กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-10-2024, 19:51
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 14-10-2024, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันนวมินทรมหาราช

ก่อนอื่นขอให้ทุกท่านเข้าใจว่าในการศึกษาภาษาไทยนั้น หลายอย่างมีกฎเกณฑ์ซึ่งถ้าเราศึกษาไม่ถึงก็จะอ่านผิด อย่างเช่นว่าวันนวมินทรมหาราช (นะ-วะ-มิน-มะ-หา-ราด) ถ้าคนที่ไม่ได้เข้าใจกฎเกณฑ์ตรงนี้ก็จะอ่านว่า นะ-วะ-มิน-ทะ-ระ-มะ-หา-ราด เนื่องเพราะกฎเกณฑ์ตรงนี้อยู่ที่ว่า ถ้าหากว่ามีตัวการันต์อยู่ในระหว่าง เมื่อเขียนขึ้นมาแล้วให้ตัดตัวการันต์ออก แต่ให้อ่านเหมือนยังมีตัวการันต์กำกับอยู่ คำว่าตัวการันต์อยู่ในที่นี้ก็คือเครื่องหมายที่กำกับว่าอักษรนี้ไม่ต้องออกเสียง แต่ยังจำเป็นที่จะต้องมีอักษรนั้นอยู่

อย่างเช่นว่าสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถ้าทั่ว ๆ ไปเราก็อ่านว่า เทบ-พะ-รัด-ตะ-นะ แต่ต้องเข้าใจว่า เราจะต้องอ่านเหมือนยังมีไม้ทัณฑฆาต คือตัวการันต์อยู่เหมือนเดิม

กฎเกณฑ์ของภาษาไทยนั้นมีมาก จำเป็นที่จะต้องศึกษาและช่วยกันรักษาเอาไว้ เนื่องเพราะว่าพวกเราออกเสียง ค.ควาย ต่างกับ ฅ.ฅน ไม่ได้ ออกเสียง ข.ไข่ ต่างกับ ฃ.ขวด ไม่ได้ ออกเสียง ย.ยักษ์ ต่างกับ ญ.หญิง ไม่ได้ ออกเสียง น.หนู ต่างกับ ณ.เณร ไม่ได้แล้ว ทั้ง ๆ ที่แต่โบราณมาเขาออกเสียงเหล่านี้ได้ชัดเจนมาก เนื่องเพราะว่าทั้งหมดที่ว่ามานั้น มีทั้งเสียงขึ้นจมูกและเสียงปกติ มีทั้งเสียงก้องและเสียงไม่ก้อง แม้แต่ จ.จาน เด็กรุ่นใหม่ก็ออกเสียงไม่ได้แล้ว ไปออกเสียงห่อกลางลิ้น ซึ่งฟังแล้วแปลก ๆ หูสำหรับรุ่นของกระผม/อาตมภาพ เพราะว่าฟังเหมือนอย่างกับตัว ch ในภาษาอังกฤษ..!

ดังนั้น..ในเรื่องที่เว็บไซต์วัดท่าขนุนของเราจำเป็นที่จะต้องอนุรักษ์ภาษาไทย บังคับว่าถ้าใครเขียนผิดจะต้องเจอแจกใบแดง ถ้าไม่แก้ไขภายในเวลาที่กำหนดก็จะโดน "บล็อก" ไม่ให้ใช้งานอีก ก็เพราะว่าตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ นั้นมีการใช้ภาษาไทยแบบผิดพลาดจนน่าทุเรศมาก ทำให้ภาษาไทยเสียหายหมด ใครที่เป็นสมาชิกเว็บไซต์วัดท่าขนุน เข้าไปใหม่ ๆ ก็มักจะนั่งตัวเกร็ง ไม่กล้าโพสต์อะไรเลย เพราะกลัวโดนใบแดง เพราะว่าผู้ดูแลเว็บไซต์วัดท่าขนุนนั้น เร็วมากในการจับว่าท่านเขียนผิดหรือถูก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2024 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 14-10-2024, 01:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ในวันนวมินทรมหาราชนี้ก็คือ วันที่เรารำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งสวรรคตเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา ก็จะเห็นว่าทุกหน่วยงานร่วมกันบำเพ็ญกุศลถวายต่อพระองค์ท่าน แม้แต่การที่ท่านทั้งหลายมาบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกีรยติรุ่น ๗/๒๕๖๗ นี้ ก็บวชถวายพระราชกุศลเช่นกัน

การที่พสกนิกรจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น เป็นทั้งความสำนึกในหน้าที่ของตนที่มีต่อบุพการี หรือถ้าหากว่าจะอ่านให้ถูกต้องก็คือบุรพการี ก็คือผู้ที่ทำคุณแก่เราก่อน ส่วนเราเมื่อรู้สำนึก ก็เป็นกตัญญูกตเวทิตาบุคคล คือผู้ที่รู้คุณท่านแล้วกระทำสิ่งที่ดี ๆ ตอบแทน
เนื่องเพราะว่าสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยของเรามา จนกระทั่งมีแผ่นดินให้พวกเราได้อยู่อาศัย เท่านั้นยังไม่พอ ความสงบร่มเย็นที่แผ่ออกไปรอบด้าน เราจะเห็นว่าทางด้านพี่น้องชาวพม่า ชาวลาว ชาวเขมร ทั้งที่เข้ามาโดยถูกต้องและลักลอบเข้ามา ทำมาหากินในประเทศของเรานั้นมีจำนวนที่น่าตกใจมาก เฉพาะชาวพม่าอย่างเดียวที่เป็นประชากรแฝง ก็คือเข้ามาโดยไม่ถูกต้อง มีไม่ต่ำว่า ๖ - ๗ ล้านคน ส่วนที่เข้ามาโดยถูกต้องนั้น อย่างเก่งก็ประมาณ ๓ - ๔ ล้านคนเท่านั้น

นี่คือสิ่งที่ประเทศซึ่งไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์คอยปกป้องดูแลพสกนิกร เขาได้รับความเดือดร้อนจากการปกครองโดยรัฐบาล ที่เห็นแก่พวกพ้องและตัวกูมากกว่าเห็นแก่ประชาชน แต่บ้านเราเมืองเรา ด้วยความที่ว่างเว้นจากศึกจากสงครามมายาวนานมาก หลังจากสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมาแล้ว ก็แทบจะไม่มีศึกสงครามที่รบกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ ระหว่างประเทศเลย

แม้สงครามโลกครั้งที่ ๑ ในยุคในหลวงรัชกาลที่ ๖ หรือว่าสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในยุคของในหลวงรัชกาลที่ ๘ ต่อรัชกาลที่ ๙ เราก็ไม่ได้เป็นคู่กรณีหรือคู่ศึกโดยตรงกับใคร แล้วความสงบร่มเย็นยาวนานที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๘๘ มาถึงปัจจุบันนี้ เราก็มีเพียงความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งมีบุคคลที่ตั้งใจจะปลุกปั่นให้บ้านเราเมืองเราเกิดความวุ่นวายแล้วเข้ามาครอบงำ..!

โชคดีที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คอยดูแลพวกเราอยู่ และไม่ได้มองผู้เห็นต่างเป็นศัตรู อย่างที่นักข่าวฝรั่งขอพระราชทานสัมภาษณ์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งตอนนั้นยังรบกับความขัดแย้งของบุคคลที่ถือลัทธิคอมมิวนิสต์ว่า "พระองค์ท่านคิดว่าสงครามครั้งนี้จะสามารถชนะได้หรือไม่ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2024 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 14-10-2024, 01:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงถามย้อนกลับไปว่า "สงครามอะไร ? คุณรบกับใคร ? ฉันไม่ได้ทำสงครามกับใคร ถ้าหากว่ากำลังทำสงครามอยู่ ก็คือทำสงครามกับความหิวโหยของประชาชน" พูดง่าย ๆ ก็คือพระองค์ท่านกำลังต่อสู้ในการที่ทำให้ประชากรไทยของเรา อันดับแรกเลย ได้กินอิ่มปากอิ่มท้อง อันดับที่สองก็คือยกระดับความเป็นอยู่ในชีวิตให้ดีขึ้น แล้วพระองค์ท่านก็กระทำได้สำเร็จ

ในขณะที่อินโดจีนลุกเป็นไฟ โดนลัทธิคอมมิวนิสต์ครอบงำจนหมด ประเทศไทยเป็น "โดมิโน" ตัวเดียวที่ไม่ได้ล้มตาม เพราะว่าเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ไม่ได้เห็นพสกนิกรเป็นศัตรู หากแต่เห็นเป็นลูกหลาน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องให้การสงเคราะห์ แม้ว่าจะเกเรไปบ้างก็ถือว่าเป็นลูกหลานเช่นกัน จนกระทั่งคุณงามความดีตรงนี้ ชนะแนวคิดซึ่งเป็นไปไม่ได้ในแบบของมาร์กซิสม์ หรือที่เรียกว่าคอมมิวนิสต์ เพราะว่าจะให้ทุกคนเสมอกัน

ถ้าเราทั้งหลายศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพี่ใหญ่อยู่ในปัจจุบันนี้ประเทศหนึ่งของโลก เราจะเห็นว่าเขาเสียเวลาจ่อมจมอยู่กับลัทธิคอมมิวนิสต์นานมาก ทำให้ประเทศชาติล้าหลังตามใครไม่ทัน จนกระทั่งมาถึงสมัยประธานาธิบดีเติ้งเสี่ยวผิงจึงค่อยเปิดกว้าง รับเอาแนวคิดทุนนิยมจากโลกภายนอกเข้าไป โดยมีอมตะวาจาว่า "จะแมวขาวหรือแมวดำ ถ้าสามารถจับหนูได้ก็ถือว่าเป็นแมวที่ดี" พูดง่าย ๆ ก็คือจะเป็นคอมมิวนิสต์หรือทุนนิยม ถ้าทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีได้ ก็ถือว่าเป็น "แมว" ที่ดีนั่นเอง หลังจากนั้นประเทศจีนก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว จนก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอยู่ในปัจจุบัน

ดังนั้น..ในเรื่องของความเสมอภาคโดยแท้จริงแล้วไม่มี โดยเฉพาะในพระพุทธศาสนาของเรา เพราะว่าแต่ละคนทำกรรมมาไม่เท่ากัน เรามีกรรมเป็นกำเนิด เรามีกรรมเป็นทายาท เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ในเมื่อทำกรรมมาไม่เท่ากัน แล้วจะให้ทุกคนเสมอกันย่อมเป็นไปไม่ได้

ที่นักการเมืองบางพรรคพยายามที่จะขายฝัน จะให้ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเสมอกัน เท่าที่กระผม/อาตมภาพมอง ๆ มาก็คือ ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจคำว่าสิทธิและเสรีภาพเสียด้วยซ้ำไป มักจะคิดว่าการที่ตนเองทำอะไรอย่างอิสระตามใจตนเอง นั่นคือสิทธิและเสรีภาพที่ควรมี โดยที่ไม่ได้ดูว่าการกระทำของตนเองนั้น ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนอย่างไรบ้าง ก็คือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนเองอย่างเต็มที่ แต่ไปล่วงสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นลักษณะของการตีความแบบไร้ปัญญา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2024 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 14-10-2024, 01:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ประเทศไทยของเราโชคดีมาก ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ช่วยค้ำจุนมาจนถึงปัจจุบันนี้ แม้แต่น้ำท่วมภาคเหนือที่ผ่านมาและยังคงท่วมอยู่ เราก็จะเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ขอยืนยันว่า บอ-รม-มะ-รา-ชิ-นี พวกเราส่วนใหญ่อ่านว่า บะ-รม-มะ-รา-ชิ-นี คำว่า บรม (บอ-รม) บวร (บอ-วอน) บพิตร (บอ-พิด) คำเดียวกัน อ่านวิธีเดียวกัน แล้วทำไมเราไม่อ่านว่า บอ-รม เราไปอ่านว่า บะ-รม ก็แปลว่าผิดตั้งแต่แรกเล้ว..!

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานถุงยังชีพก่อนเพื่อนเลย หลังจากนั้นยังเสด็จไปเยี่ยมโดยที่ไม่ให้ออกข่าวอีกด้วย มาภายหลังก็มอบเครื่องฉีดน้ำความแรงสูง เพื่อให้ไปล้างโคลนในบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมอบหมายให้กับหน่วยทหารในพื้นที่ออกไปช่วยเหลือประชาชน ขณะที่นักการเมืองของเราก็มาแสดงโวหารทะเลาะเบาะแว้งกัน..น่าเหนื่อยใจ พูดง่าย ๆ ว่าพ่อแม่พยายามที่จะทำให้พี่น้องคนอื่น ๆ พ้นจากความทุกข์ ไอ้พวกลูก ๆ ที่มีฐานะ มีตำแหน่งหน่อย กลับมาทะเลาะเบาะแว้งเกเรเกตุงกันอยู่ เป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจมาก..!

วันนี้ที่ทั่วประเทศไทยของเราร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียว บำเพ็ญกุศลต่าง ๆ เพื่อถวายต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ถือว่าเป็นการกตเวที ที่แม้จะมาช้าก็ดีกว่าไม่มาเสียเลย เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่บอกว่า "รักพ่อ" เป็นการรักแต่ปาก สิ่งที่พระองค์ท่านสอนและทำเป็นตัวอย่างอยู่ หาผู้ที่ทำตามได้แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ขนาดนั้นก็ยังทำให้ประเทศชาติของเราเจริญมั่นคงได้ ขณะที่รอบบ้านผ่านเมืองของเราเดือดร้อนกันหมด

ดังนั้น..ถ้าหากว่าทุกคนมีสำนึกและกตเวทิตาคุณจริง ๆ แล้ว เร่งรีบทำตามพระบรมราโชวาทที่พระองค์ให้ไว้ในโอกาสต่าง ๆ ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดเอาไว้ ก็ยังไม่ถือว่าสายจนเกินไป เพราะว่ามีแต่คุณความดีต่อตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติอย่างยั่งยืน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2024 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว