กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-05-2020, 16:49
สวนกุหลาบ สวนกุหลาบ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2015
ข้อความ: 35
ได้ให้อนุโมทนา: 7
ได้รับอนุโมทนา 5,423 ครั้ง ใน 224 โพสต์
สวนกุหลาบ is on a distinguished road
Default การให้ผลของทานบารมีกับการพัฒนาด้านจิตใจ

บุคคลบางคนเกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยมนุษย์สมบัติในทุก ๆ ด้านบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ สติปัญญา บริวารมากมาย ชาติตระกูลสูงส่ง แต่ก็ “ชั่วร้ายเลวทราม” เบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ ทำร้ายและเข่นฆ่าชีวิตผู้อื่นเป็นอาจิณมาโดยตลอดชีวิตของบุคคลผู้นั้น (อดีตถึงปัจจุบันมีบุคคลประเภทนี้ให้เห็นอยู่มาก)

ที่สงสัยคือ...บุคคลใดจะเกิดมาบริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติได้ย่อมต้องเคยสร้างบุญมาในกาลก่อนยิ่งเกิดมาเพียบพร้อมมากย่อมต้องเคยสร้างบุญมามาก แล้วเหตุใดผู้ที่สร้างบุญมามากเช่นนี้ในด้านสภาพจิตใจกลับเลวทรามต่ำช้าไม่มีศีลมีธรรมอยู่เลยแม้แต่น้อย ?

หรือว่าการสร้างทานบารมีอันเป็นเหตุแห่งความบริบูรณ์ในมนุษย์สมบัติเป็นคนล่ะเรื่องกับการพัฒนาในด้านของจิต ? กล่าวคือคนชั่วที่ไม่เคยฝึกจิตให้อยู่ในศีลธรรม ไม่เคยรักษาศีล ไม่มีความละอายชั่วกลัวบาป ทำชั่วได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ หากแต่คนคนนั้นรู้จักหมั่นให้ทานอันมีอานิสงส์ใหญ่ในเขตพระพุทธศาสนา เช่น สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน สร้างพระ เจ้าภาพบวชพระ ฯลฯ เป็นต้น ก่อนตายจิตมั่นคงในบุญคือทานบารมีที่ทำ ผลแห่งทานก็ส่งผลให้เกิดมาใหม่บริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติตามเหตุแห่งบุญที่เคยสร้างมา แต่ด้วยความที่ไม่เคยสนใจที่จะพัฒนาในด้านจิตใจของตนเลยจากที่ชาติก่อนเลวยังไงเกิดมาใหม่จิตใจก็เลวดังเดิม กลายเป็น “คนชั่วแต่ชีวิตดีและสุขสบาย”

ในขณะที่บางคนมีศีล ๕ และกรรมบท ๑๐ ครบถ้วน ไม่ได้เบียดเบียนใครเลย ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจทรงพรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ แต่กลับมีความอัตคัดในชีวิตความเป็นอยู่ ยากจน ขาดแคลนในมนุษย์สมบัติทุกอย่าง ถ้าเป็นไปตามเหตุแห่งบุญกรรมแสดงว่าคนประเภทนี้มุ่งเน้นแต่ในด้านรักษาศีล ฝึกจิตให้ทรงไว้ซึ่งคุณความดี ปฏิบัติภาวนา แต่...ไม่ได้สร้างทานบารมีมาในกาลก่อน เมื่อเกิดใหม่เลยมีสภาพจิตที่ดีแต่ไม่มีความสมบูรณ์ในมนุษย์สมบัติ กลายเป็น “คนดีแต่มีชีวิตที่ลำบาก”

ความเข้าใจเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกแล้วสิ่งที่ถูกต้องแท้จริงเป็นอย่างไร
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สวนกุหลาบ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-05-2020, 17:26
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 5,062
ได้ให้อนุโมทนา: 284,220
ได้รับอนุโมทนา 854,777 ครั้ง ใน 13,218 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : บุคคลบางคนเกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยมนุษย์สมบัติในทุก ๆ ด้านบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ สติปัญญา บริวารมากมาย ชาติตระกูลสูงส่ง แต่ก็ “ชั่วร้ายเลวทราม” เบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ ทำร้ายและเข่นฆ่าชีวิตผู้อื่นเป็นอาจิณมาโดยตลอดชีวิตของบุคคลผู้นั้น (อดีตถึงปัจจุบันมีบุคคลประเภทนี้ให้เห็นอยู่มาก)

ที่สงสัยคือ...บุคคลใดจะเกิดมาบริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติได้ย่อมต้องเคยสร้างบุญมาในกาลก่อนยิ่งเกิดมาเพียบพร้อมมากย่อมต้องเคยสร้างบุญมามาก แล้วเหตุใดผู้ที่สร้างบุญมามากเช่นนี้ในด้านสภาพจิตใจกลับเลวทรามต่ำช้าไม่มีศีลมีธรรมอยู่เลยแม้แต่น้อย ?

หรือว่าการสร้างทานบารมีอันเป็นเหตุแห่งความบริบูรณ์ในมนุษย์สมบัติเป็นคนล่ะเรื่องกับการพัฒนาในด้านของจิต ? กล่าวคือคนชั่วที่ไม่เคยฝึกจิตให้อยู่ในศีลธรรม ไม่เคยรักษาศีล ไม่มีความละอายชั่วกลัวบาป ทำชั่วได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ หากแต่คนคนนั้นรู้จักหมั่นให้ทานอันมีอานิสงส์ใหญ่ในเขตพระพุทธศาสนา เช่น สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน สร้างพระ เจ้าภาพบวชพระ ฯลฯ เป็นต้น ก่อนตายจิตมั่นคงในบุญคือทานบารมีที่ทำ ผลแห่งทานก็ส่งผลให้เกิดมาใหม่บริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติตามเหตุแห่งบุญที่เคยสร้างมา แต่ด้วยความที่ไม่เคยสนใจที่จะพัฒนาในด้านจิตใจของตนเลยจากที่ชาติก่อนเลวยังไงเกิดมาใหม่จิตใจก็เลวดังเดิม กลายเป็น “คนชั่วแต่ชีวิตดีและสุขสบาย”

ในขณะที่บางคนมีศีล ๕ และกรรมบท ๑๐ ครบถ้วน ไม่ได้เบียดเบียนใครเลย ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจทรงพรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ แต่กลับมีความอัตคัดในชีวิตความเป็นอยู่ ยากจน ขาดแคลนในมนุษย์สมบัติทุกอย่าง ถ้าเป็นไปตามเหตุแห่งบุญกรรมแสดงว่าคนประเภทนี้มุ่งเน้นแต่ในด้านรักษาศีล ฝึกจิตให้ทรงไว้ซึ่งคุณความดี ปฏิบัติภาวนา แต่...ไม่ได้สร้างทานบารมีมาในกาลก่อน เมื่อเกิดใหม่เลยมีสภาพจิตที่ดีแต่ไม่มีความสมบูรณ์ในมนุษย์สมบัติ กลายเป็น “คนดีแต่มีชีวิตที่ลำบาก”

ความเข้าใจเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกแล้วสิ่งที่ถูกต้องแท้จริงเป็นอย่างไร ?

ตอบ : ในเทวภูมิยังมีมารและอสูร นับประสาอะไรกับมนุสสภูมิ บุคคลที่มีโอกาสทำทาน ไม่ใช่ว่าจะต้องมีจิตใจดี พร้อมในการสละออกทั้งหมด มีทั้งทำทานเอาหน้า ทำทานแบบตกกระไดพลอยโจน ทำทานเพราะถูกพ่อแม่บังคับ ฯลฯ แต่บังเอิญได้เนื้อนาดี ผลรับย่อมอุดมสมบูรณ์ แต่สภาพจิตใจยังไม่ได้รับการพัฒนาตามไปด้วย เนื่องจากจิตใจนั้น ต้องขัดเกลาด้วยศีลและภาวนา ถึงจะปรากฏผลอย่างชัดเจน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว