กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 14-10-2024, 19:25
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-10-2024, 00:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพออกบิณฑบาตตามปกติ โดยมีทีมงานถ่ายภาพเคลื่อนไหวของเว็บไซต์วัดท่าขนุนติดตามถ่ายซ่อมในบริเวณต่าง ๆ ซึ่งขาดหรือว่าถ่ายได้ไม่ถูกใจในช่วงสองวันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็เป็นภาพมุมสูงที่ถ่ายโดยโดรน ซึ่งบินอยู่ในระดับไม่สูงมากนัก

ครั้นเสร็จสรรพเรียบร้อยจากการบิณฑบาตและฉันเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เก็บข้าวของต่าง ๆ ไปยังกุฏิเจ้าอาวาส ท่านที่ไม่เข้าใจสภาพวัดท่าขนุนอาจจะสงสัย ว่ากระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนอยู่แล้ว ไม่ได้อาศัยอยู่ที่กุฏิเจ้าอาวาสหรือ ? ก็ต้องบอกว่าโดยปกติแล้วกระผม/อาตมภาพเป็นบุคคลที่มีงานมาก จึงได้ทำงานอยู่ที่สำนักงานเจ้าอาวาสมากกว่า พอหมดสภาพก็ขี้เกียจเดินกลับกุฏิซึ่งอยู่ค่อนข้างจะไกล ส่วนใหญ่ก็นอนกองอยู่หลังโต๊ะทำงานที่สำนักงานเจ้าอาวาสนั่นเอง

แต่เนื่องจากว่าจะต้องมีการเข้ากรรมฐาน ๓ วันก่อนที่จะออกมารับกฐิน จึงต้องเก็บข้าวของจำเป็นบางอย่างเอาไปไว้ที่กุฏิเจ้าอาวาสเสียก่อน อย่างเช่นว่าลูกประคำสายต่าง ๆ ซึ่งปกติแล้วใช้ชักในเวลาภาวนา ตลอดจนกระทั่งมีดหมอของครูบาอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นมีดหมอหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว มีดหมอหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว มีดหมอหลวงปู่ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ มีดหมอหลวงปู่เดิม วัดหนองโพธิ์ มีดหมอหลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน เป็นต้น

มีดหมอทั้งหลายเหล่านี้ ความจริงจะนำเข้าไปไว้ในพิพิธภัณฑ์ให้ทุกท่านได้รู้จักกับของจริงของแท้กันบ้าง แต่ด้วยความที่ว่าการเข้ากรรมฐานทุกปีก็มักจะมีนักเลงดีชอบลองของ กระผม/อาตมภาพก็เลยต้องอาราธนามีดหมอครูบาอาจารย์ใส่พานไว้ก่อน พูดง่าย ๆ ว่าถ้าเป็นบรรดาคุณผีคุณคนทั้งหลายเข้ามาถึง ก็เป็นอันว่าไม่ต้องกล้ำกรายเข้ามาในบริเวณนั้นเลย แต่ถ้าหากว่าเป็นไสยเวทย์อาคมนั้น กระผม/อาตมภาพเชื่อมั่นว่าในด้านนี้ตนเองก็ศึกษามาไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน..!

ดังนั้น..ในเรื่องของมีดหมอจึงเป็นเรื่องที่เอาไว้ป้องกันบรรดาภูตผีปิศาจโดยตรง เนื่องเพราะว่าเขาทั้งหลายเหล่านี้ไม่ต้องพักต้องผ่อน ไม่ต้องหลับต้องนอน โดยเฉพาะโดนบังคับให้มา กระผม/อาตมภาพเคยปล่อยผีของหมอผีกะเหรี่ยงไปถึง ๓๐ กว่าตัว เล่นเอาสิ้นเนื้อประดาตัวไปเลย..! ไม่เช่นนั้นแล้วไม่ว่ากระผม/อาตมภาพจะเข้าไปยังกะเหรี่ยงบ้านนั้นเมื่อไร ระยะทาง ๓๐ กิโลเมตรรอบบ้านนั้น จะมีสายรายงานให้กับหมอผีเขารู้ก่อนว่ากระผม/อาตมภาพมาถึงแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2024 เมื่อ 05:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-10-2024, 00:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ด้วยความที่ขี้เกียจรำคาญกับพวกผีช่างฟ้อง กระผม/อาตมภาพก็เลยจัดการปล่อยไปจนหมด สามารถบุกประชิดตัวหมอผีได้ ทำเอาอีกฝ่ายผวา แล้วก็เครียดจนกระทั่งผมหงอกทั้งหัว เพราะว่าหาผีของตนเองไม่เจอ งวดนี้ก็คิดว่าถ้าใครส่งมา กระผม/อาตมภาพก็จะปล่อยทิ้งให้หมดเหมือนกัน เพราะว่าผีเหล่านี้ส่วนใหญ่โดนคาถาอาคมผูกเอาไว้ใช้งาน เป็นที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนในเรื่องของการป้องกันนั้น ถ้าไม่ใช่จำเป็นถึงขีดสุด กระผม/อาตมภาพงดการใช้ "คาถาสะท้อนกลับ" เพราะว่าจะทำให้บุคคลที่ตั้งใจจะทำมาได้รับผลคืนไปหลายเท่า เขาอาจจะกำลังน้อย รับไม่ไหว ถึงแก่ชีวิตไปก็เป็นได้ ยกเว้นใครที่เล่นไม่เลิก โดนสั่งสอนไปเบาะ ๆ แล้วยังไม่รู้ตัว ก็อาจจะมีการสวนกลับไปหนัก ๆ บ้างเหมือนกัน..!

ช่วงที่ผ่านมามีอยู่ช่วงหนึ่ง ได้พี่ใหญ่อสุรินทราหูมาช่วย เล่นเอาบรรดาหมอผีต่าง ๆ หมดสภาพไปครึ่งปี..! เพราะโดนพี่ท่านกลืนปราณคือพลังชีวิตไปเสียมาก คงจะเข็ดหลาบไปตาม ๆ กัน แต่พอเนิ่นนานมาก็ชักจะจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยโดนอะไรไป รวบรวมกำลังใจได้ก็จะมาใหม่อีก กระผม/อาตมภาพจึงต้องระมัดระวังเอาไว้ก่อน

หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปที่วัดปรังกาสี ร่วมฉันเพลกับพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ และบรรดาเจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาสต่าง ๆ ซึ่งเป็นกรรมการในการคุมสอบธรรมสนามหลวงชั้นตรีวันสุดท้าย ปรากฏว่าวันนี้เป็นการสอบวิชาวินัยบัญญัติ ซึ่งก็คือศีลพระนั่นเอง วิชานี้ถ้าหากว่าเป็นสำนักศาสนาศึกษาวัดท่าขนุน จะกำหนดให้พระใหม่เรียนเป็นวิชาแรก เพราะว่าเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับศีลพระที่มาในพระปาฏิโมกข์ และมานอกพระปาฏิโมกข์ จะได้รู้ไว้ว่าตนเองปฏิบัติอย่างไรถึงจะถูกต้อง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2024 เมื่อ 05:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 15-10-2024, 00:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าตามที่สนามหลวงจัดให้มีการสอบเก็บเอาไว้เป็นวันสุดท้าย โดยเริ่มจากวันที่ ๑ เป็นวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม ซึ่งก็คือการกำหนดหัวข้อมาให้เราเทศน์บนหน้ากระดาษนั่นเอง

วันที่ ๒ เป็นวิชาธรรมวิภาค ซึ่งก็มีการนำเอาหัวข้อธรรมต่าง ๆ มาเป็นหมวด ๆ ไล่ตั้งแต่โลกบาลธรรม คือหิริ-โอตัปปะ ไปจนกระทั่งถึงหมวดที่ ๑๖ ก็คืออุปกิเลส ๑๖ ประการเป็นต้น

วันที่ ๓ จะเป็นการสอบวิชาพุทธประวัติและศาสนพิธี ซึ่งต้องศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปเป็นมาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ? มาจากไหน ? เหตุใดจึงออกบวช ? ออกบวชแล้วศึกษาอย่างไรจึงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ? แล้วสิ่งที่พระองค์ท่านพากเพียรสอนมาตลอด ๔๕ พรรษา ข้อใหญ่ใจความเป็นอย่างไรบ้าง ? จนกระทั่งปรินิพพาน ได้รับการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ตลอดจนกระทั่งการสังคายนาพระธรรมวินัย ส่วนศาสนพิธีนั้นศึกษาในส่วนของกุศลพิธี บุญพิธี ทานพิธี และหมวดเบ็ดเตล็ด

ส่วนวิชาวินัยบัญญัติก็คือเรื่องเกี่ยวกับศีลพระโดยตรง ต้องขอชมเชยบรรดาครูบาอาจารย์ซึ่งมาทำการอบรมก่อนสอบเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าข้อสอบทั้ง ๔ วันนั้น ส่วนใหญ่แล้วตรงเกือบทั้งหมด วิชาที่ตรงน้อย อย่างน้อยก็ออกตรงกับที่อบรมก่อนไป ๖ - ๗ ข้อ ส่วนวิชาที่ตรงมากก็ออกทั้ง ๑๐ ข้อเลย อย่างเช่นวันนี้เป็นต้น

แต่ด้วยความที่ว่าวันนี้ทางกองงานเลขานุการ โดยพระวชิรปัญญาภรณ์, ดร. (พงศ์พันธ์ ขนฺติโสภโณ) หรือที่ผู้คุ้นเคยเรียกกันว่าท่านเจ้าคุณอ๋อ เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านจะมาตรวจเยี่ยมสนามสอบ เพียงแต่ว่าท่านขึ้นไปตรวจเยี่ยมสนามสอบอำเภอสังขละบุรีเสียก่อน เมื่อถึงเวลาท่านเปิดสนามสอบที่นั่น ทำการตรวจเยี่ยมเสร็จแล้ว จึงได้เดินทางกลับลงมา ซึ่งเป็นระยะทาง ๘๕ กิโลเมตร

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ในเมื่อเปิดสนามพร้อมกัน แต่ท่านต้องใช้ระยะเวลาเดินทางอีกประมาณชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากว่าเส้นทางคดเคี้ยวอยู่บนเขา กระผม/อาตมภาพเห็นบรรดาภิกษุสามเณรผู้เข้าสอบนักธรรมชั้นตรีทำข้อสอบกันเร็วมาก เพราะว่าตรงกับตอนอบรมทั้ง ๑๐ ข้อ โดยเฉพาะปีนี้ไม่ได้ออกยากมากนัก จึงได้ไปยืนกล่าวเรื่องที่น่าสนใจต่าง ๆ ให้กับพระภิกษุสามเณรฟัง อยู่ในลักษณะของการบรรยายพิเศษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2024 เมื่อ 05:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 15-10-2024, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าถ้าหากว่าพระเณรทำข้อสอบเสร็จภายใน ๑ ชั่วโมง กว่าที่ทางกองงานเลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ จะมาถึงก็อีกนาน จึงต้องไปกล่าวเปรียบเทียบเรื่องของพระธรรมวินัย ระหว่างประเทศไทยหรือคณะสงฆ์ไทย กับประเทศพม่าหรือคณะสงฆ์เมียนมาร์ ซึ่งบางสิ่งบางอย่างนั้นก็ไม่ได้ตรงกับทางบ้านเรา แต่ว่าเขาก็มีเหตุผลในการที่ตีความพระธรรมวินัยลักษณะอย่างนั้น

อย่างเช่นว่าบ้านเรา การฉันอาหารในเวลาวิกาล ท่านตีความว่าหลังเที่ยงไปแล้ว แต่การขออนุญาตเข้าบ้านในเวลาวิกาล ไปตีความว่าหลังพระอาทิตย์ตกดิน แต่ทางคณะสงฆ์พม่าตีความคำว่าวิกาลก็คือพระอาทิตย์ตกดินเหมือนกัน จึงทำให้ช่วงเย็น ๆ ก่อนหมดแสงตะวัน พระภิกษุสามเณรชาวพม่าก็ฉันอาหารกันเป็นปกติ เรื่องพวกนี้ถ้าหากเราทราบก็จะไม่ไปตำหนิท่าน เพราะว่าแบบธรรมเนียมของบ้านเขายึดถือมาแบบนั้น

กระผม/อาตมภาพใช้เวลาในการยืนบรรยายพิเศษไปชั่วโมงครึ่ง ทำเอาหมดเรี่ยวหมดแรงจนไข้จับไปเลย ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า การที่เราบรรยายแล้วจะต้องดึงความสนใจของพระเณรให้อยู่กับผู้บรรยาย โดยที่ไม่ลุกไปเข้าห้องน้ำ ไม่ลุกไปฉันน้ำปานะเลยนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะลำบาก ถ้าหากว่าขาดความน่าสนใจแค่นาทีเดียว เขาก็ลุกไปแล้ว วัยรุ่นสมัยนี้ค่อนข้างจะใจร้อน ในเมื่อต้องทุ่มเทสรรพกำลังในการบรรยาย จึงทำให้ไข้จับเอาดื้อ ๆ..!

จนกระทั่งท่านเจ้าคุณอ๋อนำกองงานเลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ มาถึงตอนเกือบบ่าย ๓ โมงครึ่ง เมื่อท่านกราบทักทายแล้วก็ได้เซ็นสมุดเยี่ยม ตรวจดูความเรียบร้อยของสนามสอบ ดูการทำข้อสอบของพระภิกษุสามเณรแล้ว ก็นำเอาปัจจัยสนับสนุนสนามสอบของพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ มาถวายให้กับพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน แล้วดูการส่งข้อสอบต่าง ๆ ของพระภิกษุสามเณรว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ ? เมื่อเสร็จแล้วท่านถึงได้ขอตัวเดินทางกลับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2024 เมื่อ 05:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 15-10-2024, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพกลับมาถึงวัดท่าขนุน ฝนก็กระหน่ำลงมาพอดี จึงจัดการโกนศีรษะตัวเองให้เรียบร้อย แล้วก็เตรียมผ้าไตรจีวรที่จะครองในการเข้ากรรมฐาน ปีก่อน ๆ กระผม/อาตมภาพจะเข้ากรรมฐาน ๖ โมงเช้าของวันแรก แต่ปีนี้อยากจะลองกำลังตัวเองดูว่าแก่ขึ้นแล้วยังไหวหรือไม่ ? จึงเข้ากรรมฐานตั้งแต่ ๖ โมงเย็นก่อนวันแรก แปลว่าเพิ่มระยะเวลาขึ้นมา ๑๒ ชั่วโมง แล้วถ้าหากว่านับการฉันอาหารไปแล้ว ก็แปลว่าท้องว่างไปแล้ว ๑๘ ชั่วโมง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่าเข้ากรรมฐาน ๔ วันนั่นเอง แต่ต้องนับเป็น ๓ วันอยู่ดี

ส่วนผ้าไตรจีวรที่เข้ากรรมฐานชุดนี้ ลูกศิษย์ผู้หนึ่งตั้งใจถวาย กระผม/อาตมภาพกองทิ้งเอาไว้เป็นปี เพราะกลัวว่าครองผ้าไตรชุดนี้แล้วจะต้องเป็นเจ้าคุณ..! ลากยาวมา ๑ ปีเต็ม ๆ จึงเอามาครองในปีนี้ เมื่อได้เวลาก็ทำการโยกย้ายเข้ามาสู่กุฏิเจ้าอาวาส กราบพระ บูชาพระเสร็จเรียบร้อยแล้ว จัดข้าวของเข้าที่ แล้วก็มานั่งบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่ในขณะนี้

สิ่งที่ทำนี้เพื่อเป็นเครื่องยืนยันให้พระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมได้ทราบว่า ในเรื่องของการเข้าฌานเข้าสมาธินั้น ถ้าเรามีความชำนาญ ที่ภาษาบาลีเรียกว่า "วสี" แล้วไซร้ ท่านก็สามารถที่จะทรงสมาธิทำงานทำการอื่น ๆ ไปด้วยพร้อมกันได้ เพียงแต่ว่าต้องเพิ่มสติความระมัดระวังขึ้นมา เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้สมาธิเคลื่อนคลายไปนั่นเอง

ในช่วงนี้ ถ้าหากว่าเรี่ยวแรงยังดีอยู่ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนก็จะไม่ขาดลง แต่ถ้าหากว่าไปวันที่สามที่สี่แล้ว เกิดว่าร่างกายหมดสภาพเพราะขาดสารอาหาร ก็อาจจะมีการงดบันทึกเพื่อประคับประคองร่างกายเอาไว้รับบิณฑบาตเทโวฯ และกฐินสามัคคี

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2024 เมื่อ 05:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว