กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-10-2024, 20:08
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,938
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,447 ครั้ง ใน 39,357 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-10-2024, 00:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ พวกเราส่วนใหญ่แล้วไม่ทราบว่าวันที่ ๒๔ ตุลาคมของทุกปีเป็นวันสหประชาชาติ เนื่องเพราะว่าในปัจจุบันนี้ องค์การสหประชาติมีบทบาทน้อยลง เพราะว่ามีนักเลงโตที่ไม่สนใจว่าสหประชาชาติคืออะไร นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ทั้ง ๆ ที่อ้างว่าเป็นต้นแบบของประเทศประชาธิปไตย ก็เลยทำให้วันที่สมควรจะสำคัญมากวันหนึ่ง กลายเป็นวันที่คนไม่ได้ใส่ใจไปเลย

สำหรับระยะนี้ หลายท่านก็คงได้ยินข่าวคราวไม่ดีในวงการสงฆ์ที่ประเดประดังกันเข้ามาเป็นจำนวนมาก เรื่องพวกนี้เราต้องเสพรับอย่างมีสติ โดยเฉพาะต้องไม่ยินดียินร้ายกับทุกเรื่องที่เข้ามากระทบใจของเราถึงจะใช้ได้ เนื่องเพราะว่าถ้าตราบใดที่เรายังยินดียินร้ายอยู่ ไม่ว่ากับเรื่องอะไรก็ตาม แปลว่ากำลังใจของเรายังใช้ไม่ได้


โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ว่าสังคมกลับให้ความสนใจน้อย ก็คือเรื่องที่มีพระสงฆ์จำนวนมากไปร่วมกันลงทุนในลักษณะของแชร์ ได้ยินเขาเรียกว่า "ก็อปปี้เทรด" กระผม/อาตมภาพพยายามศึกษาดู ก็คือการซื้อหุ้นตามบรรดามืออาชีพ ซึ่งมีการโฆษณาว่า "ลงทุน ๓ แสนบาท ภายใน ๕ ปีได้คืน ๑๙ ล้านบาท..!" เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมีสติยั้งคิด ก็จะรู้ว่าเรื่องดี ๆ แบบนี้ ทำไมคุณไม่เอาไปบอกญาติพี่น้องของตัวเอง ? หรือไม่ก็ทำเอง จะได้ร่ำรวยกันทั่วหน้า แต่กลับเอามาบอกพระ..!

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งเรื่องที่ใหญ่โตมโหฬารอยู่ในปัจจุบันคือเรื่องของ "ดิ ไอคอน" ซึ่งตอนนี้มีผู้เสียหายลามไปหลายประเทศ ทุกเรื่องล้วนแต่มาจากความโลภของผู้เสียหายทั้งสิ้น ซึ่งถ้าเรากล่าวแบบนี้ อาจจะเป็นการประณามเขามากจนเกินไป แต่ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าบุคคลทั่วไปที่มี รัก โลภ โกรธ หลง เป็นปกติ ถ้าหากว่ามีแนวทางในการทำเงิน หรือว่าสร้างความร่ำรวยให้ง่าย ๆ ก็ย่อมกระโดดใส่อยู่แล้ว..!

แล้วพวกท่านก็ต้องไม่ลืมว่าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาก็คือลูกชาวบ้าน เพียงแต่เปลี่ยนเครื่องแต่งตัว เปลี่ยนกฎเกณฑ์กติกาในการดำเนินชีวิตเท่านั้น กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ยังมีเหมือนกับชาวบ้านธรรมดา ถ้าไม่ใช่บุคคลที่ละอายชั่วกลัวบาปจริง ๆ เมื่อได้รับการชักชวนที่มีผลตอบแทนมหาศาลเช่นนี้ ก็ย่อมต้องสนใจ แล้วท้ายที่สุดก็ไปร่วมหุ้นกับเขา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2024 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-10-2024, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าเป็นพวกเราก็ไม่น่าห่วง เพราะว่าพวกเราส่วนใหญ่แล้วบวชมาเพื่อตั้งใจละกิเลส ก็ต้องมีการขัดเกลาตนเองให้เป็นผู้มักน้อย สันโดษ แต่ว่าผู้ที่บวชมาทั่ว ๆ ไปเกินร้อยละ ๗๕ บวชเข้ามาด้วยจุดมุ่งหมายต่าง ๆ กัน บางพวกก็ตั้งใจเข้ามาเรียนหนังสือ เมื่อมีความรู้ความสามารถในระดับเป็นที่ยอมรับในวงการสงฆ์ ก็จะช่วยให้มีความก้าวหน้าในเรื่องของยศของตำแหน่ง

หรือว่าหลายท่านก็อาจจะบวชมาในแนวเดียวกับภิกษุฉัพพัคคีย์ ก็คืออาศัยพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องหากิน ดังที่มีบาลีเรียกว่าอุปชีวิกา คือบวชอาศัยศาสนาหากิน อุปกิฬิกา บวชเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้สนใจว่าจะทำให้ศาสนาเสียหายเท่าไร น้อยรายที่จะบวชในลักษณะของอุปนิสสรณิกา ก็คือตั้งใจที่จะบวชมาเพื่อความหลุดพ้น

อย่างวันนี้ท่านจะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพให้เด็กวัดถวายภัตตาหารแก่พระธุดงค์แปลกหน้าที่มาบิณฑบาต พวกท่านต้องทราบนะครับว่า นี่เพิ่งจะออกพรรษา ยังไม่พ้นฤดูฝนดี คุณจะรีบธุดงค์ไปไหน ? ถ้าหากว่ารีบออกมาตั้งแต่ตอนนี้ ก็แปลว่ากำลังใจของตนเองนั้นไม่ได้รักความสันโดษเลย มุ่งแต่จะเที่ยวไป ซึ่งการเที่ยวไปนั้นจริง ๆ ก็คือการเปลี่ยนสิ่งเสพเสวยที่เข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการตอบสนองก็สงบระงับลงชั่วคราว แต่พอเกิดความต้องการใหม่ก็จะเริ่มทำใหม่

การธุดงค์ในปัจจุบันนี้จึงมีประโยชน์น้อยมาก เพราะคำว่าธุดงค์ไม่ใช่การแบกกลด สะพายบาตร ออกเดินป่า การธุดงค์ก็คือปฏิบัติตามวัตรปฏิบัติ ๑๓ ข้อ อย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดไว้ เราอยู่ที่ไหนก็ทำได้ อย่างเช่นว่าการบิณฑบาตเป็นวัตร การฉันอาสนะเดียวหรือฉันมื้อเดียวเป็นวัตร การถือผ้า ๓ ผืนเป็นวัตร เป็นต้น

จากประสบการณ์ตรงที่กระผม/อาตมภาพพบมาก็คือ พระธุดงค์ส่วนหนึ่งออกธุดงค์เพราะอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ มีวัตรปฏิบัติที่ไม่มีความเกรงใจหรือว่าไม่รู้กาลเทศะเลย จากที่เคยธุดงค์ร่วมกันมา บางทีท่านจำวัดเร็วก็ตื่นตี ๑ ตี ๒ ครองผ้าได้ก็ปูอาสนะ กราบพระ ทำวัตรสวดมนต์สนั่นหวั่นไหว ไม่ได้สนใจว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงจะหลับจะนอน จะพักจะผ่อน หรือไม่ก็เข้าป่าเพื่อไปดูดยาบ้าก็มี..!

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พบมาด้วยตนเอง ไม่ใช่กล่าวหาลอย ๆ ถึงเวลายาบ้าดีดก็แข่งกันวิ่งขึ้นเขา บางทีก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเฮี้ยนอะไรขึ้นมา เอามีดสปาตาร์เฉาะหัวกัน กระผม/อาตมภาพก็ต้องหอบหิ้วออกมาหาหมอข้างนอก เลือดท่วมตัวมาเลยก็มี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2024 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-10-2024, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เรื่องพวกนี้เราจะเห็นว่านักบวชของเรา ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณร หรือรวมแม่ชีไปด้วย ก็คือปุถุชนคนทั่วไป ถ้าไม่ได้รับการขัดเกลามาจากครูบาอาจารย์ให้รู้จักละอายชั่วกลัวบาป ก็จะกระทำสิ่งที่เป็นไปตามกิเลสของตน แล้วสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาในที่สุด

ถ้าเราเข้าใจตรงนี้ก็จะไม่เสียเวลาไปตำหนิใคร อาจจะยกตัวอย่างท่านขึ้นมาเพื่อให้คนได้เห็นชัดเจนเท่านั้นว่า สิ่งที่ไม่ดีไม่งามนั้นคืออะไร แต่สิ่งสำคัญก็คือเราจะไม่เสียเวลาไปตำหนิเขา หากแต่การขัดเกลากาย วาจา ใจ ของตนเองต่างหาก ที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด

อีกส่วนหนึ่งก็คือช่วงนี้ออกพรรษาแล้ว ถ้าไม่ใช่ท่านที่ต้องเตรียมเข้าอบรมเพื่อสอบนักธรรมชั้นโท ชั้นเอก และเข้าสอบแล้ว ก็เท่ากับว่าเป็นเวลาว่างที่จะลา คราวนี้การลานั้น กระผม/อาตมภาพเองถือเคร่งครัดมาตั้งแต่ยังเป็นพระใหม่ เพราะจำได้ว่าตนเองบวชมาจนกระทั่งรับกฐินเสร็จเป็นเวลาประมาณ ๘ เดือนถึงได้ลากลับบ้าน..!

สิ่งหนึ่งที่มีประสบการณ์แล้วอยากจะตักเตือนพวกเราก็คือว่า กลับบ้านเมื่อไรก็ร้อนเมื่อนั้น เพราะว่าญาติโยมก็จะเอาเรื่อง รัก โลภ โกรธ หลง สารพัดสารเพมากรอกหูให้กับเรา หลายต่อหลายท่านก็อดรนทนไม่ได้ ต้องสึกหาลาเพศไป เพราะทนเห็นโยมลำบากไม่ได้..!

ส่วนหลายท่านที่ลาไปแล้ว เมื่อจิตของเราได้เสพเสวยสิ่งที่แปลกไปจากสถานการณ์เดิม ๆ เริ่มสงบขึ้นมา อย่าไปคิดว่าเป็นสิ่งดี ขอให้สังเกตอารมณ์ใจของตนเองว่า เมื่อกลับวัดมาแล้ว อยากจะไปอีกหรือไม่ ? ถ้าอยากจะไปอีกแปลว่าแย่แล้ว..! กิเลสกำลังจูงจมูกเราแล้ว

และโดยเฉพาะการลาให้ระมัดระวังดูให้ดีด้วย ถ้าพรรคพวกเพื่อนฝูงเขาลากันมาก เราเองก็กัดฟันทนไว้ก่อน ไม่เกิน ๑๐ วัน ครึ่งเดือน พวกเขาก็กลับมาเราค่อยลาไป ไม่ใช่แห่กันหายไปทีครึ่งวัด..! หรือไม่ก็ลาในช่วงที่วัดกำลังมีงาน ถ้าลักษณะอย่างนั้นเรียกว่าขาดจิตสำนึก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2024 เมื่อ 07:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-10-2024, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีประเภท ขออนุญาตลาไปช่วยงานเพื่อนพระวัดอื่นในช่วงที่วัดตัวเองก็มีงาน กระผม/อาตมภาพก็ยังสงสัยว่าท่านใช้อวัยวะส่วนไหนคิด งานในวัดตัวเองมีไม่ทำ แต่ไปช่วยเพื่อน..!

ขอให้พวกเรารู้จักระมัดระวังกันเอาไว้ด้วยว่า กิเลสรอเราอยู่ที่ประตูวัด ท่านที่บวชมาอาจจะเป็นพรรษาแรก ไม่กระทบอะไร เพราะว่าสิ่งแวดล้อมภายในวัด เป็นไปตามแนวทางที่เราต้องการ แต่ทันทีที่ก้าวพ้นวัด แรงกระทบทุกอย่างจะเข้ามาทันที..!

บางท่านต้องใช้คำว่า "อิน"
กับการเป็นนักบวชมากเกินไป แล้วก็ดันไปมองว่าตนเองเป็นเจ้านายชาวบ้าน เขาควรจะบริการเราอย่างนั้น เขาควรจะทำกับเราอย่างนี้ ถ้าคิดแบบนั้นคุณไปไม่รอดแน่นอน..!

ต้องระลึกถึงสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนพระมหาโมคัลลานะว่า "เราจักไม่ชูงวงเข้าไปในสกุล" พูดง่าย ๆ ก็คือไม่มีใครรู้จักเราเลยจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

แต่ก็เป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายจะต้องได้รับประสบการณ์เอง ถึงจะมั่นใจว่ากระผม/อาตมภาพพูดแล้วเป็นจริงตามนั้น ถ้ายังไม่ได้ทดลองก็ยังคันอยู่ดี ถ้าอย่างนั้นก็ไปลองกันเสียให้พอก่อน เดือดร้อนวุ่นวายเมื่อไร กว่าจะกู้กำลังใจคืนได้ ลำบากแค่ไหน แล้วค่อยมาเชื่อกันทีหลัง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2024 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว