กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 23-05-2024, 18:22
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-05-2024, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อคืนชาววัดท่าขนุนของเรา ต้องทำการเวียนเทียนในศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย เหตุก็เพราะว่าหลังจากที่ตามประทีปไปได้ประมาณชั่วโมงเศษ ฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก และตกต่อเนื่องไปทั้งคืน แต่ด้วยเหตุที่ว่าทางวัดท่าขนุนของเรามีศาลาใหญ่พอ ที่จะรองรับการเวียนเทียนของพระภิกษุสามเณร และญาติโยมทั้งหมดที่มาร่วมงานได้

การสร้างศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สายขึ้นมานั้น กระผม/อาตมภาพได้ทำการรื้อศาลาการเปรียญหลังเก่า หอฉันหลังเก่า ตลอดจนกระทั่งหอระฆัง ยุบรวมลงมาสร้างเป็นศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สายเพียงหลังเดียว ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ มาจนถึงปีนี้ ก็นับได้ ๑๑ ปีแล้ว ครั้งนี้เป็นการเวียนเทียนในศาลาเป็นครั้งที่ ๒ เนื่องจากว่าฝนตกหนัก ไม่อำนวยให้เวียนเทียนรอบโบสถ์ได้ ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปงานหนึ่ง

ครั้นพักผ่อนเล็กน้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพกับน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ก็วิ่งออกจากวัดท่าขนุนตั้งแต่ตี ๓ ตรงไปยังโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เนื่องเพราะว่าน้องเล็กต้องไปทำการตรวจตาตามที่หมอนัด แม้ว่าจะไปทำการวางบัตรตั้งแต่ประมาณ ๖ โมงครึ่ง แต่ว่าคิวตรวจประมาณเกือบเที่ยง..! กระผม/อาตมภาพเอง ต้องเดินทางไปยังวัดอุทยานด้วยรถแท็กซี่

หลังจากที่ฉันเพลแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็นั่งรถแท็กซี่ต่อไป เพื่อเข้าประชุมที่วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร ถนนประชาธิปก เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการประชุมคณะกรรมการจัดงานแสดงพระธรรมเทศนา ๔ ภาคเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพิธีมหามงคลเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทำการแสดงพระธรรมเทศนามาแล้ว ๒ ภาค ก็คือภาคอีสานและภาคเหนือ

แต่ถ้าหากว่านับกันตามภาคของทางคณะสงฆ์ ภาคอีสานก็คืออยู่ในคณะสงฆ์หนตะวันออก ภาคเหนืออยู่ในคณะสงฆ์หนเหนือ ส่วนภาคกลางของเรา ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งนี้นั้น อยู่ในสังกัดของคณะสงฆ์หนกลาง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2024 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-05-2024, 23:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพที่ "จับพลัดจับผลู" ไปเป็นคณะกรรมการด้วย ก็เนื่องจากว่าเป็นคณะกรรมการกองทุนเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ จากที่ได้ตั้งกองทุนเริ่มต้นด้วยเงินจำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท และเพิ่มทุนมา ๒ ครั้ง ๆ ละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท

เมื่อมาถึงแล้ว รู้สึกว่าต้องทำตัวลีบมาก ๆ เนื่องเพราะว่าบรรดาพระเถระที่มานั้น ส่วนใหญ่ก็คือกรรมการมหาเถรสมาคม และบรรดาเจ้าคณะภาค ส่วนใหญ่ก็เป็นพระราชาคณะชั้นรองสมเด็จบ้าง ชั้นธรรมบ้าง ชั้นเทพบ้าง แล้วอยู่ ๆ ก็มีพระครูวิลาศกาญจนธรรม โผล่มานั่งเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ ๑ รูป..!

การประชุมครั้งนี้นั้น ประธานฝ่ายสงฆ์ก็คือท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙, Ph.D.) ราชบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ฝ่ายฆราวาส ได้แก่ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี

บรรดาพระเถรานุเถระที่เข้าประชุมนั้น ส่วนใหญ่ก็รู้จักมักคุ้นกันดี แต่ว่าหลายท่านก็ไม่คิดว่ากระผม/อาตมภาพจะโผล่มาเป็นกรรมการกับเขาด้วย แม้แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ผู้เป็นเจ้านายโดยตรง ซึ่งมากับเลขานุการ ก็คือท่านเจ้าคุณอ๋อ (พระวชิรปัญญาภรณ์, ดร.) เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ หลวงพ่อเจ้าคุณแย้มเห็นหน้า ยังมองหน้าประมาณว่า "เอ็งมาทำอะไรวะ ?"

แต่ท่านเองก็คงจะเลิกสงสัยแล้ว เพราะว่ากระผม/อาตมภาพ ถ้าหากว่าเปรียบอย่างที่โบราณว่าก็คือ "แทรกเป็นยาดำ" คำว่า "แทรกเป็นยาดำ" นั้น ตามตำรับการรักษาโรคของเวชศาสตร์วรรณาโบราณนั้น ยาดำเป็นยาที่แปลกมาก เนื่องเพราะว่าถ้าหากว่าร่างกายร้อน ยาดำจะไปลดความร้อน ทำให้ร่างกายเย็นลง แต่ถ้าหากว่าร่างกายเย็น ยาดำจะไปเพิ่มความร้อนให้ ทำให้ร่างกายอบอุ่น ได้สมดุลขึ้นมา

เนื่องจากว่ายาดำนั้นมีรสขม ซึ่งเป็นรสที่สามารถปรับตนเองให้เข้ากับสภาพร่างกายได้อย่างน่าอัศจรรย์มาก ดังนั้น..สุภาษิตโบราณที่ว่า "แทรกเป็นยาดำ" ก็คือ "ทุกงานจะต้องมี" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น บรรดาพระเถระ แม้ว่าจะสงสัยว่ากระผม/อาตมภาพมาเป็นคณะกรรมการได้อย่างไร แต่ท้ายที่สุดก็ต้องทำใจยอมรับกันไปโดยปริยายนั่นเอง

การประชุมครั้งนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือการกำหนดสถานที่ในการจัดแสดงพระธรรมเทศนาหนกลาง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า จากการจัดแสดงที่ภาคอีสาน ซึ่งมีพระเดชพระคุณหลวงปู่สมเกียรติ - พระพรหมวัชรเมธี (สมเกียรติ โกวิโท ป.ธ.๙) เจ้าคณะภาค ๙ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ท่านเป็นองค์ดำเนินการนั้น

ท่านบอกว่า กะประมาณว่าจะมีผู้มาร่วมงาน ๑,๐๐๐ คน เนื่องเพราะว่าเป็นงานต่อเนื่องทั้งวัน ก็คือช่วงเช้ามีการแสดงพระธรรมเทศนาเดี่ยว ๒ ครั้ง หรือว่า เทศน์ ๒ รูป ต่อเนื่องกันก็ประมาณ ๒ ชั่วโมง หลังจากที่พักฉันเพลแล้ว ตอนช่วงบ่ายก็มีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมประจำภาค แล้วก็มีการเทศน์ ๒ ธรรมาสน์ ซึ่งเป็นการแสดงพระธรรมเทศนาในลักษณะถามตอบต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2024 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-05-2024, 23:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่า ผู้คนจะไปเกินกว่าที่หลวงปู่สมเกียรติท่านคาดการณ์เอาไว้มาก เนื่องเพราะว่าจากที่กะเอาไว้ ๑,๐๐๐ คน กลายเป็นว่าหอประชุมของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นนั้นไม่เพียงพอ เนื่องเพราะว่าผู้คนไปถึง ๓,๐๐๐ กว่าคน ต้องนั่งอยู่ที่ชั้นล่าง แล้วดูจากทีวีวงจรปิดก็เอา

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อไปจัดงานที่หนเหนือ ซึ่งหลวงพ่อพิมพ์ - พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) เจ้าคณะภาค ๗ วัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร ท่านได้ตัวอย่างมาแล้ว จึงย้ายที่จากอุทยานราชพฤกษ์ ไปจัดที่ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ แต่ก็กะพลาดอีกตามเคย ก็คือจากที่คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานประมาณ ๓,๐๐๐ รูป/คน ปรากฏว่ามีเกินไปเป็นเท่าตัว ก็คือประมาณ ๖,๐๐๐ รูป/คน แล้วก็อยู่กันอย่างชนิดที่เรียกว่า "เกาะติดกับงาน" จนกระทั่งเลิก

เมื่อเป็นเช่นนั้น ความเครียดจึงมาเกิดขึ้นกับภาคกลาง หรือว่าหนกลางนี่เอง โดยเฉพาะพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ถวายภาระให้ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. ประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้รับหน้าเสื่อไป

เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราจึงต้องมาประชุมเพื่อที่จะเลือกว่าใช้สถานที่ใด แล้วในที่สุดก็ได้รับการประสานจากทางสำนักงานองคมนตรี ตลอดจนกระทั่งคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ว่าใช้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จะเหมาะสมที่สุด

หลังจากนั้นแล้ว ก็เป็นการตกลงกันในลักษณะที่ว่า เจ้าคณะภาคในเขตหนกลาง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงพื้นที่ ก็คือพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรเมธี , รศ. ดร. (มีชัย วีรปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะภาค ๑ เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม พระเดชพระคุณพระธรรมโพธิมงคล (สมควร ปิยสีโล ป.ธ.๙) เจ้าคณะภาค ๒ วัดสระเกศราชวรวิหาร และพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ว่าแต่ละภาคจะกำหนดให้ทางคณะสงฆ์มีผู้ใดมาร่วมงานกันบ้าง ซึ่งทั้ง ๓ รูปต่างก็บอกว่า "แล้วแต่จะสั่งมาเลย" ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือว่าฆราวาส ต้องการเท่าไร ก็จะช่วยประสานงานให้

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงไม่มีเรื่องที่น่าหนักใจ เพราะว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่มาร่วมงานนั้น ทางด้านศาสนพิธีกร สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกับกระทรวงวัฒนธรรมก็รับผิดชอบไป ทางด้านคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี จะรับประสานงานเกี่ยวกับเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะในส่วนที่ถวายพระเถรานุเถระที่ไปร่วมงาน ก็จะมีการเตรียมพื้นที่เอาไว้รองรับ ในส่วนที่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธามาเปิดโรงทาน หรือว่านำมาถวายเฉพาะพระเถรานุเถระด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่รอบคอบเป็นอย่างยิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2024 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 23-05-2024, 23:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การประชุมปิดลงตอนเกือบจะ ๔ โมงเย็น กระผม/อาตมภาพเข้าถวายปัจจัยท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมแสดงพระธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรติของหนใต้ หรือว่าภาคใต้ ซึ่งทางด้านโน้นบอกว่าทางคณะสงฆ์มีกำลังน้อย จึงต้องอาศัยพวกเรามาช่วยกัน ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็เต็มใจที่จะช่วย โดยที่พระเดชพระคุณอาจารย์ท่านเจ้าคุณชัยวัฒน์ (พระเทพวชิรวาที - ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน) ตลอดจนกระทั่งท่านเจ้าคุณอาจารย์วัลลภ (พระศรีธรรมภาณี, รศ.ดร. - วัลลภ โกวิโท ป.ธ. ๘) ต่างก็บอกว่า "นายทุนใหญ่อยู่ตรงนี้เอง" ทำเอาทุกคนเข้าใจชัดเจนว่า ทำไมพระครูวิลาศกาญจนธรรมถึงโผล่มานั่งอยู่ตรงนี้ได้ ?

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าปัจจัยทุกบาททุกสตางค์ที่รับมาจากญาติโยมนั้น กระผม/อาตมภาพได้ปฏิญาณตน ต่อหน้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอุโบสถวัดท่าซุง ตั้งแต่วันแรกที่บวช โดยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง นำปฏิญาณว่า "ข้าพเจ้าจะรับเงินและทอง ที่ผู้มีจิตศรัทธาน้อมถวาย แต่จะไม่นำมาเป็นของส่วนตัว หากแต่จะผลักเข้าสู่กองบุญการกุศลต่าง ๆ เพื่อเพิ่มอานิสงส์ให้แก่ผู้ถวาย"

ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพจึงรับปัจจัยไทยธรรมจากญาติโยม ด้วยความสบายใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ารับมาก็ไม่ใช่ของตนเอง หากแต่เป็นของกลาง และเป็นคนที่ใช้เงินแบบไม่คิด ได้มาเท่าไรก็จ่ายไปเท่านั้น จนกระทั่งคนทั่วไปเห็นว่า "หลวงพ่อเล็กรวยมาก" "พระอาจารย์เล็กรวยมาก" โดยที่ไม่ทราบเลยว่า บางวันกระผม/อาตมภาพแม้แต่ค่ารถยังหาได้ยากเลย..!

แต่ด้วยความที่คิดอยู่เสมอว่า เราอาจจะมรณภาพลงไปในวันนี้ ดังนั้น..ปัจจัยทั้งหลายที่รับมา ควรที่จะเป็นประโยชน์แก่ทางคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาให้มากที่สุด จึงใช้เงินแบบคนที่ไม่คิดว่าจะมีวันพรุ่งนี้ ทำให้บุคคลที่ไม่เข้าใจ ก็ไปมองว่า "หลวงพ่อเล็กรวย" กระผม/อาตมภาพก็รับเอาไว้ด้วยความยินดี เพราะเขามองว่าเรารวย ดีกว่าเขามองว่าเราจน เป็นต้น

หลังจากนั้น
กระผม/อาตมภาพก็นั่งรถแท็กซี่ ฝ่าทั้งฝนและรถติดเพื่อกลับสู่ที่พักคืนนี้ ก่อนที่จะไปทำหน้าที่ของตนเองต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2024 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว