กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-10-2024, 19:51
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,938
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,447 ครั้ง ใน 39,357 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-10-2024, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ตั้งแต่วันนี้ไปเป็นเวลา ๙ วัน จะอยู่ในเทศกาลกินเจของพี่น้องชาวจีนในประเทศไทย ต้องย้ำคำว่า "ชาวจีนในประเทศไทย" เพราะว่าประเพณีแบบนี้ไม่มีในประเทศจีน ฟังดูแล้วงง ๆ ไหม ?

เนื่องเพราะว่าประเพณีกินเจมาจากการก่อกบฏของโจรโพกผ้าเหลือง ใครที่ได้เรียนเรื่องสามก๊กมาก็จะรู้ว่า หัวหน้าโจรโพกผ้าเหลืองก็คือ "เตียวก๊ก" แต่คราวนี้คำว่า "เตียว" ของภาษาจีนฮกเกี้ยนนั้น ภาษาจีนกลางเรียกว่า "จาง" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จีนกลางจะไม่รู้จัก "เตียวก๊ก" จะรู้จักแต่ "จางเทียนซือ" ก็คืออาจารย์จากสวรรค์แซ่จาง

ด้วยความที่ว่าถ้ามีปาฏิหาริย์อะไรจะทำให้คนเลื่อมใสและเชื่อถือได้ง่าย ดังนั้น จางเทียนซือจึงแสดงปาฏิหารย์ต่าง ๆ หลายอย่างให้ดู อย่างเช่นว่าใช้อาวุธเชือดเนื้อ หรือแทงตัวเองแล้วก็ไม่มีบาดแผล เป็นต้น เมื่อคนเลื่อมใสมาก ๆ ก็ทำการก่อกบฏ ทำให้ต้องปราบปรามกันอยู่หลายปี ในเรื่องสามก๊ก เราจะเห็นว่า เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ก็ต้องไปทำหน้าที่ปราบโจรโพกผ้าเหลือง

คราวนี้โจรกลุ่มนี้มีพฤติกรรมอย่างหนึ่งก็คือการกินเจ กินมังสวิรัติ เว้นจากเนื้อสัตว์ ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตจะเห็นว่าธงเจก็เป็นสีเหลือง กลุ่มโจรนี้ก็โพกผ้าเหลือง ก็แปลว่าในสมัยนั้นถ้าใครกินเจในประเทศจีน ก็คือเป็นโจรโพกผ้าเหลืองหรือพวกกบฏ..! แล้วจะให้ประเพณีเจริญในประเทศจีนย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นธรรมเนียมของกบฏ..!

แต่คราวนี้ประเพณีนี้ที่มาเจริญในประเทศไทยของเรา เกิดจากการที่มีพี่น้องเชื้อสายจีนจำนวนมากอพยพเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการหนีภัยจากทางการก็ดี หรือตั้งใจมาหาที่ทำกินใหม่ก็ตาม ก็นำเอาแบบธรรมเนียมนี้มาใช้ต่อ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เลยกลายเป็นประเพณีกินเจในบ้านเราเมืองเราอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้

ดังนั้น..ถ้าหากว่านับกันแต่แรกเริ่มแล้ว ประเพณีกินเจมีที่มาไม่ดี แต่พอถึงเมืองไทยก็มีการปรับเข้ากับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะพระพุทธศาสนามหายาน ก็คือ
ด้วยความที่เป็นพระโพธิสัตว์มีจิตเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ก็เลยไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยการกินเลือดกินเนื้อเขา หากแต่ว่าเปลี่ยนไปกินพวกผัก เราจะเห็นว่าพระสงฆ์ฝ่ายมหายาน ไม่ว่าจะเป็นจีนนิกายหรืออนัมนิกายบ้านเราก็คือกินเจเป็นหลัก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-10-2024 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-10-2024, 00:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ที่บ้านเราเทศกาลกินเจก็จะมีการทรงเจ้า มีการเอาอาวุธมาแทงตัวเอง นั่นก็คือลักษณะการแสดงอภินิหารแบบเดิม ๆ ที่จางเทียนซือหรือเตียวก๊กทำให้บริวารดู แต่จากที่กระผม/อาตมภาพมีประสบการณ์ด้วยตนเอง ไม่ใช่จากการไปดูงานกินเจ แต่ว่าไปดูขบวนแห่เจ้าแม่กวนอิมที่หาดใหญ่

ด้วยความอยากจะเห็นเพราะเขาบอกว่ามีการทรงเจ้าเข้าผีกันด้วย ไปยืนรอตั้งแต่ประมาณ ๙ โมง จนเกือบจะ ๑๐ โมง แดดร้อนขึ้นทุกทีก็ทนไม่ไหว สงสัยว่าทำไมไม่ทรงเสียที ? จึงตั้งใจถามเจ้าที่ซึ่งอยู่ในบริเวณนั้น เจ้าที่เขาบอกว่า "เจ้าพวกนั้นมันเกรงใจท่านครับ มันเลยไม่กล้าลง" พอตั้งใจดูก็เห็นแต่พวกผีเล็กผีน้อยเยอะแยะเต็มไปหมด จึงถามว่า "แล้วใครเป็นคนควบคุมเจ้าพวกนี้ ?" เจ้าที่เขาบอกว่า "ผมเองครับ ถ้าหากว่าไม่ควบคุม บางทีเจ้าพวกนี้ก็ทำอะไรเกินไป จนกระทั่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายได้"

กระผม/อาตมภาพถามต่อไปว่า "ทำแล้วได้ประโยชน์อะไร ?" เขาบอกว่า "ในเมื่อพวกนี้มาแทรกในร่างม้าทรงแล้ว ก็แสดงอภินิหารต่าง ๆ ให้เห็น อย่างเช่นว่าใช้ลูกตุ้มหนามฟาดตัวเองแล้วก็ไม่มีบาดแผล หรือใช้อาวุธแทงตัวเอง ถึงเวลาดึงออกก็ไม่มีบาดแผล ก็จะทำให้คนทั่วไปศรัทธาเลื่อมใส แล้วก็ร่วมบุญกับทางด้านสถานที่บูชาแห่งนั้น ก็เท่ากับว่าได้ทำบุญทำกุศลด้วย ถือว่าสร้างกุศลให้กับตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างน้อยก็ช่วยให้ที่ไปในภพใหม่ของเขาได้ดีขึ้น"

กระผม/อาตมภาพก็เลยบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ลงเสียทีเถอะพ่อคุณ แดดร้อนเต็มทีแล้ว" พอได้รับอนุญาตเท่านั้นแหละ พวกลงกันครึกครื้นมาก ลงกระทั่งคนคุมขบวน..! คราวนี้พอไม่มีคนคุมขบวนก็มีหวังบรรลัยแน่ เขาก็เลยไปขอร้องร่างทรงที่ถือว่าทรงเจ้าแม่อยู่ ให้ถอนการลงทรงของคนคุมขบวน จะได้ไปดูแลขบวนได้ ก็เป็นครั้งเดียวในชีวิตที่ได้ไปดู เห็นอย่างชัดเจนว่า
การที่เจ้าเข้าทรงนั้น ถ้าหากว่าเจ้าในความรู้สึกของเรา ก็น่าจะเป็นเทวดา หรือว่าเทวดาชั้นผู้ใหญ่ ปรากฏว่ามีแต่ผีเล็กผีน้อยเต็มไปหมด ที่เป็นใหญ่ที่สุดในที่นั้นก็เป็นแค่พระภูมิเจ้าที่เท่านั้น..!

ดังนั้น..ในเรื่องของการกินเจ ในเมื่อที่มาไม่ดี ก็เลยไม่เป็นที่นิยมในประเทศจีน เพราะว่าถ้าขืนทำไป โดนข้อหากบฏก็อาจจะโดนตัดหัว ๗ ชั่วโคตร..! ก็เลยมาโด่งดังที่เมืองไทยแทน กลายเป็น Soft Power คนแห่กันไปดูการทางเจ้า ไม่ว่าจะที่ภูเก็ต ที่หาดใหญ่ หรือว่าที่พังงา ไปกันอย่างชนิดที่มืดฟ้ามัวดิน ทำให้เศรษฐกิจของเขาดีขึ้นมาก แล้วบรรดาเทศกาลใหญ่ ๆ โต ๆ เหล่านี้ก็แทบจะมีทั่วประเทศไทย เพราะว่าคนไทยปัจจุบันนี้มีเชื้อสายจีนเก่ากับแทบทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-10-2024 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-10-2024, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การกินเจมีการเว้นจากพืชผักที่มีกลิ่นฉุนบางประเภท อย่างเช่นกระเทียม เป็นต้น เพราะว่าพืชผักเหล่านี้จะไปกระตุ้นกามราคะ ซึ่งจะทำให้เขารู้สึกว่ากินแล้วไม่สะอาดหรือว่าไม่ดี ก็จะพลอยเว้นไปด้วย แต่ประหลาดอยู่เรื่องหนึ่งก็คือการกินเจ เขาไม่เว้นจากหอยนางรม..!

กระผม/อาตมภาพเคยได้ยินผู้ใหญ่เขาเล่าให้ฟังว่า ครั้งที่ซุนหงอคงพาพระถังซำจั๋งไปยังชมพูทวีป ไปติดอยู่ที่ชายทะเล ไม่มีข้าวปลาอาหารอะไร ไม่มีหมู่บ้านให้บิณฑบาต ซุนหงอคงก็เลยเอากระบองของตนเองแหย่ลงไปในทะเล แกว่ง ๆ แล้วก็อธิษฐานว่า "อะไรที่เป็นอาหารเจก็ขอให้ติดกระบองขึ้นมา" ปรากฏว่ามีหอยนางรมติดกระบองขึ้นมา เจ้าหอยนางรมก็เลยซวย กลายเป็นอาหารเจ..! แต่ว่าเรื่องพวกนี้ผู้ใหญ่เขาเล่าให้ฟัง

อีกเสียงหนึ่งเขาบอกว่าหอยนางรมเป็นสัตว์ที่แปลกมาก ก็คือไม่มีเลือด แล้วก็ไม่มีกลิ่นคาว แต่คราวนี้กระผม/อาตมภาพไม่เคยฉัน ก็เลยยืนยันตรงนี้ไม่ได้ เพราะว่าเพื่อนฝูงชวนไปทีไรก็มีแต่หอยนางรมสด แล้ว
พระเราก็ห้ามฉันของสด ก็เป็นอันว่าอดไป ในเมื่อยืนยันไม่ได้ จึงไม่ขอยืนยันที่มาในเรื่องของหอยนางรมนี้ แต่ถ้าหากว่าที่ผู้ใหญ่เขาเคยเล่าให้ฟัง ก็ถือว่าเป็นนิทานปรัมปราซ้อนนิทานในเรื่องไซอิ๋วอยู่อีกทีหนึ่ง

คราวนี้การกินเจนั้น ถ้าหากว่าตั้งใจทำด้วยจิตที่เมตตาต่อสรรพสัตว์จริง ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพียงแต่ว่าถ้าทำในลักษณะนั้นก็ต้องเพิ่มอาหารโปรตีนประเภทพวกถั่วอะไรให้มากขึ้น จะได้ทดแทนเนื้อสัตว์ได้ แต่ถ้าหากกินเจแล้วไปคิดว่าตัวเองเป็นคนดี เป็นคนสะอาด ไม่เบียดเบียนคนอื่น กูเป็นคนดีกว่า ถ้าลักษณะนั้นเขาเรียกว่ากินแล้วแบกกิเลสไปด้วย ก็จะตกอยู่ในลักษณะของการทำบุญเอาหน้า


ในเรื่องของการกินเจ อย่างสมัยที่หลวงตาปรีชา (พระปรีชา อกิญฺจโน) ยังอยู่ ท่านก็จะไปขออาหารที่โรงเจ กระผม/อาตมภาพต้องดุเอาว่า "หลวงตากำลังจะหาเรื่องอาบัติติดตัว" ก็คือ "อาหารในโรงทานที่ทำทั่วไปไม่นิยมบุคคล ภิกษุไปรับอาหาร ๒ วันติดกันต้องอาบัติปาจิตตีย์" ถ้าอยากกินเจเพราะว่าทำจนกระทั่งเคยชินก็ไปบอกแม่ชีเขาผัดผักให้ ไม่ใช่ไปรับอาหารจากโรงเจ เดี๋ยวจะศีลขาดเสียเปล่า ๆ เพราะขาดความระมัดระวัง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-10-2024 เมื่อ 01:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 04-10-2024, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ บางทีการที่ทำไปพระของเราก็ไม่ค่อยจะรอบคอบ ในเมื่อไม่รอบคอบ โอกาสที่จะทำผิดพลาดก็มี แต่ยังดีที่ครูบาอาจารย์เตือนแล้วท่านก็ยังฟัง ตอนหลังท่านถึงได้มาตายอยู่กับวัดท่าขนุน เพราะว่าไปอยู่กับคนอื่นไม่ได้ ใครเตือนแล้วไม่ค่อยจะฟัง นี่กระผม/อาตมภาพมานินทาผีลับหลัง ยังดีที่ท่านตายไปแล้ว..!

ฉะนั้น..
ถ้าหากว่าใครคิดว่าจะกินเจเพื่อสงเคราะห์สรรพสัตว์ก็กินตลอดชีวิตไปเลย ไม่ใช่มากินอยู่แค่ ๙ วัน แต่ถ้าหากว่าตั้งใจว่าช่วง ๙ วันนี้ เราจะสร้างความดีด้วยการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ จะกินเจอย่างเดียวหรืออะไร ก็แล้วแต่กำลังใจของแต่ละคน

เพียงแต่ว่าในเรื่องของข้าวปลาอาหารนั้นมีส่วนไม่มาก ในการที่ช่วยให้เราละกิเลส เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่กิเลสอยู่ในใจของเรา ต้องขัดเกลาอยู่ตลอดเวลา เผลอเมื่อไร แม้กระทั่งเรื่องดี ๆ อย่างการกินเจ ก็เอาไปข่มชาวบ้านเขาเสียแล้ว ถ้าลักษณะนั้น ไม่กินเจดูท่าจะดีกว่า..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-10-2024 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:19



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว