กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-06-2024, 19:55
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,938
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,447 ครั้ง ใน 39,357 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-06-2024, 22:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันพระสิ้นเดือน แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เมื่อเช้ามืดได้รับอนุญาตจากพระท่าน ให้จัดงานบวงสรวงไหว้ครูเป่ายันต์เกราะเพชรได้ ซึ่งจะมีเสาร์ ๕ อีกครั้งหนึ่งประมาณเดือนกันยายนนี้ แล้วขณะเดียวกันก็ได้ขออนุญาตสร้างเหรียญนาคเกี้ยวกันภัยขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง สำหรับบรรดาท่านทั้งหลายที่จะร่วมบุญกฐินกับวัดท่าขนุน

คราวนี้ในส่วนหนึ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านเตือนเอาไว้ก็คือว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ภาวะสงครามจะรุนแรงขึ้น ก็แปลว่าเราท่านทั้งหลายถ้าเป็นนักบวช หน้าที่ของเราก็คือเจริญพระกรรมฐาน แผ่เมตตา ขอให้สัตว์โลกทั้งหลายอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ส่วนญาติโยมทั้งหลายก็ต้องภาวนาเพื่อตัวเอง ใครมีวัตถุมงคลที่มั่นใจ มีคาถาอาราธนาอย่างไร ก็ว่าเสียให้เต็มที่ไว้ทุกวัน..!

ส่วนเมื่อเช้านี้มีพระใหม่ลาสิกขา ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็แปลกใจว่าไม่มีใครแนะนำท่านเลยหรือว่า วันพระข้างแรมสิ้นเดือน โดยปกติแล้วไม่มีใครเขาทำกิจการงานอะไร ยิ่งโบราณแล้วยิ่งถือสามาก เพราะว่าเป็นวันเดือนขาด เป็นวันเดือนดับ แล้วขณะเดียวกันวันรุ่งขึ้น ก็คือพรุ่งนี้ เป็นวันอมฤตโชค ต้องบอกว่าเป็นฤกษ์ซึ่งดีที่สุด แต่กลับไม่ทนอีกวันหนึ่ง แม้จะทักท้วงไปแล้ว ท่านก็ยังมุ่งมั่นที่จะสึก จึงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม..!

ในเรื่องของการบวชนั้น เราจากที่ร้อนมาสู่ที่เย็น ไม่จำเป็นต้องดูฤกษ์ก็ได้ เร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น แต่การสึกหาลาเพศนั้น เราออกจากที่เย็นไปสู่ที่ร้อน ถ้าไม่ลำบากมากนัก ก็ดูฤกษ์ดูยามเสียนิดหนึ่ง

เนื่องเพราะว่าฤกษ์ยามนั้น กระผม/อาตมภาพเคยเปรียบไว้ว่าเหมือนกับคนข้ามถนน คนเก่ง ๆ สามารถข้ามถนนตอนที่รถมาก ๆ ก็ได้ แต่ถ้าวันไหนพลาดก็สวัสดี ดังนั้น..คนที่ไม่ประมาทก็ต้องเลือกเอาตอนที่ถนนว่างจากรถยนต์แล้วค่อยข้าม ก็คือดูฤกษ์ยามเสียเล็กน้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2024 เมื่อ 00:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-06-2024, 22:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะฤกษ์ที่กระผม/อาตมภาพใช้อยู่ก็คือฤกษ์พรหมประสิทธิ์ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งวัน ไม่จำกัดด้วยเวลา หลายท่านที่มาทีหลังอาจจะไม่รู้ ก็คือ

ถ้าเป็นวันอาทิตย์ ขึ้นหรือแรม ๘ ค่ำเป็นฤกษ์อมฤตโชค
ขึ้นหรือแรม ๑๔ ค่ำเป็นฤกษ์มหาสิทธิโชค
ขึ้นหรือแรม ๑๑ ค่ำเป็นฤกษ์สิทธิโชค

ถ้าเป็นวันจันทร์ ขึ้นหรือแรม ๓ ค่ำเป็นอมฤตโชค
ขึ้นหรือแรม ๑๒ ค่ำเป็นมหาสิทธิโชค
ขึ้นหรือแรม ๕ ค่ำเป็นสิทธิโชค

ถ้าเป็นวันอังคาร ขึ้นหรือแรม ๙ ค่ำเป็นอมฤตโชค
ขึ้นหรือแรม ๑๓ ค่ำเป็นมหาสิทธิโชค
ขึ้นหรือแรม ๑๔ ค่ำเป็นสิทธิโชค

ถ้าเป็นวันพุธ ขึ้นหรือแรม ๒ ค่ำเป็นอมฤตโชค
ขึ้นหรือแรม ๔ ค่ำเป็นมหาสิทธิโชค
ขึ้นหรือแรม ๑๐ ค่ำเป็นสิทธิโชค

สำหรับวันพฤหัสบดี ขึ้นหรือแรม ๔ ค่ำเป็นอมฤตโชค
ขึ้นหรือแรม ๗ ค่ำเป็นมหาสิทธิโชค
ขึ้นหรือแรม ๙ ค่ำเป็นสิทธิโชค

สำหรับศุกร์ ขึ้นหรือแรม ๑ ค่ำเป็นอมฤตโชค
ขึ้นหรือแรม ๑๐ ค่ำเป็นมหาสิทธิโชค
ขึ้นหรือแรม ๑๑ ค่ำเป็นสิทธิโชค

สำหรับวันเสาร์ ขึ้นหรือแรม ๕ ค่ำเป็นอมฤตโชค
ขึ้นหรือแรม ๑๕ ค่ำเป็นมหาสิทธิโชค
ขึ้นหรือแรม ๔ ค่ำเป็นสิทธิโชค


เพียงแต่ท่านบอกว่าวันเสาร์ขึ้นหรือแรม ๕ ค่ำไม่ควรทำการมงคลใด ๆ ยกเว้นงานพุทธาภิเษก หรือว่าถ้าจะขึ้นบ้านใหม่ให้เลือกวันศุกร์ อย่าใช้ฤกษ์วันอาทิตย์ ถ้าจะออกรถออกเรือเพื่อทำมาหากิน ออกวันพฤหัสบดี เอาไปประเดิมใช้วันอาทิตย์ หรือว่าออกวันอาทิตย์ ไปประเดิมใช้วันพฤหัสบดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2024 เมื่อ 00:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-06-2024, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ถ้าเราจดจำได้ก็เป็นสมบัติติดตัวเราไปตลอดชีวิต ปกติแล้วฤกษ์พรหมประสิทธิ์นั้น สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษี ฯ วัดท่าซุงท่านได้ให้เอาไว้ มีไม่ครบถ้วนอย่างที่กระผม/อาตมภาพว่ามา ท่านเองไปได้มาก็มีฤกษ์อยู่แค่ใบลานใบเดียว แล้วท่านก็อุตส่าห์เข้าหอสมุดแห่งชาติไปค้นคว้า หามาจนกระทั่งได้ครบ ๗ วัน

แต่เมื่อญาติโยมหรือพระมาถาม ท่านก็บอกเฉพาะฤกษ์นั้นบ้าง ฤกษ์นี้บ้าง แล้วโดยเฉพาะเมื่อกระผม/อาตมภาพมาศึกษาค้นคว้าจนครบถ้วนแล้ว เห็นท่านให้ฤกษ์บุคคลหนึ่งเป็นฤกษ์สมตน คือ เสมอตัว จึงกราบเรียนถามหลวงพ่อท่านว่า "ทำไมให้แค่ฤกษ์สมตนครับ ?" ท่านบอกว่า "บางคนสร้างบุญมาน้อย ของดีเกินบุญไม่ใช่ว่าจะดีสำหรับเขา ถ้าหากว่าเขาแบกข้าวสารได้ ๕๐ กิโลกรัม เราโยนข้าวสารกระสอบละ ๑๐๐ กิโลกรัมไปให้ก็โดนทับตาย..!"

ตอนนั้นกระผม/อาตมภาพก็มาลังเลสงสัย เพราะว่าศึกษาฤกษ์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่เกี่ยวกับ "วันลาภ - วันชัย" เอาไว้ มาสงสัยว่าถ้าคนที่วันลาภหรือว่าวันชัย ตกวันเสาร์ขึ้นหรือแรม ๕ ค่ำ แล้วจะทำอย่างไร ? เพราะท่านบอกว่าห้ามทำการมงคลใด ๆ นอกจากพุทธาภิเษก ?

เมื่อไปค้นคว้าถึงได้รู้ว่าแต่ละฤกษ์นั้นจะมีทั้ง อมฤตโชค มหาสิทธิโชค สิทธิโชค หรือว่าฤกษ์สมตน ฤกษ์กาลกิณี ฤกษ์มรณะ เป็นต้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็เว้นวันเสาร์ขึ้นหรือแรม ๕ ค่ำ ไปใช้วันเสาร์ ขึ้นหรือแรม ๑๕ ค่ำ หรือว่าขึ้นหรือแรม ๔ ค่ำแทนก็ได้ ใหม่ ๆ เมื่อค้นคว้ามาได้และนำไปเผยแพร่ ปรากฏว่าพระพี่พระน้องในวัดอยู่ในลักษณะที่ว่า "แอนตี้" ไม่ยอมรับ พูดง่าย ๆ ว่า "ครูบาอาจารย์ให้เท่าไร กูพอใจแค่นั้น" ซึ่งไม่ใช่สันดานของกระผม/อาตมภาพ

ถ้าท่านทั้งหลายได้ฟังเสียงธรรมตามสายของวัดท่าขนุนตลอดทุกวัน ก็จะได้ยินที่หลวงพ่อฤๅษี ฯ ท่านเล่าว่า ตอนท่านเรียนนักธรรมชั้นตรี คนอื่นถือหนังสือแค่ ๔ เล่ม แต่ของท่านเองแบกสามแบกยังไม่หมดเลย..! เพราะว่าใน ๔ เล่มนั้น อ้างถึงหนังสือเล่มไหน ท่านก็ไปค้นคว้ามาอ่านทั้งหมด ในเมื่อพ่อมีนิสัยช่างค้นคว้าขนาดนั้น ท่านอาจจะทิ้งปัญหาไว้ให้ ดูว่ามีลูกคนไหนจะค้นคว้าแบบท่านบ้าง ? แล้วก็อาจจะเป็นที่น่าเสียดายว่า มีกระผม/อาตมภาพไปไล่ค้นอยู่คนเดียว..!

แม้กระทั่งในเรื่องของการภาวนาพระคาถาเงินล้านก็ตาม กระผม/อาตมภาพก็มาคิดว่าในสมัยหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มีนายห้างประยงค์ ตั้งตรงจิตร มีนายเฉลิม คงทอง เป็นตัวอย่างให้ท่านยกให้คนอื่นว่า ทำพระคาถาพระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์ขึ้น ก็คือทำแล้วร่ำรวย แล้วมายุคนี้สมัยนี้ พระท่านเพิ่มให้จนเป็นพระคาถาเงินล้านไปแล้ว จะไม่มีใครทำเป็นตัวอย่างเลยหรือ ? แล้วก็เกิดมานะขึ้นมาว่า "ในเมื่อไม่มีใครทำ เราก็ทำเสียเอง..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2024 เมื่อ 00:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-06-2024, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนช่วงนั้นที่ทำจริงทำจังอยู่ ก็เห็นมีท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ท่านเพิ่มจาก ๙ จบมาเป็น ๓๐ จบ เพราะว่าตอนนั้นท่านติดในพระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ กระผม/อาตมภาพเพิ่มตาม แล้วก็รู้สึกว่าน้อยไป เนื่องเพราะว่าภาวนาแค่ ๓๐ จบ ยังมีเวลาให้ฟุ้งซ่านอีกมากมาย จึงเพิ่มเป็น ๑๒๐ จบ แต่ก็ยังไม่ตรงกับกำลังใจ เพิ่มเป็น ๓๐๐ จบ เพิ่มเป็น ๖๐๐ จบ เพิ่มเป็น ๙๖๐ จบ ไล่ขึ้นไปเรื่อย

จนกระทั่งท้ายสุดไปทดสอบที่ ๑,๒๐๐ จบต่อวัน ไม่ใช่การเร่งภาวนาให้ครบ ๆ ไป แต่เป็นการตั้งใจภาวนาตามลมหายใจเข้าออกเลย โดยที่เริ่มตั้งแต่ตี ๓ ไปเลิกเอา ๑ ทุ่มของทุกวัน ได้มากที่สุด ๑,๒๐๐ จบ มากกว่านั้นก็ไม่ไหว การงานไม่ต้องทำกันพอดี..!

ท้ายสุดปรับไปปรับมาก็มาลงตัวที่ ๓๐๐ จบ ทำอยู่ ๓ ปีเต็ม ๆ นับลูกประคำจนขาดไปนับครั้งไม่ถ้วน จากประคำลูกหวายก็กลายเป็นแก้วไปเลย..! แล้วหลังจากนั้น เมื่อมาแนะนำท่านทั้งหลายว่าให้ภาวนา ๑๐๘ จบ นั่นเป็น "เรื่องจิ๊บ ๆ" สำหรับกระผม/อาตมภาพเลย..!

ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ ถ้าหากว่าเราไม่ช่างค้นคว้าก็ตามรอยครูบาอาจารย์ไป แต่ถ้าช่างค้นคว้าอาจจะได้อะไรดี ๆ ขึ้นมาอีกมาก เนื่องเพราะว่าช่วงนั้นเมื่อภาวนาทั้งวันทั้งคืน โอกาสที่จะฟุ้งซ่านก็ไม่มี บางครั้งสามารถทรงฌานได้ต่อเนื่องได้ ๒ เดือนกว่า ๓ เดือน โดยไม่หลุดเลยทั้งกลางวันกลางคืน จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายเอาไปพินิจพิจารณาดู ว่าเราควรจะทำเท่าไรจึงเหมาะแก่ตนเอง แต่ขอย้ำว่า เรื่องของคาถานั้น ต้องจริงจังและสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำ ๆ ทิ้ง ๆ

สำหรับวันนี้ก็บอกกล่าวแก่พระภิกษุ สามเณรของเรา และญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2024 เมื่อ 01:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว