กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า เมื่อวานนี้, 17:03
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 575
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 27,689 ครั้ง ใน 1,063 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า วันนี้, 00:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,108
ได้ให้อนุโมทนา: 159,944
ได้รับอนุโมทนา 4,505,870 ครั้ง ใน 36,715 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงวัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร ถนนทรงวาด แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ ๖ โมงเช้า ปรากฏว่าไปถึงแล้ว เจอพระเถรานุเถระที่รู้จักมักคุ้นกันอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธพจนวชิรมุนี (มนตรี คณิสฺสโร ป.ธ.๕) วัดเครือวัลย์วรวิหาร หรือหลวงปู่มนตรีของกระผม/อาตมภาพ ท่านไปนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

ครั้นกราบรายงานตัวกับท่านได้ครู่หนึ่ง ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย ป.ธ. ๘) วัดเทพศิรินทราวาสก็มาถึง พระเดชพระคุณรูปนี้ กระผม/อาตมภาพคุ้นเคยกับท่านตั้งแต่สมัยท่านเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระอมราภิรักขิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส เพราะว่ากระผม/อาตมภาพได้ไปช่วยดูแลพระเดชพระคุณหลวงปู่มหาอำพัน - พระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง) ซึ่งท่านเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ แล้วก็คุ้นเคยกันมาจนยาวมาถึงปัจจุบันนี้

เมื่อกราบรายงานตัว ทักทายกันเรียบร้อยแล้ว พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณหลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.๙) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกก็มาถึง จึงต้องกราบรายงานตัวกับท่านอีกรูปหนึ่ง

จะว่าไปแล้ว ในจำนวนสมเด็จฯ ทั้ง ๓ รูปในวันนี้ หลวงปู่มนตรีของกระผม/อาตมภาพอายุมากที่สุด แต่ว่าได้รับสมณศักดิ์ ก็คือได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะทีหลังสุด โดยมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี อาวุโสพรรษามากที่สุด ต่อด้วยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า วันนี้, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,108
ได้ให้อนุโมทนา: 159,944
ได้รับอนุโมทนา 4,505,870 ครั้ง ใน 36,715 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของคณะสงฆ์เรานั้น ถ้าว่ากันตามพระธรรมวินัย เราก็เคารพกราบไหว้กันด้วยอายุพรรษา แต่ว่าถ้าเป็นงานหลวง งานพระราชพิธีต่าง ๆ ก็ต้องว่ากันตามลำดับสมณศักดิ์ ก็คือไม่ได้คิดถึงอายุพรรษา หากแต่ว่าท่านใดได้รับการสถานปนาก่อน หรือว่าพระราชทานตั้ง พระราชทานเลื่อนก่อน ท่านนั้นก็จะต้องนั่งหน้า

ทำเอาพระเถระบางรูปเคยบ่นกับกระผม/อาตมภาพว่า ต้องไปนั่งอยู่ด้านหน้าครูบาอาจารย์ของตนเอง รู้สึกไม่สบายใจเลย กระผม/อาตมภาพก็ต้องปลอบใจท่านไปตามเพลง ประมาณว่าในเมื่อเป็นพระราชประสงค์ เห็นคุณงามความดีของหลวงพ่อแล้วตั้งสมณศักดิ์ให้ก่อน ถึงเวลาค่อยตั้งให้ครูบาอาจารย์ทีหลัง ถ้าไม่สบายใจ ลงจากอาสนะแล้ว เราก็ไปกราบขอขมาท่านก็แล้วกัน

เมื่อรออยู่จนกระทั่งเกือบ ๗ โมงเช้า พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร ป.ธ. ๗) เจ้าของงานอายุวัฒนมงคล ๘๐ ปีก็มาถึง พระเดชพระคุณรูปนี้ กระผม/อาตมภาพคุ้นเคยกับท่านมานานที่สุด ตั้งแต่สมัยท่านเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุธีปริยัตยาภรณ์ ก็ได้ติดตามพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี (สนิธ เขมจารี ป.ธ.๙) วัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร ซึ่งสนิทสนมกับหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ไปวัดท่าซุงในงานประจำปีอยู่บ่อย ๆ แล้วก็คุ้นเคยมาจนถึงปัจจุบัน พูดง่าย ๆ ว่าเจอหน้ากันเมื่อไร ท่านก็ทักทายอย่างชนิดที่คนอื่น บางทียังตีหน้างง ๆ ว่าคู่นี้เขาไปรู้จักมักคุ้นกันมาตั้งแต่เมื่อไร

เมื่อหลวงพ่อพระพรหมเสนาบดี เจ้าของงานวันเกิด ๘๐ ปี ถวายสักการะหลวงพ่อสมเด็จฯ ทั้ง ๓ รูป และถวายปัจจัยไทยธรรมแล้ว ก็ขออนุญาตลงไปใส่บาตรวันเกิดพระสงฆ์ ๘๑ รูป กระผม/อาตมภาพขออนุญาตตัดหน้าท่านในช่วงจะใส่บาตร เพราะว่าบรรดาพระสงฆ์ยังไม่ทันจะตั้งแถวรอรับบาตร ด้วยการถวายมุทิตาสักการะ ไม่ว่าจะเป็นไทยธรรมหรือซองปัจจัย ท่านก็ไม่ได้สนใจ หากแต่สนใจกล่องใบน้อยที่กระผม/อาตมภาพส่งให้

ท่านถามว่า "นี่อะไรครับ ?" จึงได้กราบเรียนท่านไปว่า "เสือหลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ย ขอรับ ปีที่แล้วที่บอกว่าจะถวายให้หลวงพ่อ แล้วก็หยิบผิด องค์นั้นถวายไปเลย แต่ว่าองค์นี้เพิ่งมีโอกาสถวายในปีนี้" ท่านรีบเอาใส่กระเป๋าอังสะ ทั้งที่กระผม/อาตมภาพยืนยันว่า "เดี๋ยวอาจจะหล่นนะครับ" ท่านบอกว่า "ไม่หล่นแน่นอน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า วันนี้, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,108
ได้ให้อนุโมทนา: 159,944
ได้รับอนุโมทนา 4,505,870 ครั้ง ใน 36,715 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเมื่อหลายปีก่อน หลวงพ่อท่านปรารภกับกระผม/อาตมภาพว่า "อยู่มาจนป่านนี้ จะหาพระเครื่องที่เป็นเกียรติเป็นศรี เป็นหน้าเป็นตาแก่ตนเองสักองค์หนึ่ง อย่างประเภทเบญจภาคีก็หาของแท้ไม่ได้เลย ที่คนอื่นหามาถวายเป็นสิบ ๆ องค์ เอาไปให้เซียนเขาเช็คแล้ว บอกว่าของทำเลียนแบบทั้งนั้น"

กระผม/อาตมภาพจึงได้เรียนถวายท่านว่า "เดี๋ยวงานวันเกิดหลวงพ่อ กระผม/อาตมภาพจะนำมาถวาย ๑ องค์" แล้วก็ได้ปลดสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่ติดประคำของตนเอง ถวายท่านไปในงานวันเกิดปีนั้น

หลังจากนั้นเดือนกว่า มาเจอท่านที่งานวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ท่านตบหน้าอกตนเอง ทางด้านกระเป๋าอังสะ บอกว่า "ใช้อยู่นะครับ ให้เซียนเขาเช็คแล้ว บอกว่าของแท้" กระผม/อาตมภาพจึงถามท่านว่า "อยากได้อะไรอีก ?" ท่านบอกว่า "ถ้าท่านเป็นคนหามา ผมรับทั้งนั้น" จึงได้เรียนท่านไปว่า "จะถวายเสือหลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ย ให้สักองค์หนึ่ง เพราะว่าหลวงพ่อใจดีจนเกินไป ต้องเอาเสือไปช่วยเพิ่มอานุภาพของมหาอำนาจเอาไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นแล้ว บางทีคนเขาก็ไม่ค่อยจะเกรงใจ" ท่านเองก็ตอบรับด้วยความยินดี

แต่ว่าปีนั้นกระผม/อาตมภาพได้นำเอาเสือใส่กล่องแบบเดียวกันกับวัตถุมงคลชิ้นอื่น แล้วนำไปถวายท่าน ปรากฏว่าเปิดออกมาแล้วไม่ใช่เสือหลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ย กลายเป็นว่าผิดหวังไป จนกระทั่งปีนี้จึงได้นำมาถวายท่าน เชื่อมั่นได้เลยว่าท่านจะติดตัวไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น กว่าที่จะได้มาแต่ละองค์ บางทีก็ต้องรอโอกาสหลายต่อหลายปี แต่ว่าบางปีก็ประเดประดังกันมา ๓ องค์ ๔ องค์

โดยเฉพาะเสือหลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ยนั้น พี่ณพ (พันตำรวจเอกอรรณพ กอวัฒนา) ลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ รุ่นพ่อ ซึ่งกระผมเรียกว่า "พี่" จนชินมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ท่านมีประสบการณ์มากที่สุด เพราะว่าเคยยิงผู้ร้ายเต็ม ๆ จนกระทั่งตกน้ำหายไป นึกว่าจะตายแล้ว ปรากฏว่าอีกไม่กี่วัน มันมาเยาะเย้ยอีกแล้ว สอบถามแล้วถึงได้รู้ว่า ผู้ร้ายคนนั้นซึ่งอาละวาดอยู่แถวบ้านจระเข้น้อย มีเสือหลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ยติดตัวอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า วันนี้, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,108
ได้ให้อนุโมทนา: 159,944
ได้รับอนุโมทนา 4,505,870 ครั้ง ใน 36,715 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ต้องบอกว่าหลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ยนั้น เกียรติคุณของท่านเข้าไปถึงในรั้วในวัง ถึงขนาดในหลวงรัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสต้นไปแล้วได้มีโอกาสกราบพบ ยังมีบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน ว่าท่านมีรูปร่างลักษณะอย่างไร มีปฏิปทาอย่างไร

โดยเฉพาะวัตุถมงคลของท่าน ซึ่งใช้คำว่าแกะด้วยเขี้ยวเป็นรูปเสือ ฝีมือค่อนข้างหยาบ แต่ว่าราคาสูงมากถึง ๑ บาท บางปีราคาสูงเพราะของหายาก ก็สูงถึง ๖ บาท

กระผม/อาตมภาพเห็นพระราชหัตถเลขาตรงนี้แล้วยังตกใจ ว่าในสมัยที่ข้าวเกวียนหนึ่งราคาไม่ถึง ๑ บาท แต่เสือหลวงปู่ปานองค์ละ ๑ บาท และเมื่อคนต้องการ สูงสุดเคยขึ้นไปถึงตำลึงครึ่ง ก็คือ ๖ บาท ถ้าเป็นราคาสมัยนี้ก็คงจะนับล้านบาทเลยทีเดียว แล้วขณะเดียวกัน ราคาเสือหลวงปู่ปานในปัจจุบันนี้ก็ไปถึงระดับนั้นจริง ๆ เสียด้วย แสดงว่าค่านิยมนี้ไม่ได้ตกต่ำหายไปเลย แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใน ๙ เครื่องรางสะท้านแผ่นดินก็ตาม

แต่ถ้าให้กระผม/อาตมภาพจัดลำดับเอง เครื่องรางที่กระผม/อาตมภาพจัดเอาไว้ รับรองได้ว่า ๑๐ อันดับแรกต้องมีเขี้ยวเสือ หลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ย จังหวัดสมุทรปราการ ต้องมีหนุมาน หลวงปู่สุ่น วัดศาลากุน จังหวัดนนทบุรี ต้องมีตะกรุดไมยราพณ์สะกดทัพ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน จังหวัดเพชรบุรี เหล่านี้อยู่ด้วยแน่นอน

เมื่อกราบลาท่านออกมา ปรากฏว่ารถของกระผม/อาตมภาพนั้น จอดอยู่ทางซุ้มประตูทางเข้าวัด ซึ่งจะต้องวิ่งสวนเข้าไป เพื่อไปออกทางประตูทางออกอีกด้านหนึ่ง แต่พอดีพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ก็จะออกด้วย ทำให้ตำรวจรีบไล่กระผม/อาตมภาพให้ออกจากประตูทางเข้านี้แหละ ช่วยกันเป่านกหวีด ช่วยกันกั้นรถเป็นการใหญ่ ปล่อยให้ถอยหลังยาว ๆ ขึ้นมาบนถนน แล้วก็วิ่งออกไปแบบสบายใจเฉิบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน )
ยอดไผ่, เล็กเจษฎา
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:27



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว