กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-11-2021, 21:06
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,597
ได้ให้อนุโมทนา: 216,876
ได้รับอนุโมทนา 747,064 ครั้ง ใน 36,371 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 14-11-2021, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,153 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ได้ทำการอุปสมบทหมู่พระภิกษุไป ๑๐ รูป เพื่อฉลองงานหล่อพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเนื้อเงินและเนื้อทองคำ ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ นี้

ในการหล่อพระพุทธรูปครั้งนี้นั้น ต้องใช้เม็ดเงิน ๑๕๐ กิโลกรัมและทองคำ ๓๖ กิโลกรัม ในส่วนนี้ทางวัดได้เตรียมไว้พร้อมมูลแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของทองคำที่ต้องซื้อเป็นทองคำแท่งชุดเดียวกันทั้งหมด เพื่อที่ถึงเวลาหล่อแล้ว เนื้อทองจะได้ประสานกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในช่วงที่ซื้อทองคำนั้นก็ได้จ่ายเงินไป ๕๐ กว่าล้านบาท

คราวนี้การที่ญาติโยมทั้งหลายได้นำทองคำมาถวายก็ดี ส่งมาถวายทางไปรษณีย์ก็ตาม ตรงส่วนนี้ก็ต้องรอในการที่ "ธรรมะจัดสรร" แล้วแต่ว่าพระหรือว่าครูบาอาจารย์ท่านจะสั่งว่าให้จัดการอย่างไร
กระผม/อาตมภาพก็จะดำเนินการไปตามนั้น แต่ว่าทุกชิ้นที่ท่านทั้งหลายส่งมา ไม่ว่าจะเล็กน้อยจนกระทั่งไม่สามารถที่จะคิดเป็นน้ำหนักได้ หรือว่าหนักเป็น ๕ บาท ๑๐ บาท ทางกระผม/อาตมภาพลงบัญชีไว้ทั้งหมด

บางทีเป็นคณะใหญ่ เขียนชื่อมาเป็นหน้ากระดาษ
กระผม/อาตมภาพก็มักจะเลือกเอาชื่อแรกขึ้นมา แล้วลงบัญชีว่าเป็นคณะของท่านเจ้าของชื่อนั้น ก็แปลว่าบุคคลใดที่เป็นผู้นำคณะ ถ้าหากว่าต้องการที่จะตรวจสอบ ก็สามารถที่จะบอกได้ว่าท่านทั้งหลายถวายทองคำมาเมื่อไร โดยใช้ชื่อใคร ทางเราก็เปิดบัญชีตรวจสอบให้โดยสะดวก

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ ที่กระผม/อาตมภาพจัดทำโครงการหล่อพระพุทธรูปเนื้อเงิน เนื้อนาก และเนื้อทองคำ เป็นต้นมา ปัจจัยที่ได้จากกิจนิมนต์ทั้งหมดนั้น
กระผม/อาตมภาพนำลงในการหล่อพระพุทธรูปทุกครั้ง ไม่เคยเก็บไว้เป็นส่วนตัวเลยแม้แต่บาทเดียว ไม่ว่าจะเป็นที่เจ้าภาพถวายมาก็ดี หรือที่ท่านทั้งหลายแอบใส่ย่ามมาในระหว่างที่เดินทางไปและกลับก็ตาม ตรงส่วนนี้ขอให้ทุกท่านโมทนา และถือว่าพวกเราทุกคนมีส่วนในบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ร่วมกัน

ในเรื่องของการหล่อพระพุทธรูปนั้น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สมัยก่อนจะมีแต่ผู้ที่มีอำนาจ อย่างเช่นเจ้าพระยามหากษัตริย์ หรือว่าผู้ที่ร่ำรวยเงินทองชนิดเหลือกินเหลือใช้ คือบรรดามหาเศรษฐี จึงสามารถที่จะทำได้ เพราะว่าสมัยก่อนเรื่องของเทคนิค ตลอดจนกระทั่งฝีมือในการหล่อต่าง ๆ นั้น ไม่ได้มีความสะดวกสบายเหมือนกับสมัยนี้ แล้วช่างฝีมือที่มีความเป็นเลิศในการปั้นแบบ ในการหล่อ ในการผสมโลหะ ก็หาได้ยากมาก ๆ โดยเฉพาะโลหะศาสตร์หลายอย่างได้สาบสูญไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2021 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 14-11-2021, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,153 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อไม่นานมานี้ กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะไปเจอเพื่อนพระรูปหนึ่ง ที่มีความรู้ในการผสมโลหะต่าง ๆ ซึ่งท่านก็ได้ปวารณาเอาไว้ว่า ถ้าต้องการจะสร้างพระพุทธรูป หรือว่าสร้างพระเครื่องก็ขอให้บอก ส่วนที่กระผม/อาตมภาพจะต้องลงทุนก็คือเนื้อเงินกับเนื้อทองคำ ในส่วนของโลหะอื่น ๆ ท่านยินดีที่จะเสาะหามาให้ ตรงจุดนี้ยังไม่เปิดเผยว่าท่านเป็นผู้ใด เพราะเกรงว่าจะมีผู้ไปรบกวนท่านมาก แต่ดูจากผลงานของท่านที่ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์และเปิดให้ดูแล้ว ต้องบอกว่าประทับใจมาก

ในเมื่อเรื่องของพระพุทธรูปเป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นเรื่องที่ยากที่จะทำได้ ในสมัยของเราเมื่อสามารถที่จะทำได้โดยไม่ยาก โดยเฉพาะในการมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการสละเม็ดเงิน ทองคำ หรือว่าเป็นเงินสดก็ตาม พวกเราเองก็ต้องบอกว่าให้รีบทำเอาไว้ เนื่องเพราะว่าถ้าดูจากตัวอย่างของสุปติฏฐิตเทพบุตร ซึ่งทั้งชีวิตทำแต่ความชั่วมาโดยตลอด ละเมิดศีล ๕ เป็นอาจิณ แต่ว่าก่อนตาย ระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้แค่ชั่วลมหายใจเดียว ก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์

ถ้าหากถามว่ายุติธรรมหรือไม่ ? ก็ยุติธรรมดี เนื่องเพราะว่าทำชั่วมาทั้งชีวิต แค่ระลึกถึงพุทธานุสติเล็กน้อยก่อนตาย ไปอยู่บนสวรรค์จึงมีอายุแค่ ๗ วันมนุษย์เท่านั้น โชคดีเหลือเกินที่ว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปโปรดพุทธมารดา เมื่อสุปติฏฐิตเทพบุตรได้มาฟังเทศน์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศน์อุณหิสวิชยสูตรให้ฟัง สุปติฏฐิตเทพบุตรหมดอายุขัยการเป็นเทวดา จุติตอนนั้น เกิดใหม่ตอนนั้น กลายเป็นเทพบุตรสุดโสภา อยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะว่าเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันไปแล้ว

ดังนั้น...บรรดาโบราณาจารย์ถึงได้ใช้บทอุณหิสวิชยสูตรในการ "สวดต่อนาม" ก็คือในการสวดให้กับคนป่วยฟัง โดยเฉพาะคนที่ป่วยหนักถึงระดับที่ตรีทูต ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า โคม่า ตรงนี้กลายเป็นสิ่งที่ยึดถือว่าศักดิ์สิทธิ์ไป แต่อย่าลืมว่าสุปติฏฐิตเทพบุตรที่สามารถรอดจากอบายภูมิไปได้อย่างหวุดหวิดนั้น ก็เพราะว่าในอดีตชาติเคยสร้างพระพุทธรูปมาก่อน แม้ว่าชาตินี้จะทำความชั่วมาตลอดทั้งชีวิต อานิสงส์ความดีในอดีตก็อุตส่าห์ตามมาทัน ทำให้ท่านสามารถรอดพ้นจากอบายภูมิไปได้อย่างหวุดหวิด

ดังนั้น...ญาติโยมทั้งหลาย ไม่ว่าจะได้เป็นเจ้าภาพด้วยตนเองก็ดี หรือว่าแค่รู้ข่าวแล้วโมทนาก็ตาม ถือว่าพวกเราทั้งหลายมีส่วนในบุญในกุศลนั้นร่วมกันทั้งหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-11-2021 เมื่อ 07:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 14-11-2021, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,153 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทู้ที่เปิดให้ทำบุญในเว็บวัดท่าขนุนก็ดี ในเฟซบุ๊กก็ตาม ตรงส่วนนั้นที่จะเปิดให้ร่วมหล่อพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเนื้อทองคำ ตลอดจนกระทั่งพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเนื้อเงิน ก็จะปิดลงช่วง ๒ วันนี้ ก็คือปิดลงภายในเที่ยงคืนวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ที่จะมาถึง แล้วหลังจากนั้นถ้าหากว่าท่านทั้งหลายร่วมบุญหล่อพระมา ก็จะกลายเป็นสังฆทานไปทั้งหมด ตรงส่วนนี้ก็ต้องบอกว่า เราเปิดโอกาสให้ท่านทั้งหลายมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากที่จะได้ร่วมบุญด้วยกัน ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ มาถึงปี ๒๕๖๔ เป็นระยะเวลาถึง ๘ ปีเศษ..!

ตรงจุดนี้หลายท่านก็มีโอกาสทำบุญทุกครั้งที่ทางวัดท่าขนุนหล่อพระ หลายท่านก็มีโอกาสทำตามวาระ ตามเวลาที่ตนเองเหมาะสมและมีความสะดวก ตรงจุดนี้ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่..ผลบุญของใครก็ของคนนั้น เรื่องของบุญกุศลนั้น ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างได้ ใครทำก็เป็นของบุคคลนั้น ดังนั้น..ในการที่ท่านทั้งหลายบูชาวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุน หรือว่าในเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องกับวัดท่าขนุนก็ตาม ถือว่าท่านมีส่วนร่วมในบุญใหญ่ครั้งนี้ทั้งหมด

อีกส่วนหนึ่งก็คือวันนี้กระผม/อาตมภาพได้ไปตรวจรับรางรถไฟที่ผู้รับเหมาจัดทำให้ ซึ่งต้องบอกว่าราคาค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากว่าผู้รับเหมามีความชำนาญ ก็เลยทำเสร็จภายในระยะเวลาแค่ ๔ - ๕ วัน ตรงจุดนี้จากการที่ต้องรอมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ว่าจะมีใครที่มีความสามารถทำให้ ปีแล้วปีเล่าที่ผ่านไปก็ไม่มี แต่เมื่อวาระเมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง ทุกอย่างก็ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งของ หรือว่าแรงงานช่าง ตลอดจนกระทั่งเงินทองที่จะเป็นค่าจ้างก็พร้อมมูล ทุกอย่างจึงลงตัวเอาง่าย ๆ แบบที่คิดไม่ถึง

ตอนนี้ก็รออยู่อย่างเดียวว่าหัวรถจักรที่สั่งเขาสร้าง ซึ่งเขาจะทำให้เหมือนของโบราณทุกประการ ยกเว้นว่าไม่มีเครื่อง เพราะไม่จำเป็นจะต้องใช้นั้น จะเสร็จสิ้นลงเมื่อไร ซึ่งทางผู้รับเหมากำหนดระยะเวลาเผื่อไว้ถึง ๘ เดือน แต่ถ้าหากว่า ๘ เดือน ก็จะเข้าสู่ฤดูฝนของปีหน้า ดังนั้น...ถ้าเป็นไปได้ คาดว่าผู้รับเหมาจะเร่งทำให้เสร็จก่อนพ้นฤดูแล้ง จะได้ทำการติดตั้งหรือว่ายกเข้าออกได้สะดวก ไม่เช่นนั้นถ้าหากว่าเข้าหน้าฝนแล้ว สิ่งของที่หนักเป็นร้อยตันอย่างนั้น ก็คงจะนำเข้าออกได้ยากมาก ต้องเรียกว่าเกิดความทุลักทุเลทีเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2021 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 14-11-2021, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,153 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนอื่น ๆ นั้น ทางวัดท่าขนุนของเรา ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ต้องบอกว่าอยู่ในฐานะเป็นที่ยอมรับของคณะสงฆ์ทั้งประเทศก็ว่าได้ เนื่องเพราะว่าเมื่อสักครู่นี้ ท่านเจ้าคุณพระสุธีวชิรปฏิภาณ หรือว่าท่านเจ้าคุณวีรพล เจ้าของรายการธรรมะอารมณ์ดี เพิ่งจะมาดึงกระผม/อาตมภาพเข้าไปในกลุ่มไลน์ของ อ.ป.ก. ซึ่งเป็นหน่วยควบคุม อ.ป.ต. อีกทีหนึ่ง

คำว่า อ.ป.ต. คือหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ซึ่งตั้งขึ้นตามตำบลบ้านเมือง ไม่ว่าตำบลนั้นจะมีกี่วัดก็ตาม จะมีหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลแค่ ๑ แห่งเท่านั้น ซึ่งวัดท่าขนุนได้เป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน ซึ่งเป็นตำบลที่ใหญ่โตมาก

แล้วอ.ป.ก. หน่วยอบรมประชาชนกลางนั้น อยู่ภายใต้การดูแลของพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งปัจจุบันนี้ท่านได้มอบหมายให้ท่านเจ้าคุณวีรพล เป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ที่คอยดูแลในส่วนของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ซึ่งท่านคงเห็นประโยชน์ว่า วัดท่าขนุนนั้นทำงานทั้ง ๘ ด้านของหน่วยอบรมประชาชนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะการส่งรายงานให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรีทุกปี และมักจะได้รับรางวัลหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลดีเด่นของจังหวัดกาญจนบุรีแทบทุกปีเช่นกัน

ในเมื่อมีตัวอย่างเช่นนี้ ท่านเองก็คงอยากจะให้เป็นแบบอย่างแก่หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลอื่น ๆ ถึงได้เมตตาดึง
กระผม/อาตมภาพเข้ากลุ่มไลน์ของหน่วยอบรมประชาชนกลางไปด้วย ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเกียรติและเป็นชื่อเสียงของทางวัดท่าขนุน ที่ได้มีโอกาสไปปรากฏให้คนอื่นเขาได้รู้ได้เห็นถึงผลงานที่ได้กระทำมาหลายปี

ช่วงนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นช่วงที่เกิดดอกออกผล เพราะว่ามะรืนนี้
กระผม/อาตมภาพก็จะต้องไปรับรางวัลที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) กรุงเทพมหานคร และร่วมงานสัมมนาของพระสงฆ์ต้นแบบพัฒนาการสาธารณสงเคราะห์ ซึ่งตรงจุดนี้วัดท่าขนุนเป็นตัวแทนของภาค ๑๔ ที่มีวัดในภาคจำนวน ๑,๕๐๐ กว่าวัด โดยเป็นวัดเดียวในภาคที่ได้รับรางวัลนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2021 เมื่อ 02:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 14-11-2021, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,153 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกรางวัลหนึ่งที่ระบุว่าได้อย่างชัดเจนแล้ว แต่ว่าให้รอรับในเดือนธันวาคม ก็คือรางวัลพระสงฆ์ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สังคม และจิตอาสาดีเด่น ซึ่งยังไม่ชัดเจนเท่าไรว่าเป็นหน่วยงานใดที่มอบรางวัลนี้ให้ แต่ว่ากระผม/อาตมภาพเองก็ยินดีที่เขาเห็นผลงานแล้วก็มอบรางวัลให้ ผลงานนี้แม้ว่ากระผม/อาตมภาพจะเป็นผู้รับ แต่ว่าเกิดจากการร่วมมือของทั้งพระภิกษุสามเณร ทางหน่วยราชการ ทางโรงเรียน ตลอดจนญาติโยมในวัดแล้วก็ชุมชน ร่วมกันกระทำและสรรค์สร้างขึ้นมา จนกระทั่งกลายเป็นผลงานที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม ตรงจุดนี้ก็ต้องขออนุโมทนากับทุกท่าน ที่ได้เหนื่อยยากกับทางวัดท่าขนุนตลอดมา

ในงาน อ.ป.ต.ทั้ง ๘ ด้านนั้น มีด้านหนึ่งที่เรียกว่า ด้านกตัญญูกตเวทิตาธรรม ซึ่งอีกสักครู่หนึ่ง ทางเราจะได้กระทำในด้านนี้ ก็คือมีการสวดพระพุทธมนต์ถวายหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งมรณภาพมา ๒๙ ปี ย่างเข้าปีที่ ๓๐ แล้ว

ทางวัดท่าขนุนนำเอาวันมรณภาพของท่าน คือวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๕ เป็นหลัก โดยมีการทำบุญถวายท่านมาทุกเดือน คือทุกวันที่ ๑๔ ของเดือน ยกเว้น ๓ เดือนในช่วงเข้าพรรษา ก็จะทำบุญในวันพระที่ใกล้เคียงกับวันที่ ๑๔ ให้มากที่สุด เพราะว่าในพรรษานั้น ทางวัดเรามีการทำบุญวันพระทั้งกลางวันและกลางคืนอยู่แล้ว ตรงจุดนี้จึงรวบงานเข้าไปรวมกับวันพระที่ใกล้เคียงกับวันที่ ๑๔ มากที่สุด

จนกระทั่งทุกวันนี้ เวลาบิณฑบาตเช้าวันที่ ๑๓ เมื่อแจ้งแก่ญาติโยมว่า "พรุ่งนี้ขออนุญาตหยุดบิณฑบาต ๑ วัน" โยมก็มักจะถามทันทีว่า "วันที่ ๑๔ อีกแล้วหรือ ?" ก็แปลว่าทุกคนรู้กันว่า ทุกวันที่ ๑๔ ของเดือนนั้น ทางวัดท่าขนุนจะมีการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อบูรพาจารย์ ก็คือหลวงปู่สาย อคฺควํโส อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ โดยการทำบุญถวายมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ต้องบอกว่าจากเด็กก็แทบจะเป็นคนแก่เลย คือทำมา ๒๙ ปี ย่างเข้าปีที่ ๓๐ แล้ว

ตรงจุดนี้ขอให้ญาติโยมที่ฟังอยู่ ทั้งที่อยู่ทางบ้านและทั้งที่อยู่ในประเทศก็ดี ต่างประเทศก็ดี ขอให้ทุกท่านได้โมทนาบุญตรงนี้ร่วมกัน อาตมภาพเองบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนตรงนี้แล้ว ก็จะไปดำเนินการสวดพระพุทธมนต์ถวายหลวงปู่สายต่อไป

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2021 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:06



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว