กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-06-2024, 19:38
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-06-2024, 23:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีวัดท่าขนุนของเรา เปิดเรียนอย่างเป็นทางการแล้ว

คราวนี้ส่วนหนึ่งที่อยากจะเตือนนักเรียนทั้งหลายเอาไว้ ก็คือว่าสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเรียนบาลีอยู่ พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ ป.ธ.๙) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ได้เตือนกระผม/อาตมภาพว่า "ท่านเล็ก เรียนบาลีอย่าทิ้งสมาธิเป็นอันขาด บาลีเป็นของยาก ถ้าทิ้งสมาธิแล้วเราจะท้อ เมื่อไม่มีกำลังสมาธิช่วย ท้ายสุดอาจจะเรียนไม่สำเร็จเลยก็ได้"

นี่เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์ซึ่งท่านจบประโยค ๙ ได้เตือนเอาไว้ หลวงพ่อสมเด็จ ฯ วัดสระเกศ ท่านเป็นสามเณรเรียนบาลีอยู่ปักษ์ใต้ ต้องเข้าไปนั่งสมาธิในป่าช้าอยู่ทุกวัน นั่งเสียจนงูคิดว่าเป็นท่อนไม้ก็เลยเลื้อยขึ้นมาบนตัก ท่านบอกว่าเพิ่งรู้เหมือนกันว่างูพิษนั้นตัวร้อนมาก คือโดยปกติงูเป็นสัตว์เลือดเย็น แต่งูพิษประเภทงูเห่า งูจงอาง ท่านสัมผัสมาด้วยตนเอง ท่านบอกว่าตัวร้อนมาก..!

พวกเราไม่ต้องถึงขนาดไปนั่งสมาธิในป่าช้า แต่ว่ากรรมฐานเช้า ๆ เย็น ๆ ไม่ควรทิ้ง เพราะว่านอกจากจะช่วยให้เรามีกำลังในการสู้กับเรื่องเรียน เรื่องทางโลกแล้ว ยังทำให้เรามีกำลังในการต่อสู้กับ รัก โลภ โกรธ หลง อีกด้วย โดยเฉพาะทนต่อคำพูดของบุคคลอื่น..!

วัดท่าขนุนของเรายังดีตรงที่ว่าคนอื่นไม่ได้เรียนด้วย แต่ก็ไม่ขัดขวางหรือไม่ใช้วาจาถากถาง แต่ว่าหลายสถานที่ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น พอเห็นเริ่มเรียนบาลีก็ "เอ้า..ดูมัน..จะเป็นมหาประโยค ๙ แล้ว เดี๋ยวเราต้องรอไหว้ท่านตอนจบประโยค ๙ แล้วได้เป็นเจ้าคุณ..!" สารพัดที่จะพูดไป
เรื่องพวกนี้ความจริงเราไม่ควรที่จะเอามาใส่ใจเลย แต่ด้วยความที่เป็นปุถุชนธรรมดา อดไม่ได้ที่จะเอามาคิด ทำให้เสียเวล่ำเวลาในการประพฤติปฏิบัติหรือการเรียนของเราไปเปล่า ๆ

ตัวกระผม/อาตมภาพเองตั้งแต่เด็กที่เริ่มปฏิบัติธรรม ก็โดนครูบาอาจารย์และเพื่อนฝูงว่า "บ้า" กันทุกคน แล้วท้ายที่สุด แม้แต่พี่น้องก็บอกว่าบ้า แต่ก็สู้ทนเรื่อยมา เพราะรู้ว่าเราทำอะไรแล้วจะได้อะไร จนกระทั่งท้ายสุด พระครูธรรมธรแสงชัย กนฺตสีโล น้องชายของตัวเอง เพิ่งจะพูดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาว่า "ถ้าสมัยนั้นผมทำอย่างหลวงพี่ ผมก็สบายไปแล้ว" กระผม/อาตมภาพจะตอบอะไรได้ นอกจากบอกว่า "ก็ตอนนั้นมึงว่ากูบ้านี่หว่า..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2024 เมื่อ 01:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-06-2024, 00:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของกำลังใจ ความแน่วแน่ต่อเป้าหมายในชีวิตของเรา จัดอยู่ในหลักอิทธิบาท ๔ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือเมื่อพอใจที่จะทำสิ่งนั้นแล้ว ก็พากเพียรทำไป กำลังใจปักมั่นไม่ท้อถอยจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกัน ก็มีการทบทวนอยู่เสมอว่าเราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ยังตรงต่อเป้าหมายหรือไม่ ? ห่างไกลจากวัตถุประสงค์มากน้อยเท่าไร ? ต้องเร่งรัดตัวเองในจุดใดบ้าง ?

ดังนั้น..ในคำว่า "อิทธิบาท" คือ "พื้นฐานที่สร้างความสำเร็จ" เป็นเรื่องที่จำเป็นในทุกงาน ถ้าหากว่าขาดข้อใดข้อหนึ่งไป ก็ไม่สามารถที่จะสำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะภาษาบาลี กระผม/อาตมภาพเองยืนยันเองว่า ใครที่เรียนจบบาลีประโยค ๙ ได้ สามารถเรียนปริญญาเอกจบได้อย่างน้อย ๓ ใบ..! เพราะว่าความยากต่างกันถึงระดับนั้น

แล้วท่านทั้งหลายถ้าหากว่าทำสำเร็จ ก็คือการสร้างสมณศักดิ์ให้กับตนเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปสร้างคุณงามความดีอื่น ๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถวายสมณศักดิ์ "พระมหา" ให้ แล้วพระมหาประโยค ๓ ขึ้นไป ต้องบอกว่าแทบจะนั่งหน้าบรรดาฐานานุกรมระดับต้นทั้งหมด จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายซึ่งสร้างตนเองด้วยการเรียนบาลี สามารถที่จะไขว่คว้าหามาได้ด้วยความสามารถของตน

ขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าเป็นอย่างหลวงพ่อพุธ ฐานิโย (พระราชสังวรญาณ) วัดป่าสาลวัน ครูบาอาจารย์สายวัดป่ารูปหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพเคารพมาก ท่านใช้การท่องบาลีเป็นคำภาวนา ท่องไปท่องมา เห็นตัวเองนั่งท่องบาลีอยู่ "แล้วไอ้ที่มองไอ้ตัวนั้นอยู่เป็นใคร ?" คือท่านภาวนาด้วยการท่องบาลี จนกระทั่งกายในหลุดออกไป ยืนมองตัวเองท่องบาลีอยู่ ก็แปลว่า
ถ้าเรามีพื้นฐานของวิชชา ๓ อภิญญา ๖ หรือปฏิสัมภิทาญาณมา ถ้าท่องหนังสือจนจิตสงบระดับหนึ่ง ความสามารถเดิม ๆ จะย้อนกลับมาเอง

แต่คราวนี้นักเรียนบาลี ถ้าหากว่าเราจะภาวนา ให้ใช้พระคาถาที่ช่วยในเรื่องการเรียนก็ได้ ส่วนใหญ่นักเรียนบาลีในกรุงเทพก็ใช้คาถาสุนทรีวาณี ซึ่งเชื่อว่าเป็น "นางฟ้าผู้พิทักษ์พระไตรปิฎก" คาถามีดังนี้ มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภวะ สุนทะรี ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2024 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-06-2024, 00:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าถ้าเป็นลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง มักจะใช้คาถาท่านปู่พระอินทร์ ก็คือ สหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ ซึ่งภายหลังกระผม/อาตมภาพได้รับเพิ่มมา ท่านให้ต่อด้วย อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู ซึ่งท่านทั้งหลายจะใช้แค่ช่วงต้น หรือใช้ทั้งหมดก็ไม่เป็นไร

หรือถ้าหมดท่าขึ้นมาก็เหรียญเสริมปัญญาก็ได้ เพราะว่าช่วงนี้เท่าที่เขาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง บางอย่างกระผม/อาตมภาพก็ "น้ำตาจิไหล" เหมือนกัน

"หมอหนุ่ม" ที่ช่วยดูแลในเรื่องของอาการกระดูกทับเส้นประสาทของกระผม/อาตมภาพเล่าให้ฟังว่า มีคนไข้เป็นเด็กวัยรุ่น จะเข้าเรียนชั้นมัธยมปีที่ ๔ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยด้วยโควต้านักกีฬา แต่ถึงจะเป็นโควต้านักกีฬาก็ต้องสอบเข้า ไม่รู้ว่าจะหันไปพึ่งใคร ก็เลยหันไปถามหมอหนุ่มว่า "อา..มีของดีอะไร
ที่จะช่วยผมได้บ้างไหม ?" "หมอหนุ่ม" ก็เลยให้เหรียญเสริมปัญญาไป บอกคาถาให้ไปภาวนา เจ้าเด็กนั่นน่าจะไม่มีที่พึ่งอะไรแล้วจริง ๆ ก็เลยว่าเสียเต็มที่เลย

เขาบอกว่าวันสอบเหมือนมีใครกางคำตอบทับอยู่หน้ากระดาษ หน้าที่ของเขาก็คือลอกให้ทันเท่านั้น อีกไม่กี่วัน ทั้งแม่ทั้งลูกเอากระเช้ามากราบขอบพระคุณ
"หมอหนุ่ม" ที่ช่วย "หมอหนุ่ม" บอกว่าเป็นเหรียญของหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหมอเลย..!

ส่วนอีกรายหนึ่งตั้งใจจะสอบ ก.พ. สอบมาหลายปีแล้วไม่ติดเสียที ไปหาลูกศิษย์สายวัดท่าขนุนท่านหนึ่ง ก็ได้เหรียญเสริมปัญญาพร้อมกับคาถาไป ไอ้เวรนั่นดันจำคาถาไม่ได้..! แต่ก็อาศัยนึกถึงเหรียญอย่างเดียว แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาลุยข้อสอบไป ปรากฏว่า "ฟลุค" หรือเปล่าไม่รู้ ? สอบได้เหมือนกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2024 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-06-2024, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ใครจะใช้คาถาเสริญปัญญา ก็ภาวนา

ปัญญาเสฏฐัง ปัญญาพะลัง ปัญญาปาสาทิโก ปัญโญภาโส ปัญญาปัชโชโต ปัญญาระตะนัง ภูริปัญโญ มหาญาณัง สัมปะฏิจฉามิ ดูก็ได้

หรือจะเล่นหมดทั้ง ๓ บทก็ได้ มั่วดีเหมือนกัน..!

เพราะว่าหลักใหญ่ ๆ ก็คือสร้างสมาธิให้เกิด คนที่สมาธิทรงตัว ความจำจะดีโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ก็แปลว่านอกจากต้องทนคำพูดของคนได้แล้ว ยังต้องอาศัยการ "เล่นของ" อยู่บ้างเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเป็นการเล่นในลักษณะที่ดี ก็คืออยู่ในกรอบของศีล สมาธิ ปัญญา ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเอาไว้

กระผม/อาตมภาพเองนั้นต้องบอกว่าไม่มีบุญกับบาลี เพราะว่าไม่มีโอกาสสอบเอาประโยค แต่พอเวลาแปลหนังสือให้ฟัง บางทีเพื่อนจบประโยค ๙ แล้วยังงง ๆ ว่าไอ้ตัวนี้แปลแบบนี้ได้ด้วยหรือ ? ก็ถามท่านไปว่าแล้วความหมายได้ไหม ? ท่านบอกว่าได้ แล้วชัดเจนด้วย ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น

เพราะว่าท่องบาลีไปเรื่อย ท่องบาลีไปเรื่อย อยู่ ๆ เหมือนมีอะไรแตกโป๊ะอยู่ในหัว แล้วเข้าใจขึ้นมาเอง ซึ่งเรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว ต้องบอกว่าต้องมี "ของเก่า" อยู่บ้าง แต่คราวนี้ในเมื่อไม่มีโอกาสที่จะไปสอบประโยคบาลี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ก็ถือว่าวาสนาของเราไม่มี คอยสนับสนุนพวกท่านไปก็แล้วกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2024 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว