กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 29-05-2024, 16:41
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 29-05-2024, 22:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถนนพหลโยธิน หมู่ที่ ๑ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมในงานทำบุญ ๑๐๓ ปีชาตกาล พระราชรัตนโมลี (นคร เขมปาลี Ph.D.) ซึ่งเป็นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รูปที่ ๔ โดยที่มีพระคุณพระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ.ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, ป.ธ. ๙) ท่านเจ้าคุณอาจารย์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยรูปปัจจุบัน เป็นประธาน

งานต่าง ๆ นั้น ก็ดำเนินไปตามพิธีกรรมพิธีการทางสงฆ์ แต่ว่าในส่วนสำคัญก็คือ ท่านเจ้าคุณอาจารย์อธิการบดีรูปปัจจุบันได้กล่าวสัมโมทนียกถาว่า พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอธิการบดีรูปที่ ๔ หรือที่หลายท่านเรียกกันว่า "ท่านเจ้าคุณอาจารย์นคร" นั้น ท่านมารับภาระเป็นองค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในช่วงที่ยากลำบาก คำว่ายากลำบากในสมัยนั้นก็คือ ถ้าหากว่ากล่าวถึงมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยแล้ว คนในยุคนั้นก็จะเอาไปผูกกับวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทางมหาวิทยาลัยช่วงนั้นจึงแทบจะไม่มีใครให้การสนับสนุนเลย นอกจากบรรดาหน่วยกล้าตายที่ลงไปทำงานแค่ไม่กี่คน บุคคลที่เห็นว่าตนเองมีอนาคต มีความก้าวหน้าทางคณะสงฆ์ได้ ก็จะหลีกหนีไปเพื่ออนาคตของตนเอง แต่ว่า "ท่านเจ้าคุณอาจารย์นคร" ได้เอาตัวลงมาทุ่มเท จนกระทั่งสามารถที่จะผลักดันให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนั้น เกิดเครือข่ายต่างประเทศขึ้นมา แล้วก็มีครูบาอาจารย์ประจำสาขาวิชาต่าง ๆ ได้จนครบถ้วนสมบูรณ์

ในส่วนนี้ท่านเจ้าคุณอธิการบดีรูปปัจจุบันท่านได้กล่าวว่า หลวงพ่ออธิการบดีรูปที่ ๔ หรือ
"ท่านเจ้าคุณอาจารย์นคร" นั้น ท่านประกอบไปด้วยสิกขาสาชีวะสะมาปันโน และอาจาระโคจะระสัมปันโน ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า คำว่า อาจาระโคจะระสัมปันโนนั้น คือบุคคลที่ถึงพร้อมด้วยอาจาระ คือความประพฤติที่ดีงาม และโคจระ สถานที่ไปอันไม่เป็นที่ตำหนิของบุคคลอื่น

ในส่วนนี้ลูกศิษย์บางรูปของท่านก็ยังถือปฏิบัติสืบมา อย่างเช่นว่า ถ้าหากว่ามีบุคคลไปกับลูกศิษย์รูปนี้ แล้วถึงเวลาแวะร้านสะดวกซื้อ จะซื้อสิ่งนั้นสิ่งนี้มาฉัน แม้ว่าเป็นสิ่งที่ฉันได้ในเวลานั้น แต่ว่าลูกศิษย์รูปนี้ก็จะตำหนิว่ากล่าวทุกครั้งว่า "เป็นสถานที่อโคจร ไม่สมควรที่พระภิกษุสามเณรจะเข้าไป ให้ไหว้วานลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาส หรือว่าคนขับรถเข้าไปจะดีกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2024 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 29-05-2024, 22:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพนั้นถือว่าโชคดี เนื่องเพราะว่าถึงเวลา ก็รบกวนให้พลขับเข้าไปซื้อหาอาหารมาฉันในระหว่างเดินทาง โดยที่ตนเองไม่พยายามที่จะเฉียดใกล้เข้าไป ก็ถือว่ารอดตัวไปได้

เนื่องเพราะว่าอโคจรสถาน คือ สถานที่ซึ่งไม่สมควรไปของพระภิกษุสามเณรนั้น ในปัจจุบันนี้มีมากขึ้น ก็คือเป็นสถานที่ที่ทำให้คนเข้าใจผิดถึงอาจาระ คือ ความประพฤติปฏิบัติส่วนตัวของพระภิกษุสามเณรรูปนั้นได้ เข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อหาสิ่งของในช่วงบ่าย ช่วงค่ำ จะทำให้เขาระแวงว่า "ท่านซื้อข้าวปลาอาหารไป เพื่อฉันในเวลาวิกาลหรือเปล่า ?" เป็นต้น

อีกส่วนหนึ่งที่กล่าวว่า สิกขาสาชีวะสะมาปันโน ก็คือถึงพร้อมด้วยสิกขา คือ ศีล และ อาชีวะ คือ การครองชีพ ในที่นี้ของพระเรา ถ้าจะกล่าวถึงก็ต้องกล่าวถึงปาริสุทธิศีล คือความบริสุทธิ์ของศีล อันเป็นเหตุให้เกิดความบริสุทธิ์ในความประพฤติปฏิบัติ กาย วาจา ใจ ของตนไปด้วย ซึ่งมีอยู่ ๔ ประเภท ได้แก่

ข้อที่ ๑ ปาฏิโมกขสังวรศีล ก็คือการสำรวมในศีลตามเพศภาวะของตน อย่างเช่นว่าฆราวาสทั่วไปก็สำรวมในศีล ๕ อุบาสกอุบาสิกาก็สำรวมในศีล ๘ สามเณรก็สำรวมในศีล ๑๐ พระภิกษุก็สำรวมในศีล ๒๒๗ เป็นต้น ก็คือ
ไม่พยายามละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล

ข้อที่ ๒ คืออินทรียสังวรศีล ซึ่งเป็นส่วนที่กระผม/อาตมภาพ ในตอนแรกเห็นว่ายากที่สุด เพราะว่าเราจะต้องระมัดระวัง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเรา เมื่อถึงเวลาตากระทบรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส และใจครุ่นคิด ทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิด รัก โลภ โกรธ หลง ขึ้นมาได้

เชื่อว่าสำหรับท่านที่เป็นนักปฏิบัติ ส่วนหนึ่งก็จะเกิดความหนักอกหนักใจตรงนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกกับท่านทั้งหลายว่า แค่ท่านพยายามสร้างสมาธิให้เกิด เอาเพียงระดับปฐมฌานละเอียดก็พอ ความแหลมคม ว่องไวของสติ กำลังในการหยุดยั้งของกำลังสมาธิ จะทำให้เราระมัดระวัง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ไว้ได้หมด ไม่ให้สิ่งไม่ดีไม่งาม ที่ก่อให้เกิด รัก โลภ โกรธ หลง เข้ามาสู่ใจของเราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2024 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-05-2024, 22:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อที่ ๓ คือ ก็คืออาชีวปาริสุทธิศีล ความบริสุทธิ์ของศีลในการเลี้ยงชีพในทางที่ชอบธรรม อย่างเช่นว่าพระภิกษุสามเณรของเราก็คือ เลี้ยงชีพด้วยการบิณฑบาต ญาติโยมจะให้ภัตตาหารที่หยาบหรือว่าละเอียด หรือว่าประณีตไม่ประณีตอย่างไรก็ตาม เราก็รับมาและบริโภคเพื่อรักษาธาตุขันธ์นี้เอาไว้สำหรับปฏิบัติธรรม สำหรับช่วยสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาเท่านั้น

ตรงจุดนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ สั่งสอนพระภิกษุสามเณรทุกรูปภายในวัดท่าซุงเป็นประจำอยู่แล้ว ก็คือให้ทุกคนบิณฑบาตเป็นปกติ และพยายามที่จะพิจารณาในอาหาเรปฏิกูลสัญญา ก็คือเห็นว่าอาหารทุกอย่างมีพื้นฐานมาจากความสกปรก เมื่อฉันหรือว่ารับประทานเข้าไป ก็ก่อให้เกิดร่างกายที่สกปรกนี้ แต่ว่าเราต้องฝืนกินหรือว่าฉันเข้าไป เพื่อที่จะรักษาร่างกายนี้ไว้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น

การที่พวกกระผม/อาตมภาพประพฤติปฏิบัติมาเป็นปกติ แต่เมื่อถึงเวลาอยู่ในสายตาคนอื่น อย่างเช่นว่าคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ประธานคณะกรรมการบริษัทเอ็นซีทัวร์ ซึ่งจัดการเดินทางไปต่างประเทศให้กระผม/อาตมภาพและคณะหลายครั้ง ถึงกับออกปากว่า "หลวงพ่อเล็กเป็นพระที่ฉันง่ายที่สุดในโลก"

แล้วในที่สุด แค่ในการสำรวมในเรื่องของข้าวปลาอาหารแค่นี้ ก็ทำให้คุณนวลจันทร์เกิดความศรัทธา ปวารณาว่า ไม่ว่ากระผม/อาตมภาพและคณะจะเดินทางไปประเทศไหนในโลกก็ตาม จะขอตามไปเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกด้าน ต่อให้ต้องจ่ายค่าเดินทางเองก็ยินยอม..!

ข้อสุดท้ายนี้ไม่ใช่แต่พระเท่านั้นที่จะปฏิบัติ หากแต่ญาติโยมก็ปฏิบัติได้ ก็คือข้อที่ ๔ ปัจจัยสันนิสิตศีล คือการพิจารณาก่อนจะใช้ปัจจัย ๔ ถ้าหากว่าเป็นของพระ คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัชรักษาโรค แต่ว่าในส่วนของญาติโยมทั้งหลาย เราก็ต้องคิดถึงอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2024 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 29-05-2024, 22:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าให้กระผม/อาตมภาพชี้ต่อญาติโยมทั้งหลายก็คือ ในเรื่องของการแต่งกายนั้น เชื่อว่าท่านทั้งหลายมีเสื้อผ้ามากมายเหลือเฟือแล้ว แต่มักจะบอกว่า "ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่" ก็เพราะว่าขาดการพิจารณาเสียก่อนว่า การนุ่งห่มนั้น หลัก ๆ เลยก็คือเพื่อป้องกันความละอาย เพื่อป้องกันความหนาว ความร้อน เพื่อป้องกัน เหลือบ ยุง ลม แดด เหล่านี้เป็นต้น

ไม่ใช่ใส่ไปเพื่อไปอวดคนอื่นเขา ถ้าหากว่าเราสามารถลดความรู้สึกในการใส่เพื่อความสวยความงาม เพื่อไปอวดคนอื่นเขาลงได้ เราก็จะประหยัดในเรื่องของเครื่องนุ่งห่มได้มากเป็นพิเศษ เนื่องเพราะว่าถ้าเป็นของที่มียี่ห้อ ก็มักจะแพงเหลือเกิน..!

เรื่องของอาหารก็เช่นกัน ถ้าหากว่าเราลดลงมาอยู่ในระดับที่ว่า พอที่จะบริโภคเพื่อยังร่างกายนี้ให้อยู่ได้ เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเสาะแสวงหาของแพง ๆ มารับประทาน เนื่องเพราะว่าไม่ว่าจะของแพงหรือของถูก ท้ายที่สุดก็กลายเป็นสิ่งปฏิกูลเช่นกัน..!

เรื่องของที่อยู่อาศัยนั้น ท่านทั้งหลายทำให้แข็งแรงไปเลยทีเดียว เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำให้มากมายมหาศาล มีโยมปวารณาท่านหนึ่ง ไปเห็นบ้านไม้ประยุกต์ก็คือเรือนสุมาลี ที่บริเวณหมู่เรือนไทยประยุกต์ของวัดท่าขนุน แล้วก็ร่ำร้องว่า "กระผมอยากได้บ้านแบบนี้มานานมากแล้ว พระอาจารย์สร้างไปทั้งหมดเท่าไร ?"

กระผม/อาตมภาพบอกว่า ถ้าว่ากันตามแบบของเขาก็ ๒ ล้าน ๔ แสนบาท แต่กระผม/อาตมภาพขอเพิ่มหลังคาคลุมบริเวณนอกชาน เพื่อป้องกันไม่ให้ไม้ผุ ด้วยเรื่องของน้ำ เรื่องของแดด แล้วก็หลังคาคลุมบริเวณบันไดไม้ด้วย รวมแล้วก็ราคา ๓ ล้านบาท ทำเอาโยมท่านนั้นเกือบจะเป็นลม เนื่องเพราะว่าท่านสร้างบ้านไป ๗๐ ล้านบาท..!

กระผม/อาตมภาพเข้าไปดูการตกแต่งภายในของบ้านนั้นแล้ว ยังคิดว่าถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพ สามารถประหยัดไปได้ ไม่หนี ๒๐ - ๓๐ ล้านบาท เนื่องเพราะว่าหลายอย่างไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ อย่างเช่นว่าบรรดาผ้าม่านลูกไม้แบบยุโรปต่าง ๆ ที่หรูหรามากจนเกินไป แล้วเราเองไม่สามารถที่จะดูแลได้ ถึงเวลาก็ต้องจ้างบริษัทนำไปซักแห้งให้ เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2024 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 29-05-2024, 22:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนในเรื่องของยารักษาโรคนั้น ไม่สามารถที่จะประหยัดได้ เพราะว่าต้องรักษาโรคให้ตรงตามอาการ จึงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่กระผม/อาตมภาพจะแนะนำให้ญาติโยมทั้งหลายว่า ถ้าหากว่ารักษาโรคของเราให้บรรเทา หรือว่าหายได้ ต่อให้แพงหน่อยก็ต้องยินดีตามนั้น

ท่านเจ้าคุณอธิการบดีรูปปัจจุบันได้กล่าวถึง หลวงพ่อเจ้าคุณนคร องค์อธิการบดีรูปที่ ๔ ว่า เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยสิกขาสาชีวะสะมาปันโน เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยอาจาระโคจะระสัมปันโน จึงกลายเป็นปูชนียบุคคลที่ชาว มจร. ทั้งหลายของเรารำลึกถึง และจัดการทำบุญให้ท่านอย่างสม่ำเสมอ

โดยเฉพาะปีนี้ได้ทำบุญในห้องอเนกประสงค์พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ซึ่งกระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าภาพสร้างเอาไว้เอง และได้รับการใช้งานมากที่สุด ในบริเวณอาคารพระราชรัตนโมลี (นคร เขมปาลี Ph.D.) ซึ่งเป็นอาคารหลักอาคารหนึ่ง ของคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ครั้นเมื่อถึงเวลา เสร็จจากพิธีการพิธีกรรมต่าง ๆ แล้ว ท่านเจ้าคุณอาจารย์อธิการบดีรูปปัจจุบัน ก็ขออนุญาตไปรับภัตตาหารพระราชทาน ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเมตตาพระราชทานให้แก่ชาว มจร. ทุกวัน ซึ่งตรงนี้เป็นมหากรุณาธิคุณที่มากล้นอย่างยิ่งสำหรับชาว มจร. ทุกคน ที่จะเทิดไว้เหนือเศียรเหนือเกล้าตลอดกาล

กระผม/อาตมภาพเมื่อร่วมงานจนครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จึงได้เดินทางกลับสู่ที่พัก และทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน สำหรับท่านทั้งหลายจะได้รับฟังกันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2024 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว