กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-11-2009, 18:24
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,412
ได้รับอนุโมทนา 206,750 ครั้ง ใน 3,181 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ใบประดู่กำมือเดียว

ถาม : ขอถามเรื่องการฝึกสมาธิ ไปฝึกสมาธิเรื่องเกี่ยวกับเรื่องจักระค่ะ ?
ตอบ : พอมีความรู้อยู่นิดหนึ่งจ้ะ เอ้า..ว่าไปเลยจ้ะ

ถาม : เขาใช้การฝึกจักระโดยการดูดพลังจากธรรมชาติ เวลานั่งสมาธิเขาก็จะนั่งติดกับพื้นดิน แล้วก็นั่งตอนเช้าเพื่อรับแสงอาทิตย์ นั่งริมแม่น้ำเพื่อรับความเย็นจากแม่น้ำ
ตอบ : แล้วนั่งกลางคืนแล้วหรือยัง ? โดยเฉพาะคืนวันเพ็ญ

ถาม : ยังไม่เคยนั่งเจ้าค่ะ
ตอบ : ระวังไว้ จะหอนได้จ้ะ ...(หัวเราะ)... เรื่องนั่งกลางคืนนั้นทำได้ จะได้รับพลังจากดวงจันทร์ด้วย เรื่องหอนพูดเล่นนะจ๊ะ แล้วต่อไปว่าอย่างไร ?

ถาม : พลังพวกนี้เราสามารถเอามาใช้ได้จริงไหมคะ ?
ตอบ : สามารถใช้ได้จ้ะ แต่ว่าจริง ๆ แล้ว พลังงานทั้งหมดที่มาจากภายนอก ไม่มีอะไรสู้พลังจิตที่เกิดจากการฝึกฝนที่ดีแล้วได้ วิชาการเหล่านี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้าไม่ทราบ พระองค์ท่านทราบดียิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แต่ว่า เป็นวิชาที่ขวางกับมรรคผล พระองค์ท่านจึงตัดออกไป

ดังเช่นในสีสปาสูตรบอกเอาไว้ชัดเจนว่า วันหนึ่งพระพุทธองค์เสด็จออกมาจากป่าประดู่ลาย พร้อมกับทรงถือใบประดู่มาหนึ่งกำมือ ยกให้ภิกษุทั้งหลายดู แล้วตรัสว่า ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย..ใบประดู่ในกำมือตถาคตนี้กับใบประดู่ในป่า อย่างไหนมีมากกว่ากัน ?...พระภิกษุทูลตอบว่า ใบประดู่ในป่ามีมากกว่าจนประมาณไม่ได้พระพุทธเจ้าข้า พระพุทธเจ้าตรัสว่า นั่นแหละ..สิ่งที่ตถาคตรู้ คือใบประดู่ในป่า แต่สิ่งที่ตถาคตสอนพวกเธอคือใบประดู่กำมือเดียว

ท่านเลือกเอาใบประดู่กำมือเดียวที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์สุขในปัจจุบันและประโยชน์สุขในอนาคต โดยเฉพาะประโยชน์สูงสุดคือ การหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานมาสอนเราเท่านั้น กำมือเดียวนี่แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าทั้งป่านี่จะเท่าไร ?

ดังนั้น..วิชาการเหล่านี้ พระพุทธเจ้าทรงทราบอยู่แล้ว แต่พระองค์ท่านเห็นแล้วว่ายากที่จะทำให้บรรลุได้ กลายเป็นวิชาที่ขวางกับการปฏิบัติสายตรง พระองค์ท่านจึงไม่สอน แต่ว่าคนปัจจุบันนี่เขาเก่ง พยายามที่จะสอนกัน เราเองเก่งได้อย่างเขาบ้างก็ดีเหมือนกัน จัดเป็นความรู้พิเศษเพิ่มขึ้นมา

แต่ให้จำไว้ว่า ถ้าเรามุ่งมรรคผลโดยตรง ก็ทำให้เราเสียเวลา พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปรารถนาธรรมที่ไม่เนิ่นช้า อะไรที่ทำให้ช้าพระองค์ท่านไม่เอาด้วย

ถาม : ผู้ที่เล่นกสิณ หรือเล่นทางอิทธิฤทธิ์ ก็ลักษณะเดียวกัน ?
ตอบ : ลักษณะเดียวกัน แต่อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าทรงต่อท้ายไว้ด้วย พระองค์ท่านมีวิปัสสนาญาณต่อท้าย แต่พวกที่เล่นในสมัยก่อนอย่างพวกพราหมณ์นี่ เขาเอาฤทธิ์เดชโดยตรงอย่างเดียว ไม่มีการเลี้ยวเข้าหามรรคผลเลย ดังนั้น..สิ่งไหนที่สามารถเลี้ยวเข้าหามรรคผลง่าย ๆ กำลังสูงพอที่จะกดกิเลสหรือตัดกิเลสได้ พระพุทธเจ้าถึงได้สอน ถ้าไม่สามารถที่จะทำได้ พระองค์ท่านก็ปล่อยให้เป็นใบประดู่ในป่าต่อไป

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2014 เมื่อ 01:37 เหตุผล: แก้คำผิด กสิน - กสิณ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:34



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว