กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า เมื่อวานนี้, 19:48
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 573
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 27,617 ครั้ง ใน 1,061 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า วันนี้, 01:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,387 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปร่วมงานครบรอบ ๑๓๘ ปี การสถาปนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากได้พบกับครูบาอาจารย์เก่า ๆ แล้ว ยังมี FC วัดท่าขนุนย่องไปรอพบและรอทำบุญที่นั่นอีกจำนวนมาก จนพระเถระบางรูปถึงขนาดปรารภว่า "ท่านรู้จักคนมากขนาดนี้เลยหรือ ?" จึงเรียนตอบท่านไปแบบขำ ๆ ว่า "คนรู้จักผมมากกว่าครับ ผมไม่ค่อยรู้จักใคร..!"

คราวนี้ในส่วนของงานไม่ขอกล่าวถึง มีเรื่องที่อยากจะกล่าวถึง เพราะว่ามีคลิปลงสื่อโซเชียลมาหลายวันแล้ว ที่กล่าวว่า "การปลุกเสกเป็นอุตสาหกรรมแห่งความโง่ เป็นแหล่งรวมของคนปัญญาอ่อน" โดยอ้างถึงคำของพระนักเทศน์ชื่อดัง ซึ่งปัจจุบัน "มรณภาพและลงข้างล่างไปเรียบร้อยแล้ว" มาเป็นข้ออ้าง ซึ่งกระผม/อาตมภาพเอง แม้ว่าจะสงสารท่านขนาดไหนก็ช่วยไม่ได้ เพราะว่าออกแนวแบบบรรดาอินฟลูเอนเซอร์สายพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน ที่ใช้คำพูดในลักษณะจาบจ้วง..!

สิ่งต่าง ๆ ซึ่งบรรดาครูบาอาจารย์ ตลอดจนกระทั่งบรรพบุรุษของเราเชื่อถือและปฏิบัติต่อเนื่องกันมา เพราะว่ารู้แจ้งเห็นจริง อย่างวาทกรรมประเภทที่ว่า "พระภูมิเจ้าที่ก็แค่เทวดาตีนโรงตีนศาล ทำไมต้องไปสร้างศาลเคารพนับถือด้วย ? ถ้าท่านเห่าได้แบบหมา แล้วค่อยเคารพนับถือกัน..!"

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วมีอยู่ตลอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่จะไม่กล่าวถึงมากไปกว่านี้ จะขอกล่าวถึงเฉพาะในส่วนของการปลุกเสกวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่เจ้าของคลิปกล่าวว่า "เป็นแหล่งรวมคนโง่และคนปัญญาอ่อน..!"

ท่านทั้งหลายต้องดูก่อนว่า ก่อนที่จะมีงานปลุกเสกนั้นต้องสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา การสร้างวัตถุมงคลนั้น ต้องดูด้วยว่า "มีวัตถุประสงค์อย่างไร ?" อันดับแรกเลย ในยุคต้นเป็นการสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องเพราะว่าบุคคลรุ่นหลัง ๆ ไม่ได้มีโอกาสพบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยตนเอง จะให้ระลึกถึงเฉพาะพุทธคุณก็หาความมั่นคงไม่ได้ ครูบาอาจารย์ท่านจึงใช้วิธีสร้างรูปแทนองค์ขึ้นมา เพื่อที่จะได้มีเครื่องยึด ที่เรียกว่าพุทธานุสติ สร้างความมั่นคงในกำลังใจ อย่างน้อยก็มีวัตถุให้ยึดเกาะ ซึ่งถ้าหากว่าปฏิบัติธรรมไปถึงช่วงสุดท้าย ก็เหมือนกับคนอาศัยเรือข้ามฝั่ง เมื่อขึ้นฝั่งแล้วก็ไม่เห็นมีใครแบกเรือไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 4 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กมลโกศลจิต​ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #3  
เก่า วันนี้, 01:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,387 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วัตถุประสงค์ต่อไปก็คือสร้างเพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา เป็นวัตถุที่ยืนยันว่าสถานที่นั้นก็คือสถานที่ในพระพุทธศาสนา

อีกประการหนึ่งก็คือ ถ้าหากว่าสถานที่นั้นปรักหักพังลง บุคคลที่ไปพบวัตถุมงคลในกรุ หรือในสถานที่นั้น ก็จะได้นำมาจำหน่ายเพื่อจะบูรณปฏิสังขรณ์ให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองตามเดิม


ประการต่อไปก็คือผลลัพธ์ที่จะได้จากการใช้วัตถุมงคลนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปพระพุทธ รูปพระสงฆ์ หรือเครื่องรางต่าง ๆ คนโบราณอาศัยสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวป้องกันภัย จนกระทั่งสามารถต่อสู้ฟันฝ่า รักษาประเทศชาติและแผ่นดินมาให้ท่านจาบจ้วงกันว่าเป็นคนโง่..!

ข้อสุดท้ายได้กล่าวไปแล้วก็คือสร้างเพื่อหาทุนบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุในพุทธศาสนา เพียงแต่ว่าข้อนี้ เมื่อเจอบรรดาฆราวาสซึ่งโลภมากเข้ามาครอบงำวัดวาอารามนั้น ๆ ก็จะมีการสร้างในลักษณะเพื่อจำหน่ายหาเงินเข้ากระเป๋า ที่เรียกกันว่า "พุทธพาณิชย์" ในปัจจุบัน จนกระทั่งครูบาอาจารย์บางรูป ปีเดียวมีคนขอสร้างวัตถุมงคล ๓๐๐ - ๔๐๐ รุ่น จนกลายเป็นขายไม่ออก ก็เพราะว่าโลภมากจนลาภหาย..!

สมัยที่จตุคามรามเทพโด่งดัง เพื่อนฝูงของกระผม/อาตมภาพรูปหนึ่งสร้างจตุคามรุ่นแรกของวัด ได้กำไรมา ๑๒ ล้านบาท..! เกิดความย่ามใจ ลงทุนสร้างรุ่นที่ ๒ ทุ่มเทเงินทอง นิมนต์พระเกจิอาจารย์มาเป็นร้อยรูป หวังว่าจะเอาดัง แล้วขณะเดียวกันก็เอาเงินด้วย แต่ว่ากระแสจตุคามแผ่วลงพอดี เงินที่ได้มา ๑๒ ล้านก็เลยจมหายไปในนั้นจนหมด..!

นั่นคือลักษณะของผู้ที่ตั้งใจทำเพื่อหาเงินในลักษณะ "พุทธพาณิชย์" เพราะความโลภในใจของตน แล้วก็โดนเหมารวมกันไปจนหมดว่า เป็นแหล่งรวมคนโง่ รวมคนปัญญาอ่อน
โดยไม่ได้ดูว่าวัตถุประสงค์ในการสร้างเป็นอย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 4 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กมลโกศลจิต​ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #4  
เก่า วันนี้, 01:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,387 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขอยกตัวอย่างหลวงปู่โต หรือว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ผู้เปรียบเสมือนกับครูบาอาจารย์ของในหลวงรัชกาลที่ ๔ ท่านสร้างพระสมเด็จวัดระฆังที่ระบือลือลั่นมาจนปัจจุบันนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็น "จักรพรรดิพระเครื่อง" องค์สวย ๆ และเชื่อมั่นว่าแท้ จำหน่ายกันราคาเป็น ๑๐๐ ล้านบาท..!

หรือไม่ก็สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ติสฺสเทวมหาเถร) วัดสุทัศนเทพวราราม สร้างพระกริ่งหลายต่อหลายรุ่น ที่โด่งดังคับฟ้า..!

หรือแม้กระทั่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุณฺณสิริมหาเถร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ถึงเวลาจะสร้างจะทำอะไรที่เป็นวัตถุมงคล ก็ต้องรอหลวงปู่โหน่ง วัดคลองมะดัน เป็นผู้กำหนดฤกษ์ บางทีก็ยืนรอกันเป็นชั่วโมง ๆ แล้วบางงานหลวงปู่โหน่งก็ไม่มาเอาดื้อ ๆ พอท่านสอบถามไปก็บอกมาตรง ๆ ว่า "เทวดาไม่ให้มา" หนักเข้าไปอีก..! พอบรรดาพระสังฆาธิการระดับสูงตำหนิ สมเด็จพระสังฆราชท่านบอกว่า "ท่านโหน่งรู้จริง..!"

แม้กระทั่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร พระองค์ท่านก็สร้าง "พระกริ่งคชวัตร ฉลองพระชนมายุ ๙๐ พรรษา" ทรงปลุกเสกด้วยองค์ท่านเอง

หรือที่กระผม/อาตมภาพไปปลุกเสกที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม หลายต่อหลายครั้ง สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (อมฺพรมหาเถร) รูปปัจจุบัน ก็ร่วมอธิษฐานจิตด้วยทุกครั้ง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 6 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กมลโกศลจิต​ (วันนี้), ธัญญพัฒน์ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้), หลุดพ้น (วันนี้)
  #5  
เก่า วันนี้, 01:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,387 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าท่านบอกว่าพระระดับนั้นโง่ หรือปัญญาอ่อน กระผม/อาตมภาพก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครโง่และปัญญาอ่อนกันแน่ ? โดยเฉพาะถ้ากล่าวหากันในลักษณะนั้นก็ต้องดูอีกที เอาแค่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงร่วมพิธีในการสร้างพระ ๒๕ พุทธศตวรรษ ทรงเป็นประธานในงานปลุกเสกเหรียญทรงผนวช ปี ๒๕๐๘ ทรงเป็นประธานในงานปลุกเสกพระพุทธชินราชปี ๒๕๑๗ ซึ่งสร้างโดยกองทัพภาคที่ ๓ หรือแม้กระทั่งในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ของเรา ก็เพิ่งจะเสด็จไปเป็นประธานในพิธีปลุกเสกเหรียญที่ระลึก เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบของพระองค์ท่าน

ดังนั้น..
คำกล่าวหาว่าผู้ที่ร่วมงานพุทธาภิเษกเป็นคนโง่หรือคนปัญญาอ่อน เท่ากับว่าท่านกำลังจาบจ้วงล่วงเกินแม้กระทั่งองค์ในหลวง ถือว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างร้ายแรง ถ้าเกิดมีใครนึกขลังขึ้นมา ไปแจ้งความ ก็คงจะโดนคดีมาตรา ๑๑๒ เอาง่าย ๆ..!

เรื่องพวกนี้ บุคคลในปัจจุบันที่ชอบ "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" "เหยียบหัวคนอื่นเพื่อจะขึ้นสู่เบื้องสูง" มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่มีใครคอยชี้แจงเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บุคคลที่ไม่เข้าใจความเป็นจริง ก็จะคล้อยตามไป เพราะไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่า
บุคคลที่ตั้งใจหากิน กับบุคคลที่ทำเพื่อสืบพระศาสนา เพื่อให้ญาติโยมมีอนุสติไว้เป็นที่พึ่งพาอาศัย และได้อาศัยพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ ในการปกป้องชาติบ้านเมือง ปกป้องครอบครัวและตนเอง ก็จะทำให้คนที่หลงผิดเข้าใจผิด ห่างไกลพระพุทธศาสนาออกไปทุกที

แล้วเขาทั้งหลายเหล่านั้น ส่วนใหญ่ก็มักจะลงสู่เบื้องล่าง กลายเป็นว่า
ท่านก่อเวรสร้างกรรมด้วยวาทกรรมที่คิดว่าฉลาด เลิศล้ำ แต่ทำเอาคนลงสู่ทุคติ กว่าจะหลุดขึ้นมาเป็นมนุษย์ได้ก็เนิ่นนานจนนับกัปไม่ได้ แล้วก็อาจจะต้องติดตามครูบาอาจารย์ของท่าน ซึ่งเป็นต้นวาทะและลงไปอยู่ข้างล่างแล้ว ต่อไปในกาลข้างหน้าด้วย..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 4 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กมลโกศลจิต​ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน )
สุรจิตร
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว