กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-02-2025, 17:24
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

วันพุธที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-02-2025, 23:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ จากที่ได้นัดเอาไว้ว่าจะเดินทางตอนตี ๓ ครึ่ง ปรากฏว่ากระผม/อาตมภาพนอนหมดสภาพ จนกระทั่งน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) มาเรียกถึงจะตื่น เพราะว่าฉันยาลงไปหลังจากมาลาเรียลงกระเพาะแล้วก็หมดสภาพ..!

รีบลุกขึ้นมาทำการตรวจแก้ไขบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ซึ่งเผือกน้อย (นายเฉลิมเดช รุจิราวรรณ) เป็นผู้ถอดเสียงมาเป็นอักษร และแม่ชีกุ๋ย (อุบาสิกาอุษณี วงศ์ไตรรัตน์) เป็นผู้นำลงในเว็บไซต์วัดท่าขนุน ซึ่งต้องมีคำผิดให้แก้เป็นประจำ บางวันรีบ ๆ ก็เลยข้ามไป จนกระทั่งมีผู้มาชี้จุดผิดให้ ดังนั้น..งานประจำที่ต้องทำก็ต้องทำให้เสร็จเสียก่อน

หลังจากนั้นจึงได้เก็บข้าวของขึ้นรถ ไปล้างหน้าแต่งตัว ให้น้องเล็กพาวิ่งฝ่าความมืดและรถติด ไปถึงวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ตอน ๖ โมงครึ่งโดยประมาณ ร่วมทำวัตรเช้ากับผู้ที่เข้ารับการอบรมบาลีก่อนสอบ ซึ่งมีหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม - พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) นำทำวัตรเช้าอยู่ เมื่อเสร็จจากทำวัตรแล้ว ท่านให้โอวาทว่า ถ้าท่านอยู่วัด ก็จะมานำทำวัตรทุกวัน วันไหนที่อยู่วัดแล้วไม่ได้มานำทำวัตร ก็ให้ทุกคนรู้ว่าท่านป่วย..!

กระผม/อาตมภาพจึงมาคิดถึงตนเองว่า ผู้บังคับบัญชาท่านทำงานด้วยชีวิต เราเองก็ทำงานด้วยชีวิต แม้กระทั่งพลขับก็คือน้องเล็ก ก็ทำงานด้วยชีวิต เมื่อน้องเล็กเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา กระผม/อาตมภาพจึงได้บอกว่า "พวกเราเป็นประเภทม้าอาชาไนย มีแต่ตายคาสนามรบ จึงจะเป็นเกียรติเป็นศรีของตนเอง โอกาสที่จะได้ตายสบาย ๆ อยู่บนเตียงน่าจะไม่มีสำหรับพวกเรา..!"

ญาติโยมทั้งหลายที่เห็นว่าช่วง ๒ วันนี้ กระผม/อาตมภาพป่วยหนัก อุตส่าห์วิตกทุกข์ร้อนแทน ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า "จะวิตกทุกข์ร้อนไปทำอะไร ?" ก็ในเมื่อเจ้าตัวยังไม่รู้สึกว่าตัวเองลำบาก เพราะว่าทำงานแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น ถ้าหากว่ามีมากกว่าวันนี้ ก็ต้องทนทำต่อไป แต่ว่าไม่ไปคิดถึง เพียงแต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่านั้น

เมื่อจบจากโอวาท กระผม/อาตมภาพก็ได้ถวายปัจจัยสนับสนุนงาน แด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณแย้มจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เนื่องเพราะว่าการอบรมบาลีก่อนสอบนั้น ทั้งผู้เข้ารับการอบรมและพระวิทยากร ตลอดจนกระทั่งผู้บังคับบัญชาที่มาเยี่ยมเยียน แต่ละวันบางทีก็ทะลุไปถึง ๕๐๐ รูป/คน..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ค่าภัตตาหารในแต่ละวัน ก็คือภัตตาหารเช้า ภัตตาหารเพล ตลอดจนกระทั่งน้ำปานะ วันหนึ่งก็เป็นแสนบาท กระผม/อาตมภาพถวายไป ๒๐๐,๐๐๐ บาทก็อยู่ได้แค่ ๒ วันเท่านั้น ที่เหลืออีก ๑๓ วันต้องอาศัยคณะสงฆ์ช่วยเหลือกัน หลวงพ่อเจ้าคุณแย้มท่านปรารภว่า "เมื่อคืนมีคนให้มา ๕๐,๐๐๐ บาท ลืมไปแล้วว่าเป็นใคร ให้ไปถามกับเจ้าคุณอ๋อก็แล้วกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2025 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-02-2025, 23:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระวชิรปัญญาภรณ์, ดร. หรือว่าท่านเจ้าคุณอ๋อ เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ นั้น ต้องบอกว่ากระผม/อาตมภาพแทบจะปั้นมาด้วยมือตนเอง ก็คือท่านเป็นลูกศิษย์เรียนปริญญาตรี ปริญญาโทมากับกระผม/อาตมภาพ ซึ่งตอนนั้นเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าวิทยาลัยสงฆ์วัดไร่ขิงนั่นเอง

เมื่อกระผม/อาตมภาพลาออกจากวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี เพื่อไปเป็นประธานโครงการจัดหาทุนสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ท่านก็ไปเรียนต่อจนจบปริญญาเอก แล้วก็ต้องมารับภาระงานอันหนักหนาสาหัส ทำท่าจะเครียดตั้งแต่อายุกาลพรรษายังไม่ถึง ๔๐ ดี กระผม/อาตมภาพจึงไม่ไปรบกวน หากแต่ว่าไปฉันเช้าร่วมกับพรรคพวกเพื่อนฝูงท่านอื่น ๆ

หลังจากนั้นก็มาฟังผู้บังคับบัญชาในคณะปกครองบรรยายถวายความรู้และให้กำลังใจแก่บุคคลที่เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย

พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์ - พระธรรมวชิรเจติยาจารย์ (ชัยวัฒน์ ปญฺญาสิริ ป.ธ. ๙) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔

พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

พระเดชพระคุณพระราชวชิรสุตาภรณ์ (พนม รตนาโภ - หลวงพ่อเจ้าคุณแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม

พระเดชพระคุณพระราชวัชรสาครคณี (ดิเรก ปิติทานนฺโท - หลวงพ่อเจ้าคุณดิเรก) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร

และท้ายสุดก็คือเพื่อนซี้กัน ท่านเจ้าคุณประไพ - พระสุพรรณวชิราภรณ์, ดร. (ประไพ ปุญฺญกาโม ป.ธ. ๓) เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2025 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-02-2025, 00:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจดจำสิ่งที่ท่านทั้งหลายพยายามตอกย้ำว่า ให้ทุกคนมีวิชชาจะระณะสัมปันโน ก็คือต้องมีความรู้คู่คุณธรรม หรือว่า ความรู้ดี - ความประพฤติดี โดยเฉพาะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์นั้น ท่านยืนบรรยายอยู่เกือบชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่อายุ ๘๐ กว่าปีแล้ว จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพต้องไปประคองท่านกลับที่นั่ง เนื่องเพราะว่าผู้ชราเมื่อยืนนาน ๆ แล้วขาจะแข็ง ถ้าไม่มีคนรู้ใจไปให้เกาะ อาจจะล้มตอนหมุนตัวก็ได้..!

หลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์ท่านบรรยายหลายเรื่อง แต่บอกว่านักศึกษาบาลีของเรานั้น การเรียนรู้จะประสบความสำเร็จ ก็ต้องประกอบไปด้วย ๔ สิ่ง ถ้าขาด ๔ อย่างนี้เมื่อไร ท่านทั้งหลายต่อให้เรียนจนจบประโยค ๙ ก็ไม่แน่ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต

ก็คือประการที่ ๑ บุคลิกดี ซึ่งคำว่าบุคลิกดีนี้ ในสมัยหนึ่งมีวัดดังบางวัด ถึงขนาดกำหนดว่า ถ้าพระภิกษุสามเณรหน้าตาไม่ดี จะไม่รับเข้าสังกัด ซึ่งในยุคนั้นสมัยนั้นทุกคนก็ร่ำลือกันว่า วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ วัดนั้น มีแต่พระภิกษุสามเณรหล่อ ๆ ทั้งสิ้น แล้วก็มีตัวอย่างของท่านเจ้าคุณพระอุดมปิฎก (สอน พุทฺธสโร) หรือหลวงพ่อเจ้าคุณสอนที่ไม่ได้สอบบาลี เนื่องเพราะว่าในสายตาผู้อื่นก็คือท่านหน้าตาขี้เหร่ แต่เมื่อถึงเวลามีผู้รับรองให้เข้าสอบ ซึ่งในยุคนั้นเป็นการสอบปากเปล่า ท่านเจ้าคุณสอนสามารถสอบรวดเดียวได้ทั้ง ๙ ประโยคเลย ดังนั้น..ถ้าหากว่าอันดับแรก มีบุคลิกดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

ประการที่ ๒ มีคุณ คำว่ามีคุณในที่นี้ก็คือมีคุณธรรมความดีงามประจำตัว ประมาณว่ารู้ละอายชั่วกลัวบาป ต่อหน้าและลับหลังไม่กล้าทำบาปเหมือนกัน หรือว่าเรามีคุณธรรมความดีอื่น ๆ เป็นเครื่องประกอบไปด้วย ก็จะเสริมให้ชีวิตของเรามีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ประการที่ ๓ มีความรู้ เมื่อเรียนแล้วต้องรู้จริง และนำไปบอกกล่าวให้ผู้อื่นรู้ตามได้ด้วย ไม่ใช่มีความรู้แต่ไม่สามารถที่จะแสดงออกให้คนอื่นเห็นได้ ว่าเราเป็นผู้มีความรู้ ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าท่านเรียนรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีโอกาสที่จะได้แสดงออกให้คนอื่นเห็นว่า ความรู้ความสามารถของเราเป็นอย่างไร ก็จะไม่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา

ประการสุดท้าย ต้องมีความอดทน ซึ่งพอกระผม/อาตมภาพได้ยินข้อนี้ก็ไปนึกถึงหลวงปู่ทอง - พระพรหมมงคล วิ. (ทอง สิริมงฺคโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง วรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ครูบาอาจารย์ใหญ่ของสายปฏิบัติธรรมภาคเหนือ

หลวงปู่ทองท่านบอกว่า อดได้ ทนได้ เย็นได้ คอยได้ ดีได้ ก็แปลว่าเราต้องมีความอดทนตั้งแต่การศึกษาเล่าเรียน มีความอดทนต่อหน้าที่การงานที่ผู้บังคับบัญชารับผิดชอบได้ มีความอดทนต่อสิ่งดีและไม่ดีที่เกิดขึ้นในชีวิต สิ่งที่ดีเกิดขึ้น ก็อย่าตื่นเต้น เฟื่องฟู และประมาทหลงระเริง สิ่งที่ชั่วชั่วเกิดขึ้น ก็ต้องไม่เสียอาการ รู้จักนิ่ง ระงับยับยั้ง เก็บเอาไว้ภายใน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2025 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-02-2025, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าใครมีคุณสมบัติครบทั้ง ๔ ข้อ คือ บุคลิกดี มีคุณ มีความรู้ มีความอดทน ก็จะทำให้การศึกษาบาลีของท่านก็ดี การศึกษาอย่างอื่น ๆ ก็ตาม ประสบความสำเร็จตามที่ได้มุ่งมาดปรารถนาเอาไว้

ท่านอื่น ๆ ที่ออกมาให้โอวาทก็อยู่ในแนวเดียวกันว่า ให้ทุกท่านพากเพียรพยายาม เนื่องเพราะว่าการเรียนบาลีในปัจจุบันนี้ อยู่ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสนับสนุนการเรียนบาลีอย่างเต็มที่ เราท่านทั้งหลายต้องไม่ทำให้พระองค์ท่านผิดหวัง

ถ้าทุ่มเทกับการเรียนบาลี เราจะไม่มีเวลาที่ไปคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วเลย เนื่องเพราะว่าบาลีนั้น ถ้าขาดความสนใจแม้แต่นาทีเดียว ครูบาอาจารย์อาจจะก้าวเลยจุดนั้นไป แล้วเราต่อไม่ติดก็ได้ จากนั้นก็ได้อำนวยอวยพรให้กับทุกคนประสบความสำเร็จ

พอดีกับพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เดินทางมาถึง ท่านจึงได้จุดธูปเทียนนำบูชาพระรัตนตรัย ให้โอวาทและอำนวยอวยพรแก่ผู้เข้าสอบทุกคนเช่นกัน

เมื่อนายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และนายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าถวายเครื่องไทยธรรม กระผม/อาตมภาพก็ลากลับ เพราะว่าต้องไปให้หมอช่วยดูเสียหน่อยว่า ตนเองที่เจ็บไข้ได้ป่วยนั้น จะต้องรับยาอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?

แล้วก็ต้องมาวุ่นวายกับการทำหนังสือต่าง ๆ เพื่อขอความอนุเคราะห์สารพัดหน่วยงาน มาช่วยจัดนิทรรศการหรือว่าออกบูธแสดงสินค้าของตน ในงานทำบุญประจำปีปิดทองรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน และทำบุญอุทิศอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่าน ซึ่งใกล้จะมาถึงในไม่กี่วันนี้แล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2025 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:55



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว