เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๗

[พิชวัฒน์]

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๗

[เถรี]

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่งของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ เนื่องเพราะว่าต้องจัดประชุมอบรมพระนวกะ ซึ่งอุปสมบทภายในพรรษา ๒๕๖๗ นี้ โดยมีท่านพระครูกิตติกาญจนคุณ (กิตติศักดิ์ ฐานจาโร) เจ้าคณะตำบลปิล็อก เจ้าอาวาสวัดนพเก้าทายิการาม รับอาสาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอบรมครั้งนี้

บรรดาเจ้าคณะปกครองต่าง ๆ ได้ร่วมกันเสียสละปัจจัยช่วยงาน เพื่อแบ่งเบาภาระปัจจัยของท่านเจ้าภาพ แต่กระนั้นก็ตาม กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปที่วัดนพเก้าทายิการามตั้งแต่เช้ามืด นอกจากตรวจดูความเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังต้องทำหน้าที่โฆษก เพื่อที่ไม่ให้วัดเงียบเหงา แล้วในขณะเดียวกัน ก็ได้กล่าวถวายการต้อนรับบรรดาเจ้าคณะปกครอง ทั้งของอำเภอทองผาภูมิและอำเภออื่น ๆ ที่เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ด้วย

โดยมีพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีเป็นผู้ทำพิธีเปิด หลังจากที่ให้โอวาทแล้ว ก็ได้ถวายหน้าที่ให้กับพระเดชพระคุณพระโสภณกาญจนาภรณ์ (ทอมสันต์ จนฺทสุวณฺโณ ป.ธ.๔) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ให้โอวาทต่อไป

พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดกล่าวว่า "งานตรวจประเมินเพื่อหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบครั้งนี้ ผมขอถวายภาระให้หลวงพ่อเล็กเป็นงานหลักเลยนะครับ เนื่องเพราะว่าตัวผมเองต้องติดเป็นประธานในงานอบรมพระนวกะของอำเภอต่าง ๆ อีกหลายต่อหลายวันด้วยกัน"

กระผม/อาตมภาพจึงได้เรียนถวายท่านว่า "แม้จะเป็นงานของตนเองก็ตาม แต่ว่าวันนี้กระผมก็อยู่ได้แค่ครึ่งวันเท่านั้น เพราะว่าจะต้องวิ่งไปยังวัดอุทยาน จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านแรกที่ได้รับการตรวจประเมินของปีนี้ เพื่อที่ไปดูความเรียบร้อย และได้ซักซ้อมขั้นตอนต่าง ๆ ในพิธีการให้ออกมาคล่องตัวที่สุด"

เนื่องเพราะว่าผู้ใหญ่ ก็คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ประธานบริหารโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) จะมาร่วมการตรวจประเมินในวันพรุ่งนี้ด้วย

[เถรี]

เมื่อได้ฉันเพลและกราบลาทุกท่านแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ฝ่ารถติดตรงไปยังวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ไปถึงก็เข้าไปดูการเตรียมงานต่าง ๆ เหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าศาลาโดมขององค์การบริหารส่วนตำบลบางขุนกอง ที่คุณปริศนา ลักษณะกุลบุตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางขุนกองอนุญาตให้ใช้นั้น เมื่อทำการจัดสถานที่และนำเอานิทรรศการต่าง ๆ เข้าไปประจำที่แล้ว กลายเป็นว่าจากที่โล่งโถงดูกว้างใหญ่ไพศาล ตอนนี้กลายเป็นพอเหมาะพอดีไปหมด ถ้าไม่ได้ศาลาโดมใหญ่ขนาดนี้ คาดว่าทุกอย่างก็ยังไม่ลงตัว

ต่อมาก็ยังต้องมาปรับขั้นตอนต่าง ๆ ให้กับทางผู้ถ่ายทำทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เพื่อเก็บไว้เป็นผลงานของทั้งทางวัด และทางโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ โดยที่ต้องมาปรับแก้กันหลายต่อหลายขั้นตอน เนื่องเพราะว่าต้องการให้กระชับที่สุด และขั้นตอนเป็นไปด้วยความถูกต้องคล่องตัวที่สุด

ผู้ที่เคยผ่านงานมาแล้วอย่างกระผม/อาตมภาพ หรือว่าน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) นั้น สามารถที่จะให้คำปรึกษาได้ทุกขั้นตอน แต่ว่าก็ต้องมีการโทรศัพท์ประสานงานกับท่านเจ้าคุณเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนกลางว่า "ถ้าทำอย่างนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านจะเมตตาอนุเคราะห์หรือไม่ ?"

ความจริงแล้วการที่นิมนต์ท่านมาเป็นประธานนั้น ส่วนใหญ่ท่านก็ตามใจเจ้าภาพ แต่พวกเราก็เกรงใจว่าหลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านเป็นแขกผู้ใหญ่ ซึ่งการที่ผู้ใหญ่ระดับนี้ลงมาดูการตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ จึงไม่อยากที่จะให้ขั้นตอนยืดเยื้อ

ถ้าหากว่าขั้นตอนทุกอย่างสามารถที่จะหยุดลงได้ หรือว่าจบลงได้ด้วยเวลาที่กระชับ แล้วเป็นที่ประทับใจของท่าน ต่อไปการตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบของจังหวัดอื่น ๆ ก็จะสามารถนิมนต์ท่านไปร่วมงานได้อีก โดยไม่ต้องตะขิดตะขวงใจ เป็นต้น เรื่องพวกนี้พระผู้ใหญ่ท่านไม่คิด แต่พวกระดับดำเนินงานอย่างพวกเราต้องคิดมากเป็นพิเศษ ก็คืออะไรถ้าหากว่าเป็นที่ระคายเคือง หรือว่าไม่สมเกียรติ ก็จำเป็นที่จะต้องตัดออกไป หรือไม่ก็ปรับให้เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะทำได้

ต้องบอกว่าพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. ของเรานั้น งานนี้น่าจะน้ำหนักลดได้หลายกิโลกรัม เนื่องเพราะว่าวิ่งตะลอน ๆ เตรียมงานมาเป็นเดือนแล้ว โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ อาทิตย์สุดท้ายนี้ กว่าจะได้หลับนอนก็ดึกดื่นเที่ยงคืน บางวันกระผม/อาตมภาพตื่นขึ้นมาเพื่อทำงานแล้วตอนตี ๑ ตี ๒ ท่านเองยังไม่ได้หลับเลย เป็นต้น แต่ด้วยความที่ว่าท่านยังอายุน้อยอยู่ กายสังขารก็ยังพอรับได้ ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพเองอาจจะไม่ไหว..!

[เถรี]

วันนี้เมื่อทำหน้าที่โฆษกในงานประชุมอบรมพระนวกะคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิไปได้ประมาณ ๑ ชั่วโมง กระผม/อาตมภาพก็เกิดอาการหมดแรงเอาดื้อ ๆ ต้องขออนุญาตวางไมโครโฟนแล้วมาฉันยาเสียก่อน ต้องบอกว่าด้วยความที่เป็นคนชรา แต่พอไปเปรียบกับพรรคพวกเพื่อนฝูง อย่างวันนี้ก็คือท่านอาจารย์บน โสภโณ เจ้าสำนักสงฆ์หญ้าบางนอก ซึ่งท่านอายุน้อยกว่า ๒ ปี แต่ว่าผมขาวหมดทั้งศีรษะแล้ว สายตาก็พร่ามัวในระดับที่แทบจะมองใครไม่รู้เรื่อง ต้องใช้วิธีจำเสียงเอา

เมื่อถึงเวลาไปยืนเปรียบเทียบกัน เขาก็หัวเราะกันสนุกเฮฮา เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น มีผมขาวแค่ไม่กี่เส้น แล้วขณะเดียวกันก็ไม่ได้อ้วนหรือว่าศีรษะล้าน จึงหาความเป็นผู้ใหญ่ได้ยาก ไปไหนคนก็มักจะไม่เชื่อว่าอายุ ๖๕ ย่าง ๖๖ ปีเข้าไปแล้ว

แต่ด้วยความที่ว่าสภาพร่างกายที่แท้จริงก็คือชายชรา จึงต้องอาศัยยาในการประคับประคองตนเองไปวันหนึ่ง ๆ เพียรพยายามที่จะทำหน้าที่คณะสงฆ์ให้เต็มที่ที่สุด เป็นการแบ่งเบาภาระของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งท่านรักษาการผู้ดูแลพระพุทธศาสนาอยู่ ทำให้ครูบาอาจารย์บางท่านก็เกิดการเข้าใจผิด อย่างเช่นหลวงปู่ครูบาอินสม สุวีโร ซึ่งเพิ่งจะมรณภาพไปเมื่อไม่กี่วันนี้ เมื่อประมาณ ๓ ปีก่อน ท่านได้วิ่งไปกราบลาขอมรณภาพ..!

กระผม/อาตมภาพเรียนถวายว่า "หลวงปู่ครูบาขอรับ ถ้าหากว่ากายสังขารนี้ยังฝืนอยู่ไหว เพื่อช่วยกันค้ำจุนพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นกำลังใจแก่ศิษยานุศิษย์ ก็กราบขอหลวงปู่ช่วยดำรงขันธ์ต่อไปอีกสักระยะหนึ่งเถิดขอรับ" แต่ว่าขณะเดียวกัน ก็ต้องน้อมระลึกถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้หลวงปู่ได้ไม่เข้าใจผิด ไม่เช่นนั้นแล้วท่านจะคิดว่าผู้ที่รักษาการดูแลพระพุทธศาสนาจะเป็นกระผม/อาตมภาพเสียเอง..!

บางทีหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ที่ท่านรู้เห็นอะไรมากกว่าคนปกติ ก็จะทำเอากระผม/อาตมภาพจะหัวใจวายตาย เนื่องเพราะว่าครูบาอาจารย์ระดับนั้น ถึงเวลามาขออนุญาตลามรณภาพ กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่กลืนน้ำลาย "ไม่สามารถที่จะอนุญาตได้ขอรับ เนื่องเพราะว่าไม่ใช่บุคคลที่จำเพาะเจาะจงว่าจะให้ใครอยู่ใครไปได้ นั่นเป็นภาระหน้าที่ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วพระองค์ท่านก็มอบหมายให้พระมหาเถระองค์สำคัญ รักษาการผู้ดูแลพระพุทธศาสนาในเขตประเทศไทยของเราเอาไว้ ซึ่งท่านยังรับภาระหน้าที่อยู่ ยังไม่หมดจากวาระ ถ้าหากว่าหลวงปู่ไม่ลาตรงต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ต้องไปลาต่อผู้รักษาการนั่นแหละขอรับ"

วันนี้พูดอะไรที่ "เลยธง" มากไปหน่อย อาจจะโดนครูบาอาจารย์เหยียบเอาก็ได้..! ดังนั้น..จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)