กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-07-2024, 19:10
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,938
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,447 ครั้ง ใน 39,357 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-07-2024, 23:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพไปถึงวัดสามพระยา วรวิหาร ตั้งแต่ประมาณ ๖ โมงเช้า เพื่อเข้าถวายมุทิตาสักการะ พระเดชพระคุณพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม ป.ธ.๙, Ph.D.) ประธานสงฆ์วัดสามพระยา วรวิหาร ในฐานะบุคคลที่รู้จักคุ้นเคยกันมา ตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง

สมัยนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ชุตินฺธรมหาเถระ ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา วรวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ถือว่าเป็นเสาหลักให้แก่บรรดาพระภิกษุสามเณรและญาติโยมวัดท่าซุง ได้เกาะ ได้พึ่งพา ได้อาศัย จนกระทั่งท่านได้นำเอาพระมหาเอื้อน หรือต่อมาภายหลังก็คือพระศรีปริยัติบดี ถัดมาก็เลื่อนเป็นพระราชปริยัติบดี แล้วก็มาเป็นพระเทพสุธี ไปร่วมงานด้วยในฐานะปัจฉาสมณะ คือพระผู้ติดตาม กระผม/อาตมภาพในฐานะผู้ที่ต้อนรับพระเถระซึ่งได้รับนิมนต์มาในงาน จึงมีความคุ้นเคยกับท่านมาตั้งแต่สมัยนั้น

ครั้นออกจากวัดท่าซุงมาอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อท่านได้เลื่อนขึ้นเป็นพระเทพสุธี ก็ยังมาทำหน้าที่เจ้าคณะภาค ๑๔ ซึ่งดูแลจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี และสมุทรสาคร จึงทำให้รู้จักมักคุ้นกันมากขึ้น

ถึงขนาดว่าเวลาทางวัดสามพระยา วรวิหารมีงานสำคัญ อย่างเช่นว่าการอบรมเจ้าอาวาสก็ดี การอบรมพระอุปัชฌาย์ก็ตาม เมื่อคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ซึ่งนำโดยหลวงพ่อพระครูผาสุกิจโกวิท อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ อดีตเจ้าอาวาสวัดหินแหลม นำพวกเราไปช่วยงาน เมื่อท่านเห็นก็เรียกเลยว่า "เฮ้ยเล็ก..มาทางนี้ มีเรื่องจะคุยด้วย" ทำเอาหลวงพ่ออดีตเจ้าคณะอำเภอก็ยังตีหน้างง ๆ ว่า กระผม/อาตมภาพไปรู้จักคุ้นเคยกับเจ้าคณะภาคมาตั้งแต่สมัยไหน ?

จนกระทั่งท่านเลื่อนขึ้นมาเป็นพระธรรมคุณาภรณ์ ก็ยังได้ดุกระผม/อาตมภาพว่า "แกต้องรู้จักเข้าหาพระผู้ใหญ่บ้าง แกจะรอให้พระผู้ใหญ่คิดถึงแกอย่างเดียวไม่ได้ ส่วนใหญ่พระผู้ใหญ่นั้นงานเยอะ แกมาทีไรก็มีแต่เรื่องงานเท่านั้น" แล้วท่านก็ถอนหายใจตอบเองว่า "เออ..ดีแล้ว ถ้าแกไม่มา ข้าก็รู้ว่าแกทำงาน แต่ไอ้พวกที่มาเฝ้าเช้าเฝ้าเย็นจนข้ารำคาญนี่ มันไม่คิดจะทำงานอย่างแกบ้างหรือไรวะ ?" ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า เป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพเอง น้อยครั้งที่จะเล่าให้ผู้หนึ่งผู้ใดฟัง

จนกระทั่งท่านขึ้นมาเป็นพระพรหมดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๑ แล้วก็ลาออกมาเป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร จนกระทั่งต้องคดี กลายเป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำกลาง กระผม/อาตมภาพก็ยังไปเยี่ยมเยียนท่าน แล้วก็ได้เห็นความเป็นนักปราชญ์ ความเป็นนักปฏิบัติที่แท้จริงของท่าน เพราะว่าเมื่อไปเยี่ยม แทนที่กระผม/อาตมภาพจะเป็นห่วงท่าน ท่านกลับเป็นห่วงกระผม/อาตมภาพเสียเอง ท่านบอกว่า "ข้าอยู่ในนี้ ข้าถือว่ารอดแล้ว แกอยู่ข้างนอกต่างหาก ให้ระวังเอาไว้ให้ดี ไม่รู้ว่าจะโดนเมื่อไร..!?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-07-2024 เมื่อ 01:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 14-07-2024, 00:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นเมื่อท่านพ้นคดีออกมา ยังไม่ได้รับตำแหน่งแห่งที่สมณศักดิ์อะไรกลับคืน กระผม/อาตมภาพไปเยี่ยม ท่านก็ยังขอบอกขอบใจ บอกว่า "ถ้ามีเวลาเมื่อไร ข้าจะแวะไปหาแกที่ท่าขนุน ตอนนี้สุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี ต้องไปหาหมอมากกว่าไปหาคนอื่น" จนกระทั่งท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระพรหมดิลกคืนมา โดยถือว่าไม่มีความมัวหมองใด ๆ กระผม/อาตมภาพก็ยังโผล่ไปตามวาระและเวลาที่เหมาะสม

แม้กระทั่งวันนี้ที่รีบไปกราบท่าน ก็เพราะว่ามีกิจการงานอื่นรออยู่ ได้กราบเรียนท่านว่า "นอกจากเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดแล้ว กระผมยังโดนแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ (หนกลาง) ต้องออกตรวจประเมินยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ จนกระทั่งไม่มีเวลาที่จะจัดงาน แม้กระทั่งปีนี้ วันที่ ๑๐ - ๑๑ - ๑๒ - ๑๓ กันยายน กระผมก็ยังต้องตรวจประเมินยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบอยู่เลย ทำให้ไม่มีเวลาจัดงานวันบูรพาจารย์วัดท่าขนุนในวันที่ ๑๔ กันยายน จึงไม่มีโอกาสที่จะนิมนต์หลวงพ่อไปที่วัดท่าขนุนอีกเลย" ท่านบอกว่า "ไม่เป็นไร..เดี๋ยวข้าเป็นคนไปหาแกเอง ไม่ต้องนิมนต์ก็ได้"

เมื่อได้เวลาอันสมควร เพราะว่าท่านจะต้องออกใส่บาตรเนื่องในวันเกิดและปล่อยชีวิตสัตว์ กระผม/อาตมภาพจึงขออนุญาตกราบลา วิ่งกลับมาดูบรรดาผู้เข้ารับการอบรมพระคิลานุปัฏฐากที่วัดปรังกาสี การมาเยี่ยมการอบรมนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องเพราะว่าพระผู้น้อยที่เข้าอบรมนั้น บางทีตั้งหน้าตั้งตาอบรม แล้วก็ไม่รู้ว่ามีพระผู้ใหญ่มองเห็นหรือไม่ ว่าตนเองมาทำหน้าที่สำคัญอยู่ ? เมื่อเห็นพระผู้ใหญ่มา ก็รู้สึกชื่นใจ มีกำลังใจ

เมื่อให้กำลังใจบรรดาผู้เข้าอบรมเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็วิ่งกลับไปฉันเพลที่วัดท่าขนุน เพื่อให้ทางวัดท่าขนุนได้เห็นหน้าเจ้าอาวาสบ้าง..! เสร็จแล้วกระผม/อาตมภาพก็วิ่งกลับไปที่วัดปรังกาสี เพื่อร่วมงานพระราชทานเพลิงศพนายพิเชียร ประชากุล อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดินโส อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลสหกรณ์นิคม ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริหารโรงเรียนแทบจะเจ้าแรก ๆ ที่วิ่งไปหากระผม/อาตมภาพถึงเกาะพระฤๅษี ทันทีที่
กระผม/อาตมภาพย้ายไปอยู่ที่นั่น เนื่องเพราะว่าท่านไปขอใช้สถานที่ในการฝึกลูกเสือ ซึ่งมีการตั้งฐานฝึกต่าง ๆ ในบริเวณนั้น

เมื่อรู้จักมักคุ้นกัน กระผม/อาตมภาพก็ได้ให้ทุนการศึกษากับทางโรงเรียนบ้านดินโสเป็นโรงเรียนที่สอง เพิ่มเติมจากโรงเรียนบ้านป่าไม้สะพานลาว ซึ่งได้รับเป็นโรงเรียนแรก แล้วก็ให้ต่อเนื่องยาวนานมา จนกระทั่งเกิน ๓๐ ปี อย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-07-2024 เมื่อ 01:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 14-07-2024, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อดีต ผอ.พิเชียร ประชากุล ต้องบอกว่าเป็นตัวอย่างของบุคคลชาติพันธุ์ที่เจริญก้าวหน้า จนกระทั่งบางทีคนไทยก็อาย เนื่องเพราะว่าท่านเป็นกะเหรี่ยงบ้านนาสวน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมแล้ว ท่านก็ได้รับโควต้าไปศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตร เพื่อที่จะได้กลับมาสร้างความเจริญให้กับท้องที่ของตน แล้วท่านก็ขวนขวายเรียนต่อเองจนจบปริญญาตรี

หลังจากที่ได้รับบรรจุเป็นครูน้อยที่โรงเรียนบ้านกุยแหย่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีแล้ว เมื่อย้ายมาเป็นครูที่โรงเรียนบ้านดินโส ท่านก็ค่อย ๆ เจริญก้าวหน้ามาตามลำดับ จนกระทั่งเกษียณอายุลงในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดินโส แล้วก็ยังรับหน้าที่ต่าง ๆ ในการรับใช้ประชาชนมา ไม่ว่าจะเป็นประธานของโครงการนั้น ประธานของกลุ่มนี้ จนกระทั่งท้ายที่สุดก็ลงสมัครเลือกตั้งสภาชิกสภาเทศบาลตำบลสหกรณ์นิคม แล้วได้รับความไว้วางใจ เลือกขึ้นเป็นรองนายกเทศมนตรี

อย่าลืมว่าท่านเองเป็นกะเหรี่ยง ที่กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่าเป็น "กะเหรี่ยงหัวก้าวหน้า" กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ โดยปกติแล้วชนชาวชาติพันธุ์ต่าง ๆ นั้น ถ้าหากว่าออกไปสู่โลกภายนอก ต่อให้พูดเก่งแค่ไหนก็กลายเป็นใบ้ไปเสียหมด ไม่กล้าพูด ไม่กล้าคิด เหมือนกับตอนที่อยู่กับพวกเดียวกัน แต่ว่าอดีต ผอ.พิเชียร ท่านกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ กล้าที่จะเรียกร้องเพื่อชาติพันธุ์ของตนเอง กล้าที่จะเข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชน จึงควรเป็นตัวอย่างที่ยกให้คนอื่นได้ดูว่า เราเองเป็นคนไทยแท้ ๆ แต่ว่าน้อยคนที่สามารถไปถึงระดับของอดีต ผอ.พิเชียรได้

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราดูเป็นตัวอย่าง ก็จะได้พากเพียรพยายามให้มากขึ้น อยู่ในลักษณะที่ว่า บุคคลผู้เพียรพยายามย่อมประสบความสำเร็จ ถ้าจะยกบาลีขึ้นมาก็คือ วายะเมเถวะ ปุริโส ยาวะ อัตถัสส นิปปะทา ขึ้นชื่อว่าเกิดเป็นคนต้องมีความพยายามร่ำไป จนกว่าที่จะสำเร็จประโยชน์ แล้วท้ายที่สุดความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น ครั้นได้วางดอกไม้จันทน์ เพื่อร่วมในการพระราชทานเพลิงศพท่านเรียบร้อยแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็ได้บอกลาทุกคนในงาน เดินทางกลับยังวัดท่าขนุน

แต่ว่าวันนี้เป็นวันที่ ๑๓ ของเดือน ซึ่งเป็นธรรมเนียมของวัดท่าขนุนว่า จะมีการสวดพระพุทธมนต์เย็นถวายหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ ๓ ของวัดท่าขนุน แล้วพรุ่งนี้เช้าก็เป็นการทำบุญถวายหลวงปู่สายตรงกับวันมรณภาพ แต่ความจริงท่านมรณภาพในเดือนกันยายน เพียงแต่ว่าวันที่ ๑๔ กันยายนนั้น เราทำบุญใหญ่ในฐานะวันบูรพาจารย์ของวัดท่าขนุน แต่ว่าทุกเดือนนั้น ถ้าหากว่าไม่ได้ตรงกับสามเดือนในช่วงเข้าพรรษา เราก็จะทำบุญถวายหลวงปู่ทุกวันที่ ๑๔ ของเดือนนั้น ๆ ส่วนในช่วงวันเข้าพรรษานั้น เราจะเลือกเอาวันพระที่ใกล้เคียงวันที่ ๑๔ มากที่สุด แล้วก็ทำบุญถวายท่านไป พร้อมกับการทำบุญทุกวันพระ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-07-2024 เมื่อ 01:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 14-07-2024, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของครูบาอาจารย์ก็ดี ในเรื่องของการกตัญญูกตเวทีบุคคลก็ตาม เป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายควรที่จะเทิดคุณครูบาอาจารย์ไว้เหนือเศียรเหนือเกล้า ควรที่จะมีการแสดงออกซึ่งกตเวทิตาต่อบุคคลที่เป็นครูบาอาจารย์ของเรา

กระผม/อาตมภาพนั้น นอกจากหลวงปู่สายที่ถือว่าเป็นครูบาอาจารย์ทางด้านจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ครูบาอาจารย์หลักก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ซึ่งกระผม/อาตมภาพจัดวันไหว้ครูตามสายบูรพาจารย์วัดท่าซุงทุกวันขึ้น ๕ ค่ำ เดือนไหนก็ตามของปีนั้น ซึ่งตรงกับวันเสาร์ และได้คำสั่งจากพระท่านให้จัดงานไหว้ครูประจำปี ปีนี้ก็ได้จัดงานไหว้ครูประจำปี และเป่ายันต์เกราะเพชรในวันที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗

พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมดิลกท่านยังปรารภว่า "ตอนแรกข้าก็เสียดายว่า วิชาการสำคัญที่สุดวิชาหนึ่งของหลวงพ่อฤๅษีฯ ก็คือการเป่ายันต์เกราะเพชร ไม่มีใครได้ไว้เลย แม้กระทั่งเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ข้าถามตอนที่เขานิมนต์ไปงาน เขาก็บอกว่าไม่ได้รับเอาไว้"

กระผม/อาตมภาพจึงได้กราบเรียนถวายท่านว่า "ความจริงก็มีบุคคลที่ได้รับการครอบครูเอาไว้ ๙ รูป แต่ว่าออกมาอยู่ข้างนอกบ้าง สึกหาลาเพศไปบ้าง มรณภาพไปบ้าง ปัจจุบันนี้ก็มีกระผม/อาตมภาพที่เป็นหลักอยู่ เพราะว่าได้รับอนุญาตให้จัดการเป่ายันต์เกราะเพชรเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมได้ แต่ว่าก็จัดตามที่พระท่านสั่งเท่านั้น ถ้าไม่ได้สั่ง กระผมก็ไม่กล้าที่จะจัดเช่นกัน"

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า ถ้าหากว่าเราท่านกตัญญูกตเวทิตาต่อครูบาอาจารย์ แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังตรัสเอาไว้ว่า ภูมิ เว สัปปุริสานัง กตัญญูกตเวทิตา การรู้คุณท่านและตอบแทนคุณท่านนั้น ถือว่าเป็นพื้นฐานของคนดี

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-07-2024 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว