กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-07-2024, 19:54
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,938
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,447 ครั้ง ใน 39,357 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-07-2024, 23:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ หลายท่านคงเตรียมตัวที่จะประชุมเพื่อแบ่งงานในช่วงงานบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร เพียงแต่ว่าในงานลักษณะนั้น สิ่งใดที่เคยเป็นข้อบกพร่องของครั้งก่อนต้องเอามาคุยกันให้ชัดเจน และนำวิธีแก้ไขต่าง ๆ บอกกล่าวให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วถึงกันด้วย

โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ก็คือเรื่องของห้องน้ำห้องส้วมและขยะ เพราะว่าถ้าหากว่าพลาดเมื่อไรก็เสียหายทันที อย่างที่มีอยู่ปีหนึ่ง มีผู้หวังดีปรารถนาดี ไม่รู้ว่านั่นเป็นระบบน้ำประปาของวัด ก็ไปปิดสวิทช์ ทำให้ไม่มีน้ำจะราดส้วม..! คือบางคนก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำไปนั้นจะสร้างความเสียหายไปหรือเปล่า ? คิดอยู่อย่างเดียวว่า "เดี๋ยวน้ำจะล้น" ก็ไปปิด..!

อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของขยะ โดยเฉพาะโรงทานต้องจัดเก็บให้เร็วที่สุด พระที่รับผิดชอบควรที่จะหาทีมงานฆราวาสเอาไว้ ต้องบอกว่าเป็น ๑๐ คนเลย ไม่เช่นนั้นแล้วลำพังพระเราไปจัดการตรงนั้น บางครั้งก็ดูไม่ดีไม่งามเหมือนกัน

เรื่องของพระทำงาน บางทีเราก็จะใส่ชุดที่คนอื่นเห็นแล้วสะดุดตา อย่างเช่นว่าเสื้อแขนยาว อย่าลืมว่าพระของเรานั้นยัง มีอาบัติในลักษณะของการแต่งกายประหนึ่งฆราวาสอยู่ด้วย ยกเว้น "เวลาที่มีจีวรอันโจรลักไป" หรือว่า "มีจีวรอันฉิบหายเสียแล้ว" ในระหว่างที่รอหาของใหม่ ก็อาจจะต้องอาศัยเสื้อผ้าของฆราวาสใส่ก่อนชั่วคราว

แต่คราวนี้ในเรื่องของศีลที่มานอกพระปาฏิโมกข์นั้น ฆราวาสน้อยคนที่จะรู้ พอเห็นก็มักจะชิงตำหนิเอาไว้ก่อนว่า "เป็นพระเป็นเจ้าทำไมไปใส่เสื้อเหมือนกับฆราวาส ?" เรื่องพวกนี้บางท่านก็ไม่ได้คิด เราทำแบบนี้เป็นปกติในวันที่ไม่มีงาน แต่ในวันที่คนเป็นหมื่น ๆ มา อาจจะมีคนที่ไม่เข้าใจและตั้งใจถ่ายคลิป เอาไปลงประจานได้..!

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีโยมอยู่คนหนึ่งที่ทำคลิปในลักษณะท่องเที่ยว ขึ้นไปบนยอดเขาพระพุทธบาท ปรากฏว่าตลอดทางที่เขาถ่ายไปก็คือบันไดมีแต่ใบไม้ แล้วบางช่วงก็มีเถาวัลย์เลื้อยขึ้นมาด้วย แสดงว่าพวกเราขาดการดูแล แล้วก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าขั้นบันไดจำนวนมากที่แตกหักเสียหาย ทำไมยังไม่ได้รับการเปลี่ยน ? เพราะที่เขาถ่ายมานั้น บางทีก็แตกสามขั้นติดกันเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2024 เมื่อ 00:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 11-07-2024, 00:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้กระผม/อาตมภาพจำได้ว่า เคยบอกกล่าวแล้วว่า "ถ้าเป็นเย็นวันศุกร์หรือบ่ายวันศุกร์ เราไปทำความสะอาดเอาไว้ เพื่อรอรับนักท่องเที่ยววันเสาร์และวันอาทิตย์ ส่วนใครที่มาวันธรรมดา จะเจอใบไม้ตกหล่นอยู่บ้างก็ไม่เป็นไร" ส่วนที่หนักที่สุดก็คือบันไดขึ้นรอยพระพุทธบาท รองลงมาก็เป็นบันไดขึ้นพระพุทธเจติยคีรี ส่วนทางเดินรอบบริเวณทางรถไฟสายมรณะนั้น ต้องบอกว่าเหมือนกับพื้นราบ เดินค่อนข้างจะสบาย ไม่มีปัญหา เราแค่ทำความสะอาดเอาไว้ก็พอ

เพียงแต่สำคัญตรงที่ว่าระยะนี้ ท่านทั้งหลายก็ต้องเร่งรัดในการเรียนบาลี บางทีก็ไม่มีเวลาไปดูแลความสะอาดนอกเหนือจากรอบที่พักของตัวเอง เพียงแต่ว่าก่อนช่วงงาน เราต้องระดมทำความสะอาดครั้งใหญ่ แล้วก็แบ่งปันหน้าที่ให้ชัดเจนว่าใครรับผิดชอบอะไรบ้าง

โดยเฉพาะในส่วนที่อยู่ในศาลา ถ้าเห็นใครนั่งเว้นระยะเมื่อไรไล่ให้นั่งชิดทันที ไม่ต้องไปสนใจว่าเป็นเจ้าใหญ่นายโตที่ไหนมา เพราะว่าบุคคลที่เห็นแก่ตัวมีมาก บางทีคนจำนวนมากนั่งอยู่ด้านนอก เจอฝนด้วย แต่ข้างในนั่งกันสบาย แทนที่จะเข้ามาได้อีก ๕๐๐ คน หรือ ๑,๐๐๐ คน ก็กลายเป็นว่าต้องไปนั่งตากฝนอยู่ด้านนอก โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายนนั้น เป็นช่วงที่ฝนชุกอีกต่างหาก ดังนั้น..ถ้าหากว่าแบ่งหน้าที่กันตั้งแต่เนิ่น ๆ ต่างคนต่างหาทีมงานของตนเอง ถึงเวลาเราจะได้จัดการหน้าที่ของเราให้เรียบร้อย ไม่ต้องไปกังวลทีหลัง

ส่วนท่านใดที่ยังต้องเดินทางไปเรียน บางทีกระผม/อาตมภาพก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อย่างท่านปู (พระพงษ์สิทธิ์ สนฺตจิตฺโต) มีให้เรียนใกล้ ๆ ในเมืองกาญจน์ก็ไม่เรียน แต่จะไปเรียนถึงอยุธยาที่ มจร.แม่เลย ถ้าไม่กลัวลำบากก็ตามใจ กระผม/อาตมภาพเองเป็นห่วงตรงที่ว่า การเดินทางไกล ๆ แล้วไม่มีรถส่วนตัวนั้นไม่ใช่เรื่องสบาย ต้องต่อรถ ต่อแล้วต่อเล่ากว่าจะไปถึง ถ้าหากว่าเรียนหนัก ๆ อาจจะเหนื่อยจนหมดสภาพไปเสียก่อน

อีกส่วนหนึ่งก็คือในเรื่องของผู้ที่เรียนที่ห้องเรียนวัดปรังกาสี ปีนี้กระผม/อาตมภาพให้เฉพาะในส่วนของวัดท่าขนุนเท่านั้น เพราะว่าขอไปแล้วว่าให้เป็นสาขารัฐประศาสนศาสตร์ เนื่องเพราะวางแผนระยะยาวไว้ ก็คือถึงเวลาแล้วปีถัดไปก็จะได้รับปี ๑ ที่เป็นฆราวาส ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือบรรดาเจ้าหน้าที่เทศบาลและ อบต.ที่ต้องการเพิ่มวุฒิการศึกษาของตนเอง แต่ว่าทางวิทยาลัยสงฆ์ไม่ให้ กระผม/อาตมภาพถือว่า
ช่วยเขามามากและช่วยเขามานาน ขอแค่นี้ไม่ให้ก็เป็นอันว่าไปดูแลกันเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2024 เมื่อ 00:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 11-07-2024, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้บางท่านอาจจะคิดว่า กระผม/อาตมภาพคิดเล็กคิดน้อย ต้องบอกว่าไม่ใช่คิดเล็กคิดน้อย เนื่องเพราะว่าสาขาพุทธศาสนานั้นเหมาะแก่พระภิกษุสามเณรเท่านั้น เมื่อปี ๑ ขึ้นปี ๒ ไปแล้ว เราจะหานิสิตปี ๑ ไม่ได้ ไม่ต้องไปพูดถึงนิสิตปี ๒ ปี ๓ ปี ๔ อะไรเลย เพราะว่าจะเหลือแค่ห้องเดียวที่จะขยับขึ้นไปเรื่อย ๆ

นิสิตใหม่จะหายากสุด ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือลำบากเพราะว่าไปเรียนคณะที่ไม่ได้รับความนิยม แต่ถ้าหากว่าเป็นรัฐประศาสนศาสตร์ เราจะหานิสิตใหม่เพิ่มได้ทุกปี ยิ่งบรรดาเพื่อนฝูงเรียนจบไปแล้ว มีความก้าวหน้าในการงาน รุ่นต่อ ๆ มาก็จะกระตือรือร้นหันมาเรียนเอง

แต่ว่าท่านทั้งหลายไม่ต้องกังวล เนื่องเพราะว่าถึงไม่มีกระผม/อาตมภาพอยู่ หลวงพ่อพระครูพิสุทธิ์กาญจนาภรณ์ วัดอู่ล่องนั้น รวยกว่าวัดท่าขนุนหลายเท่า..! เพราะว่าท่านเป็นหมอดู ซึ่งท่านที่ไปเรียนหมอดูมา ถ้าอยากจะเหนื่อยแบบนั้นก็ลองเปิดดูหมอบ้างก็ได้ เพียงแต่ว่าหากุฏิ หาศาลา หรือสถานที่เหมาะ ๆ สักที่หนึ่ง ขอให้แม่นจริงเท่านั้นแหละ พอเขาบอกกันปากต่อปาก ไม่ถึงสามเดือนก็เริ่มเหนื่อยจนหาเวลาพักไม่ได้แล้ว..!

กระผม/อาตมภาพเองในช่วงที่ดูหมออยู่ ส่วนที่เบื่อที่สุดก็คือบุคคลที่มาจะเอาแต่เรื่องของตัวเอง ไม่ได้สนใจว่าพระเจ้าจะได้พักผ่อนหลับนอน หรือว่าจะได้ฉันหรือไม่ ? ขนาดตักข้าวใส่ปากอยู่ยังบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ขอเวลาแค่ ๕ นาที" จนกระทั่งต้องดุไปว่า "ไม่เป็นไรของมึง แต่กูน่ะเป็นไรมากเลย..!" ฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครดูหมอก็อาจจะต้องผจญกับความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุดของคน ถ้าทำใจได้ กระผม/อาตมภาพว่า ก็น่าจะบรรลุเร็วเหมือนกัน..!

ท่านจะเห็นว่าท่านอาจารย์เอกลักษณ์ (พระปลัดเอกลักษณ์ ปญฺญาคโม) นั้น สร้างวัดพุทธพรหมยานใหญ่โตมโหฬารภายในเวลาไม่กี่ปี นั่นก็คือผลพวงจากการดูหมอ หลวงพ่อพระปลัดวิรัช โอภาโส สร้างวัดธรรมยาน ใหญ่โตมโหฬารมูลค่าหลายร้อยล้าน ก็ผลพวงจากการดูหมอเช่นกัน

เพียงแต่ว่าต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เนื่องเพราะว่าการดูหมอนั้น บางทีเป็นการละเมิดกฎของกรรมบางส่วน ถ้าหากว่าภาษากำลังภายในเขาว่า "ไปเปิดเผยลิขิตฟ้า" ในเมื่อเราเองไปทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในวาระบุญวาระกรรมของคนอื่น บางทีก็เหมือนอย่างกับลูกปืนจะวิ่งไปหาเขา แล้วเราไปขวางเอาไว้ ก็เดือดร้อนเองเท่านั้น..!

นักดูหมอที่ดีจึงควรที่จะรู้ว่าพูดได้เท่าไร แต่ด้วยความที่เรารู้ว่าพูดได้เท่าไร แต่ว่าญาติโยมที่มาดูหมอนั้นต้องการรู้จนถึงแก่น ในเมื่อความต้องการขัดกัน ก็อยู่ที่เราเองว่าจะพลิกแพลงแก้ไขอย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2024 เมื่อ 00:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 11-07-2024, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าใครฝึกมโนมยิทธิมา การดูหมอเป็นการซักซ้อมทิพจักขุญาณที่ดีที่สุด แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านเตือนแล้วว่า "อย่าให้ซักถามต่อหน้า" ให้เขาเขียนคำถามมา จำกัดไว้ว่า ๓ คำถาม หรือ ๕ คำถาม แล้วให้คนส่งมา ตัวเราเองอาจจะมีห้องพระซึ่งเป็นที่สงบแยกอยู่ต่างหาก อ่านคำถามแล้วเกิดความรู้สึกอย่างชัดเจนว่า ควรตอบอย่างไรก็ให้ตอบไปอย่างนั้น

เนื่องเพราะว่าถ้าหากว่าซักถามต่อหน้า อย่างที่บุคคลสอบถามกระผม/อาตมภาพ แล้วท่านไม่มีความมั่นคงในสมาธิ ถึงเวลา รัก โลภ โกรธ หลง เกิดขึ้นก็จะ "เฝือ" โอกาสผิดพลาดจะมีสูงมาก ต้องซักซ้อมจนเรามั่นใจว่าทนแรงเสียดทานได้ แล้วค่อยไปลุยกันต่อหน้า

แต่กระผม/อาตมภาพก็ไม่แนะนำอยู่ดี เนื่องเพราะว่าถ้ากำลังใจของเรายังไม่สามารถละ รัก โลภ โกรธ หลง หรือว่าลดลงไปได้ โดนซักมาก ๆ ความไม่พอใจเกิดขึ้น
ในเมื่อกิเลสเกิด ความแม่นยำของทิพจักขุญาณก็ลดลง

เพียงแต่ว่าในส่วนของการดูหมอตามตำรา ต้องอาศัยการดูมาก ๆ จนกระทั่งเกิดความชำนาญขึ้น เห็นลายมือหรือว่าเห็นวันเดือนปีเกิดเท่านั้น ก็มองทะลุเลยว่าจะเป็นอย่างไร แต่กว่าจะถึงระดับนั้นก็คงจะต้องดูกันเป็นร้อย ๆ รายขึ้นไป แล้วในระหว่างที่ชื่อเสียงลาภยศไหลมาเทมา เพราะเขาลือว่าเราดูแม่น ทำอย่างไรที่เราจะรักษากำลังใจไม่ให้หวั่นไหวไปกับโลกธรรมได้ เป็นการบ้านที่ฝากเอาไว้สำหรับท่านที่คิดจะเดินทางนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2024 เมื่อ 00:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว