กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-06-2025, 17:19
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 521
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 25,791 ครั้ง ใน 1,009 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-06-2025, 22:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็น "วันหาหมอ" ของเดือนมิถุนายนนี้ ไม่ว่าจะเป็น "การนัดหมอ" หรือว่า "การที่หมอนัด" ก็ตาม แต่ก็หมายความว่าต้องเอาสังขารโทรม ๆ ไปให้หมอบูรณะซ่อมแซม ก่อนที่จะไปอาการก็ต้องหนักเต็มที่ก่อน ไม่อย่างนั้นเกรงว่าหมอจะตรวจหาไม่เจอ..!

ดังนั้น..เมื่อคืนกระผม/อาตมภาพที่เพิ่งจะหลับไปได้ไม่นาน ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอน ๓ ทุ่มกว่า เนื่องเพราะว่าฝนตกหนักแล้วน้ำรั่วลงมา จนต้องวิ่งหาภาชนะ หาผ้า มารองน้ำ เช็ดน้ำ เป็นการใหญ่ พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน แจ้งว่า ในช่วงกลางวันจะส่งช่างมาดูให้ แต่กระผม/อาตมภาพเองอยากจะบอกว่าช่างน่าจะหาสาเหตุไม่เจอ เนื่องเพราะว่า
ปัญหานี้เกิดจากกุฏิเป็นเรือนไทย..!

กระผม/อาตมภาพเอง สมัยที่อบรมเจ้าอาวาสครั้งแรกที่วัดสามพระยา วรวิหาร มีการกราบเรียนถามพระเถระผู้มาให้การอบรมว่า "มีปัญหาว่าศาลาหรือว่ากุฏิเรือนไทยนั้น มีน้ำฝนรั่วเข้าไปได้ทุกครั้งที่ฝนตกหนัก แต่ว่าหลังคาไม่รั่ว จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ?"

ปรากฏว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙ อดีตคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร ท่านเมตตาขอพิธีกรขึ้นมาตอบเองว่า "ให้ควั่นหัวแปเสีย"

ท่านบอกว่า วัดท่านเองก็มีปัญหานี้ และ
ทุกครั้งที่ฝนตกหนัก ท่านต้องไปนอนอยู่ใต้ฝ้าเป็นเวลาหลายวัน เพื่อสังเกตว่าน้ำฝนเข้าไปได้อย่างไร ? จึงเห็นว่าโดยปกติของเรือนไทยนั้น บริเวณจั่วจะมีไม้แปหลังคายื่นออกไป มากน้อยแล้วแต่ขนาดของทรงไทยนั้น ตัวไม้แปที่ยื่นออกไปนี่แหละ เป็นตัวรับน้ำฝนอย่างดี ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าจะทำให้รั่วได้ แต่พอฝนตกหนัก ๆ เข้า น้ำฝนก็จะไหลย้อยจากหัวแปตามตัวไม้เข้าไป แล้วก็ไปหยดอยู่ในบริเวณฝ้าหลังจั่ว เมื่อน้ำรวมกันมาก ๆ เข้า ก็จะไหลไปบริเวณที่ต่ำหรือว่าที่บริเวณมีรอยแตก แล้วก็รั่วลงไปในตัวอาคาร เหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพเจอมานี่แหละ..!

วิธีแก้ไขก็คือต้องควั่นไม้หัวแปให้เป็นร่องโดยรอบ เมื่อน้ำฝนไหลมาถึงขอบร่อง แล้วไปต่อไม่ได้ ก็จะหยดอยู่ภายนอกกุฏิ พูดง่าย ๆ ก็คือไม่เข้าไปในบริเวณจั่วใต้หลังคา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-06-2025, 22:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าหากว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ทางด้านช่างหาไม่เจอ ก็ขอแจ้งกับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยานว่า อาคารของวัดอุทยานเกือบทุกหลังเป็นทรงไทยทั้งสิ้น น่าจะมีปัญหานี้ทุกหลัง ดังนั้น..ให้ทำการควั่นหัวแปบริเวณที่อยู่ใต้จั่ว พูดง่าย ๆ ก็คือใต้ปั้นลมนั่นแหละ ก่อนที่จะเข้าไปถึงภายในจั่ว แล้วทะลุเข้าไปบริเวณใต้หลังคา เมื่อเราทำการควั่นแล้ว น้ำฝนไหลไปไม่ถึง การรั่วทุกอย่างก็จะแก้ไขได้

จะว่าไปแล้ว ถ้ากระผม/อาตมภาพไม่ได้ศึกษาวิชาสายหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาจากหลวงปู่ดู่ วัดสะแกแล้ว ก็สามารถที่จะโยงอย่างชัดเจนว่า ศึกษามาจากหลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙ วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหารนี่เอง เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่อบรมอยู่ ท่านเมตตาอยู่ช่วยสั่งสอนทุกวัน แล้วท่านก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่กลั่นโดยตรง..!

ด้วยความที่ท่านเป็นคนเด็ดขาด พูดอะไรมักจะพูดคำเดียว เมื่อถึงเวลามีปัญหาทางคณะสงฆ์ พรรคพวกเพื่อนฝูงไม่กล้าที่จะเข้าหาท่าน กระผม/อาตมภาพก็ต้องทำตัวเป็น "หน่วยกล้าตาย" เข้าไปกราบเรียนท่าน อย่างเช่นว่า เมื่อมีข่าวไม่ดีเกิดขึ้นในวงการสงฆ์ เกี่ยวกับการที่พระใช้โทรศัพท์แบบไม่มีกาลเทศะ ท่านก็มีคำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนกลาง สั่งพระห้ามใช้โทรศัพท์..!

กระผม/อาตมภาพต้องไปกราบเรียนท่านว่า "พระเดชพระคุณขอรับ ไม่ใช่เกล้าฯ เป็นคนก้าวร้าวต่อพระผู้ใหญ่ แต่อยากจะเรียนถวายว่า เกล้าฯ ไม่ใช่เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่มีเลขานุการช่วยรับโทรศัพท์ ๒ รูป โดยเฉพาะพระต่างจังหวัดนั้น โทรศัพท์แทบจะเป็นเส้นชีวิต ก็คือถ้าไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโทรมา ก็จะเป็นโทรศัพท์จากญาติโยม ที่ติดต่อเพื่อนิมนต์ไปทำศาสนพิธีต่าง ๆ ถ้าพระเดชพระคุณไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์แล้ว พวกเกล้าฯ ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าจะอยู่ได้อย่างไร ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-06-2025, 22:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อไปเจอพระเด็ก ๆ กล้าพูดแบบนี้เข้า ท่านก็อึ้งไปพักหนึ่ง แล้วท้ายที่สุดก็บอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถึงเวลาอย่าเดินพูดโทรศัพท์ เพราะว่าดูน่าเกลียด ให้พวกท่านหาที่นั่งให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยรับโทรศัพท์ ใช้เวลาพูดคุยให้น้อยที่สุด เพื่อที่ชาวบ้านเขาจะได้ไม่รู้สึกรำคาญตา"

กระผม/อาตมภาพก็กราบเรียนเรื่องที่ท่านห้ามเป็นเรื่องที่สองว่า "พระเดชพระคุณขอรับ งานคณะสงฆ์ทุกอย่างที่ทำมา พระเดชพระคุณต้องการรูปเพื่อยืนยันว่าทำจริง และสามารถตรวจสอบภายหลังได้ แต่ไม่อนุญาตให้พระใช้กล้องถ่ายรูป แล้วพวกเกล้าฯ จะทำอย่างไรถึงจะมีรูปมาส่งรายงานพระเดชพระคุณละขอรับ ?" ท่านบอกว่า "เรื่องนี้ไม่รีบด่วน โดยเฉพาะงานคณะสงฆ์ ท่านสามารถที่จะขอให้ฆราวาสที่อยู่ในงานเขาช่วยถ่ายรูปให้ได้ แค่ ๒ รูป ๓ รูปก็พอที่จะส่งรายงานได้แล้ว ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปถ่ายด้วยตนเองให้เสียกิริยา"

กระผม/อาตมภาพจึงเล็งเห็นว่า
พระผู้ใหญ่นั้นท่านรอบคอบมาก ถ้าหากว่าเรากล้าพูด กล้าคุย และมีเหตุผลที่ชัดเจน ท่านก็เมตตาที่จะพิจารณาและปรับปรุงแก้ไขคำสั่งของท่านได้ แต่ถ้าหากว่าเหตุผลของท่านดีกว่า เราก็ต้องยอมรับเช่นกัน

อีกเรื่องหนึ่งก็คือว่าตอนนั้นท่านเป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง แล้วหลวงพ่อพระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการาม ซึ่งภายหลังก็คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ. ๙, Ph.D.) ซึ่งขึ้นมารับหน้าที่เจ้าคณะใหญ่หนกลางต่อจากท่าน

พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการามนั้น ท่านสนับสนุนเรื่องกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่กระผม/อาตมภาพก็ได้รับการฝึกฝนให้เป็นพระธรรมทูตสายวิปัสสนา รุ่นที่ ๑ ต้องไปปฏิบัติแบบพองหนอยุบหนอ ที่ยุวพุทธิกสมาคมแห่งที่ ๒ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เป็นเวลาถึง ๑๘ วัน..!

โดยที่ผู้เข้าร่วมอบรมพระธรรมทูตสายวิปัสสนา รุ่นที่ ๑ นั้น ประกอบด้วยพระภิกษุสงฆ์จากหนกลางทั้งหมด ๘๗ รูป ผ่านการอบรมอย่างแท้จริง ได้รับประกาศนียบัตรพระธรรมทูตแค่ ๑๕ รูปเท่านั้น..! เมื่อตอนที่ทางเจ้าหน้าที่ของยุวพุทธิกสมาคมแห่งที่ ๒ จังหวัดปทุมธานี ท่านสัมภาษณ์ความรู้สึก กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะรู้ว่าตนเองสอบได้ที่ ๑ นั่งงงอยู่เป็นนานว่า "ทำไมเราได้ที่ ๑ ไปได้ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-06-2025, 22:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อท่านสนับสนุนเรื่องของการเจริญพระกรรมฐาน และไปสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมโมลี ที่ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ท่านจึงเสนอทางมหาเถรสมาคม โดยเฉพาะพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะใหญ่หนกลางในตอนนั้นว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ขอให้เจ้าอาวาสใหม่ปฏิบัติธรรม ๓ เดือน..!

พวกกระผม/อาตมภาพได้ยินก็แทบจะช็อคตาย เนื่องเพราะว่าตอนที่ปฏิบัติธรรมที่ยุวพุทธิกสมาคม จังหวัดปทุมธานี ๑๘ วันนั้น กระผม/อาตมภาพได้รับคำชมเชยจากครูบาอาจารย์ว่า เป็นพระที่กำหนดภาวนาได้ทั้ง ๔ อิริยาบถ โดยเฉพาะอิริยาบถยืนหนอนั้น กำหนดได้นานมาก ซึ่งความจริงไม่ใช่..!

กระผม/อาตมภาพพอปฏิบัติไปนาน ๆ แล้วเกิดความเครียดขึ้นมา จึงไปยืนมองทุ่งนาที่นอกหน้าต่าง เพื่อเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ มองละเอียดถึงขนาดเห็นว่า ในทุ่งนานั้นมีนกกระยางกรอกออกหากินเป็นประจำอยู่ ๔ ตัว แล้วเจ้านกกระยางพวกนี้นั้น สีสันก็ใกล้เคียงกับธรรมชาติมาก แถมยังทำตัวเข้ากับธรรมชาติอีก ก็คือพอลมกรรโชกมา ก็โยกคอตามแนวที่รวงข้าวเอนลู่ตามลมไป พอลมหยุดกระโชก ก็โยกคอกลับมาตั้งตรงตามเดิม

ในเมื่อมองเพลินก็เลยยืนนานเป็นชั่วโมงแบบไม่รู้ตัว พอกำลังใจคลายลงค่อยปฏิบัติธรรมต่อ ไม่รู้หรอกว่าการที่ตนเองยืนมองธรรมชาตินั้น ครูบาอาจารย์ฟันธงว่า "ยืนหนอได้ยอดเยี่ยมมาก" ในเมื่อแค่ ๑๘ วันก็จะอกแตกตายแล้ว ถ้าเจอ ๓ เดือนมีหวังตายแน่นอน พรรคพวกเพื่อนฝูงก็ถีบกระผม/อาตมภาพออกหน้าไปตามเคยว่า "มึงไปช่วยชี้แจงให้หลวงพ่อท่านลดวันลงมาให้ด้วย"

กระผม/อาตมภาพจึงต้องนัดแนะกับเลขานุการ ซึ่งปัจจุบันก็คือพระเดชพระคุณพระเทพรัตนสุธี (ปัญญา สิริปญฺโญ ป.ธ. ๔) วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหารนั่นเอง เมื่อได้รับวันเวลาว่าให้เข้าอธิบายกับท่านในตอนไหนได้ ก็เดินทางไปกราบเรียนท่าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 06-06-2025, 22:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อพบหน้าท่านสอบถามถึงปัญหา จึงกราบเรียนว่า "เรื่องที่พระเดชพระคุณมีคำสั่งให้เจ้าอาวาสใหม่ต้องไปเข้ากรรมฐาน ๓ เดือนครับ เกล้าฯ ศึกษาในเรื่องของจริยาพระสังฆาธิการแล้ว ถ้าหากว่าเจ้าอาวาสใหม่ทิ้งงานออกจากสถานที่รับผิดชอบตามตำแหน่งไปเกิน ๓๐ วัน ถือว่าผิดจริยาอย่างร้ายแรง ต้องโดนถอดออกจากเจ้าอาวาสเลยขอรับ" ท่านบอกว่า "พวกท่านไปปฏิบัติตามคำสั่งของกระผม ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ถือว่าผิดจริยาพระสังฆาธิการ"..!

กระผม/อาตมภาพจึงต้องหาแนวทางใหม่ กราบเรียนท่านใหม่ว่า "พระเดชพระคุณขอรับ เจ้าอาวาสใหม่ส่วนใหญ่แล้วเก้าอี้ยังไม่แน่น ถ้าหากว่าหายจากวัดไป ๓ เดือน กลับวัดไป เกล้าฯ มั่นใจว่าไม่มีเก้าอี้เหลือให้นั่งอย่างแน่นอนขอรับ..!" ท่านก็เงียบไปพักหนึ่ง แล้วท้ายที่สุดก็บอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พบกันคนละครึ่งทาง เอาแค่ ๔๕ วันก็พอ..!"

พอกระผม/อาตมภาพออกมาแจ้งผล บรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงก็ไชโยโห่ร้องกันเป็นการใหญ่ กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ไอ้ห่..ทีจะให้เข้าไปกราบเรียนถวายท่าน พวกมึงก็ไม่เอา แต่พอผลดีเกิดขึ้นมึงก็ดีอกดีใจกัน" เพื่อน ๆ บอกว่า "กูไม่โง่เหมือนมึงนี่หว่า กูไม่พอใจแต่กูไม่พูด ปล่อยให้มึงไปตายแทน..!"

กระผม/อาตมภาพรู้สึกว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงของตนเองนั้นช่างจริงใจเป็นอย่างยิ่ง ไอ้เจ้าพวกนี้น่าจะจัดอยู่ในประเภท "เพื่อนกิน" เท่านั้น อย่าไปหวังให้เป็น "เพื่อนตาย" เลย เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 06-06-2025, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ที่พวกกระผม/อาตมภาพได้รับการขัดเกลามาจากพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙) วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร จึงอยู่ในลักษณะของบุคคลที่ค่อนข้างจะแม่นต่อระเบียบวินัย พูดง่าย ๆ ว่าสามารถกล่าวได้เต็มปากว่า "เป็นลูกศิษย์ที่ท่านอบรมมากับมือ" แม้แต่รับประกาศนียบัตรผู้ผ่านการอบรมเจ้าอาวาสจากมือของท่าน ก็มีรูปถ่ายเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน เป็นต้น

เพียงแต่ว่าในปัจจุบันนี้ การปฏิบัติธรรมได้ลดน้อยถอยลงมาเรื่อย จนกระทั่งปัจจุบันก็เหลืออยู่ประมาณ ๗ วันเท่านั้น กระผม/อาตมภาพยังรู้สึกเสียดายแทนเจ้าอาวาสรุ่นหลัง ๆ ว่า "พวกคุณเกิดช้าไป เรื่องที่ควรจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของพระสงฆ์ เราควรจะได้ทำเพื่อเป็นกุศลใส่ตัว และศึกษาความรู้เอาไว้เพื่อสอนญาติโยมต่อไป คุณก็ได้ทำแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถือว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง..!"

จะพูดถึงเรื่องฝนรั่วแล้วต้องไปหาหมอเพราะว่าอดนอนทั้งคืน กลายเป็นว่าระหว่างที่นั่งรอหมออยู่นั้น ต้องมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ลากยาวไปถึงสมัยอบรมพระธรรมทูตสายวิปัสสนา รุ่นที่ ๑ การอบรมเจ้าอาวาสใหม่ ตลอดจนกระทั่งแนวทางในการแก้ไขปัญหาของพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ฐานิสฺสรมหาเถระ ป.ธ. ๙) มาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้ ?

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2025 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว