กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-12-2024, 19:07
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-12-2024, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ มหาเถรสมาคมมีมติให้แต่งตั้งพระครูวิลาศกาญจนธรรม เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี จะว่าไปแล้วก็เป็นตำแหน่งที่ใหญ่โตมาก แต่กระผม/อาตมภาพขอลดลงมาเอง เพราะว่าในเบื้องต้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านจะให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ นั่นก็ใหญ่เกิน..เดี๋ยวชีวิตจะอยู่ยาก..!

สำหรับวันนี้เรามีพระเถระมาพักอยู่ด้วย ก็คือหลวงพ่อพระมหาเจริญ จิรวุฑฺโฒ ป.ธ. ๘ เจ้าคณะอำเภอบ้านบึง เจ้าอาวาสวัดพยอม จังหวัดชลบุรี ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์รุ่นเดียวกัน ซึ่งจะมีการประชุมองค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ ๒ ของปี

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พระผู้ใหญ่เจ้าคณะปกครองท่านชื่นชมกันมาก เพราะว่ามาถึงปัจจุบันนี้ มีการอบรมพระอุปัชฌาย์ไปแล้ว ๕๐ กว่ารุ่น ถ้าหากว่าไม่ได้ติดในส่วนของช่วงเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด ก็น่าจะไปถึง ๕๘ หรือ ๕๙ รุ่นแล้ว แต่มาถึงปัจจุบันนี้ยังมีแค่ ๕๖ รุ่น มีรุ่นที่ ๕๑ ที่กระผม/อาตมภาพเป็นประธานรุ่นมา ๓ สมัยแล้ว ที่สามารถจัดตั้งเป็นองค์กรแล้วมีกิจกรรมต่อเนื่องกันทุกปี รุ่นอื่นเขาอยากจะเลียนแบบบ้าง แต่ตั้งขึ้นมาแล้วไม่มีกิจกรรมใด ๆ ลอยอยู่เฉย ๆ..!

รุ่นที่ ๕๑ ของเราจะมีการประชุมสามัญปีละ ๒ ครั้ง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ครั้งแรกของปี ๒๕๖๗ ประชุมที่วัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) จังหวัดระยอง โดยมีหลวงพ่อเจ้าคุณเชาวลิตร - พระวชิรปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกุโร) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) เป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ ๒ คือครั้งนี้ วัดท่าขนุนเป็นเจ้าภาพ

แล้วเรายังมีกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ปีละ ๑ ครั้ง ก็คือรวบรวมปัจจัยกันทำในสิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์ อย่างครั้งที่แล้วก็ช่วยกันสร้างเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลระยอง มีการช่วยเหลือกันในกลุ่มพระอุปัชฌาย์ อย่างเช่นว่าวัดไหนโดนน้ำท่วม ไฟไหม้ ก็ไปช่วยเหลือกัน หรือว่ามรณภาพ ก็ไปช่วยเป็นเจ้าภาพงานศพให้ หรือว่าพ่อแม่ของพระอุปัชฌาย์เสียชีวิต ก็ไปร่วมเป็นเจ้าภาพงานศพให้ เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2024 เมื่อ 01:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-12-2024, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทุกท่านต้องไม่ลืมว่า พระอุปัชฌาย์คือพ่อผู้ให้กำเนิดพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนา เขามีกฎเกณฑ์ง่าย ๆ ว่า ถ้าจะเรียก "หลวงพ่อ" ก็คืออย่างน้อยต้องเป็นพระมหาเถระ ๒๐ พรรษาขึ้นไปประการหนึ่ง ส่วนที่เรียก "หลวงพ่อ" ได้เต็มปากเต็มคำก็คือเป็นพระอุปัชฌาย์ เพราะว่าเป็นพ่อของพระภิกษุสามเณรที่ท่านบวชจริง ๆ อีกประการหนึ่ง ในส่วนอื่นถ้าเรียกว่า "หลวงพ่อ" ก็ประดักประเดิด เนื่องเพราะว่าไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดพระภิกษุสามเณร

แต่คราวนี้ในทางโลกนั้น การให้กำเนิดนั้นไม่ยาก การเลี้ยงดูให้ดีกลับเป็นเรื่องยาก ในทางธรรมนั้น การให้การบรรพชาอุปสมบทก็ไม่ใช่เรื่องยาก ยากตรงที่ว่าทำอย่างไรเราจะควบคุมพระภิกษุสามเณรของเราให้อยู่ในกรอบของศีลของธรรมได้ ? จะได้ไม่ไปปีนเสา ไม่ไปขู่วางมวยกับผู้ตื่นธรรม เหล่านี้เป็นต้น

ถ้าไปนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ สมัยนั้นถ้าหากว่าท่านบวชให้ใครแล้วออกนอกลู่นอกทาง ท่านจับสึกหมด..! สามเณรขาดทำวัตรครั้งแรกให้อภัย ครั้งที่ ๒ ภาคทัณฑ์ ครั้งที่ ๓ ท่านสั่งเลย "เณร..ไปเอาเสื้อผ้ามา สึกวันนี้เลย..!" เคยมีพระลูกศิษย์ของท่านหนีไปอยู่ถึงจังหวัดอ่างทอง ซึ่งสมัยนั้นการเดินทางไม่ใช่ใกล้ ๆ หลวงปู่ท่านก็ตามไปสึกลูกศิษย์ท่านที่จังหวัดอ่างทอง..! พูดง่าย ๆ ว่า
ถ้าทำผิดจะไม่เก็บเอาให้มัวหมองต่อพระพุทธศาสนา

อย่างวันนี้มีเพื่อนฝูงส่งคลิปมา มีหลวงตาสิ้นคิดฝากถึงหลวงพี่น้ำฝน ก็คือพระสินทรัพย์ จรณธมฺโม ฝากถึงพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หัวหน้าพระวินยาธิการคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ว่า ท่านปีนเสาจะต้องสึกตามกฎหมาย เพราะเป็นพระเร่ร่อนไม่มีสังกัด หลวงตาท่านบอกว่าให้มองในมุมที่ว่า ไม่ใช่ว่าท่านไม่อยากสังกัด แต่ท่านหาสังกัดไม่ได้ ก็เลยขอร้องให้หลวงพี่น้ำฝนรับเข้าสังกัดวัดไผ่ล้อมก่อน
กระผม/อาตมภาพก็สงสัยว่า "ทำไมหลวงตาไม่รับเข้าวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ไปเลย ?" ท่านบอกว่า "ถ้าหากว่าเขาฝืนคำสั่งเจ้าอาวาส คราวนี้ความผิดชัดเจน แล้วค่อยจับสึก"

เสียดายกระผม/อาตมภาพไม่ได้อยู่ใกล้ ไม่อย่างนั้นอยากจะบอกกับท่านว่า "ไอ้ท่านปีนเสาฝืนคำสั่งเจ้าอาวาสมา ๕ วัดแล้ว เขาถึงได้ขับออกจากสังกัด..!" ไล่ตั้งแต่วัดปุรณาวาส วัดตะล่อม วัดไทรม้า ไปโน่น...วัดโพทะเล จังหวัดพิจิตร ล่าสุดก็มาวัดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี อยู่ไม่ได้สักที่เพราะว่าไม่ฟังเจ้าอาวาส บางทีหลวงตาท่านก็ได้ข่าวไม่ครบถ้วน

ในเมื่อรับข่าวด้านเดียวแต่มีความเมตตาอยากจะช่วยเหลือ กระผม/อาตมภาพก็เห็นว่าท่านเป็นผู้มีความเมตตา เพราะฉะนั้น..ก็รับเข้าวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ไปเลย ถ้าหากว่าท่านทำผิดแล้วค่อยไปสึกหาลาเพศกัน แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าหลวงตาท่านจะเห็นตามที่กระผม/อาตมภาพถวายคำแนะนำนี้หรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2024 เมื่อ 01:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 10-12-2024, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของคณะสงฆ์เรา อันดับแรกเลย..พระอุปัชฌาย์ อันดับที่ ๒ เจ้าอาวาส อันดับที่ ๓ พระอาจารย์คู่สวด ถ้า ๓ อันดับนี้เข้มงวดกวดขัน พระเณรออกนอกคอกได้ยากมาก เพราะว่าพระอุปัชฌาย์มีหน้าที่ดูแลสอดส่องสัทธิวิหาริกที่ตนเองบวชให้ ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุหรือว่าสามเณร

เจ้าอาวาสมีหน้าที่รับคนเข้า เอาคนออก ดูแลกิจการงานพุทธศาสนาทุกอย่างภายในวัดให้เป็นไปด้วยดี อำนวยความสะดวกในการทำบุญแก่ญาติโยมตามสมควร

ส่วนคู่สวด หรือว่าพระอาจารย์พี่เลี้ยง ท่านเป็นอาจารย์ที่ต้องคอยถวายคำแนะนำแก่พระใหม่โดยตรง ๓ รายนี้ ถ้าหากว่าทำหน้าที่ตนเองอย่างเข้มแข็ง โอกาสที่พระภิกษุสามเณรของเราจะนอกคอกนอกทุ่งนอกท่านั้นยากมาก


อย่างของวัดท่าขนุนของเรา ถ้าหากว่าทำผิดก็คือสึก แต่ก็มีพวกที่หนีไปที่อื่น เราก็ไม่ว่ากัน แต่ว่าขึ้นบัญชีดำแล้วแจ้งทางคณะสงฆ์เอาไว้ โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพตั้งแต่ยังเป็นเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ ก็ขอมติในที่ประชุมคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิไว้แล้วว่า "ถ้าหากว่ามีพระภิกษุสามเณรโดนเจ้าอาวาสขับไล่ออกจากวัด หรือว่าโดนเจ้าสำนักขับไล่ออกจากสำนักสงฆ์ แห่งใดแห่งหนึ่งในอำเภอทองผาภูมินี้ วัดและสำนักสงฆ์อื่นห้ามรับเข้าสังกัด"

พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าไม่สึกก็ไปหาที่อยู่ใหม่นอกอำเภอไปเลย ซึ่งทางคณะสงฆ์มีมติรับรองการปฏิบัติตามนี้ ตอนนั้นยังมีอยู่แค่ ๕๑ วัดกับ ๑๙ สำนักสงฆ์ ปัจจุบันนี้มี ๕๓ วัดกับ ๒๓ สำนักสงฆ์ ส่วนที่เกิดใหม่น่าจะยังไม่ทราบถึงมตินี้ จึงมาทบทวนให้ทุกคนฟังกันตรงนี้อีกครั้ง

เมื่อคืนนี้ในรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม ท่านบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติปรารภว่า ท่านต้องการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง มีหน้าที่ชี้แจงเหตุผลผิดถูก ในเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับพระธรรมวินัยและพระพุทธศาสนาต่อสังคมของเรา แต่อยากให้ชี้แจงในนามของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง ๒ แห่ง ก็คือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

ขอยืนยันว่าพูดไม่ผิดนะ มหามกุฏราชวิทยาลัย (มะ-หา-มะ-กุด-ตะ-ราด-ชะ-วิด-ทะ-ยา-ลัย) ออกเสียงอย่างนี้เลย เพราะว่าเป็นพระราชหัตถเลขา ใช้ ฏ.ปฏัก สะกด ปกติคำว่า "มกุฎ" ในปัจจุบันนี้ใช้ ฎ.ชฎา สะกด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2024 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 10-12-2024, 00:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านบอกว่าให้คัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติเข้ามาเป็นคณะกรรมการ ถึงเวลาเกิดอะไรขึ้น ให้คณะกรรมการกลุ่มนี้มีหน้าที่ชี้แจงต่อสังคมและโซเชียลต่าง ๆ อย่างเช่นหลวงพ่อพระครูที่อยู่จังหวัดกาญจนบุรี ท่านเก่งด้านวิปัสสนาธุระ ก็ให้ท่านรับผิดชอบเรื่องการปฏิบัติไป

แล้วก็มีบุคคลเขาบอกว่า "หลวงพ่อพระครูวิลาศกาญจนธรรมอยู่ในรายการนี้ด้วยครับ..!" เล่นเอาท่านรองฯ บุญเชิดสะดุ้งเฮือก ถามว่า "ท่านอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยหรือ ?" พิธีกรบอกว่า "ท่านเป็นขาประจำครับ" ก็คืออาตมภาพเข้าร่วมรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมตั้งแต่ปีแรก ๆ อาทิตย์ละครั้ง แต่ละครั้งจะได้รับวุฒิบัตรผ่านการปฏิบัติธรรมครั้งละ ๓ ชั่วโมงทุกวันอาทิตย์ ปัจจุบันนี้ก็มีวุฒิบัตรอยู่ ๕๐๐ กว่าใบแล้ว..! เดาเอาก็แล้วกันว่าอยู่มานานเท่าไร ?

เรื่องนี้เป็นแนวคิดที่ดีมาก เพียงแต่ว่าในปัจจุบันของเรา บุคคลที่เคยชี้แจงต่อสังคมในด้านต่าง ๆ เท่าที่เห็นอยู่ก็มี พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ ๙) วัดญาณเวศกวัน จังหวัดนครปฐม ตอนที่ท่านยังแข็งแรงกว่านี้ ก็มีการชี้แจงต่อสังคมและออกเป็นหนังสืออีกด้วย ตอนนี้สุขภาพท่านไม่ไหวแล้ว

แล้วก็ยังมีท่านเจ้าคุณอาจารย์ประสาร - พระเทพวัชรสารบัณฑิต, รศ., ดร. (ประสาร จนฺทสาโร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แต่ท่านก็แบกภาระเต็มตัว จนเขาเรียกกันว่า "อธิการบดีน้อย" โอกาสที่จะชี้แจงต่อสังคมเหมือนสมัยก่อนก็น้อยลงไปทุกที แล้วศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยก็โดนยุบไป เพราะท่านเห็นว่าไม่จำเป็นแล้ว เพิ่งจะยุบไปไม่นาน เรื่องต่าง ๆ ก็ประเดประดังกันมาอย่างที่ทุกท่านเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้..!

ถ้าหากว่าท่านรองฯ บุญเชิดปรารภเรื่องนี้ขึ้นมาในที่ประชุมสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็คาดว่าจะได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว แล้วเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนก็คงไม่แคล้วจะต้องเป็น ๑ ในคณะกรรมการชุดนี้ เพราะว่าผู้บริหารในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็นท่านอินทพร จั่นเอี่ยม ตัวผู้อำนวยการใหญ่ก็ดี ท่านสหัส บรรจงเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล แล้วยังมีท่านธีรเดช จันทรัตน์ เลขานุการกรม พูดง่าย ๆ ว่าในระดับผู้
ผู้บริหารในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คุ้นเคยกันเกือบทั้งนั้น ถ้าหากว่าปรารภไป ท่านก็คงจะอนุมัติในเวลาอันรวดเร็ว ก็แปลว่างานจะเพิ่มขึ้นมาอีก..!

แต่เรื่องพวกนี้ยังมาไม่ถึงก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่ากระผม/อาตมภาพทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว เวลามีเรื่องเกิดขึ้นในวงการสงฆ์ พวกท่านทั้งหลายตั้งประเด็นขึ้นมา กระผม/อาตมภาพก็ออกมาชี้แจงจนโดน "ทัวร์ลง" ไปหลายวาระแล้ว แต่ว่าไม่เป็นไร เพราะวัดท่าขนุนมีหน้าวัดกว้างขวาง อนุญาตให้ "ทัวร์ลง" มาจอดได้บ่อย ๆ..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2024 เมื่อ 01:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว