|
พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
![]()
จริง ๆ แล้วพระพุทธศาสนาควรจะมีหน่วยงานตรวจตรา ก็คือ หน่วยงานที่ตรวจตราเรื่องที่เขาเข้าใจความเป็นพระพุทธศาสนาผิด แล้วก็แก้ไขให้ถูก
ส่วนอีกหน่วยงานหนึ่งก็คือ หน่วยงานที่ช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในลักษณะที่ว่ากระทำความดี ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส ปัจจุบันสื่อโฆษณาครอบงำไปทุกบ้าน โดยเฉพาะในเรื่องของคนทำดีแล้ว ไม่มีใครสนับสนุนและสรรเสริญอย่างจริงจัง แต่ว่าถ้าหากทำผิดทำพลาด อย่างเรื่องเจ๊ดาว (พระแปลงเพศ) กลับลงข่าวได้เป็นอาทิตย์ ๆ ในเรื่องของบุคคลที่ห้ามบวช ต้องเอาโทษพระอุปัชฌาย์ก่อน แต่ถ้าหากบวชมาแล้วไม่ใช่บุคคลที่วิบัติจนต้องให้นาสนะ ก็คือ จนต้องสึก เขาปรับโทษเฉพาะพระอุปัชฌาย์ แต่ว่าบุคคลผู้นั้นสามารถที่จะทรงความเป็นพระอยู่ได้ พูดง่าย ๆ คือ ต้องเก็บอาการให้อยู่ ถ้าเก็บไม่อยู่ท่านก็บอกให้นาสนะ (สึก) เสีย บัณเฑาะก์ ที่เขาหมายถึงบุคคลสองเพศ แท้จริงแล้วไม่ได้หมายถึงบุคคลสองเพศเพียงอย่างเดียว เขากล่าวถึงบุคคลหลายประเภทด้วยกัน มีอุภโตพยัญชนก คือ มีสองเพศโดยสมบูรณ์ ตรงนี้ก็เป็นความอัจฉริยะของพระพุทธเจ้าอย่างหนึ่ง เพราะว่าจะมีอยู่เกาะหนึ่งที่มีคนซึ่งมีสองเพศโดยสมบูรณ์ คนในเกาะนั้นจะเป็นพ่อก็ได้เป็นแม่ก็ได้ ถ้าเลือกเป็นแม่ก็ท้องได้ ประเภทที่สองเป็นเรื่องอัศจรรย์ คือ ปักขบัณเฑาะก์ จะเป็นผู้ชายครึ่งเดือน ผู้หญิงครึ่งเดือน ทำให้นึกถึงเวมาณิกเปรต ที่เป็นเปรตครึ่งเดือนเป็นเทวดาครึ่งเดือน ประเภทที่สาม ท่านบอกว่าเป็นผู้ประกอบด้วยกามราคะแรงกล้า ขาดเซ็กส์ไม่ได้ ท่านบอกให้นาสนะเสีย ก็คือให้อยู่ไม่ได้ เดี๋ยวจะสร้างปัญหา แต่ถ้าหากอาการไม่ถึงขนาดนี้ก็อยู่ไปเถอะ แต่ช่วยเก็บอาการหน่อย อย่าไปออกอาการมากก็แล้วกัน เพราะจะทำให้คนไม่เลื่อมใส แต่จริง ๆ แล้วเขาปรับโทษที่พระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์ เดือนมีนาคม ๒๕๕๒
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-02-2016 เมื่อ 03:00 |
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
ที่ไปค้นเจอมามีดังนี้ค่ะ
บัณเฑาะก์มี ๕ จำพวก ๑. อาสิตฺตกปณฺฑก ได้แก่ บัณเฑาะก์ที่ดูดกินซึ่งอสุจิ บุคคลใดมีความกำหนัดกระวนกระวาย แล้วเอาปากคาบองคชาตของบุรุษอื่น ดูดกินซึ่งน้ำอสุจิแล้วจึงระงับดับความกระวนกระวาย หรือบุคคลบางพวกที่ตอนแรกยังไม่เกิดความกำหนัด ครั้นเมื่อได้ดูดกินซึ่งน้ำอสุจิแล้วเกิดความกำหนัดยินดี บุคคลทั้งสองพวกนี้ชื่อว่า อาสิตตกบัณเฑาะก์ ๒. อุสฺสูยปณฺฑก พวกบัณเฑาะก์ที่แอบดูการร่วมเพศ บุคคลผู้ใดได้โอกาสแอบดูบุรุษ และสตรีร่วมเพศกันอยู่ ก็บังเกิดความริษยา ในขณะเดียวกัน ความกำหนัดยินดีที่ตนมีอยู่ก็ระงับดับลง คล้ายกับว่าตนได้เสพด้วยฉะนั้น บุคคลพวกนี้ชื่อว่า อุสสูยบัณเฑาะก์ ๓. โอปกฺกมิกปณฺฑก บัณเฑาะก์พวกที่ถูกตอน บุคคลบางพวกที่ต้องถูกตอนไม่ให้มีความกำหนัดยินดีเกิดขึ้น เช่น พวกขันที ที่ต้องมีหน้าที่อยู่ใกล้ชิดกับนางสนมกำนัลของพระเจ้าแผ่นดิน เป็นบุคคลที่ได้ชื่อว่า โอปักกมิกบัณเฑาะก์ พวกบัณเฑาะก์ประเภทนี้มิได้เป็นมาโดยกำเนิด จึงถือว่าปฏิสนธิด้วยอเหตุกปฏิสนธิมิได้ อาจเป็นอเหตุกปฏิสนธิ , ทวิเหตุกปฏิสนธิหรือติเหตุกปฏิสนธิก็ได้ ๔. ปกฺขปณฺฑก บัณเฑาะก์ที่เกิดกำหนัดแห่งปักษ์ บุคคลบางพวกมีความกำหนัดในกาฬปักษ์ คือ กาลข้างแรม ครั้นถึงชุณหปักษ์ คือ ข้างขึ้น ความกำหนัดกระวนกระวายก็หายไป หรือมีความกำหนัดในชุณหปักษ์ ครั้นถึงกาฬปักษ์ความกำหนัดกระวนกระวายก็หายไป บุคคลพวกนี้ชื่อว่า ปักขบัณเฑาะก์ ๕. นปํสกปณฺฑก บัณเฑาะก์ผู้ไม่ปรากฏเพศ บุคคลผู้ใดที่เกิดในกามภูมิ แต่อวัยวะเพศหญิงและเพศชายไม่ปรากฏทั้งสองเพศ มีแต่ช่องสำหรับถ่ายปัสสาวะเท่านั้น บุคคลชนิดนี้ชื่อว่า นปุงสกบัณเฑาะก์
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-03-2012 เมื่อ 15:41 |
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
อุภโตพยญฺชนก บุคคล ๒ เพศ
บุคคลใดอาศัยกรรมทำให้อวัยวะเพศทั้ง ๒ เกิดขึ้นได้ บุคคลนั้นชื่อว่า อุภโตพยัญชนกะ ดังวจนัตถะว่า อุภโต ปวตฺตํ พยญฺชนํ อตฺตีติ = อุภโตพยญชนโก อวัยวะเพศทั้ง ๒ ชนิดเกิดขึ้นได้ เพราะอาศัยกรรมมีแก่บุคคลใด ฉะนั้นบุคคลนั้นชื่อว่า อุภโตพยัญชนกะ หมายความว่า ด้วยอำนาจแห่งอกุศลกรรมอันเกี่ยวกับกาเมสุมิจฉาจาร เข้าเบียดเบียนกุศลกรรมที่ทำให้เกิดเป็นมนุษย์ และทำให้อำนาจแห่งกุศลกรรมนั้นลดกำลังลง จึงปรากฏมีอวัยวะเพศได้ ๒ เพศในบุคคลเดียวกัน แต่อวัยวะเพศทั้งสอง ๒ นั้นหาได้ปรากฏในเวลาเดียวพร้อมกันไม่ อุภโตพยัญชนกบุคคล มี ๒ จำพวก ๑. อิตถีอุภโตพยัญชนกบุคคล ได้แก่ บุคคลที่มีทรวดทรงสัณฐานลักษณะอาการตลอดจนอวัยวะเพศเป็นหญิงอย่างธรรมดา แต่ต่อมาเมื่อเวลาใดบังเกิดความกำหนัดพอใจในหญิงอื่น จิตใจที่เคยเป็นหญิงอยู่ก่อนก็จะหายไปผันแปรสภาพจิตใจเป็นชายขึ้นมาแทนที่ และในเวลาเดียวกันอวัยวะเพศชายก็ปรากฏขึ้นแทนอวัยวะเพศหญิง สามารถร่วมสมสู่กับหญิงอื่นได้ ๒. ปุริสอุภโตพยัญชนกบุคคล ได้แก่ บุคคลที่มีรูปร่างสัณฐานลักษณะอาการเป็นชายทั้งอวัยวะเพศก็เป็นชาย แต่เมื่อเวลาใดเกิดความกำหนัดพอใจในชายอื่น เวลานั้นจิตใจ และอวัยวะเพศที่เคยเป็นชายอยู่ก่อนก็หายไปผันแปรสภาพจิตใจ และอวัยวะเพศเป็นหญิงขึ้นมาแทนที่ มีความสามารถร่วมสมสู่กับชายอื่นได้ ความแตกต่างกันระหว่างอุภโตพยัญชนกบุคคลทั้ง ๒ นี้ ก็คือ อิตถีอุภโตพยัญชนกบุคคลนั้น ตนเองมีครรภ์กับบุรุษอื่นได้ ทั้งทำให้หญิงอื่นมีครรภ์กับตนก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-03-2012 เมื่อ 15:42 |
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]() อ้างอิง:
![]()
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-02-2011 เมื่อ 15:45 |
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|