|
#1
28-03-2009, 15:32
|
|||
|
|||
ยาแก้โรคลมอัมพาต
ยาแก้โรคลมอัมพาต
ยาแก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ตำรับที่ ๑ ท่านให้เอา หัวกระเทียม ๓๐ หัว ( หั่นกลางออกเป็น ๒ ซีก ) ตากแดดให้แห้ง ชั่งน้ำหนักไว้ ขิงแห้ง ๑ หัวแห้วหมู ๑ โคกกระสุน ๑ เอาตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้ รวมชั่งน้ำหนักให้เท่ากับน้ำหนักของหัวกระเทียมทั้งหมด นำมาใส่ หม้อดินต้ม ใช้น้ำยารับประทานต่างน้ำชา สรรพคุณ แก้โรคลมอัมพาต มีอาการมือเท้าตาย ให้ดีนักแลฯ ยาแก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ตำรับที่ ๒ ท่านให้เอา ต้นมะเฟือง ทั้ง๕ ว่านร่อนทอง หนัก ๒ สลึง ลูกจันทร์ หนัก ๒ สลึง เทียนดำ หนัก ๔ บาท เนระพูนสี หนัก ๑ สลึง ระย่อม หนัก ๑ บาท ว่านกีบแรด หนัก ๑ บาท ใบมะระ หนัก ๘ บาท ๑ สลึง ใบพิมเสน หนัก ๘ บาท ๑ สลึง นำมาใส่หม้อดินต้ม ใช้น้ำยารับประทาน หรือจะนำมาบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งแท้ ปั้นเป็นลูกกลอนรับประทานก็ได้ สรรพคุณ แก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ได้ผลชะงัดนักแลฯ ยาแก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ตำรับที่ ๓ ท่านให้เอา แก่นขี้เหล็ก ๒ บาท ตรีผลา สิ่งละ ๒ บาท ใบมะกา ๒ บาท แห้วหมู ๒ บาท ตองแตก ๒ บาท บอระเพ็ด ๒ บาท ขมิ้นอ้อยแห้ง ๒ บาท โกฐน้ำเต้า ๒ บาท เทียน ทั้ง๕ สิ่งละ ๕ บาท ฝักราชพฤกษ์ ๒ บาท ดีเกลือ ๒ บาท ยาดำ ๕ บาท เอายาทั้งหลายใส่หม้อดินต้ม ใช้น้ำยารับประทานก่อนอาหาร เช้า - เย็น ครั้งละ ๑ แก้ว สรรพคุณ รักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เส้นพิการ ปวดเส้น ปวดขา และปวดตามข้อ ได้ผลดีนักแลฯ ยาแก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ตำรับที่ ๔ ท่านให้เอา โกฐสอ ๒ บาท โกฐพุงปลา ๒ บาท โกฐน้ำเต้า ๒ บาท โกฐจุฬา ๒ บาท ผักแพวแดง ๒ บาท หัวดองดึง ๒ บาท ลำพันแดง ๒ บาท สะค้าน ๒บาท ชะเอมเทศ ๒ บาท จิงจ้อ ๒ บาท อุตพิษ ๒ บาท ดีปลี ๒ บาท ยาดำ ๒ บาท แก่นแสมทะเล ๒ บาท ให้เอายาทั้งหลายบดเป็นผงผสมน้ำผึ้งแท้ปั้นเป็นลูกกลอน ขนาดเท่ามะเขือพวง รับประทานครั้งละ ๑ - ๒ เม็ด ก่อนอาหาร เช้า - เย็น สรรพคุณ แก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต มือเท้าตาย ได้ผลชะงัดนักแลฯ ยาแก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ตำรับที่ ๕ ท่านให้เอา เปลือกมะรุม ๑ ขิงสด ๑ ชุมเห็ด ๑ สมุลมะแว้ง ๑ เทียนเยาวพานี ๑ ยาดำ ๑ พิมเสนต้น ๑ ช้าพลู ๑ สะค้าน ๑ เอายาทั้งหลายบดเป็นผง ผสมกับน้ำส้มซ่า หรือ น้ำมะกรูด ปั้นเป็นเม็ดขนาดเท่ามะเขือพวง รับประทานครั้งละ ๓ เม็ด ก่อนอาหาร เช้า - เย็น สรรพคุณ แก้โรคลมอัมพาต มือเท้าตาย ได้ผลดีนักแลฯ ยาแก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ตำรับที่ ๖ ท่านให้เอา โด่ไม่รู้ล้ม กำลังหนุมาน โคคลานทิ้งถ่อน ว่านม้า กำลังช้างเผือก เหงือกปลาหมอ รากตะโกนา กระแตไต่ไม้ กำลังเสือโคร่ง เถาเอ็นอ่อน ว่านเอ็นเหลือง มะเดื่อดิน ยาทั้งหลายหนักสิ่งละ ๒ บาท ท่านให้เอายาทั้งหลายใส่หม้อดินต้มรับประทาน ครั้งละ ๑ ถ้วยกาแฟ วันละ ๓ เวลา ก่อนอาหาร สรรพคุณ แก้ลมอัมพฤกษ์ อัมพาต เส้นเอ็นพิการ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ได้ผลดีชะงัดนักแลฯ ยาแก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ตำรับที่ ๗ ยาแก้อัมฤกษ์ อัมพาต ท่านให้เอา เหงือกปลาหมอ ๒ บาท ขิง ๒ แง่ง แห้วหมู ๑ บาท พริกไทยร่อน ๑ ซอง (ที่เขาขาย) เกลือแกง ต้มดื่ม ก่อนอาหาร สรรพคุณ แก้ลมอัมพฤกษ์ อัมพาต เส้นเอ็นพิการ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ได้ผลดีชะงัดนักแลฯ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 30-03-2009 เมื่อ 14:25 
|
| สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#2
30-03-2009, 09:30
|
|||
|
|||
|
เรื่องภูมิปัญญาของ"ยาแผนไทยโบราณ"มีมากมาย จริงๆครับ นี้เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนการนำไปใช้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละพื้นที่ ว่า มีสมุนไพร ชนิดใดบ้างที่จะหาได้มาจากธรรมชาติตามแต่ละพื้นที่นั้น ๆ ครับ แต่ก็ควรควบคู่ไปกับยาแผนปัจจุบัน และควรผ่านการแนะนำของ"หมอยาแผนไทย"ครับ
|
| สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#3
30-03-2009, 15:09
|
|||
|
|||
|
ยาแก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ตำรับที่ ๑
ท่านให้เอา หัวกระเทียม ๓๐ หัว ( หั่นกลางออกเป็น ๒ ซีก ) ตากแดดให้แห้ง ชั่งน้ำหนักไว้ ขิงแห้ง ๑ หัวแห้วหมู ๑ โคกกระสุน ๑ เอาตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้ รวมชั่งน้ำหนักให้เท่ากับน้ำหนักของหัวกระเทียมทั้งหมด นำมาใส่ หม้อดินต้ม ใช้น้ำยารับประทานต่างน้ำชา สรรพคุณ แก้โรคลมอัมพาต มีอาการมือเท้าตาย ให้ดีนักแลฯ  จากตัวยาตำรับนี้ หลายๆท่านคงไม่รู้จัก ว่า "โคกกระสุน" หน้าตาเป็นอย่างไร มาดูกันครับพืชชนิดนี้ ใครเหนียวจริงลองถอดรองเท้าแล้วตะลุยเข้าไปในดงของมันหรือขับจักรยานเข้าไปก็ได้ สิงห์นักปั่นทั้งหลายยังขยาดเพราะหนามมันตำยางรั่วได้ ไม่ยากเลยครับ แต่มีประโยชน์เป็นยาดังนี้ครับ  ตำรายาไทย ทั้งต้น ขับปัสสาวะ แก้ไข้ แก้นิ่ว แก้หนองใน ยาพื้นบ้าน ทั้งต้น แก้ปัสสาวะพิการ การทดลองในสัตว์พบว่า ยาชงทั้งต้นเพิ่มปริมาณปัสสาวะ ในคนปกติพบว่ามีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และ ทำให้สูญเสียเกลือแร่น้อยกว่ายาขับปัสสาวะไฮโดรคลอโรไทอาไซด์ ในน้ำสกัดมีโปตัสเซียมสูง จึงควรระวังในผู้ป่วยโรคหัวใจ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 30-03-2009 เมื่อ 15:15
|
| สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#4
30-03-2009, 17:11
|
|||
|
|||
 มีใครรู้จัก ชื่อพืชสมุนไพรในภาพบ้างครับผม ผมเคยเห็นมีเยอะมากที่เขาสก ตามตีนเขาดอกดำมันเหมือนค้างคาว ผมเลยเรียกว่า ค้างคาว ตามลักษณะ ที่เห็นครับ ใครรู้จักบ้าง เดี๋ยวมาเฉลยกัน ตอนนี้ผมทราบแล้วว่ามีหลายชื่อ
|
| สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#5
30-03-2009, 18:03
|
||||
|
||||
|
คุ้น ๆ ว่าชื่อ ว่านค้างคาวดำ
|
| สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ก้านบัว ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#6
30-03-2009, 23:10
|
|||
|
|||
 ข้างบนนี้ครับ รูปหญ้าแห้วหมู เรามาดูกันว่า แม้แต่เพียงหญ้า ก็ยังมีประโยชน์ เพราะฉะนั้นเกิดเป็นคนแล้วก็ต้องทำตัวให้มีประโยชน์เช่นกันครับ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ หัวหญ้าแห้วหมูเป็นน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) มีสารประกอบทางเคมีหลายชนิด จากรายงานพบว่ามีฤทธิ์คลายอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อเรียบ และสารสกัดจากแอลกอฮอล์จากรากแห้วหมู ทำให้มีการขับปัสสาวะมากขึ้น จากการที่มีน้ำมันหอมระเหยและลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อเรียบ ทำให้ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อแน่นจุกเสียดได้ดี กองวิจัยการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานว่าไม่มีพิษเฉียบพลัน วิธีใช้ หัวหญ้าแห้วหมู ใช้เป็นยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และแน่นจุกเสียด โดยใช้หัวหญ้าแห้วหมู ๑ กำมือ (๖๐-๗๐ หัว หรือหนัก ๑๕ กรัม) ทุบให้แตก ต้มเอาน้ำดื่มหรือใช้หัวสดครั้งละ ๕ หัว โขลกให้แหลกผสมกับน้ำผึ้งรับประทานก็ได้ ความจริงไม่ต้องปลูกหญ้าแห้วหมูเลย สามารถพบเห็นเสมอตามข้างถนนหนทางและตามพื้นที่ราบทั่วไป มีหญ้าแห้วหมูขึ้นอยู่เสมอ หาได้ง่ายมาก ลักษณะของพืช แห้วหมูเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีหัวอยู่ใต้ดิน มีก้านดอกยาวและดอกเป็นสีน้ำตาล การปลูก แห้วหมูเป็นหญ้าที่พบเห็นโดยทั่วไป ปลูกโดยการใช้หัวหรือการไหลก็ได้ เป็นวัชพืชที่ไม่ส่งเสริมให้มีการปลูก ส่วนที่ใช้เป็นยา หัว ช่วงเวลาที่เก็บยา เก็บหัวแก่ รสและสรรพคุณยาไทย รสเผ็ดขมเล็กน้อย ใช้ขับลม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 31-03-2009 เมื่อ 07:17
|
| สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#7
31-03-2009, 07:41
|
|||
|
|||
 มาเฉลยภาพกันในข้อความที่ ๖ ครับดอกก็สวย ชื่อก็งาม นามว่า "เนระพูสีไทย" ครับ เรามักได้ยินชื่อแปลก ๆ นี้แต่ไม่รู้จักหน้าตาว่าเป็นอย่างไรมาดูข้อมูลกันครับผม ชื่อพื้นเมือง ดีงูหว้า คลุ้มเสีย ว่านหัวลา ว่านหัวฬา ดีปลาช่อน เนระพูสีไทย มังกรดำ นิลพูสี กลาดีกลามูยี ม้าถอนหลัก ว่านพังพอน ค้างคาวดำ ชื่อวิทยาศาสตร์ Tacca chantrieri Andre ชื่อวงศ์ ค้างคาวดำ TACCACEAE ลักษณะพืช: ต้น :เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีลำต้นเป็นหัวหรือเหง้าอยู่ในดิน ใบ :ปลายใบเรียวแหลม ด้านบนจะเขียวเข้มกว่าด้านล่าง ดอก:ก้านดอกชูขึ้นมาสูงจากกลางกอ ช่อออกเป็นช่อลักษณะเป็นกลุ่ม มี ๔-๖ ดอก ก้านช่อดอก ยาว ๓๐-๕๐ ซม.มีใบประดับ 2คู่ สีเขียวเข้มหรือสีม่วงดำอยู่ตรงข้ามใบประดับคู่นอกรูปรี ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และตัวเมีย มีสีดำสนิท มีกลีบดอก 2กลีบ ลักษณะรีรูปทรงกลม รังไข่ใต้วงกลีบดอกด้านในจะเป็นเส้นยาวคล้ายด้ายยื่นห้อยลงมา ดูแล้วคล้ายเส้นด้ายสีดำ การขยายพันธุ์ :โดยการแยกหัวหรือเหง้าหรือการเพาะเมล็ด สรรพคุณทางยาแผนโบราณ รากเหง้า:รสฝาดเย็น แก้ไข้,แก้ไอ,แก้ปวด,แก้ซาง แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 31-03-2009 เมื่อ 07:48
|
| สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#8
01-09-2011, 16:42
|
||||
|
||||
|
อ้างอิง:
 รบกวนแก้ไขด้วยครับผม
|
| สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วสันต์วิษุวัต ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
 |
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|
