การวางเฉย   หรืออุเบกขา   หรือการปล่อยวาง
			 
			 
			
		
		
		
			
			“การวางเฉย   หรืออุเบกขา   หรือการปล่อยวาง” 
(๒๘  ม.ค.  ๓๖  ตอนใกล้  ๐๔.๐๐  น.) 
          
          ลูกสาวในอดีตของท่านกำลังคิดว่า   ขณะนี้เราถูกคนทำคุณไสย   แต่ก็ทำอะไรเราไม่ได้   หากเราพบบุคคลเหล่านั้นอีก   เราจะไม่ปรุงแต่งจิตของเรา   แม้เขาจะมุ่งประทุษร้าย   เราก็จะปล่อยวางหรือวางเฉยจะดีไหม   คิดเพียงแค่นี้หลวงปู่บุดดาท่านก็มาแล้วสอน   มีความว่า 
           
          ๑.“เฉยอย่างนั้นก็โง่นะสิ   บางอย่างต้องต่อสู้   แก้ได้ก็แก้ไป   ไม่ใช่เขาใช้ให้ไปตายก็ยอมไปตายแหงแก๋   สิ่งที่ให้วางเฉยก็คือ   กิเลสที่มากระทบอายตนะ   ๖   คือ   ตา   หู   จมูก   ลิ้น   กาย   ใจ   ตัวธรรมล้วน  ๆ   คือไม่ปรุงแต่งในธรรมที่เข้ากระทบสัมผัสนั้น  ๆ   เช่น   ใครคิดร้ายต่อเราก็ช่างเขา   แต่ถ้าถึงขั้นเอาไม้หวดตีเรา   ถ้าเรารู้จักเมตตาตัวเองก็ต้องหลบสิ   เพราะถ้าให้เขาตีกายเรา   จิตเราอาศัยมันอยู่ก็ต้องเจ็บไปด้วย   แต่ถ้าเขาแค่คิดยังไม่ได้ทำ   ก็กรรมของเขา   เขาทำแล้วเราหลบ   เราแก้ไข   ไม่ได้ต่อกร   ก็กรรมของเขาอีกนั่นแหละ   มันคนละกรรมกัน   อย่าไปยุ่งให้จิตวุ่นวาย” 
         
          ๒.“กรรมใครกรรมมันนะอย่าลืม   ใครเขาอยากจะตีให้เขาตีไป   เราหลบได้เราหลบ   หลบอยู่ในธรรม   ธรรมะของพระพุทธเจ้า   ไม่มีตัวมีตน   หลบพ้นนะลูก   ถ้าหลบไม่พ้นก็ให้รับอย่างพระโมคคัลลานะ   รับอย่างคนฉลาด   อย่ารับอย่างโง่ ๆ รับแล้วไปนิพพาน   คือ   รับด้วยจิตผ่องใสบริสุทธิ์   ไม่รับด้วยความขัดข้องหมองใจ   จิตไม่บริสุทธิ์   การไปของจิตก็บริสุทธิ์ไม่ได้   อย่ารับอย่างคนโง่เพราะมีอบายภูมิ   ๔   เป็นที่ไป” 
         
          ๓.“เรามันประกาศตัวเองเป็นลูกพระพุทธเจ้าแล้ว   ต้องเชื่อท่านสิ   เชื่อพระพุทธ-พระธรรม-พระอริยสงฆ์   ท่านว่าอย่างไรเราก็ว่าอย่างนั้นจึงจะได้ดี   จึงจะไปพระนิพพานได้ตามท่าน”
		 
		
		
		
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-02-2010 เมื่อ 06:05
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |