กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-10-2024, 20:06
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-10-2024, 23:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ในส่วนของเรื่องรถทัศนาจรโดนไฟไหม้จนมีผู้เสียชีวิต ๒๓ ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนบาดเจ็บได้รับเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่วนผู้ที่เสียชีวิตก็รับเป็นเจ้าภาพงานศพให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เปรียบเสมือนกับพ่อของคนไทยทั้งประเทศ เมื่อถึงเวลามีเรื่องเดือดร้อนขึ้นมา ก็ทำหน้าที่สงเคราะห์ต่อลูก ๆ

เพียงแต่ว่าทางส่วนราชการ ซึ่งทำหน้าที่ต่างพระเนตรพระกรรณ บางทีส่วนหนึ่งก็แกล้งโง่ อย่างเรื่องที่มีผู้เดือดร้อนเพราะว่าไปซื้อทองคำจากร้านแม่ตั๊ก ปรากฏว่าวันนี้มีคนส่งคลิปมาให้ บอกว่าผลการพิสูจน์แล้วจากทองคำที่หน้าร้านของแม่ตั๊กนั้น ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดทุกรายการที่นำไปทดสอบ..!

กระผม/อาตมภาพฟังแล้วก็ "น้ำตาจิไหล" คือถ้าไม่ใช่โง่สนิทก็ต้องแกล้งโง่ถึงขนาด..! เพราะว่าคนที่เดือดร้อนคือคนที่ซื้อทองคำไป คนที่เขาซื้อไปเขามั่นใจว่าของที่เขาซื้อไปนั้นไม่แท้ เพราะว่าขายต่อไม่ได้ แต่ฝ่ายตรวจสอบเอาทองคำที่หน้าร้านไปตรวจสอบ ฟังดูก็รู้ว่ามีงาน..!

แต่ว่าเรื่องพวกนี้ก็ปล่อยเขาไป เรายืนดูอย่างห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ก็พอ เนื่องเพราะว่าสถานการณ์ทั้งประเทศชาติและทั้งโลกก็ต้องบอกว่ากระชั้นเข้ามามากขึ้นทุกที ใครมีญาติพี่น้องทำงานอยู่อิสราเอล บอกเขาไปเลยว่า "ถ้ามีโอกาสให้รีบกลับอย่างเร่งด่วนที่สุด" ถ้าใครจะคิดว่าคราวที่แล้วพกวัตถุมงคลวัดท่าขนุนแล้วรอดมาได้ คราวนี้จะอยู่ต่อก็ต้องบอกว่าตัวใครตัวมัน..!

เนื่องเพราะว่าเรื่องของวัตถุมงคลนั้น บางทีกันอาวุธขนาดเบาได้ แต่ไปเจออาวุธขนาดหนักก็กันไม่ไหว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าใครที่ไม่กลับ คิดว่าตนเองอยู่ในที่ปลอดภัย หรือว่ามีวัตถุมงคลดีช่วยเหลือตนเองได้ ให้หมั่นสวดมนต์ภาวนาเอาไว้ก็แล้วกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-10-2024 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-10-2024, 23:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับวันนี้กระผม/อาตมภาพไปทำความสะอาดกุฏิเจ้าอาวาส เพื่อเตรียมสถานที่ไว้เข้ากรรมฐาน ๓ วัน ซึ่งจะต้องมีการปลุกเสกเหรียญนาคเกี้ยวกันภัยทุกเนื้อด้วย ปรากฏว่าเจอปลวกกินกุฏิกระจายไปเลย..! เนื่องเพราะว่าช่วง ๒ เดือนที่ผ่านมา มัวแต่ไปยุ่ง ๆ อยู่กับเรื่องของการตรวจประเมิน เพื่อยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ ไม่มีเวลาไปดูไปแล แต่ก็อัศจรรย์ตรงที่ว่าปลวกกินกระจายหมดทุกอย่าง กินกรอบรูปกินอะไรไปหมด แต่ไม่สามารถที่จะกินแผ่นยันต์ได้ ทั้งยันต์มหาพิชัยสงคราม ยันต์พญาเต่ามังการเปิดโลกพลิกชีวิต ไม่ทราบเหมือนกับว่าเกิดจากความแคล้วคลาดหรือว่าคงกระพันกันแน่ ?

แต่หลังจากที่เอาผ้ายันต์มาทำความสะอาดเพื่อรอเข้ากรอบใหม่ กระผม/อาตมภาพรู้สึกปวดข้อมือเหมือนอย่างกับเอ็นอักเสบ..! เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ทำความสะอาดผ้ายันต์โดยไม่ได้ขอขมาพระรัตนตรัยก่อน จึงต้องกราบขอขมาพระรัตนตรัย อาการที่เป็นอยู่ถึงได้หายไป ตรงนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเรื่องอานุภาพของวัตถุมงคล ว่าแม้จะเป็นผ้ายันต์ที่ไม่ได้มีอานุภาพมหาสะท้อนโดยตรง ก็ยังสะท้อนกลับแม้แต่กระผม/อาตมภาพ ที่จะว่าไปแล้วก็คือเป็นคนปลุกเสกเอง..!

อีกประการหนึ่งก็คือยันต์เกราะเพชร สิ่งหนึ่งประการใดก็ตามที่ไม่ดีต่อตัวผู้ที่รับไป ก็จะโดนป้องกันเอาไว้ ก็เลยกลายเป็นว่าพลังงานส่วนหนึ่งก็น่าจะสะท้อนกลับ แต่ยันต์เกราะเพชรก็ไปกันเอาไว้ ก็เลยติดอยู่ที่ข้อมือ ไม่สามารถที่จะขึ้นสูงกว่านั้นได้

ในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น สำคัญที่สุดก็คือความเชื่อมั่นของพวกเรา ความเชื่อมั่นก็คือศรัทธา ซึ่งเป็นต้นของความเชื่อทั้งปวง ศาสนาทุกศาสนาต้องเกิดจากความศรัทธาก่อน ถึงจะเป็นศาสนาได้ เพียงแต่ว่าความเชื่อมั่นตรงนี้ ถ้าหากว่าประกอบไปด้วย ศรัทธา ศีล สมาธิ ปัญญา เหล่านี้ ก็จะเป็นความเชื่อมั่นที่ก่อให้เกิดเวสารัชชกรณธรรม ท่านที่เรียนนักธรรมชั้นตรีอยู่ ลองไปดูหัวข้อนี้ว่า ธรรมที่ก่อให้เกิดความกล้านั้น ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ?

คราวนี้หัวข้อแรกคือความศรัทธาหรือเชื่อมั่นนั้น มีความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย อย่างเช่นพระภิกษุสงฆ์ที่ออกธุดงค์ เราไม่มีอาวุธอะไรที่จะไปต่อสู้กับบรรดาภูตผีปิศาจหรือว่าสัตว์ร้าย ถ้าหากว่าเป็นในสมัยเก่า ๆ แม้แต่มีดโกนเขาก็ไม่ให้ติดไปด้วย เนื่องเพราะว่ามีดโกนสมัยก่อนนั้น ตัวมีดกับใบมีดเป็นชิ้นเดียวกัน เป็นอาวุธร้าย ชนิดที่เรียกว่าฆ่าคนได้แบบไม่ทันรู้ตัว เนื่องเพราะว่าถึงเวลาก็กำด้ามมีดไว้ ปล่อยให้ใบมีดทาบกับท้องแขนตัวเอง แล้วก็ใช้วิธีชกกึ่งปาด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-10-2024 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-10-2024, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นพระธุดงค์สมัยก่อน หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า พอกลับถึงวัดก็หมาเห่าลั่นไปหมด เพราะว่าผมยาวเฟื้อยมาแต่ไกล บางท่านก็อยู่ป่าไป ๙ เดือนเลย ก่อนจะเข้าพรรษาถึงได้กลับวัด คราวนี้ไม่มีมีดโกนก็ต้องกลับมาโกนหัวที่วัด ๙ เดือนผมยาวแค่ไหนก็ลองไว้กันดูก็แล้วกัน..!

หรือไม่ก็มีดที่ใช้งานอื่น ๆ ท่านให้หักปลายทิ้ง อย่างเช่นมีดเจียนหมาก มีดเจียนหมากนั้นเป็นมีดสั้นเล็ก ๆ หรือมีดพับ ใบมีดน่าจะประมาณ ๒ นิ้ว หรือ ๒ นิ้วครึ่งเท่านั้น รุ่นหลัง ๆ พวกท่านไม่ค่อยได้เห็นกัน ขนาดมีดเจียนหมากยังให้หักปลายทิ้งเพื่อไม่ให้พึ่งเป็นอาวุธ ก็คือให้เราพึ่งคุณพระรัตนตรัยอย่างเดียว ถ้าหากว่าเป็นหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ที่ท่านสร้างมีดหมอ ถ้าหากว่าลูกศิษย์ที่เป็นพระไปขอ ท่านจะหักปลายมีดทิ้ง ดังนั้น..ถ้าใครได้มีดหมอหลวงปู่บุญแล้วปลายหัก ให้รู้ว่าหลวงปู่ท่านหักทิ้งเอง ก็คือป้องกันไม่ให้ลูกศิษย์อาศัยมีดหมอนั้นเป็นอาวุธ

ในเมื่อมั่นคงในคุณพระรัตนตรัย ถึงเวลาเผชิญภูตผีปิศาจหรือว่าสัตว์ร้ายแล้วผ่านไปได้อยู่บ่อย ๆ เราก็เกิดความเชื่อมั่นที่ไม่คลอนแคลน คราวนี้
ความเชื่อมั่นต่อพระรัตนตรัยอย่างไม่คลอนแคลนนั้นเป็นพื้นฐานของพระโสดาบัน

ข้อต่อไปก็คือเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บางท่านก็มีสิ่งที่ตัวเองยึดถืออยู่ จะเป็นวัตถุมงคล วัตถุอาถรรพ์ ทนสิทธิ์ สิ่งที่เป็นธรรมชาติหรือคนสร้างขึ้นก็ตาม ในเมื่อมีความเชื่อมั่นก็ทำให้เกิดความกล้าขึ้นมาได้เช่นกัน

ข้อต่อไปก็คือ ความเชื่อมั่นในผู้นำ อย่างที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อถึงเวลาเกณฑ์คนไปรบ แต่ละคนก็มีครูบาอาจารย์ของตัวเอง ต่างคนต่างไม่ยอมลงให้กัน แล้วก็ทำให้ขาดความสามัคคี โอกาสที่จะชนะข้าศึกมีน้อย

องค์ในหลวงรัชกาลที่ ๑ จึงได้ยึดวัตถุมงคลทั้งหมด ไม่ให้ใช้งาน แล้วพระองค์ท่านก็เสกน้ำมัน ซึ่งสมัยก่อนเขาเรียกว่า "แต่งคน" หรือว่า "แต่งทัพ" ก็คือเสกน้ำมันแล้วก็เจิมให้ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายดูตราแผ่นดินของรัชกาลที่ ๑ จะเห็นว่าเป็นรูปอุณาโลม นั่นก็คือสิ่งที่พระองค์ท่านเจิมให้กับทหาร แล้วก็ทดสอบกันตรงนั้นเลย สรุปก็คือผู้นำสามารถทำให้ลูกน้องทุกคนอยู่ยงคงกระพันได้หมด ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ทำให้ลูกน้องเกิดความเชื่อมั่น มีความกล้าขึ้นมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-10-2024 เมื่อ 03:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 04-10-2024, 23:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการสุดท้ายก็คือความเชื่อมั่นในตนเอง ทำสิ่งโน้นก็สำเร็จ ทำสิ่งนี้ก็สำเร็จ เจริญสมาธิภาวนาก็ทรงฌานได้ ทำพระคาถาอะไรก็ขึ้น ก็ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง แบบเดียวกับที่ไกรทองเจอชาละวัน เขาบรรยายเอาไว้ว่าชาละวันใหญ่ไม่มากหรอก ๙ วาเท่านั้น..! ในโลกปัจจุบันของเราสถิติยังไม่มีจระเข้ใหญ่ขนาดนั้น เต็มที่ก็แค่ ๖ เมตรกว่า ถ้าชาละวัน ๙ วาก็ ๑๘ เมตร พูดง่าย ๆ ว่าฮุบทีเดียวทั้งแพทั้งคนก็ไม่เหลือ..! แต่ไกรทองไม่กลัว เพราะมั่นใจในวิชาที่ตนเองเรียนมา

ดังนั้น..การที่เราจะใช้วัตถุมงคล ความศรัทธาจึงเป็นสิ่งที่ต้องมาเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นถ้ามีประสบการณ์ก็จะยิ่งมีความเชื่อถือ เชื่อมั่นหนักขึ้น แบบเดียวกับน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) แขวนสมเด็จองค์ปฐม วัดท่าซุง แล้วไปโดนกระทิงขวิด ใคร ๆ ก็คิดว่าตายแน่นอน เพราะว่ากระทิงขวิดนี่ ต้นไม้ขนาดขาอ่อนโครมเดียวขาดกระจายไปเลย..! แต่น้องเล็กมีแค่รอยช้ำโตประมาณเหรียญ ๑๐ บาท ที่ปลายเขากระแทกเข้าไปเท่านั้น แล้วก็ซี่โครงหัก ไม่รู้ว่าประเภทเป็นผู้หญิงแก่ง่ายตายยากหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?

เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าเกิดขึ้นแล้วเรามีประสบการณ์ก็จะทำให้เชื่อมั่น ดังนั้น..ไม่ว่าจะพกวัตถุมงคลอะไรก็ตาม แต่องค์นี้ต้องติดตัวไปด้วยเสมอ แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพอยู่ชายแดนตลอดปีกว่า สิ่งที่เชื่อมั่นที่สุดก็คือธงมหาพิชัยสงคราม ซึ่งวันนี้ก็โดนปลวกกินพอกัน แต่ว่าธงมหาพิชัยสงครามไม่มีอะไรเสียหายเลย แม้กระทั่งกระดานที่แปะอยู่โดนกินข้างหลังไปแค่ชั้นหนึ่ง พอลอกเอาขี้ปลวกออก ก็ยังคงดี ๆ ทั้งแผ่น..!

ฉะนั้น..เราเคยมีประสบการณ์อะไร เราก็จะเชื่อมั่นในสิ่งนั้น แต่ต้องไม่ประมาท คนฉลาดต้องหนีให้เป็น ถ้าหนีไม่เป็น โอกาสตายมีสูงมาก เพราะเราไม่รู้ว่าเราหมดอายุขัยช่วงนั้นหรือเปล่า ?

ก็ได้แต่ตักเตือนพวกเราเอาไว้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองของเราก็ไม่ดีนัก สถานการณ์โลกก็ย่ำแย่หนักขึ้นไปเรื่อย ๆ อะไรที่เคยตักเคยเตือนไว้ว่าควรจะทำอะไรบ้าง ก็ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำไป ไม่เช่นนั้น ถึงเวลาเดือดร้อนขึ้นมา อย่าหาว่าครูบาอาจารย์ไม่บอกไม่กล่าวก็แล้วกัน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-10-2024 เมื่อ 03:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว