กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-08-2024, 18:04
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-08-2024, 01:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพต้องนำผู้ป่วย คือนางสาวไพรินทร์ สุวิชชาญพันธุ์ ที่เรียกตามลูกว่า "หม่าม้า" ไปรับการรักษาจากท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) ที่วัดโพธิ์ลังกา เมื่อไปถึงแล้วก็ได้ทิ้ง "หม่าม้า" เอาไว้ โดยบอกว่า "ขอฝากผู้ป่วยเอาไว้ก่อน ส่วนผู้ป่วยหนักกว่าจะไปทำการตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ที่วัดสามหมื่น ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี..!"

แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินทางไปถึง เขาไม่ได้จัดการตรวจประเมินไว้ที่วัดสามหมื่น หากแต่จัดการตรวจประเมินไว้ที่อุทยานบ้านแป้ง ซึ่งเป็นธรรมอุทยาน โดยเฉพาะในส่วนของศาลาตรวจประเมินนั้นคือ ศาลาแก้วกลางกายซึ่งติดมีเครื่องปรับอากาศทั้งหลัง..!

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่นึกว่า คนเราบางคนช่างสร้างบุญเอาไว้ดีเหลือเกิน เนื่องเพราะว่าพอ
"หม่าม้า" รักษาเสร็จแล้วก็จะมีผู้นำมาส่ง ตอนแรกยังคิดว่าต้องนั่งทนร้อนจนกว่าประเมินเสร็จ แต่ปรากฏว่าเจอศาลาปรับอากาศทั้งหลัง ตรงนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่า ในเรื่องของบุญกุศลนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งในการนำทางชีวิตของพวกเรา บุคคลที่สร้างบุญกุศลเอาไว้จนกระทั่งบุญกุศลหนุนนำนั้นเป็นเช่นนี้เอง

ญาติโยมบางท่านอาจจะคิดว่ากระผม/อาตมภาพเพ้อเจ้อ แต่เมื่อปีที่แล้วซึ่งได้ทำการตรวจประเมินเพื่อยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ ๒๒ จังหวัด เนื่องจากว่าขาดจังหวัดชลบุรีไป ๑ จังหวัด เหตุเพราะว่าต้องไปรับโล่ผู้มีอุปการคุณต่อมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงทำให้ขาดไป ๑ จังหวัด ทั้ง ๒๒ จังหวัดนั้น
"หม่าม้า" ไปร่วมงานตรวจประเมินอยู่จังหวัดเดียว และจังหวัดนั้นก็มีศาลาปฏิบัติธรรมติดเครื่องปรับอากาศทั้งหลังเช่นกัน อีก ๒๑ จังหวัดร้อนแทบตาย..! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะไม่เชื่อในเรื่องของบุญของกุศลก็ไม่ได้

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และญาติโยมทั้งหลายเป็นการย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ในเรื่องของการสร้างบุญสร้างกุศลนั้น เรามีหน้าที่ทำ เรามีหน้าที่สร้าง ส่วนผลบุญจะตอบสนองหรือไม่ เราไม่มีหน้าที่ไปกังวลสนใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2024 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-08-2024, 01:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีหลายท่านที่เรียกร้องว่า "ทำบุญแล้วทำไมบุญไม่ช่วยเลย ?" กระผม/อาตมภาพอยากจะถามกลับไปว่า "แน่ใจแล้วหรือว่าทำบุญพอแล้ว ?" ถ้าหากว่าวงจรชีวิตของเราเหมือนกับแก้วน้ำใบหนึ่ง ท่านทำบุญไปเพิ่งมีน้ำเปียกก้นแก้วเพียงเล็กน้อย แล้วจะนำน้ำไปใช้งาน ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่บุคคลที่สร้างบุญอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องกันมาชาติแล้วชาติเล่า เปรียบเสมือนกับบุคคลที่มีน้ำเต็มแก้ว สามารถที่จะใช้งานได้ทุกเวลา ต่อให้ต้องการหรือไม่ต้องการ บุญนั้นก็ย่อมส่งผลแก่ท่านเอง

สมดังที่หลวงปู่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ญาโณทยมหาเถร) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร หลวงปู่อดีตสมเด็จพระสังฆราชได้กล่าวเอาไว้ว่า "ตราบใดที่เรายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ การสร้างบุญยังเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เหตุเพราะว่าบุญนั้นส่งผลแก่ในด้านดีแก่เราโดยด้านเดียวเท่านั้น"

เรื่องของ "หม่าม้า" จึงเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหลายต้องยึดถือไว้เป็นแบบอย่างว่า
บุคคลที่ทำบุญจนกระทั่งบุญล้นแล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหน เรื่องของเจ้าที่เจ้าทางหรือเทวดาอารักษ์ก็ต้องอำนวยอวยชัยให้ ไม่ต้องเสียเวลาไปบนบานศาลกล่าว ไม่ต้องเสียเวลาไปร้องขอใด ๆ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นเอง

การตรวจประเมินยกบ้านสามหมื่นขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบนั้น บ้านสามหมื่นหรือว่าวัดสามหมื่น ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดกลางธนรินทร์นั้น เป็นวัดของชุมชนชาวลาวเวียงจันทน์ ซึ่งโดนกวาดต้อนมาสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๓ มาตั้งรกรากสืบเชื้อสายกันอยู่ ณ ที่นี้ บรรดาคุณย่าคุณยายยังพูดสำเนียงลาวเวียงจันทน์อยู่เลย เมื่อขอให้พูด ทุกคนก็สามารถที่จะพูดได้อย่างคล่องแคล่ว ยังไม่ลืมภาษาถิ่นของตนเอง

วัดกลางธนรินทร์นั้นเกิดจากพระยากลางธนรินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองกลางในสมัยนั้น คำว่า "เมืองกลาง" ก็คือสถานที่ซึ่งทางพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ยกให้เป็นที่ตั้งชุมชนชาวลาวเวียงจันทน์หมู่นี้ แล้วก็ตั้งหัวหน้าชุมชนเป็นพระยากลางธนรินทร์ หรือที่ทุกคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า "ท่านเจ้าคุณเมืองกลาง" เมื่อสืบสายมาจนถึงปัจจุบัน ก็ยังสามารถที่จะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของตนอยู่ได้เป็นอย่างดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2024 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-08-2024, 01:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วด้วยเหตุที่ว่าบ้านสามหมื่นเป็นชุมชนการเกษตร มีการหาอยู่หากินกับธรรมชาติ ในเรื่องของเนื้อสัตว์ก็อาศัยปลาในแม่น้ำ ในเรื่องของข้าวปลาอาหารก็ปลูกกินเอง ผักต่าง ๆ ก็หาเอาตามธรรมชาติ จึงเป็นชุมชนที่แทบจะปราศจากคนท้องที่อื่นเข้ามาสอดแทรก เพราะว่าไม่ใช่ชุมชนอุตสาหกรรมที่จะมีการเคลื่อนย้ายแรงงาน จึงทำให้สามารถรักษาขนบธรรมเนียบประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามเอาไว้ได้

โดยเฉพาะงานตักบาตรดอกไม้ ซึ่งท่านทั้งหลายก็คงจะเคยชินกับงานตักบาตรดอกไม้ที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งบริเวณนั้นก็มีพี่น้องชาวลาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน แต่ว่าพี่น้องชาวลาวเวียง หรือที่เรียกกันว่าไทยเวียงในปัจจุบันนี้ของบ้านสามหมื่น ก็ยังสามารถรักษาวัฒนธรรมการตักบาตรดอกไม้เอาไว้ได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะเครื่องแต่งกายและการฟ้อนรำ ยังเป็นวัฒนธรรมที่สามารถแปลงเป็นมูลค่าได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อถึงเวลาทำการตรวจประเมินตามขั้นตอนแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ให้คำแนะนำแก่ทางวัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรีว่า สามารถที่จะส่งเสริมให้สถานที่นี้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ชุมชน และวัฒนธรรมการตักบาตรดอกไม้ ก็สามารถที่จะนำมาเป็นจุดขายในแหล่งประวัติศาสตร์ชุมชนแห่งนี้ได้ โดยเฉพาะวัดกลางธนรินทร์ หรือว่าวัดบ้านสามหมื่นนี้ ยังไม่ได้รับการยกขึ้นเป็นสำนักงานปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด จึงขอให้ท่านผู้อำนวยการพระพุทธศาสนาจังหวัดสิงห์บุรี ได้ช่วยอนุเคราะห์ในการจัดตั้งขึ้นเป็นสำนักงานปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดด้วย

เมื่อเสร็จจากการตรวจประเมิน และได้ส่งคะแนนให้กับทางเลขานุการแล้ว ทางด้านท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี คือ นายปรีชา ดิลกพรเมธี ก็ได้นำข้าราชการทุกส่วนทำการปฏิญาณตนว่า จะใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและการรักษาศีล ๕ เป็นเครื่องดำเนินชีวิต คณะสงฆ์ทั้งหลายจึงได้อนุโมทนา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2024 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-08-2024, 01:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อถ่ายรูปหมู่ร่วมกันแล้วก็มีการนัดแนะว่า พรุ่งนี้จะไปตรวจประเมินที่จังหวัดชัยนาท เราจะต้องไปพักที่ไหน ? ไปฉันอาหารกันที่ไหน ? มะรืนนี้ไปตรวจประเมินที่จังหวัดอุทัยธานี จะต้องไปพักในที่ใดบ้าง ? เหล่านี้เป็นต้น แล้วก็แยกย้ายกันฝ่ารถติดกลับสู่ที่พักของตน

การตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของจังหวัดสิงห์บุรีนี้ กระผม/อาตมภาพได้พบกับเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ ๒ รูป ก็คือพระครูศรีพรหมาภิวัฒน์ (ประเวช โชติวฑฺฒโน) เจ้าอาวาสวัดปราสาท เจ้าคณะอำเภอพรหมบุรี เจ้าของสถานที่ และพระครูกิตติสารวิสิฐ (วิรัตน์ กิตฺติสาโร) เจ้าคณะตำบลบางมัญ เขต ๑ เจ้าอาวาสวัดตึกราชา

เมื่อทักทายกันแล้วยังเรียนบอกกับท่านว่า เพื่อนฝูงของเราไม่ว่าจะเป็นพระครูสุเมธานุวัตร (ประเมษฐ์ ฐานิสฺสโร) เจ้าอาวาสวัดตลาดใหม่
เจ้าคณะตำบลหลักแก้ว จังหวัดอ่างทองก็ดี พระมหาจินตวัฒน์ จารุวฑฺฒโน ป.ธ.๘, ดร. เจ้าอาวาสวัดม่วงชุม เจ้าคณะตำบลไม้ดัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรีก็ดี ตลอดจนกระทั่งพระครูสิทธิวัฒนคุณ (พรพรหม ฐิตคุโณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตตลิ่งชัน เจ้าอาวาสวัดกระจังก็ดี พากันเจ็บไข้ได้ป่วยไปตาม ๆ กัน ใครอยู่ใกล้ที่ไหนก็ไปเยี่ยมเยือนให้กำลังใจเพื่อนฝูงบ้าง

ท่านพระครูกิตติสารวิสิฐยังบอกว่า "จำเพื่อนฝูงได้หมดแบบนี้ แถมยังรู้ความเคลื่อนไหวขนาดนี้ ก็สมควรแล้วที่รับหน้าที่ประธานรุ่นมาถึง ๓ วาระ คาดว่าครั้งต่อไปก็คงต้องรับหน้าที่อีกตามเคย"

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่กลืนน้ำลายว่า เมื่อไรเพื่อนฝูงจะมีความรับผิดชอบกันเสียที เมื่อโยนหน้าที่มาให้ ถึงเวลาเลือกตั้งใหม่ก็บอกว่า "รูปเดิมสมควรเป็นต่อ ท่านทำหน้าที่ได้ดีแล้ว" กระผม/อาตมภาพก็ต้องกัดฟันทำหน้าที่ต่อไป คาดว่าอาจจะหมดลมหายใจคาตำแหน่งไปเลยก็เป็นได้..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2024 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว