กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-10-2024, 19:43
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-10-2024, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันพระขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ วันพระต่อไปก็คือออกพรรษา ระยะเวลาแต่ละปีผ่านไปเร็วมาก แต่ว่าหลายคนก็ยังคงทำตัวเหมือนอย่างกับ "หายใจทิ้ง" ก็คือไม่ได้คิดที่จะเร่งรัดอะไรตนเองเลย

ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมซึ่งเป็นงานทางใจก็ดี หรือว่าในเรื่องของการงานอื่น ๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยความขยันหมั่นเพียรทั้งสิ้น ถึงจะประสบความสำเร็จ ไม่มีใครที่อยู่เฉย ๆ แล้วความสำเร็จจะปรากฏขึ้นมาเอง พูดง่าย ๆ ว่าถ้าหากว่าขยัน โอกาสประสบความสำเร็จจะมีมากกว่า แต่ว่าพวกเราโดยส่วนมากแล้วก็ขี้เกียจ

สมัยก่อนหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า "เหมือนกับหมูพาดเขียง" ก็คือหมูเดินมาเจอเขียงอยู่ก็นอนหนุนเขียงเลย สบายมาก ไม่รู้ว่าจะโดนเขาเชือดเมื่อไร ?! หรือถ้าหากว่าเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ตรัสว่า "พวกเราเหมือนอยู่บนเรือนที่ไฟกำลังไหม้" ก็คืออยู่ในบ้านที่ไฟไหม้อยู่ จะเร่งหนีออกจากบ้านหรือว่าจะนอนสบายต่อไป รอให้ไฟเผาตายก็ตามใจแต่ละคน..!

อีกไม่กี่วันพวกเราก็จะต้องเตรียมงาน ไม่ว่าจะเป็นการออกพรรษา ตักบาตรเทโว หรือว่าทอดกฐิน ในเรื่องของงานต่าง ๆ นั้น ต้องการ "การสื่อสาร" หรือว่า "การประสานงาน" ไม่ใช่รอให้คนอื่นเข้าใจว่าเราต้องการอะไร พูดง่าย ๆ ก็คือต้องรู้จักพูด รู้จักบอก รู้จักกล่าว แต่ไม่ใช่เรียกร้องให้คนอื่นมาบริการเราอยู่คนเดียว

หลายคนเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ประมาณว่า "กูต้องการอะไร คนอื่นต้องรีบทำให้" ทั้ง ๆ ที่แต่ละคนก็งานเต็มมือเหมือนกัน แล้วพอไม่ได้อย่างใจก็โกรธ ไม่พอใจคนโน้น ไม่ชอบใจคนนี้ เพราะว่าเขาไม่ทำอย่างที่เราต้องการ ขอให้เข้าใจว่าบุคคลที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางนั้น ก็คือคนที่แบกตัวกูของกูเอาไว้อย่างเต็มที่ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเป็นนักปฏิบัติธรรม โอกาสที่จะเอาดีได้นั้นมีน้อยมาก เพราะว่าแทนที่เราจะ ลด จะละ จะเลิก ก็กลายเป็นเราไปแบกหนักขึ้นทุกวัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2024 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 10-10-2024, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเอาอย่างหลวงปู่โรเบิร์ต สุเมโธ ปัจจุบันนี้ท่านเป็นเจ้าคุณชั้นพรหมที่พระพรหมวชิรญาณไปแล้ว ท่านบอกว่า "มีแต่ขี้ทั้งนั้น" เพียงแต่ว่าท่านพูดแบบฝรั่งพูดไทย น่าจะไม่ชัดเหมือนที่กระผม/อาตมภาพมาทวนคำให้

ก็คือแต่ละคนโกยเอา ขี้รัก ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง เอาไว้เต็มตัว แล้วก็แบกขี้ไปอวดคนอื่น ไม่ได้คิดที่จะสลัดทิ้งเสียที กลายเป็นว่าเราเห็นว่าขี้เป็นของดี แล้วก็แบกไปอวดชาวบ้านเขา..! บางทีกระผม/อาตมภาพเองก็ยังทึ่งว่าหลวงปู่ท่านเป็นฝรั่ง แต่ว่าปฏิบัติธรรมได้ลึกซึ้งมาก แล้วแต่ละอย่างที่ท่านพูด ที่ท่านเปรียบเทียบออกมา คนไทยได้ยินแล้วมีสะดุ้ง..!

ดังนั้น..การทำงานทุกอย่างต้องการการสื่อสารที่ชัดเจน อย่าให้คนอื่นตรัสรู้เองว่าเราต้องการอะไร หรือว่าอย่ารอให้คนอื่นมาบริการเราเอง ทุกอย่างต้องทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่ไปก่อน ถ้าคนอื่นเขาว่างหรือว่าเขามีน้ำใจ เขาจะมาช่วยเอง ถ้าเขาไม่ว่างหรือไม่มีน้ำใจ ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องไป "แบกขี้" เอาไว้..!

ถ้าเราไปคิดว่างานทุกอย่างเป็นของเราก็จบ ตั้งหน้าตั้งตาทำให้เสร็จไป ใครมาช่วยก็ขอบคุณเขาที่อุตส่าห์มาช่วย ถึงเขาไม่ช่วยเราก็ต้องทำจนกว่างานนั้นจะสำเร็จ ไม่ใช่แต่งานทางโลกเท่านั้น งานทางธรรมยิ่งต้องกระทำด้วยตนเองหนักกว่าทางโลกหลายเท่า..!

เนื่องเพราะว่า
ในเรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องทำเองถึงจะเกิดผล จะใช้ให้คนอื่นรักษาศีลแล้วเราเองจะได้อานิสงส์ ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ ใช้ให้คนอื่นเจริญสมาธิภาวนา แล้วกิเลสของเราจะสงบลง ก็เป็นไปไม่ได้ ให้คนอื่นเขาคิดพิจารณาจนกระทั่งถอนจิตออกจากการยึดมั่นถือมั่น แล้วตัวเราเองจะถอนออกมาได้ด้วยก็เป็นไปไม่ได้

พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง นาญโญ อัญญัง วิโสธเย ความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์เป็นของจำเพาะตน บุคคลหนึ่งจะทำอีกบุคคลหนึ่งให้บริสุทธิ์หาได้ไม่ พูดง่าย ๆ ว่าเหมือนกับหิวข้าวก็ต้องกินเอง ให้คนอื่นเขากินแทนแล้วเราจะอิ่มย่อมเป็นไปไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2024 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 10-10-2024, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้เหลือระยะเวลาอีกแค่ไม่กี่วัน ประมาณอาทิตย์เดียวจะออกพรรษาแล้ว หลายท่านก็ "ออกอาการล้า" พูดง่าย ๆ ว่าสิ่งที่เคยทำอย่างเข้มแข็งตั้งแต่วันเข้าพรรษาแรก ๆ มา ถึงตอนนี้ก็เริ่มปล่อยปละละเลย แล้วถ้าท่านทั้งหลายที่เป็นพระใหม่ออกอาการล้า แล้วพระเก่าที่ท่านอยู่กันมาเป็นสิบ ๆ พรรษา เขาไม่ล้ากันหมดแล้วหรือ ?

เรื่องพวกนี้ความจริงแล้วแก้ไขง่ายมาก ก็คือเร่งในการปฏิบัติสมาธิภาวนา ถ้าสามารถทรงฌานได้เท่านั้น ท่านจะหายจากการล้าทั้งหมด เนื่องเพราะมองเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า สมาธิภาวนามีคุณความดีอย่างไร ? ช่วยในการดับกิเลสชั่วคราวได้อย่างไร ? ช่วยหนุนเสริมในการใช้ปัญญาตัดกิเลสอย่างแท้จริงได้อย่างไร ? แต่ว่าพวกเรานอกจากไม่เพียรพยายาม บุคคลที่เพียรพยายามบางทีก็ใช้ความเพียรในทางที่ผิด แทนที่จะดูที่ตัวเอง แก้ที่ตัวเอง เรากลับไปจ้องจับผิดคนอื่น..!

พระบาลีกล่าวไว้ชัดเจนว่า อัตตนา โจทยัตตานัง เราต้องกล่าวโทษโจทย์ตนเองไว้เสมอ ถ้าเป็นหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านบอกว่า "อย่าคิดว่าตนเองดีแล้วเป็นอันขาด คนไหนคิดว่าตนเองดีแล้ว คนนั้นระยำที่สุด..!" เหตุเพราะว่า เมื่อคิดว่าดีแล้วก็ไม่ขวนขวายที่จะทำให้ดียิ่งไปกว่านั้น

เรื่องพวกนี้ความจริงทุกคนเคยได้ยินมา เคยผ่านหูผ่านตามาทั้งนั้น แต่ว่าพอถึงเวลาแล้วกิเลสก็มีอำนาจมากกว่า ชวนให้ไปกินเราก็กิน ชวนให้ไปนอนเราก็นอน แต่พอถึงเวลาเราชวนมาสวดมนต์ ทำวัตร เจริญกรรมฐาน มันไม่อยากจะมา..! แล้วท่านคิดว่าพรรคพวกในลักษณะนี้ยังจะคบได้หรือไม่ ?

เรื่องของการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราอยู่รอด ก็คือช่วยเสริมสร้างกำลังใจของเราให้เข้มแข็งขึ้น ต่อสู้กับกิเลสได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น แต่เรากลับไม่ขวนขวายที่จะทำให้ดี เหมือนอย่างกับข้าศึกตีเมืองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แทนที่เราจะเสริมสร้างกำแพงให้แข็งแกร่ง ก่อกำแพงให้สูงยิ่งขึ้น สรรหาอาวุธมาต่อสู้กิเลสให้มากขึ้น เรากลับไปอยู่เฉย ๆ รอเวลากิเลสตีเมืองให้แตก ถ้าอยู่ในลักษณะนั้นโอกาสที่จะโดนข้าศึกเข่นฆ่าสังหาร ก็มีมากกว่า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2024 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 10-10-2024, 00:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่ากระผม/อาตมภาพเองล้าเหมือนกับทุกคน ถึงเวลาท่านก็จะไม่เห็นว่าตอนช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพมาเจริญกรรมฐานแล้ว แต่นี่บางทีมาแล้วก็มีพวกท่านอยู่แค่คนสองคน กว่าที่จะมาพร้อม บางทีเสียงตามสายเกือบจะจบแล้ว หรือจนกระทั่งทำวัตรเสร็จ ที่นั่งก็ยังว่างอยู่มากมาย

ถ้าเป็นสมัยอยู่ที่วัดท่าซุง โดน "ไอ้ท่านทหาร" ประจานแน่นอน เพราะไอ้เจ้านั่นเป็นหมาขยัน ถึงเวลาก็ไปทำวัตร สวดมนต์ เจริญภาวนา ตรงไหนที่ว่างเพราะว่าพระเจ้าของที่นั่งไม่มา เจ้าทหารก็จะไปนั่งเกาขี้กลากประจานอยู่ตรงนั้น ก็คือไปทำให้ดูว่า "กูเป็นหมาแท้ ๆ ยังขยันกว่าอีก..!"

หรือไม่ท่านทั้งหลายก็สังเกตดูว่า "แก๊งหมาหน้ากุฏิ" ของกระผม/อาตมภาพ จะวิ่งมาถึงศาลาก่อนเวลาเสมอ ไม่ใช่มาเพราะว่า
กระผม/อาตมภาพนำแล้วตามมา แต่ว่ามากันเอง เขารู้แค่ว่าระยะเวลานี้ ถ้ามานอนบริเวณนี้เขาจะสงบ จะมีความสุข เขาก็มากันเองโดยอัตโนมัติ แต่ว่าเราเป็นมนุษย์ เป็นพระภิกษุสามเณร เป็นแม่ชี เป็นฆราวาสนักปฏิบัติธรรม จิตสำนึกยังสู้หมาไม่ได้..! ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

เพราะฉะนั้น..โอกาสของเราที่บางคนตั้งกำลังใจไว้ว่า "ในช่วงพรรษาจะปฏิบัติให้เต็มที่" เผลอหน่อยเดียวไม้เอกหล่นหายเหลือแค่ "เต็มที" ก็ให้ตั้งกำลังใจเสียใหม่ เหลือเวลาอีกแค่ ๘ - ๙ วันเท่านั้น แต่ความจริงจะใช้คำว่าเท่านั้นก็ไม่ได้ เพราะว่าถ้าเราเร่งรัดปฏิบัติแบบทุ่มเทจริง ๆ ๘ - ๙ วันก็เห็นหน้าเห็นหลังแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่หวังว่า วันนี้ท่านทั้งหลายฟังไปแล้วจะได้สำนึกกันบ้างว่า ตัวเราอยู่ในบ้านที่กำลังไฟไหม้ ควรที่จะรีบเร่งรัดหนี หรือจะปล่อยให้ไฟเผาตายไปอีกชาติหนึ่ง ก็แล้วแต่จะตัดสินใจกันเอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2024 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว