กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 17-11-2024, 17:38
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,920
ได้ให้อนุโมทนา: 225,197
ได้รับอนุโมทนา 800,080 ครั้ง ใน 39,337 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-11-2024, 01:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,218 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงวันอาทิตย์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพนำผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ รุ่นที่ ๘/๒๕๖๗ ภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบตั้งแต่ตอนตีสาม

ความจริงแล้วการภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้นจะเริ่มประมาณ ๘ โมงเช้าทุกครั้ง แต่วันนี้ที่ต้องเริ่มตั้งแต่ตี ๓ ก็เพราะว่าทางแม่กองธรรมสนามหลวง กำหนดให้เป็นวันเปิดการสอบธรรมสนามหลวงชั้นโทและชั้นเอก ประจำปี ๒๕๖๗ ซึ่งถ้าหากว่าไปรอในตอน ๘ โมงเช้า กว่าที่จะภาวนาเสร็จก็ประมาณ ๑๐ โมงเช้า

ถ้าเป็นเช่นนั้นกระผม/อาตมภาพจะไม่สามารถเดินทางไปทันเวลาของการถวายภัตตาหารเพลแก่ผู้เข้าสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอกได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องขออนุญาตในการปรับตารางให้การภาวนาในช่วงเช้ามืดนั้น เป็นการภาวนาพระคาถาเงินล้านไปเลย เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วค่อยออกบิณฑบาตตามปกติ

วันนี้มีโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระ ทุกวันอาทิตย์" ซึ่งมีการแสดงของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนบ้านกุยแหย่ด้วย ซึ่งโรงเรียนต่าง ๆ ในเขตอำเภอทองผาภูมิทั้ง ๓๐ กว่าโรงเรียน จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา เปิดการแสดงให้กับทางชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนตลอดทั้งปี ซึ่งจะมีประมาณเดือนละ ๑ ครั้ง ถ้านับเป็นวันเสาร์กับวันอาทิตย์ก็เท่ากับมีเดือนละ ๒ ครั้ง

สำหรับวันนี้นอกจากผู้ปฏิบัติธรรมแล้ว ก็ยังมีนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากที่รอใส่บาตรยามเช้ากันอยู่ เนื่องเพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ทะเลหมอกของอำเภอทองผาภูมินั้นสวยที่สุด เพราะว่าเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ความชื้นยังมีสูงมาก เมื่อกระทบความเย็นก็กลายเป็นทะเลหมอก ถ้าช่วงสายหน่อย บางทีก็ฟุ้งจนมืดมัวไปทั้งเมือง อย่างที่ภาษาเหนือเรียกว่า "หมอกมุงเมือง" นั่นเอง

ครั้นกลับวัดมา ฉันเช้าเสร็จแล้ว กระผม/อาตมภาพไปจัดการล้างหน้าแปรงฟัน แต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ เปลี่ยนจากห่มคลุมบิณฑบาต มาเป็นห่มดอง พาดสังฆาฏิรัดอกเรียบร้อย เก็บข้าวของบางส่วนขึ้นรถยนต์เตรียมเดินทาง แล้วไปลงศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย เพื่อสนทนาธรรมกับญาติโยม ซึ่งก็เป็นที่เหลือเชื่อว่า ตัวกระผม/อาตมภาพเองนั้น ใช้เวลาทำงานต่าง ๆ ไปเยอะมาก แต่ก็ยังมาถึงก่อนทั้งญาติโยมและพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุน จึงได้บอกกล่าวต่อโยมทั้งหลายว่า นี่คือผลของการปฏิบัติธรรม..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2024 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-11-2024, 01:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,218 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก็คือบุคคลที่ปฏิบัติไปจนกระทั่งมีเป้าหมายชัดเจนแล้วไซร้ ก็จะตัดสิ่งรุงรังรอบข้างออกไปจนหมด ทำอะไรก็จะทำเร็วกว่าคนอื่นเขา และเป็นความเร็วที่ไม่ผิดพลาดด้วย เพราะว่าไม่ขาดสติ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่นักปฏิบัติธรรมทุกท่านควรที่จะตระหนักเอาไว้ ไม่ใช่ว่ายิ่งทำอะไรก็เชื่องช้าอืดอาดอยู่ตลอดเวลา ถ้าอย่างนั้นถือว่ายังไม่สามารถใช้ผลของการปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริงได้

โดยเฉพาะพระภิกษุและญาติโยมส่วนหนึ่งที่มาฝากชีวิตไว้กับเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อย่างเช่นตั้งเป้าเอาไว้ว่า "เราทำผิดศีลแบบนี้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องอาบัติปาราชิก หรือว่าอาบัติสังฆาทิเสสหรือเปล่า ? ขอให้หลวงพ่อช่วยตักเตือนบอกกล่าวด้วย" ถ้าเอ็งพูดออกจากปากก็จบไปแล้ว แต่เอ็งดันอธิษฐานในใจ แล้วเรื่องอะไรที่ครูบาอาจารย์จะไปเดือดร้อนกับการกระทำที่เอ็งรู้อยู่แก่ใจด้วย..?!

อีกพวกหนึ่งก็ญาติโยมทั้งหลายที่ได้ยินชื่อเสียงเกียรติคุณของเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ก็อธิษฐานมาว่า "ถ้าหลวงพ่อวัดท่าขนุนเก่งจริง ถ้าพระอาจารย์เก่งจริง กระผมหรือว่าดิฉัน หรือว่าหนู คิดอะไรอยู่ในใจต้องพูดออกมาได้ สิ่งหนึ่งประการใดที่ทำอยู่จะดีจะร้าย จะติดขัดอย่างไร ก็ขอให้หลวงพ่อช่วยทักออกมาด้วย"

ลักษณะแบบนี้ กระผม/อาตมภาพ "เมินใส่" มาเสียเยอะแล้ว บางทีก็ไล่เตลิดเปิดเปิงกลับบ้านไปเลย ประมาณว่า ใจกูมีความชั่วเท่าไรก็ตามดูไม่ทันอยู่แล้ว ยังต้องเสียเวลาไปตามดูใจคนอื่นอีก ในเมื่อเป็นเช่นนั้นหลายท่านที่คิดจะฝากชีวิตเอาไว้กับเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ก็ต้องผิดหวังไปเป็นอย่างมาก พูดง่าย ๆ ว่าท่านไม่เล่นด้วยไม่พอ ยังอาจจะไล่เราไปเล่นไกล ๆ ที่อื่นอีกต่างหาก..!

เมื่อถึงเวลาทำการสมาทานพระกรรมฐาน และมอบหมายให้พระวิปัสสนาจารย์นำการปฏิบัติในบัลลังก์สุดท้ายของการปฏิบัติธรรมงวดนี้ กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) ซึ่งเป็นสนามในการสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอก สนามที่ ๑ ของคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ไปถึงก็ปรากฏว่าพระภิกษุสามเณรผู้เข้าสอบนักธรรมชั้นโทชั้นเอกเดินกันเต็มวัดอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2024 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-11-2024, 01:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,218 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อรอจนได้เวลาก็ฉันเพล โดยที่กระผม/อาตมภาพนั่ง "ดวลเดี่ยว" กับพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งท่านบอกว่า "อาจารย์เล็กสั่งสอนลูกศิษย์ได้ดีมาก ๆ ผมลงไปที่แพท่าน้ำ เห็นลูกศิษย์ท่านจับกลุ่มติวหนังสือกันอยู่ เอาจริงเอาจังมาก เมื่อเข้าไปพูดเล่นว่า "ต้องจริงจังขนาดนั้นเลยหรือ ?" ลูกศิษย์ท่านยังบอกว่า "ในเมื่ออาจารย์ส่งมาสอบแล้ว ถ้าหากว่าพลาดไปก็ขายหน้าครูบาอาจารย์ จึงต้องเอาจริงเสียหน่อยครับ"

กระผม/อาตมภาพก็เรียนถวายหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดไปว่า "ทางพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรเจติยาจารย์ (ชัยวัฒน์ ปญฺญาสิริ ป.ธ. ๙) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร หรือที่ผู้คุ้นเคยเรียกกันว่าหลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์นั้น ท่านก็ได้กล่าวกับผมมาหลายวาระแล้วว่า "อาจารย์เล็ก ไปคัดสรรลูกศิษย์แบบนี้มาจากไหน ? ทำงานเป็นทุกอย่าง การเรียนก็เก่ง เทศน์ก็ได้ นำปฏิบัติธรรมก็ดี ส่งไปปฏิบัติธรรมก็ไม่เคยหนี สู้ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย เพื่อนฝูงจากวัดอื่น ๆ หนีกลับวัดกันจะหมดอยู่แล้ว ก็ยังอยู่สู้จนกระทั่งจบโครงการ ?"

กระผม/อาตมภาพเรียนถวายท่านไปว่า "กระผมไม่ได้คัดสรรท่านเลยครับ ท่านทั้งหลายเหล่านี้มาขอบวชด้วยตนเอง ผ่านการขานนาคตามระเบียบของวัดด้วยตนเอง เมื่อถึงเวลา ท่านทั้งหลายเมื่อตั้งใจมาเอาดีแล้ว อย่างนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่กระผมสั่งสอน หรือว่าทำเป็นตัวอย่างไป ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็เอาด้วยตนเอง จึงทำให้มีความสามารถแบบนี้"


ในเมื่อกล่าวเช่นนั้นก็แปลว่า บรรดาพระเถระไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม มองเห็นความสามารถของพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุนชัดเจนเช่นนี้อยู่แล้ว

จากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ยังเรียนถวายหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดว่า "แต่ชาวบ้านรอบวัดแทบจะไม่มีใครบวชกับวัดท่าขนุนเลยนะครับ ทุกคนเคารพหลวงปู่สาย อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนเป็นที่สุด ถึงเวลาจะบวชลูกบวชหลานก็แห่กันมากราบขอขมาหลวงปู่ก่อน แล้วก็แห่ออกจากวัดไปบวชที่อื่น..!"

เมื่อถามเหตุผลแล้ว เขาตอบมาว่า "บวชวัดท่าขนุนแล้วกลัวลูกหลานจะลำบาก เพราะว่าต้องตื่นตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง ต้องสวดมนต์ทำวัตรวันละ ๓ รอบ ต้องเจริญพระกรรมฐาน ต้องออกบิณฑบาตทุกวัน ต้องทำความสะอาดวัดเช้าเย็น ถ้าลูกหลานบวชอยู่ที่วัดท่าขนุนแล้วจะลำบาก ก็เลยเอาไปบวชที่วัดอื่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2024 เมื่อ 03:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 18-11-2024, 01:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,218 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเรียนถวายเสร็จ หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดท่านก็หัวเราะ บอกว่า "แสดงว่าพวกนี้ลืมไปแล้วว่าหลวงปู่สายท่านเคร่งครัดกับลูกหลานขนาดไหน สมัยนั้นถ้าหากว่าขาดสวดมนต์ทำวัตรครั้งแรก ท่านจะตักเตือน ขาดครั้งที่ ๒ ท่านจะคาดโทษ ถ้าขาดครั้งที่ ๓ ท่านให้หาเสื้อผ้ามาแล้วสึกให้เลย..! บอกว่าเป็นพระเป็นเณรแล้ว ถ้าหากว่าขี้เกียจทำกิจของสงฆ์ ไม่สวดมนต์ทำวัตร บิณฑบาต เจริญกรรมฐานก็อย่าอยู่ให้รกพระพุทธศาสนาเลย ท่านจัดการจับสึกไปเสียนับไม่ถ้วนแล้ว ขนาดหนีไปอยู่ต่างจังหวัด ท่านยังตามไปสึก เพราะถือว่าท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ ต้องรับผิดชอบลูกศิษย์ของตนเอง"

แล้วก็กล่าวไปถึงเรื่องของ "ท่านปีนเสา" ที่ยังดื้อแพ่งไม่ยอมสึก ทั้ง ๆ ที่กลายเป็นพระเร่ร่อนไร้สังกัด ผิดกฎหมายคณะสงฆ์ไทย แล้วก็โยงไปจนกระทั่งเรื่องเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือ (ท่าม่วง) ซึ่งขอเก็บค่าจอดรถคันละ ๒๐ บาทแล้วโดน "ทัวร์ลง" หลายต่อหลายท่านก็ด่าหยาบคายจนกระทั่งฟังไม่ได้

โดยที่กระผม/อาตมภาพสรุปว่า เจ้าอาวาสท่านทำผิดไปหน่อย ก็คือเก็บอารมณ์ต่อหน้าผู้สื่อข่าวไม่ได้ ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพก็จะติดป้ายตัวเบ้อเร่อเอาไว้ตรงปากทางเข้าที่จอดรถว่า "ค่าจอดคันละ ๒๐ บาท" คนที่เข้ามาเขารู้ว่าต้องเสียเงิน ถ้าไม่อยากเสียเงินเขาก็ไม่เข้ามา แล้วเราก็ไปยื่นบิลเก็บเงิน หรือให้เด็กวัดไปยื่นบิลเก็บเงินก็จบแล้ว เมื่อกล่าวกันมาถึงตรงนี้ ก็เลยกลายเป็นการนินทาเพื่อนพระสังฆาธิการไปเสียนี่..!

ครั้นอยู่จนกระทั่งพิธีเปิดการสอบและตรวจเยี่ยมสนามสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็กลับมานอนหมดสภาพอยู่ที่วัดท่ามะขาม เพิ่งจะเหยียบเข้าสู่ที่พัก ฝนก็กระหน่ำลงมายกใหญ่ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ชายชราอายุ ๖๕ ย่าง ๖๖ ปี มา ๕ เดือนแล้ว ร่างกายจะไหวหรือว่าไม่ไหว

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ต้องรีบบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน หลังจากนี้ก็จะได้ฉันยา และเข้าสู่รายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม กว่าที่จะจบการปฏิบัติธรรมช่วงค่ำของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ก็ต้องถึง ๓ ทุ่มแล้วเท่านั้น..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2024 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:11



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว