ถาม  : เรื่องที่ ๑  คนผู้หนึ่งมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เขารักและหวงแหนพระพุทธรูปองค์นี้มาก เมื่อเขาตาย ได้กลายเป็นงูเฝ้าพระพุทธรูป ใครเข้าไปใกล้องค์พระ งูตัวนี้จะชูหัวขึ้นเตรียมฉกทันทีเพราะความหวงแหน ต้องพูดบอกงูว่า "เพียงแค่มาดูองค์พระเฉย ๆ ไม่ได้มานำองค์พระไปไหน" งูตัวนั้นจึงจะสงบเลื้อยออกไป 
 
เรื่องที่ ๒ หญิงชราญาติผู้ใหญ่ของหลวงปู่รูปหนึ่ง ได้รักเลี้ยงดูหลวงปู่รูปนี้มาด้วยความรักผูกพันมาก ตอนมีชีวิตใส่บาตรพระหลานชายเสมอ แต่พอเสียชีวิตกลับได้ไปเกิดเป็นสุนัข คอยวิ่งเข้าไปอาศัยในวัดที่หลวงปู่จำวัดอยู่ เพราะด้วยรักผูกพัน จะไล่ตีหรือเจ้าของนำกลับไปเลี้ยงที่บ้านดีอย่างไรก็ไม่ยอม จะวิ่งกลับมาอยู่วัดตลอด อทิสมานกายเป็นหญิงชรา กายซูบผอม เฝ้ากราบขออย่าได้ไล่ตนไปใหน ขอให้ตนได้อาศัยอยู่วัดนี้ ได้ใกล้หลานชาย 
 
๒ เรื่องนี้ จิตทั้ง ๒ คนพลาดลงอบายภูมิเป็นเดรัจฉานได้อย่างไร ?  ขอพระอาจารย์โปรดวินิจฉัยเป็นความรู้และการป้องกัน มีข้อควรระวังกับการสังเกตสภาพจิตลักษณะนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นเช่นนี้ 
 
ตอบ : เรื่องของโยมที่รักพระพุทธรูปมาก แต่ตายแล้วกลายเป็นงูเฝ้าพระพุทธรูป  กำลังใจเป็นไปในลักษณะของมัจฉริยะ  คือ  ความตระหนี่ถี่เหนียว หวงแหนในสิ่งของนั้น  ๆ  ไม่ใช่กำลังใจที่เกาะพระในลักษณะพุทธานุสติ  แค่เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอย่างงูถือว่าดีมากแล้ว    
 
ส่วนเรื่องของคุณยายที่รักหลานและดูแลหลานที่เป็นพระ  แต่ไปเกิดเป็นหมา  ลักษณะก็ใกล้เคียงกัน คือ การรักและหวงหลานของตัวเอง โดยที่ไม่ได้ยึดเป็นสังฆานุสติ ไม่ได้เห็นว่าท่านเป็นพระสงฆ์ แต่ว่าเห็นเป็นแค่หลานชายสุดที่รัก   ทั้งสองส่วนเป็นการตั้งกำลังใจในทางที่ผิด  ขยับมุมนิดเดียวจะไปดีมากเลย  แต่ไม่ต้องกังวล เพราะว่าอย่างน้อย ๆ  การที่เขาเกาะความดีอยู่   ชาติต่อไปหลังจากพ้นกรรมตรงนั้นแล้ว ก็ได้ไปเสวยผลบุญในส่วนที่ตนเองนึกถึงพระ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปหรือว่าพระสงฆ์ก็ตาม   
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด  
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
			 
		
		
		
		
		
			
			
			
			
			
			
			
			
			
			
				
			
			
			
		 
	
	 |