กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-08-2024, 17:53
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,938
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,447 ครั้ง ใน 39,357 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พิชวัฒน์ : 04-08-2024 เมื่อ 19:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-08-2024, 22:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันพระแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ซึ่งวันพระในช่วงเข้าพรรษานั้น ทางวัดท่าขนุนจัดให้มีการแสดงพระธรรมเทศนาทั้งรอบเช้าและรอบค่ำ เช้านี้เป็นหน้าที่ของพระปัญจทรัพย์ กนฺตธมฺโม ซึ่งท่านขอย้ายมาจากวัดทุ่งกระถิน จังหวัดชัยนาท เพื่อที่จะมาอยู่เรียนหนังสือที่วัดท่าขนุน แต่ด้วยความที่ท่านเป็นนักวิชาการ ไม่เข้าใจระบบธรรมเนียมวิธีการเทศน์ ท่านจึงประกาศขอโอกาสพระเถรานุเถระ ประกาศชื่อฉายาของตนเอง ขอโอกาสในการแสดงพระธรรมเทศนาครั้งนี้ ซึ่งไม่ใช่ธรรมเนียมในการแสดงพระธรรมเทศนา

การประกาศตัวตนและขอโอกาสพระเถรานุเถระนั้น เป็นธรรมเนียมในการแสดงปาฐกถา หรือว่าบรรยายธรรมทั่วไป แต่ถ้าหากว่าแสดงพระธรรมเทศนาอย่างเป็นทางการ ทางธรรมเนียมวัดท่าขนุนก็จะบอกศักราช ตั้งนะโมฯ แล้วก็ตั้งอุเทศหัวข้อที่จะแสดงธรรมในภาษาบาลี จากนั้นก็บรรยายขยายความไปเลย

แต่ว่าวันนี้ในกัณฑ์เทศน์ที่ท่านเลือกมานั้น ต้องบอกว่าคนเขียนกัณฑ์เทศน์เขียนได้มั่วสุด ๆ เนื่องเพราะคงจะเกรงว่าเนื้อหาไม่พอแสดงพระธรรมเทศนาใน ๓๐ นาที เมื่อกล่าวถึงปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธแล้วจึงมีปริหาระและปฏิสังขรณะขึ้นมาด้วย

ถ้าหากว่าท่านจะเอาในลักษณะนั้นก็จะต้องแสดงไปในแนวเดียวกัน แต่ว่าคนเขียนกัณฑ์เทศน์นั้นเขียนในลักษณะกระชากอารมณ์มาก ก็คือเรื่องของปริยัตินั้นเป็นการศึกษาเล่าเรียน ปฏิบัตินั้นเป็นการนำเอาสิ่งที่เรียนมาทำให้เกิดผล ปฏิเวธคือการรับผลจากสิ่งที่ตนเองศึกษาและนำมาปฏิบัติ

แล้วท่านไปอธิบายว่าปริหาระ หรือว่าบริหารในภาษาไทยนั้น ก็คือการครองคน ครองตน ครองงาน ส่วนปฏิสังขรณะหรือว่าปฏิสังขรณ์นั้น ก็คือการพัฒนาวัดวาอารามของตน ในการที่จะซ่อมสร้างให้ดีขึ้น กระผม/อาตมภาพจึงได้แจ้งกับท่านว่า ต่อไปกัณฑ์เทศน์นี้ให้ชั่งกิโลขายไปเลย..! แล้วถ้าหากว่าใครมีชื่อเป็นผู้เขียนกัณฑ์เทศน์ ต่อไปก็อย่าได้ซื้อกัณฑ์เทศน์ที่บุคคลผู้นี้เขียนมาอีก..!

เนื่องเพราะว่าในส่วนของปริยัติก็คือการศึกษา ปฏิปัตติก็คือการนำมาทำให้เกิดผล แล้วผลของการศึกษาเล่าเรียนและนำมาปฎิบัตินั้นคือปฏิเวธะ มีปรากฏชัดอยู่ในพระพุทธศาสนา แต่บริหารหรือในภาษาบาลีคือปริหาระนั้น ตามศัพท์แปลว่า นำไปทั่ว หรือว่า นำไปรอบ ในเมื่อท่านไปถึงเรื่องของมรรคของผลแล้ว ก็จะต้องอธิบายไปแนวทางที่ว่า เราจะต้องนำเอาหลักที่เราปฏิบัติได้จนเกิดผลแล้วไปใช้งานในชีวิตจริง ไม่ใช่ไปอธิบายในลักษณะการปกครอง ครองตน ครองงาน ซึ่งเป็นการกระชากอารมณ์ผู้ฟังไปคนละทิศกับที่แสดงธรรมนำเขามาตั้งแต่ต้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2024 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-08-2024, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่เราอธิบายขยายความปริหาระ ในลักษณะของการนำไปใช้งานในชีวิตจริงแล้ว ปฏิสังขรณะก็จะต้องอธิบายไปในลักษณะที่ว่าพัฒนาทั้งตนเองและผู้อื่น ด้วยการปรับปรุงกาย วาจา และใจของตนด้วยหลักธรรมต่าง ๆ จนกระทั่งสามารถเปลี่ยนแปลงจากปุถุชนเป็นกัลยาณชน เป็นอริยชน และท้ายสุด เมื่อพัฒนาตนจนเต็มที่ก็สามารถที่จะหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้

ในเรื่องการแสดงพระธรรมเทศนานั้น เราต้องหวังผลสูงสุดว่า ผู้ฟังต้องสามารถนำเอาสิ่งที่ฟังนั้นไปใช้งานในชีวิตจริงได้ ไม่ใช่อธิบายขยายความมั่วไปหมด เพื่อให้ครบเวลา ๓๐ นาทีตามที่ตนต้องการ ถ้าลักษณะอย่างนั้น ต่อให้ท่านเขียนกัณฑ์เทศน์เก่งขนาดไหนก็ตาม ก็มีแต่จะทำให้ผู้รู้จริงเขาหมดอารมณ์มากเท่านั้น..!

เรื่องนี้ไม่สามารถที่จะโทษพระท่านได้ เพราะว่าท่านแสดงพระธรรมเทศนาไปตามกัณฑ์เทศน์ที่เขียนเอาไว้ แต่เมื่อเขียนไปแล้วต้องการให้มี ๕ ป. ในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นการ "แหกคอก" ในสิ่งที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก ท่านก็ต้องหาทางที่จะนำเอาสิ่งที่ "แหกคอก" นั้น ผสานเข้าไปให้เนียนที่สุดเท่าที่จะเนียนได้ ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็กระชากกลับชนิดหัวทิ่มเลยว่า บรรลุมรรคบรรลุผลกันไปแล้วก็ต้องไปปกครอง ต้องไปบูรณปฏิสังขรณ์ ซึ่งเป็นเรื่องทางโลก ๆ จนเกินไป เป็นต้น

อีกส่วนหนึ่งก็คือท่านเองก็หลงไปกับตำราที่สมัยนี้เขียนกันเอาไว้ส่งเดช โดยการประกาศว่าเดือนนี้คือเดือนสาวะนะมาสัสสะ หรือว่าเดือน ๙ ตามภาษาบาลี ความจริงแล้วเดือนของภาษาบาลีนั้นต้องเป็นเดือนทางจันทรคติ นับขึ้นนับแรมกัน ก็คือ

เดือนอ้าย ได้แก่ เดือนมิคะสิระมาสัสสะ

เดือนยี่ คือ เดือนปุสสะมาสัสสะ

เดือน ๓ คือ เดือนมาฆะมาสัสสะ

เดือน ๔ คือ เดือนผัคคุณะมาสัสสะ

เดือน ๕ คือ เดือนจิตตะมาสัสสะ

เดือน ๖ คือ เดือนวิสาขะมาสัสสะ

เดือน ๗ คือ เดือนเชฏฐะมาสัสสะ

เดือน ๘ คือ เดือนอาสาฬหะมาสัสสะ

เดือน ๙ คือ เดือนสาวะนะมาสัสสะ

เดือน ๑๐ คือ เดือนโปฏฐะปะทะมาสัสสะ หรือ ภัททะปะทะมาสัสสะ

เดือน ๑๑ คือ เดือนอัสสะยุชะมาสัสสะ

เดือน ๑๒ คือ เดือนกัตติกามาสัสสะ
เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2024 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-08-2024, 22:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ในหนังสือสวดมนต์ต่าง ๆ มักจะเขียนเอาง่าย ๆ สะดวก ๆ ว่าเดือนพฤศจิกายนก็คือกัตติกามาสัสสะ ซึ่งไม่ใช่ เพราะว่าเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือน ๑๑ ของทางโลก ๆ หรือว่าทางสากล ต้องนับเอาเดือนตามจันทรคติเท่านั้น ดังนั้น..วันนี้ซึ่งเป็นวันแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๘ จึงเป็นวันสุดท้ายของอาสาฬหะมาสัสสะ ก็คือเดือน ๘ พรุ่งนี้เป็นต้นไปจึงจักเป็นสาวะนะมาสัสสะ คือเดือน ๙

ถ้าหากว่าไม่ได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์แล้ว ส่วนใหญ่บรรดาพระที่ออกเทศน์ หรือว่าแสดงพระธรรมเทศนาในวาระต่าง ๆ ถ้าบอกศักราชก็มักจะบอกผิด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะความมักง่ายของผู้ที่ต้องการให้จำบาลีง่าย ๆ โดยการไล่ตามเดือนสากล แล้วเป็นการไล่ส่งเดชแบบไม่รับผิดชอบด้วย..! อย่างเช่นบอกว่าเดือนกรกฎาคมก็คือเดือน ๘ (อาสาฬหะมาสัสสะ) พอไปเดือนสิงหาคมก็คือเดือน ๙ (สาวะนะมาสัสสะ) ซึ่งเป็นการมั่วมากไปหน่อย เพราะว่ายังมีเดือน ๘ ติดมาตั้งหลายวัน

จึงเป็นเรื่องที่บุคคลทั้งหลาย ถ้าหากว่าท่านจะต้องขึ้นเทศน์ ควรที่จะระมัดระวังและศึกษาให้ดี เพราะว่านอกจากวันและเดือนแล้ว เรายังต้องมีปี ก็คือ พุทธศักราชอีกด้วย อย่างเช่นปีนี้ก็คือ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ได้แก่ สัตตะสัฏฐะยุตตระ ปัญจะสะตาทิกานิ ทะเวสังวัจฉะระสะหัสสานิ ก็คือ ๒๕๖๗ ซึ่งบุคคลที่นำเอาพระธรรมเทศนาที่กระผม/อาตมภาพแสดงในวันเข้าพรรษา ไปตัดเพื่อจะให้เนื้อหากระชับ ได้ตัดเอาคำว่าสัตตะออกไป

คำว่า สัตตะก็คือ ๗ สัฏฐะก็คือ ๖๐ สัตตะสัฏฐะยุตตระก็คือ ๖๐ มากไป ๗ ได้แก่ ๖๗ ในภาษาไทยนั่นเอง แต่ผู้ฟังคิดว่ากระผม/อาตมภาพพูดซ้ำ ก็เลยตัดคำว่าสัตตะทิ้งไปหน้าตาเฉย..!

เรื่องเหล่านี้ถ้าคนไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคนรู้เมื่อไร ครูบาอาจารย์ก็เสียหายหนักมาก เขาจะว่าพระอาจารย์เล็ก หรือว่าหลวงพ่อเล็ก ไม่ได้รู้ภาษาบาลีหลักฐานอะไรเลย ว่าไปส่งเดช โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของลูกศิษย์ตัวดีนั่นเอง..! จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายจะต้องเพียรพยายามศึกษาเอาไว้ให้ชัดเจน เนื่องเพราะว่าเลขของภาษาบาลีนั้นก็คล้ายคลึงกับภาษาไทย ก็คือบวกร่วมเข้าไป

เพียงแต่ว่าหลักเลข ๙ นั้นเป็นเรื่องตลก อย่างเช่น ๑๙ ภาษาบาลีจะใช้คำว่า เอกูนะวีสะติ ก็คือ ๒๐ หย่อน ๑ ก็แปลว่า ๒๐ น้อยลง ๑ ได้แก่ ๑๙ นั่นเอง หรือว่า เอกูนัตติงสะ คือ ๓๐ หย่อน ๑ ก็คือ ๒๙ นั่นเอง ทำให้บรรดาผู้ที่เรียนบาลีนั้นปวดหัวกับสังขยา คือการนับเลขแบบภาษาบาลีเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่ใช่ศึกษากันชนิดเข้าถึงจริง ๆ ก็คงจะโยนตำราทิ้ง บอกว่าไม่เอาอีกแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2024 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 04-08-2024, 22:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนในเรื่องของวันนั้น ก็มีตั้งแต่

ระวิวาโร ก็คือ วันอาทิตย์

จันทะวาโร ก็คือ วันจันทร์

ภุมมะวาโร ก็คือ วันอังคาร

วุธะวาโร ก็คือ วันพุธ

คุรุวาโร ก็คือ วันพฤหัสบดี

สุกระวาโร ก็คือ วันศุกร์

สาระวาโร หรือว่า โสระวาโร ก็คือ วันเสาร์


จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายเพียรพยายามใช้ความจำสักนิดหนึ่ง แต่สำหรับญาติโยมทั่วไปแค่ฟังผ่านหูก็พอ ไม่เช่นนั้นแล้วก็อาจจะนำไปซื้อหวยจนร่ำรวยไปอีกก็เป็นได้..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2024 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว