กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-11-2024, 16:53
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,920
ได้ให้อนุโมทนา: 225,197
ได้รับอนุโมทนา 800,080 ครั้ง ใน 39,337 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 11-11-2024, 18:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,220 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงวันจันทร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดน้อย หมู่ที่ ๒ ตำบลโคกคราม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อไปร่วมงานตามที่เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ ๕๑ คือพระครูสามารถ - พระครูขันติวรานุสิฐ (สามารถ ขนฺติวโร) เจ้าคณะตำบลโคกคราม เขต ๒ เจ้าอาวาสวัดน้อย ได้นิมนต์เอาไว้ว่าเป็นวันทำบุญถวายหลวงปู่เนียม วัดน้อย และบูรพาจารย์วัดน้อยทั้งหมด

เมื่อเดินทางไปถึงยังไม่ทันลงจากรถ บรรดาเจ้าหน้าที่และคนวัดก็รายล้อมมา แล้วก็นำตรงดิ่งเข้าไปยังอุโบสถวัดน้อยเลย ไปถึงก็เห็นเขาจัดสถานที่ไว้ให้ปลุกเสกวัตถุมงคล โดยที่วัตถุมงคลทั้งหมดก็ใส่ถุง ใส่หีบ ใส่ลังเอาไว้ บริเวณรอบฐานพระประธานวัดน้อยนั่นเอง กระผม/อาตมภาพทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันจะได้กราบสังขารจำลองของหลวงปู่เนียม วัดน้อย องค์บูรพาจารย์ของตนเอง ก็ต้องกราบขอบารมีพระ ทำการปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับพระครูสามารถท่านก่อน

ทันทีที่หลับตาลง ก็เห็นเหมือนกับพระอาทิตย์หลายดวงปรากฏขึ้นในอุโบสถวัดน้อย สว่างไสวเจิดจ้ามาก ดูแล้วน่าชื่นอกชื่นใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาดูแล้ว ปรากฏว่ามีหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม หลวงปู่เนียม ธมฺมโชโต วัดน้อย จังหวัดสุพรรณบุรี หลวงปู่โหน่ง อินฺทสุวณฺโณ วัดคลองมะดัน จังหวัดสุพรรณบุรี หลวงปู่สด (พระมงคลเทพมุนี) วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร หลวงปู่ปาน โสนันโท วัดบางนมโค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี มากันครบครันตามสายกรรมฐานของตน แสงสว่างเจิดจ้าเสียจนกระทั่งครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง แทบจะมองอย่างอื่นแม้แต่องค์พระประธานไม่เห็น

เมื่อกราบทุกรูปทุกองค์ด้วยความชื่นใจแล้ว จึงได้กราบขอว่า "ถ้ากระผม/อาตมภาพเสกพระคำข้าวมหาลาภปลดหนี้ ๒ แผ่นดิน กราบขอนิมนต์ "ดรีมทีม" ชุดนี้ด้วยครับ" หลวงปู่เนียม วัดน้อย ท่านก็หัวเราะ บอกว่า "แกจะเอานานขนาดนั้นเลยหรือ ?" ได้กราบเท้าเรียนไปว่า "ถ้าสำหรับหลวงปู่แล้วก็แค่กระพริบตาเดียว แต่สำหรับพวกกระผมแล้วก็เป็นเวลาหลายเดือนอยู่ขอรับ" เมื่อท่านทั้งหลายทำการปลุกเสกวัตถุมงคลให้เรียบร้อยแล้ว ก็พากันกราบลาพระกลับไปตามที่อยู่ของตน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2024 เมื่อ 18:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 11-11-2024, 18:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,220 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้น กระผม/อาตมภาพก็โดนสัตบุรุษของวัดน้อย พาขึ้นไปยังศาลาการเปรียญไม้หลังใหญ่ เพื่อที่จะได้พบกับพระครูสามารถ เจ้าอาวาสวัดน้อย เมื่อขึ้นไปกราบพระประธานและกราบรูปบูรพาจารย์วัดน้อย นอกจากทักทายพระครูสามารถแล้ว ก็ยังมีพระมหาอาธร สุชาโต ป.ธ. ๙ เจ้าอาวาสวัดลานคา รองเจ้าคณะอำเภอบางปลาม้าอีกรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ ๕๑ ด้วยกัน ขออนุญาตทั้งสองท่านว่า "เดินทางมาไกล ขอเข้าห้องน้ำก่อนครับ..!" ครั้นหมดธุระแล้วจึงออกมาคุยกัน

กระผม/อาตมภาพได้ถามกับทางด้านพระครูสามารถว่า "กฐินของวัดน้อยผ่านไปหรือยัง ?" ท่านบอกว่า "เพิ่งทอดไปเมื่อวานนี้ ได้ปัจจัยมาเก้าแสนกว่าบาท" กระผม/อาตมภาพจึงถามว่า "มีวันเวลาขึ้นแรมกำหนดตายตัวทุกปีหรือเปล่า ?" ท่านบอกว่า "ทุกครั้งก็จะเป็นวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ เนื่องเพราะว่าวันขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๒ นั้น เป็นวันทำบุญให้บูรพาจารย์ วัดน้อยประจำทุกปีอยู่แล้ว"

กระผม/อาตมภาพจึงได้เรียนบอกกับท่านไปว่า "สำหรับปี ๒๕๖๘ กระผมจะนำเอากฐินปลดหนี้มาให้กับทางวัดน้อยแห่งนี้ จะมีการก่อสร้างอะไรพิเศษหรือไม่ ?" ท่านบอกว่า "กำลังจะสร้างเจดีย์ทดแทนองค์เก่าอยู่"

เมื่อไล่วันไล่เวลากันแล้ว ปรากฏว่าวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปี ๒๕๖๘ ตรงกับวันที่ ๓๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ซึ่งเป็นวันที่ทางท่านอาจารย์พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดหนองโพ จังหวัดราชบุรี ท่านกำหนดเอาไว้เป็นวันเดินทางไปฉลองหลวงพ่อโต วัดศรีธรรโมทยะ เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา โดยที่เดินทางวันที่ ๓๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ จัดงานฉลองวันที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ แล้วเดินทางกลับเมืองไทยวันที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ นับว่าเป็นเรื่องที่ "ธรรมะจัดสรร" ลงตัวเป็นอย่างยิ่ง

พระครูสามารถเมื่อทราบว่ากระผม/อาตมภาพจะนำกฐินปลดหนี้มาให้ ท่านก็ดีใจมาก ความจริงคิวของท่านถึงก่อนหน้านี้ไปสองปีแล้ว แต่ด้วยเหตุที่ว่าตอนช่วงนั้นไม่สามารถที่จะติดต่อท่านได้ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวก็ดี หรือว่าทางไลน์ก็ตาม ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพจึงได้นำกฐินปลดหนี้ไปทอดให้กับทางด้านวัดชลธราราม (ท่าซิก) จังหวัดเพชรบุรี ของหลวงพ่อญา (พระครูวัชรชลธรรม) เจ้าคณะอำเภอท่ายาง เจ้าอาวาสวัดชลธราราม (ท่าซิก) ก่อน

ส่วนปีนี้ก็แซงคิวให้กับท่านอาจารย์พระมหาสมคิด เนื่องเพราะสงสารท่านที่สร้างหลวงพ่อโตมา ๑๐ กว่าปีแล้ว ยังไม่เสร็จเสียที จึงได้นำกฐินปลดหนี้ไปทอดให้ที่วัดศรีธรรโมทยะ เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2024 เมื่อ 18:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 11-11-2024, 18:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,220 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นเจรจากันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็มาทักทายกับพรรคพวกเพื่อนฝูงของทางจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งล้วนแล้วแต่คุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น ตั้งแต่หลวงพ่อสิงห์โต (พระครูโสภณคุณาธาร) รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดสาลี (บางปลาม้า) ซึ่งเป็นระดับครูบาอาจารย์ตามสายกรรมฐานของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระครูศรีรัตนาภิวัฒน์, ดร. (ทวี รตนเมธี ป.ธ. ๖) รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดพระลอย หรือที่กระผม/อาตมภาพเรียกว่า "พี่วี" ตลอดจนกระทั่งบรรดาเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะอำเภอของทางจังหวัดสุพรรณบุรี

ครั้นทักทายกันทั่วถึงแล้ว ก็เป็นการสวดธรรมนิยาม เพื่อถวายบูรพาจารย์ของวัดน้อย (หลวงปู่เนียม) แห่งนี้ เพียงแต่ว่าผู้นำสวดนั้นสวดเร็วมาก แล้วก็เหมาคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ก็คือสวดเองด้วย ขัดเองด้วย กระผม/อาตมภาพยังขำอยู่ในใจว่าเล่นเหมาหมดแบบนี้ ถ้าเป็นที่ทองผาภูมิ โดนกระผม/อาตมภาพ "หวด" เอาแน่ ๆ..!

เนื่องเพราะว่าตามธรรมเนียมแล้วก็คือคอสามจะต้องเป็นผู้ขัดสัคเค ฯ หรือว่าขัดบทสวดต่าง ๆ ถ้าคอสามไม่ไหวจริง ๆ ก็ให้คอสองทำหน้าที่ขัดแทน ไม่ใช่หัวแถวเหมาคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วการสวดจังหวะเร็วขนาดนี้ กระผม/อาตมภาพถือว่าไม่เอื้อเฟื้อต่อคนแก่เลย เนื่องเพราะว่าผู้ชราแล้วจะหายใจไม่ทัน

เมื่อได้รับการถวายปัจจัยไทยธรรมแล้ว ทุกท่านก็ต้องนั่งรออยู่บนอาสน์สงฆ์ เพื่อให้ทางด้านพิธีกรนิมนต์พวกกระผม/อาตมภาพ ที่ถือว่าเป็นส่วนเกินไปพิจารณาผ้าไตรบังสุกุลทีละรูป ซึ่งก็มีบรรดา "มเหสักโข" เหล่านี้อยู่ทั้งหมด ๑๓ รูปด้วยกัน ตั้งแต่หลวงพ่อสิงห์โตลงมาถึง กระผม/อาตมภาพ ซึ่งทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "ดีใจมากที่หลวงพ่อเล็กมาร่วมงานในปีนี้"

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ทักทายญาติโยมทั้งหลายไปตามอัธยาศัย เนื่องเพราะว่าแต่ละคนแต่ละท่านล้วนแล้วแต่หน้าตาคุ้นเคย บุกไปถึงวัดท่าขนุนมาแล้วทั้งสิ้น โดยเฉพาะเจ้าภาพผ้าไตรบังสุกุลที่ถวายให้กระผม/อาตมภาพพิจารณาและถวายไทยธรรมนั้นดีใจเป็นที่สุด กระผม/อาตมภาพไม่ได้บอกให้ดีใจซ้ำว่าปีหน้าจะมาทอดกฐินให้กับที่นี่ เพราะถ้าขืนบอกไป ปีหน้าได้ศาลาระเบิดอย่างแน่นอน..!

เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ทางด้านโฆษกก็นิมนต์พวกเราไปฉันเพล โดยที่มีภัตตาหารจัดชุดใส่โตกให้กับพระเจริญพระพุทธมนต์ทั้ง ๑๕ รูป ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมแบบโบราณ ก็คือฉันเสร็จแล้วค่อยให้พรทีเดียว แต่กระผม/อาตมภาพไม่รอให้พร เมื่อฉันเสร็จแล้ว ก็ขออนุญาตหลวงพ่อสิงห์โตและ "พี่วี" ไปเข้าห้องน้ำ กลับออกมาก็เรียนบอกพระครูสามารถว่า ขอไปกราบรูปจำลองหลวงปู่เนียมก่อนแล้วจะลากลับเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2024 เมื่อ 01:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 11-11-2024, 18:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,220 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอดีมีญาติโยมถวายพวงมาลัยมะลิสดมา จึงได้โอกาสนำไปกราบหลวงปู่เนียมทั้งพานแบบนั้น กราบเรียนท่านให้รู้อย่างเป็นทางการว่า "เหลนศิษย์จะนำเอากฐินมาทอดให้กับทางวัดน้อยในปีหน้า กราบรบกวนหลวงปู่และคณะ ช่วยให้ได้ปัจจัยบริวารจำนวนมากสักหน่อยหนึ่ง เพื่อที่พระครูสามารถจะได้ไม่ต้องลำบากในการก่อสร้างมากนัก"

เนื่องเพราะว่าของพระครูสามารถท่านเอง แม้ว่าจะทำวัตถุมงคลออกมาแต่ละรุ่น ก็แทบจะไม่เหลือเงินติดวัดเลย เพราะว่าที่โน่นก็มาขอ ที่นี่ก็มาขอ โดยเฉพาะพระงบน้ำอ้อยรุ่นที่กระผม/อาตมภาพอธิษฐานจิตไปให้ ได้ปัจจัยมา ๒ ล้าน ท่านก็เอาไปช่วยการศึกษาเขาเสียอีก วัดวาตัวเองแทบไม่ต้องทำอะไรกันเลย..!

ครั้นกราบลาหลวงปู่แล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางกลับสู่ที่พัก ซึ่งเส้นทางสุพรรณบุรี - ตลิ่งชันนั้น ตอนนี้เริ่มทำการซ่อมแล้ว ได้ยินว่าต้องใช้เวลาถึง ๓ ปีด้วยกันกว่าที่จะเสร็จตามกำหนด ส่วนที่กระผม/อาตมภาพสลดใจที่สุดก็คือ มีการโค่นต้นไม้ใหญ่สองข้างทางลงไปเยอะมาก จนบรรดารุกขเทวดารุกขเทวีทั้งใหญ่ ๆ เล็ก ๆ กระจองอแงกันหมด..!

กระผม/อาตมภาพก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ? เนื่องเพราะว่าถ้าเป็นทางด้านจังหวัดกาญจนบุรีขึ้นไปทองผาภูมินั้น กระผม/อาตมภาพได้ชักชวนท่านทั้งหลายเหล่านั้นไปเกาะเสาอาคารต่าง ๆ ที่ตนเองได้สร้างเอาไว้ที่วัดท่าขนุนแทน ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีตหรือว่าไม้ หลังล่าสุดก็คือศาลานั่งเล่น ๘ เหลี่ยมที่ทำอยู่บนถังเก็บน้ำสำรองขนาด ๖๐๐ ลูกบาศก์เมตร ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงไม่มีสถานที่เหลือสำหรับทุกท่านอีกแล้ว

ก็ได้แต่แผ่เมตตาให้กับทุกท่านไปด้วยความสลดใจว่า ขนาดเป็นเทวดาที่ได้ชื่อว่าผู้ประเสริฐแล้ว เป็นผู้ที่มีความสุขตามอัตภาพภพภูมิของตนเองแล้ว ถึงวาระที่เวรกรรมเคยทำลายสถานที่อยู่ของคนอื่นหรือว่าสัตว์อื่นมาถึง ตนเองก็โดนทำลายที่อยู่เช่นกัน ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็ได้แต่ยืนอาลัยอาวรณ์ว่า เมื่อไรเขาจะยกเอาต้นไม้ที่ตัวเองอาศัยอยู่ขึ้นมาตั้ง จะได้อาศัยเกาะวิมานของตนเองต่อไป

แต่กระผม/อาตมภาพดูแล้วว่า เห็นท่าจะยาก เนื่องเพราะว่ามีแต่จะโดนไถทิ้งลงข้างทางไปเสียมากกว่า ก็ได้แต่ทอดถอนใจด้วยความเวทนาสงสาร แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ปลงว่า "สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม" เช่นนี้เอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2024 เมื่อ 18:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว