกาประทีป อตฺถทสฺสี) ผู้ที่คอยอุปัฏฐากรับใช้หลวงพ่อวัดท่าซุงมาตลอด ก็รอจนมะเร็งรับประทาน แล้วก็สิ้นชีวิตลงไปท่ามกลางความเจ็บปวด แต่ยังดีอยู่ตรงที่ว่า พี่ท่านอาศัยความเจ็บปวดนั้นมาพินิจพิจารณา จนกระทั่งสภาพจิตไม่ได้ยึดเกาะกับความเจ็บปวดของทางร่างกาย นับว่าไม่เสียทีที่เป็นผู้ถวายการอุปัฏฐากรับใช้พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงมาหลายปี ทำให้ยังได้หลักยึดในการที่จะประพฤติปฏิบัติในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต

ดังนั้น...กระผม/อาตมภาพเองจึงวิ่งใส่ภาระงานทุกอย่าง ที่ทำไปแล้วเป็นการเกื้อกูลต่อพระพุทธศาสนา เป็นการแบ่งเบาภาระของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง และเป็นการกระทำเพื่อมรรคเพื่อผลของตนเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2022 เมื่อ 01:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-08-2022, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นภาระที่กระผม/อาตมภาพถือว่าเป็นหน้าที่จำเป็นต้องทำ จนกว่าชีวิตนี้จะดับดิ้นสิ้นลงไป ตามวาระบุญวาระกรรมที่ตนเองได้ก่อเอาไว้ตั้งแต่อดีต จึงทำให้วันนี้จะต้องวิ่งจากวัดท่าขนุนมา เพื่อร่วมงานตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของบ้านหนองขาว ที่วัดอินทาราม อำเภอท่าม่วงในครั้งนี้

ในงานวันนี้ยังได้นัดแนะให้พระครูเทพ (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร มารับเอาทองคำและเงินชนวน เพื่อไปเพิ่มเติมในส่วนที่ยังขาดอยู่ ในการสร้างสมเด็จองค์ปฐมพิมพ์นั่งบัวเสวยสุข ซึ่งท่านอาจารย์เทพนั้นทำให้ทางโรงงานแปลกใจเป็นอย่างยิ่งมาแล้ว บอกว่าหลอมเงินมาหลายสิบตัน ไม่เคยปรากฏว่าหลอมแล้วเกิดประกายไฟพะเนียงวูบวาบอยู่ตลอดเวลา แบบที่หลอมเงินชนวนของวัดท่าขนุน จึงได้ฝากท่านอาจารย์เทพสอบถามมาว่า "หลวงพ่อได้ผสมโลหะอะไรพิเศษลงไปในเนื้อเงินชนวนนั้นหรือเปล่า ?"

กระผม/อาตมภาพตอบไปว่า "ไม่ได้ผสมอะไรเลย นอกจากวางกำลังใจในการอัญเชิญบารมีพระลงมาสงเคราะห์อย่างเต็มที่ ในช่วงของการหล่อพระปางห้ามสมุทร"

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าพระปางห้ามสมุทรที่สร้างขึ้นมานั้น อย่างน้อย ๆ ก็จะได้ช่วยระงับภัยพิบัติบางส่วนที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง ภัยจากอุทกภัยหรือว่าน้ำท่วม ตลอดจนกระทั่งการที่จะเกิดการนองเลือด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในเมื่อพระท่านสงเคราะห์ให้ การหลอมเงินชนวนทองชนวนในครั้งนี้ จึงมีปรากฏการณ์ประหลาด เพราะว่าเท่ากับกำลังหลอมวัตถุมงคลที่ได้รับการพุทธาภิเษกมาอย่างเต็มที่แล้วนั่นเอง

เมื่อเสร็จสิ้นงานแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้เดินทางเข้าสู่ที่พัก พร้อมกับรีบฉันยาประคองร่างกายที่ทำท่าว่าจะไม่ไหวอีกแล้ว แต่ว่าก็ยังต้องมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในตอนนี้ เพื่อส่งให้แก่พระภิกษุสามเณร และญาติโยมทั้งหลายที่ตั้งหน้าตั้งตารอฟังอยู่ จนกระทั่งโดนเพื่อนพระสังฆาธิการแซวว่า "ท่านนี้มี FC เยอะมาก"

ท้ายสุดนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2022 เมื่อ 01:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:44



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว