กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-01-2025, 18:55
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-01-2025, 23:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เมื่อคืนกระผม/อาตมภาพกลับถึงที่พักวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เกือบ ๔ ทุ่ม เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ระยะนี้ถนนหนทางแทบจะทั่วประเทศไทย มีการซ่อมการสร้างจนไม่ทราบว่าจะเลี่ยงไปทางไหน ทำให้การเดินทางล่าช้าลง แต่ก็เป็นความดีอย่างหนึ่ง ก็คือทำให้อุบัติเหตุน้อยลง เพราะว่าใช้ความเร็วไม่ได้..!

เมื่อมาถึงที่พัก เลยเวลานอนไปแล้ว จึงได้ทำงานไปเรื่อยเปื่อยเหมือนเดิม ครั้นพอถึงตี ๕ ก็ออกเดินทางตรงไปยังวัดองสิต ตำบลนาสวน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเยี่ยมพรรคพวกเพื่อนฝูง ก็คือหลวงพ่อสุดใจ (พระครูสุนทรกาญจนธรรม) เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ อดีตเจ้าคณะตำบลนาสวนเขต ๑ ซึ่งท่านต้องตัดขาซ้ายเนื่องเพราะเบาหวานกำเริบ..! ปัจจุบันนี้จึงต้องพ้นจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบล ลงมาเหลืออยู่แค่เจ้าอาวาสเท่านั้น

กระผม/อาตมภาพนำเอากระเช้าปีใหม่ เครื่องกันหนาวครบชุด และปัจจัยช่วยค่ารักษาพยาบาลไปถวายให้กับท่าน ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่ต้องกังวล เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อสุดใจท่านเป็นพระกรรมฐาน เพียงแต่ว่าต่อให้กรรมฐานดีขนาดไหนก็ตาม ถ้ามีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาเยี่ยมยามถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ก็ย่อมจะเกิดความรู้สึกที่ดีขึ้น

ปรากฏว่าในวัดองสิตนั้น มีหมาใหญ่หมาน้อยเกือบ ๆ ๕๐ ตัว กระผม/อาตมภาพขนเอาขนมทุกชนิดในรถไปเลี้ยงก็ยังไม่พอ หลวงพ่อสุดใจท่านบอกว่า ชาวบ้านเขามาเอาปล่อยทิ้งบ้าง หนีจากบ้านมาอยู่วัดเองบ้าง มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงถือคติว่า "ถ้าข้ามีกิน เอ็งก็มีกิน ถ้าข้าอด เอ็งก็อดด้วย" ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงทำให้กลายเป็นหมาที่กินไม่เลือก เนื่องเพราะว่าอดมากกว่าอิ่ม กระผม/อาตมภาพตั้งใจไว้ว่า ครั้งหน้าถ้าไปอีก คงต้องหอบอาหารชนิดเม็ดไปเป็นกระสอบ อย่างน้อย ๆ ให้ได้กินอิ่มสักมื้อสักคราวก็ยังดี

มานึกถึงหมาในวัดท่าขนุน ต้องถือว่าเจ้าพวกนี้เกิดถูกที่ กระผม/อาตมภาพจ่ายเฉพาะค่ารักษาเดือนหนึ่งเป็นหมื่น ๆ บาท บางตัวโดนรถยนต์ทับมา เสียค่าผ่าตัด ค่ารักษาตัวเดียวหลายหมื่นบาท ต้องบอกว่าแม้จะเกิดเป็นหมาก็ยังมีบุญมีกรรมที่ต่างกันไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-01-2025 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-01-2025, 00:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของหลวงพ่อสุดใจแล้ว ก็ลาท่านเดินทางกลับ การเดินทางจะข้ามไปฝั่งองสิตนาสวน ต้องข้ามแพขนานยนต์ ซึ่งทางกำนันลา พันธุ์พรหมา สั่งความลูกน้องเอาไว้ว่า "ถ้าเป็นรถพระไม่ต้องเก็บเงิน" ก็ต้องเจริญพรขอบคุณท่านผู้ยิ่งใหญ่ประจำถิ่น เป็นกำนันผูกขาดเสียจนกระทั่งเกษียณอายุไปเอง สร้างคุณงามความดีให้กับท้องถิ่นเอาไว้มาก จนกระทั่งบรรดานักการเมืองถ้าต้องการเสียงในบริเวณนั้น ล้วนจะต้องไปหาพ่อกำนันกันทั้งนั้น

ถ้าหากว่าไม่รู้จังหวะแพขนานยนต์เข้าออก เมื่อเราไปถึงแพเพิ่งจะออกเดินทาง ก็ต้องรอกันเป็นระยะเวลานานอยู่ทีเดียว กระผม/อาตมภาพข้ามฝั่งมาฉันเพลที่บริเวณจุดพักรถ ใกล้เคียงปากทางเข้าเขื่อนศรีนครินทร์ แล้วก็เดินทางกลับวัดท่าขนุน

เนื่องเพราะว่าวันนี้มีนัดสำคัญ เพราะว่าเด็ก ๆ จากชุมนุมนาฏศิลป์ โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ไปเข้าประกวดรำวงมาตรฐานและนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ คว้ารางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในระดับชั้นมัธยมปีที่ ๑ - ๓ มาทั้ง ๒ ถ้วย ส่วนระดับชั้นมัธยม ๔ - ๖ ก็ได้รองชนะเลิศอันดับ ๑ กลับมา แล้วก็ยังมีบรรดาการแข่งขันในสไตล์สมัยใหม่ ที่เรียกว่า VRU Dancercise อยู่ด้วย

ในเมื่อต่างคนต่างได้รางวัลกันมา จนเป็นธรรมเนียมที่กระผม/อาตมภาพจะเพิ่มรางวัลพิเศษไปให้ เพื่อเป็นกำลังใจให้เด็ก ๆ ทั้งหลายได้รู้ว่า สิ่งที่ตัวเองเหนื่อยยากฝึกซ้อมมา แล้วมีบางคนบอกว่าเป็น "ไดโนเสาร์เต่าพันปี" นั้น สามารถทำให้ตนเองมีรายได้แบบนึกไม่ถึง โดยเฉพาะเด็กบางคนซึ่งลงแข่งขันทั้งรำวงมาตรฐานและนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ ต้องวนเข้ามารับถึง ๒ รอบ ๓ รอบด้วยกัน พูดง่าย ๆ ว่ารับเงินทีหนึ่ง สามารถใช้กันได้เป็นเดือน ๆ

กระผม/อาตมภาพเองถือว่าการให้กำลังใจเด็ก ๆ และคณะครูอาจารย์เป็นสิ่งที่เราต้องทำ
สนับสนุนให้เขาฝึกฝนอบรมแล้ว ยังต้องหาเวทีให้เขาแสดงออก มีเวทีให้เขาแสดงออกแล้ว ยังต้องมีรางวัลช่วยเสริมสร้างกำลังใจให้ด้วย คณะครูอาจารย์และเด็ก ๆ มาถึงก่อนเวลานัดเกือบ ๒๐ นาที ต้องถือว่ารู้เวลาดีมาก เมื่อรับฟังโอวาทและรับรางวัลพิเศษแล้ว ก็ไปหามุมถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย

น่าเสียดายที่ว่างานฉลองโรงเรียนรางวัลพระราชทานผ่านพ้นไปแล้ว เด็ก ๆ ๔ ชุดนี้ถึงไปได้รางวัลถ้วยพระราชทานเพิ่มขึ้นมา ไม่อย่างนั้นในงานฉลองโรงเรียนรางวัลพระราชทาน ก็จะมีถ้วยพระราชทานเพิ่มเติมเข้ามาอีก จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพเกรงว่า ต่อไปเรื่องพวกนี้ถ้าเอ่ยถึงเด็กทองผาภูมิ ทางผู้จัดงานเขาจะยอมให้ลงแข่งขันด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ?! เนื่องเพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา เคยลงแข่ง ๓ รายการ ได้รางวัลถ้วยพระราชทาน ๒ รายการ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ หนึ่งรายการ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-01-2025 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-01-2025, 00:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพยังบอกกับเด็ก ๆ ว่า อาจจะเป็นเพราะว่าเราได้มากแล้ว เขาก็เลยต้องแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง แต่เราต้องมองว่าเรายังไม่ดีพอ ต้องตั้งใจขยันหมั่นฝึกซ้อมมากกว่านี้อีก พูดง่าย ๆ ก็คือใช้หลักธรรมในอิทธิบาท ๔ เมื่อเรามีฉันทะ พอใจที่จะทำอย่างนี้แล้ว ก็ต้องวิริยะ พากเพียรทำไปจนถึงที่สุด มีจิตตะ กำลังใจปักมั่นจดจ่อ ไม่คลอนคลายไปไหน และมีวิมังสา ไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า สิ่งที่เราทำนั้นดีพอแล้วหรือยัง ? ยังมีอะไรที่เราต้องเสริมสร้างให้ดีขึ้นไปยิ่งกว่านี้อีก ?!

เมื่อก้าวไปถึงระดับรางวัลถ้วยพระราชทานแล้ว กลายเป็นขึ้นสู่ที่สูง ก็ต้องรักษาระดับของตนเอาไว้ให้ได้ การขึ้นที่สูงไม่ถือว่ายาก สิ่งที่ยากก็คือรักษามาตรฐาน รักษาระดับเอาไว้ ทำให้เรามีภาระที่จะต้องเหนื่อยยาก ในการที่จะรักษาระดับของตน ต้องขยันหมั่นฝึกซ้อมให้รู้จริง แล้วสามารถบอกต่อสอนต่อคนอื่นเขาได้ด้วย เพื่อที่จะได้สร้างบุคคลรุ่นใหม่ ๆ สืบทอดกันเอาไว้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าพวกเราไม่ว่าจะเป็นคณะครูอาจารย์และนักเรียน ขาดหลักธรรมในอิทธิบาททั้ง ๔ ในเมื่อเรามีหลักธรรมเป็นเครื่องนำชัยให้แก่ตนเองแล้ว ส่วนที่เหลือก็ต้องเพียรพยายามที่จะต่อสู้กันต่อไป

รางวัลถ้วยพระราชทานถือว่าเป็นเกียรติยศทั้งส่วนตัวและของโรงเรียน สิ่งนั้นไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง เป้าหมายที่แท้จริงของเราก็คือ ทำอย่างไรที่จะให้รุ่นน้องสนใจ แล้วก็มาเข้ารับการฝึกสอนอบรมต่อเนื่องไปโดยไม่ขาดช่วงลง เราจึงสามารถที่จะรักษามาตรฐานระดับนี้เอาไว้ได้ เนื่องเพราะว่าถ้าไม่มีคนสืบทอด ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีงามสูงส่งขนาดไหนก็ตาม ท้ายที่สุดก็จะจมหายไปกับกาลเวลา อย่างดีก็เป็นประวัติศาสตร์ให้คนได้กล่าวถึงเป็นครั้งเป็นคราวเท่านั้น

เมื่อมอบรางวัลให้กับเด็ก ๆ แล้ว กระผม/อาตมภาพเองยังต้องไปไล่ตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ที่ส่งเข้ามาในช่วงเดินทางขึ้นไปเชียงใหม่ - เชียงราย ส่วนไหนที่รีบด่วนก็ต้องเร่งจัดการให้เสร็จสรรพเรียบร้อย ส่วนไหนที่รอเวลาได้ ก็เอาไว้คืนนี้หรือว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยกระทำกันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-01-2025 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว