กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-08-2024, 19:45
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-08-2024, 01:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ตอนนี้คณะสงฆ์ของเรากำลังวุ่นวายอยู่กับการช่วยเหลือชาวบ้านที่โดนน้ำท่วมทางภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน เพชรบูรณ์ ทหารก็ต้องออกไปช่วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็พระราชทานถุงยังชีพแก่ครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วม ๕,๐๐๐ ครอบครัว

ส่วนรัฐบาลของเรา ดูท่าจะมีแต่นายกรัฐมนตรีหญิงของเราเท่านั้นที่ออกไปเยี่ยมเยียนชาวบ้าน บรรดารัฐมนตรีและ ส.ส. จำนวนมาก โดยเฉพาะเจ้าของพื้นที่ ทำไมถึงไม่มีข่าวไม่มีคราวก็ไม่รู้ ? นั่นต้องบอกว่าแล้วแต่ว่าเราเลือกใครมา ถ้าเลือกบุคคลที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เข้ามาเพื่อแก้ไขความทุกข์ยากของประชาชนได้ก็ถือว่าดีไป ถ้าหากว่าเลือกแล้วได้บุคคลที่เข้ามาเพื่อหาแต่ผลประโยชน์ ตรงนี้ก็ต้องแล้วแต่เวรแต่กรรม..!

วันนี้กระผม/อาตมภาพไปประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ระดับเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล และเลขานุการทุกระดับ ซึ่งการประชุมนี้เป็นไปตามมติมหาเถรสมาคม ก็คืออย่างน้อยต้องมีปีละ ๒ ครั้ง

ในการประชุมนั้น ทางฝ่ายสาธารณูปการ ก็คือฝ่ายที่ดูแลการก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์ ได้ปรารภถึงเรื่องที่กำลังโด่งดังอยู่ในสื่อโซเชียล ก็คือวัดทางด้านภาคเหนือ ที่ได้สร้างท้าวเวสสุวรรณสูงใหญ่กว่าพระธาตุที่ชาวบ้านเคารพนับถือ แล้วในที่สุดก็ทนกระแสไม่ไหว แม้ว่าเพิ่งจะขึ้นไปได้แค่ท่อนขาเท่านั้นก็ต้องเอาลง

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ท่านต้องเข้าใจว่า แม้แต่การบรรพชาสามเณรหรือว่าอุปสมบทพระก็ตาม เราต้องรับสรณคมณ์ ก็คือ "พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง ขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง" ไม่ใช่อย่างอื่น ต่อให้ท่านทั้งหลายเคารพนับถืออะไรขนาดไหนก็ตาม ท่านต้องไม่ลืมว่าโดยหลักเลยก็คือพระรัตนตรัย ส่วนที่เหลือต้องเป็นส่วนรอง หรือว่าส่วนประกอบเท่านั้น

ทุกท่านจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพจะชอบเครื่องรางขนาดไหนก็ตาม แต่จะเอารูปพระนำหน้าเสมอ แม้กระทั่งการมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดท่าขนุนแห่งนี้ สิ่งแรกที่ทำก็คือรื้อศาลเจ้าแม่กวนอิม และศาลพระพิฆเณศวร์ที่หน้าวัดทิ้งไปเลย เนื่องเพราะว่าวัดต่าง ๆ นั้นส่วนใหญ่ต้องการจะดึงคนเข้าวัด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ก็ต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้เคารพบูชา

แต่ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมว่า
เจ้าแม่กวนอิมแม้ว่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ แต่มาจากสายมหายาน พระพิฆเณศวร์ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะมาจากศาสนาฮินดู ในยุคของเราอาจจะแยกแยะออก แต่ถ้าทิ้งไว้นาน คนรุ่นหลังที่ปัญญาน้อย อาศัยศรัทธาอย่างเดียวจะแยกแยะไม่ออก แล้วการยึดถือในพระรัตนตรัยก็จะเปลี่ยนแปลงไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2024 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-08-2024, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพจึงต้องป้องกันเอาไว้ตั้งแต่แรก แต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย น่าเสียดายตรงที่ว่า ประกาศว่าวัดไหนต้องการให้มาขนเอาไปเลย ไม่ถึงครึ่งวันก็หายวับไปกับตา ทั้ง ๆ ที่เจ้าแม่กวนอิมหล่อโลหะ หนักตั้งหลายตัน..! ก็แปลว่าบรรดาท่านที่ยังเห็นแก่ประโยชน์ ถ้าหากว่าเห็นได้ถูกต้อง ก็คืออาศัยประโยชน์นั้นในการพัฒนาวัดของตนให้เจริญขึ้น แต่ก็ถูกไม่หมด เพราะว่าอาศัยเทพอาศัยพระโพธิสัตว์

แต่ถ้าหากว่าวัดที่เห็นแก่ประโยชน์อย่างเดียว เพราะว่านักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก โดยเฉพาะจากฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ ถ้าหากว่าวัดไหนไม่มีเจ้าแม่กวนอิม ไม่มีพระพรหม ไม่มีพระพิฆเณศวร์ เขามักจะไม่ค่อยเข้ากัน

แม้กระทั่งเพื่อนฝูงหลายรายก็แนะนำให้กระผม/อาตมภาพว่า ที่ว่างหน้าวัดมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมไม่สร้างรูปหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงใหญ่ที่สุดในโลกไปเลย กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ขนาดกูสร้างสมเด็จองค์ปฐมยังกลายเป็นเจ้าพ่อ แล้วถ้ากูสร้างหลวงพ่อฤๅษีจะกลายเป็นอะไร ?"

ถามว่าทำไมถึงกลายเป็นเจ้าพ่อ ? เพราะว่าบรรดารถที่วิ่งผ่านมีการบีบแตรด้วย ลักษณะเดียวกันวิ่งผ่านศาลเจ้าพ่อที่เขาเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์และขลัง สิ่งที่เราสร้างไว้ตั้งใจให้เขาเห็นเป็นอนุสติ ถ้าระลึกถึงพระรัตนตรัยได้ ต่อให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตก็ยังมีสุคติเป็นที่ไป แต่กลายเป็นว่าเขาเชื่อถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะต้องเซ่นสรวงบูชา อย่างน้อยก็ต้องใช้เสียงในการบูชา

ในเรื่องของการบริหารวัดวาอารามจึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง แม้กระทั่งวันนี้สมุห์บอส (พระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม) เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง มากระซิบบอกตอนกำลังประชุมว่า มีโยมวาดรูปหลวงปู่สายเป็นสีน้ำมันขนาดใหญ่ จะให้นำมาถวายในงานนี้เลย หรือว่านำไปถวายที่วัด กระผม/อาตมภาพบอกว่าไม่รับ เพราะว่าไม่มีสถานที่เหมาะสมที่จะติดตั้งไว้ให้คนบูชา

หลายท่านที่ตั้งใจสร้างพระพุทธรูปมา เพื่อที่จะถวายไว้ที่วัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพปฏิเสธไปทั้งหมด เราต้องไม่ลืมว่า ถ้าพระพุทธรูปคือพ่อใหญ่เจ้าของพระพุทธศาสนา ที่เราควรจะบูชา ควรที่จะยกย่อง ไม่ใช่ไปสิ้นคิด เห็นว่าเป็นอิฐเป็นปูน ไม่ต้องกราบไหว้ก็ได้ แล้วถ้าหากว่าเป็นรูปครูบาอาจารย์ นั่นก็คือผู้มีพระคุณที่สั่งสอนเรามาจนเป็นตัวเป็นตนในทุกวันนี้ ก็ควรจะมีสถานที่ประดิษฐานให้เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ใช่อย่างหลายวัดที่เป็นอยู่ ก็คือพระพุทธรูปวางระเกะระกะเต็มศาลาไปหมด ทั้งใยแมงมุม ทั้งขี้นก ทั้งไก่ไปทำรัง เห็นแล้วสลดใจ..!

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าที่วัดนี้ของเรา ถ้าหากว่าไม่ใช่สถานที่เหมาะสมจริง ๆ กระผม/อาตมภาพจะไม่ให้มีพระพุทธรูปเลย ที่เคยมีเกะกะเต็มไปหมดก็เก็บไปบรรจุตอนสร้างพระองค์ใหญ่ไปแล้ว ถ้าหากว่าใครคิดจะเอาพระมาถวายวัดท่าขนุนต้องคิดให้ดี เพราะว่าถ้าไม่ได้พูดคุยตกลงกันก่อน มาถึงก็จะโดนไล่เตลิดเปิดเปิงกลับไปหมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2024 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-08-2024, 01:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ.๖) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร ท่านได้กล่าวถึงคนแก่ เพราะท่านบอกว่าอายุท่านก็มากขนาดนั้นแล้ว ก็คือ ๗๐ กว่าปี ในเรื่องของการบริหารคณะสงฆ์ ก็ต้องฝากกับบรรดาเจ้าอาวาสหรือว่าเจ้าคณะตำบลรุ่นหลัง ๆ ที่จะขึ้นมาทดแทน

ท่านบอกว่าคนแก่มีลักษณะหลายอย่าง อย่างแรกก็คือใจไม่ฟู พูดง่าย ๆ ว่าไม่ยินดียินร้ายอะไรง่าย ๆ แล้ว พูดแบบไม่เกรงใจก็คือตายด้านแล้ว

อย่างที่สองก็คือดูไม่ชัด ขนาดใส่แว่นแล้วยังมองอะไรไม่ค่อยถนัด อย่างกระผม/อาตมภาพถ้าถอดแว่นก็ไม่ต้องอ่านหนังสือเลย..!

อย่างที่สามก็คือกัดไม่เข้า ฟันฟางไม่ค่อยจะเหลือแล้ว ต่อให้เป็นฟันปลอมก็ใช้ได้ไม่ถนัดเหมือนกับฟันจริง

อย่างต่อไปก็คือเบาไม่รู้ เบาในที่นี้ก็คือปัสสาวะ คนแก่บางทีปัสสาวะไหลไม่รู้ตัว เพราะว่ากล้ามเนื้อหูรูดเสื่อมบ้าง เป็นต่อมลูกหมากโตบ้าง ขาดสติบ้าง

ข้อต่อไปก็คือหูไม่ดี คนแก่
แล้วเขาบอกว่า "หย่อนทั้งตัว ตึงแต่หูเท่านั้น" บางทีพูดใส่เราเสียงดังลั่นเลย เพราะคิดว่าเสียงเบาเนื่องจากว่าไม่ได้ยินเสียงตัวเอง ส่วนเราตะโกนใส่หูไป ท่านบอกว่า "พูดดัง ๆ หน่อย..!"

ข้อสุดท้ายท่านบอกว่ามีเพื่อนน้อย เพราะว่าชิงตายไปตั้งแต่อายุยังน้อยกว่าบ้าง อายุมากกว่าบ้าง ถือว่าเป็นวัยวิกฤตอย่างหนึ่ง ก็คือวัยรุ่นเป็นวัยวิกฤต เพราะว่าฮอร์โมนล้นเกิน ส่วนวัยชราเป็นวัยวิกฤต เพราะว่าฮอร์โมนขาด ส่วนใหญ่แล้ววัยรุ่นกับวัยร่วงมักจะไปกันไม่ค่อยได้ เพราะว่าฝ่ายหนึ่งพลังงานล้นเกิน อีกฝ่ายหนึ่งก็หมดพลัง

ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครอยู่ในสภาพ ใจไม่ฟู ดูไม่ชัด กัดไม่เข้า เบาไม่รู้ หูไม่ดี มีเพื่อนน้อย ให้รู้ตัวไว้ว่าแก่ได้ที่แล้ว ตั้งหน้าตั้งตาถือศีลภาวนาได้แล้ว ไม่เช่นนั้นก็อาจจะตายฟรี ไม่มีความดีอะไรติดตัวเลย ดีไม่ดีมีเสียงถามว่า "เจ้าเป็นอะไรตาย ?" ยังเถียงอีกว่า "อย่ามาอำกันนะ..!"

เรื่องพวกนี้ถือว่าเป็นข้อคิดอย่างหนึ่ง ที่พระมหาเถระมากประสบการณ์ท่านเล่าเอาไว้ในงานประชุม พวกเราเองให้เก็บเอาไว้พิจารณาตัวเอง อย่าไป "หลงวัย" ว่าเรายังอายุน้อยอยู่ อย่าไป "หลงชีวิต" ว่าเรายังไม่ตาย แล้วก็อย่าไป "หลงโลก" เนื่องเพราะว่าโลกมีแต่ความทุกข์อยู่เสมอ

วันนี้พรรคพวกเพื่อนฝูงต้องลงไปช่วยชาวบ้านทำความสะอาดบ้านกันทั้งภาคเหนือ ส่งรูปมาให้ดู เอาไม้กระดานกวาดโคลนออกจากบ้านเป็นถัง ๆ แล้วก็ช่วยกันล้างช่วยกันถู ไม่รู้เหมือนกันว่านักการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่นไปไหนหมด เห็นแต่รูปพระเณร เห็นแต่รูปทหาร เห็นแต่ของพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นักการเมืองก็เหลือแต่นายกรัฐมนตรีหญิงคนล่าสุดของเรา ที่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็มีแต่เสียงด่ามารอบทิศ ล้วนแล้วแต่วิตกจริตเกินตายทั้งนั้น..! ก็คือใครเขาขึ้นมารับตำแหน่งก็ปล่อยให้เขาแสดงฝีมือไปก่อน ไม่ใช่กูด่าเอาไว้ก่อน ไอ้การที่ไปคิดว่า คาดว่า ใครก็พูดได้ ไอ้การเป็นคนดู วิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็ได้ ปล่อยให้ขึ้นเวทีไปต่อยมวยเองไม่เห็นจะเป็นเรื่องสักราย..!
ใครเขามาตามระบอบก็ให้โอกาสเขาทำงานดูก่อน ถ้าไม่ดีจริง คราวหน้าเราก็เลือกคนใหม่ ระบบของเขาก็มีอยู่แล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2024 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:59



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว