กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-05-2025, 19:19
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 512
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 25,447 ครั้ง ใน 1,000 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-05-2025, 00:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,516
ได้ให้อนุโมทนา: 158,311
ได้รับอนุโมทนา 4,484,553 ครั้ง ใน 36,125 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ตั้งแต่เช้ามืด กระผม/อาตมภาพได้แจกทุนการศึกษาประจำปีนี้ ให้กับเด็กนักเรียนจำนวน ๓๐ กว่าโรงเรียนในอำเภอทองผาภูมิ เป็นทุนระดับประถมศึกษาจำนวน ๖๐๐ ทุน รวมเป็นเงิน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท

ทุนมัธยมศึกษา จำนวน ๑๓๐ ทุน รวมเป็นเงิน ๓๙๐,๐๐๐ บาท

ทุนระดับอุดมศึกษา ๑๑ ทุน รวมเป็นเงิน ๓๓๐,๐๐๐ บาท

แล้วยังมีทุนสามเณรภาคฤดูร้อน ๙๐ ทุน รวมเป็นเงิน ๑๘๐,๐๐๐ บาท

ทุนพระภิกษุระดับปริญญาเอก ๑ ทุน จำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาท

รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ ๒,๐๗๐,๐๐๐ บาทถ้วน

ญาติโยมทั้งหลายช่วยกันทำบุญมา ๑,๑๐๑,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือกระผม/อาตมภาพควักกระเป๋าเองตามอัธยาศัย นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงทุนปริญญาตรีและทุนปริญญาโทของพระภิกษุสามเณรอีกหลายทุน เนื่องเพราะว่าต้องรอทำเอกสารภายหลัง

ในเรื่องของทุนการศึกษานั้น บางท่านถามว่ามีการติดตามผลบ้างหรือไม่ ? กระผม/อาตมภาพตอบไปว่าไม่มีการติดตามผลใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องเพราะว่าตั้งใจให้ไปเป็นทุนการศึกษา ทั้งที่รู้ว่าบางคน ยังไม่ทันจะออกจากวัด พ่อแม่ก็ยึดเงินไปเล่นหวยหมดแล้ว..! บางคนเอาไปเล่นเกมจนหมด..! บางโรงเรียนที่มีระบบการจัดการที่ดี ก็นำเงินที่ได้ส่วนนี้เข้าไปในร้านค้าสวัสดิการของโรงเรียน เรียนจบเมื่อไรก็เบิกเงินต้นพร้อมกับปันผลไปได้ ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่เวรแต่กรรม..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2025 เมื่อ 00:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-05-2025, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,516
ได้ให้อนุโมทนา: 158,311
ได้รับอนุโมทนา 4,484,553 ครั้ง ใน 36,125 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะกระผม/อาตมภาพทำทานแบบคนที่ทำเป็น ก็คือให้โดยอุเบกขาด้วยประการทั้งปวง ตั้งใจว่าให้เพื่ออะไร ส่วนคนรับจะไปใช้ถูกต้องหรือผิดวัตถุประสงค์ ก็ถือว่าเป็นเรื่องของเขา เราไม่เสียเวลาไปตามดูตามรู้ตรงนั้น เพราะว่าถ้าใครไปตามดูตามรู้ตรงนั้น แล้วเกิดกำลังใจตก ผลบุญก็อาจจะน้อยลงไปด้วย..!

การให้ทานของพวกเราควรที่จะฝึกหัดให้ถึงตรงจุดนี้ให้ได้ หลายต่อหลายคนต้องประเคนให้หลวงพ่อรับกับมือเท่านั้น ไม่อย่างนั้นรู้สึกว่าไม่ได้บุญ..! ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วว่า "เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วทามิ..ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เจตนาก็เป็นบุญแล้ว"


ในเมื่อเรายังวางอุเบกขาไม่ได้ หรือว่าวางได้ไม่หมด บางทีก็ก่อปัญหาให้เกิดกับพระ มีวัดใหญ่แห่งหนึ่งติดต่อให้กระผม/อาตมภาพไปเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่เกือบ ๓๐ ปีที่แล้ว มีเนื้อที่ถึง ๒๗๐ กว่าไร่ เจ้าภาพปวารณาสร้างทุกอย่างให้หมด ขอให้ไปเป็นเจ้าอาวาสเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องกราบเรียนถามครูบาอาจารย์ ซึ่งพวกเราก็รู้อยู่แล้วว่าการถามพระ ถามพรหมเทวดา หรือถามครูบาอาจารย์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อถามแล้ว ท่านบอกว่า "อย่าไปให้เสียเวลา" กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ไป

หลังจากนั้นไม่นาน บุคคลที่กระผม/อาตมภาพรู้จักมักคุ้นก็ไปเป็นเจ้าอาวาสที่นั่น ปรากฏว่า ๒ ปีเปลี่ยนเจ้าอาวาสไป ๓ รูป..! ก็แปลว่าแต่ละรูปอยู่ไม่ถึงปี เมื่อมีโอกาสจึงเรียนถามพรรคพวกเพื่อนฝูง ที่ไปเป็นเจ้าอาวาสแล้วก็หลุดกระเด็นออกมาว่า "เป็นเพราะอะไร ๒ ปีเปลี่ยนเจ้าอาวาสถึง ๓ รูป..!"

เขาบอกว่าโยมท่านนั้นถวายที่ดินให้เป็นวัด แต่ก็เหมือนกับไม่ได้ถวาย เพราะว่าเข้ามาชี้นิ้วบงการ ให้เจ้าอาวาสเป็นไปตามที่ตนเองต้องการทุกอย่าง ประมาณว่าถวายแล้วยังไม่ขาด "ที่ดินของกู กูต้องมีอำนาจ" ในเมื่อเจ้าอาวาสท่านทนไม่ไหว ท่านก็เลยลาออกบ้าง โดนให้ออกบ้าง เพราะว่าโยมผู้นี้รู้จักเจ้าคณะใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดของการปกครองคณะสงฆ์ เมื่อถึงเวลาก็ไปแจ้งหลวงพ่อเจ้าคณะใหญ่ท่านว่า "พระรูปนี้ดื้อดึง ไม่เชื่อฟัง ขอให้เปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสใหม่..!"

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่รู้สึกว่า "โชคดีที่กูไม่ไป เพราะว่าถ้ากูไป กูจะเป็นคนแรกที่โดนไล่ออกมา..!" นี่คือลักษณะของการให้ทานที่ขาดอุเบกขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2025 เมื่อ 01:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-05-2025, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,516
ได้ให้อนุโมทนา: 158,311
ได้รับอนุโมทนา 4,484,553 ครั้ง ใน 36,125 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมหลายท่านถวายสิ่งของให้กับทางวัด แล้วก็ตามไปเช็ค ตามไปตรวจสอบว่า พระท่านได้ฉันได้ใช้สิ่งที่ตนเองถวายไปหรือเปล่า ? แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองก็โดน ประมาณว่าผ่านไปหลายปี มาถามว่า "ของชนิดนั้นท่านยังใช้อยู่หรือเปล่า ?" พอดีกระผม/อาตมภาพไม่ใช่คนที่รักษากำลังใจคน ก็เลยบอกไปตรง ๆ ว่า "ให้คนอื่นไปนานแล้ว" ส่วนเขาจะโกรธหรือไม่โกรธ จะมาทำบุญอีกหรือไม่มา นั่นเป็นเรื่องของเขา..!

แม้แต่เรื่องของรถยนต์ที่มีญาติโยมปวารณาถวาย ข้อแรกที่กระผม/อาตมภาพขอกับผู้ถวายเลยก็คือ "ถ้าให้คนอื่นแล้วห้ามโกรธกัน" ดังนั้น..อาตมาก็เลยถวายรถให้กับวัดอื่นไปจนถึงปัจจุบันนี้ ๘ คันเข้าไปแล้ว..! ตัวเองเหลือเอาไว้คันเดียวแค่ที่ใช้งาน ของดีเกินไปประมาณรถเบ๊นซ์ บางท่านปวารณาถวาย กระผม/อาตมภาพบอกคืนเดี๋ยวนั้นเลย เนื่องเพราะว่าเถ้าแก่ใหญ่ท่านนั้น จะถวายรถเบ๊นซ์ S 500 กระผม/อาตมภาพถามว่ากินน้ำมันเท่าไร ? เถ้าแก่ตอบว่า "๓ กิโล/ลิตร" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "เอากลับไปเดี๋ยวนี้เลย อาตมาเลี้ยงไม่ไหว..!"

ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ถ้าไม่คุยกันให้รู้เรื่อง บรรดาญาติโยมที่ขาดอุเบกขาในทานก็จะไปรบกวนพระอยู่เสมอ ไปตามจิก ตามกัด ตามคุ้ย ตามแคะว่า ข้าวของที่ตนเองถวายไปเมื่อชาติที่แล้วยังอยู่หรือเปล่า ? อาตมภาพรำคาญ ดังนั้น..บางคนให้มาต่อหน้า ก็ส่งต่อให้คนอื่นไปเดี๋ยวนั้นเลย..! ฝึกให้เขาทำใจเสียบ้าง

หลายต่อหลายท่านที่เคยไปถวายข้าวของถึงกุฏิ ท่านก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่บรรดาแม่ชีที่ไปทำความสะอาดกุฏิจะบ่นอยู่เสมอ เพราะว่าของถวายอยู่ตรงไหนก็กองอยู่ตรงนั้น หลายอย่างก็เน่าเสียหายหมด..! เมื่อแม่ชีบ่นมาก ๆ กระผม/อาตมภาพก็บอกว่า "ก็รับไว้ให้แล้ว บุญเขาได้แล้ว ส่วนเราจะกินจะใช้หรือไม่อยู่ที่เรา" แล้วอะไรที่อาตมภาพไม่ได้เป็นคนหามาเอง จะไม่จดจำอยู่ในหัวเลย

ดังนั้น..การทำความสะอาดกุฏิแต่ละครั้ง
กระผม/อาตมภาพจะรู้สึกดีใจมาก เพราะได้เงินหลายหมื่นบาททุกครั้ง..! เนื่องจากว่าปัจจัยที่รับมาจากการออกกิจนิมนต์ กระผม/อาตมภาพก็โยนกองเอาไว้แถวนั้นแหละ..! จนกว่าจะมีคนมาคุ้ยแคะแกะเกาให้ ค่อยเอามาลงบัญชีกันทีหนึ่ง รู้สึกรวยอยู่เหมือนกัน เพราะว่าถ้าได้มา ๑๐๐ บาท ๕๐๐ บาท หรือ ๑,๐๐๐ บาท ก็ไม่รู้สึกว่าเยอะ แต่ว่าถ้าได้มาหลายหมื่นบาทก็รู้สึกว่ามาก..!

ดังนั้น..สิ่งที่ญาติโยมทั้งหลายถวายอาตมภาพมา ขอให้วางอุเบกขาแต่เนิ่น ๆ นอกจากตัวเองจะให้คนอื่นโดยวางอุเบกขาแล้ว ของที่รับจากคนอื่นก็ต้องทำใจอุเบกขาเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นแล้ว ถ้าของแค่นี้ยังคาใจของเราอยู่ ถึงเวลาเกิดแรงกระทบ ไปไม่พอใจหรือว่าโกรธพระภิกษุสามเณร เท่ากับว่าท่านหาเรื่องลงนรกเอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2025 เมื่อ 13:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว