กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-04-2024, 17:38
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,607
ได้ให้อนุโมทนา: 217,065
ได้รับอนุโมทนา 749,439 ครั้ง ใน 36,519 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 21-04-2024, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,763
ได้ให้อนุโมทนา: 152,221
ได้รับอนุโมทนา 4,420,931 ครั้ง ใน 34,350 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดสาลี หมู่ที่ ๒ ตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อร่วมงานวันบูรพาจารย์และทำบุญอายุวัฒนมงคล ๗๐ ปีพระครูโสภณคุณาธาร หรือที่กระผม/อาตมภาพเรียกง่าย ๆ ว่า"หลวงพ่อสิงห์โต" เจ้าอาวาสวัดสาลี รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี

หลวงพ่อสิงห์โตนั้น ท่านก็คือครูบาอาจารย์รูปหนึ่งในสายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ในงานพุทธาภิเษกต่าง ๆ ได้พบเห็นกันอยู่เสมอ จนกระทั่งท่านทราบว่ากระผม/อาตมภาพเคยบวชอยู่ที่วัดท่าซุงของหลวงพ่อฤๅษีฯ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงนั้น เป็นคนบ้านสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรีนั่นเอง จึงเมตตาให้ความสนิทสนม และท้ายที่สุดเมื่อมีงานก็นิมนต์ให้มาร่วมงานด้วยกัน

กระผม/อาตมภาพได้นำเอาเบี้ยแก้ตัวครูของหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จังหวัดนครปฐม ไปถวายหลวงพ่อสิงห์โตท่าน ๑ คู่ ซึ่งหลวงพ่อสิงห์โตท่านดีใจมาก ๆ เนื่องเพราะว่าท่านเองไม่ได้ครอบครูสายเบี้ยแก้มาเลย เมื่อได้เบี้ยแก้ตัวครูไป เท่ากับว่าเมื่อถึงเวลาสามารถที่จะหาตำราของสายนี้มาศึกษา แล้วเมื่อปฏิบัติตาม ก็สามารถที่จะสร้างเบี้ยแก้ได้ เพราะเท่ากับว่าได้รับการครอบครูไปแล้ว

ดังนั้น..บรรดาวัตถุมงคลที่เป็น "ตัวครู" หรือเป็นชิ้นที่ครูท่านทำเอาไว้ให้ บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายพึงสังวรเอาไว้ให้มาก ว่าเราท่านทั้งหลายถ้ามีโอกาสต้องรีบหามาครอบครองเอาไว้ เท่ากับว่าท่านมีโอกาสได้สืบสายวิชานั้น ๆ ด้วย ขอให้ศึกษาความรู้นั้นจนกระทั่งเข้าถึง นำเอาเบี้ยแก้ตัวครูใส่พานขึ้นที่บูชา จัดขันครู ที่เรียกว่า "ขันห้า" ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ ๕ ดอกหรือว่า ๕ กระทง ข้าวตอก ๕ กระทง เงินบูชาครู ๕ บาท ธูป ๕ ดอก เทียนขาว ๕ ต้น ทำการไหว้ครู ขอเรียนในสายวิชาการนั้น ๆ แล้วท่านเองก็มีสิทธิ์ในการที่จะสร้างเสริมวัตถุมงคลตามสายนั้น ๆ ได้ในทันที

ถ้าถามว่าเหตุใดกระผม/อาตมภาพจึงนำเอาเบี้ยแก้ไปถวายหลวงพ่อสิงห์โต ? ก็เพราะว่าอันดับแรก นอกจากท่านจะได้สืบสายครูเบี้ยแก้เพิ่มมาอีกวิชาหนึ่งแล้ว
เบี้ยแก้ยังเป็นวัตถุมงคล ที่จะช่วยป้องกันช่วยเหลือเราได้ดีที่สุดอีกประการหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2024 เมื่อ 01:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 21-04-2024, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,763
ได้ให้อนุโมทนา: 152,221
ได้รับอนุโมทนา 4,420,931 ครั้ง ใน 34,350 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จะยกตัวอย่างก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ ญาติโยมท่านหนึ่งที่รู้จักสนิทสนมกัน ถามกระผม/อาตมภาพว่า "ต้องไปงานศพ แต่ว่ารู้สึกสังหรณ์ใจผิดปกติ ควรที่จะติดวัตถุมงคลอะไรไปดี ?" ซึ่งกระผม/อาตมภาพจะว่าหนักใจก็หนักใจ จะว่าฉิวก็ฉิว เนื่องเพราะว่าโยมท่านนี้ลางสังหรณ์ หรือว่าทิพจักขุญาณนั้นดีมาก แต่ว่าเป็นคนที่ไม่นิยมพกวัตถุมงคลติดตัว เนื่องจากว่าเป็นบุคคลสมัยใหม่ โดยเฉพาะเดินทางไปต่างประเทศมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้ว จึงมีความเป็นคน "หัวนอก" อยู่บ้าง แต่ด้วยความที่ว่าลางสังหรณ์ดี "เกิดทีไรก็เป็นเรื่องทุกที" จึงได้สอบถามมา

กระผม/อาตมภาพถามว่า "มีมีดหมอหรือไม่ ? ถ้าหากว่าไม่มีมีดหมอ ก็ต้องมีเบี้ยแก้" ปรากฏว่ากระผม/อาตมภาพนั้นเคยให้ไว้ทั้งมีดหมอชาตรีวัดท่าซุงเล่มเล็ก หรือที่เรียกว่า "มีดปากกา" แล้วก็เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางในธัมมิการาม จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นสุดยอดเบี้ยแก้อีกสำนักหนึ่ง เมื่อญาติโยมท่านนั้นพกเอามีดหมอและเบี้ยแก้ไป ก็ปรากฏว่าผ่านงานนั้นมาได้ด้วยความปกติอย่างยิ่ง แต่ว่าเรื่องไม่ดีไม่งาม ไปเกิดกับใครบ้าง ก็ไม่สามารถที่จะบอกได้..!

ถ้าถามว่า "ทำไมต้องเป็นมีดหมอหรือว่าเบี้ยแก้ ?" ก็ต้องบอกว่า มีดหมอนั้น สิ่งที่เป็นคู่ปรับ ก็คือเป็นคู่ปรับกับสิ่งลี้ลับ โดยเฉพาะพวกผีสางนางไม้โดยตรง แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านแนะนำว่า "อย่าเอาไปรังแกใคร" พูดง่าย ๆ ก็คือถ้ามีอยู่ ก็ให้อธิษฐานป้องกันตัว ป้องกันบุคคลผู้ร่วมเดินทาง อย่างเช่นว่าติดไว้ในรถยนต์

หรือว่าป้องกันครอบครัว อย่างเช่นว่าอาราธนาขึ้นหิ้ง แล้วก็เลื่อนใบมีดออกจากฝักสักประมาณ ๑ เซนติเมตร ในลักษณะพร้อมใช้งาน ว่าคาถาอาราธนา ขอบารมีครูบาอาจารย์ และพรหมเทวดา ตลอดจนเจ้าที่เจ้าทาง ช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ป้องกันภัยให้ ถ้าอย่างนี้ก็จะปลอดภัยจากบรรดาคุณผี ตลอดจนกระทั่งผีและสัมภเวสีต่าง ๆ

ส่วนเบี้ยแก้นั้น ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่กลับร้ายกลายดี เหตุการณ์ใด ๆ ถ้าจะมาในด้านร้าย เรามีการอาราธนาเบี้ยแก้อยู่ ก็จะกลับกลายเป็นดี และโดยเฉพาะเบี้ยแก้นั้นได้บรรจุปรอท ซึ่งเป็นสิ่งที่บรรดาสิ่งลี้ลับต่าง ๆ ในอีกภพภูมิหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเปรต อสุรกาย สัมภเวสี หรือผีเร่ร่อนต่าง ๆ นานา ถ้าหากว่าพลังงานต่ำกว่า ก็จะโดนปรอทดูดกลืนไปเลย พูดง่าย ๆ ว่าปรอทนั้นกิน "ปราณ" เป็นอาหาร คำว่า "ปราณ" ในที่นี้จะเรียกว่าพลังชีวิตก็ได้ แต่ว่าเป็นพลังฝ่ายต่ำ โดยเฉพาะบรรดาปราณที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นพวกผีสางต่าง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2024 เมื่อ 01:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 21-04-2024, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,763
ได้ให้อนุโมทนา: 152,221
ได้รับอนุโมทนา 4,420,931 ครั้ง ใน 34,350 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าใครพกเบี้ยแก้อยู่ พวกบรรดาผีสางนางไม้ ก็จะพยายามเลี่ยงห่างไป แต่ถ้าหากว่าเข้าสิงแล้วก็ดี หรือว่ามารังแกก็ตาม ก็ต้องว่ากันด้วยมีดหมอ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าเรามีทั้งสองอย่างนี้ติดตัวอยู่ ก็แทบจะประกันความเสี่ยงได้ว่า เราจะปลอดภัยจากสิ่งลี้ลับต่าง ๆ เหล่านี้ได้ในระดับหนึ่ง

แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองก็ยังอาราธนาเบี้ยแก้ตัวครูของหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว เอาไว้ในศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดหนัก ๆ แล้วตนเองก็ไม่เคยลืมที่จะอาราธนาทุกครั้ง จึงเป็นบุคคลเดียวในวัดที่อยู่รอดปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ซึ่งตอนนี้นับว่าเป็นระลอกที่ ๑๑ แล้ว เนื่องจากว่ากำลังระบาดอย่างหนักอยู่ที่ทางทองผาภูมิ เพราะว่าบรรดานักท่องเที่ยวอย่างหนึ่ง บรรดาผู้หลบหนีเข้าเมืองอย่างหนึ่ง นำเอามาแจกจ่ายให้กับคนทองผาภูมิ โดยเฉพาะตำรวจของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ แทบจะติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ กันทั้งสถานี..! กระผม/อาตมภาพยังอยู่รอดปลอดภัยดีทุกประการ

ท่านทั้งหลายที่ศึกษาเรื่องเครื่องรางของขลัง และติดตามการที่กระผม/อาตมภาพนำเอาบรรดาเครื่องรางต่าง ๆ ตลอดจนกระทั่งวัตถุมงคลที่เป็นพระเครื่อง มาออกให้บูชาในเว็บไซต์วัดท่าขนุนนั้น ท่านอาจจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพมีตั้งแต่สุดยอดเบี้ยแก้ซึ่งเป็นที่นิยมในท้องตลาด ก็คือเบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรงก็ดี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วก็ดี หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้วก็ดี หลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำก็ดี ตลอดจนกระทั่ง หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ก็ดี ซึ่งที่เอ่ยนามมานี้ ต้องบอกว่าเป็น ๑ ในเบญจภาคีเบี้ยแก้เมืองไทย ที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป แล้วทำไมกระผม/อาตมภาพจึงมาเน้นเบี้ยแก้ หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ?

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าอันดับแรกเลย กระผม/อาตมภาพนั้นทันหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว แต่ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นหลวงปู่เพิ่มท่านทำการบรรจุปรอทลงเบี้ยแก้ แต่เมื่อทันหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว กลับมีโอกาสที่เห็นหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ท่านบรรจุปรอทลงเบี้ยแก้ โดยที่ท่านเทปรอทใส่ฝ่ามือขวา ถือหอยเบี้ยไว้ด้วยมือซ้าย หลังจากที่บริกรรมคาถา ปรากฏว่าปรอทนั้นวิ่งจากฝ่ามือขาว ลงไปสู่หอยเบี้ยในฝ่ามือซ้ายต่อหน้าต่อตา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2024 เมื่อ 01:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 21-04-2024, 23:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,763
ได้ให้อนุโมทนา: 152,221
ได้รับอนุโมทนา 4,420,931 ครั้ง ใน 34,350 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วอีกประการหนึ่งก็คือ ได้ประสบการณ์จากเบี้ยแก้ที่สั่นเตือนเมื่อเวลามีอันตรายเข้ามาใกล้ โดยเฉพาะเบี้ยแก้หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งกระผม/อาตมภาพตอนนั้นยังคิดว่าแผ่นดินไหว แต่ปรากฏว่าเมื่อลองคลำดู กลายเป็นเบี้ยแก้สั่นเตือน ถ้าเป็นสมัยนี้ใครพกโทรศัพท์ระบบสั่นอยู่ อาจจะคิดว่าเป็นโทรศัพท์สั่นเตือนก็เป็นไปได้..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงได้ให้ความเชื่อมั่นในเบี้ยแก้หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว สูงมาก ครูบาอาจารย์ท่านเก่งฉกาจขนาดไหน กระผม/อาตมภาพยกเอาไว้เหนือเศียรเหนือเกล้า แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะใช้เบี้ยแก้หลวงปู่เจือเป็นหลัก

โดยเฉพาะเบี้ยแก้หลวงปู่เจือ ราคายังไม่แรงมาก ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายจะเล่นเบี้ยแก้หลวงปู่เจือ กระผม/อาตมภาพขอแนะนำว่า อันดับแรก ให้หาเบี้ยแก้หลวงปู่เจือที่ชุบรักหนา เนื่องเพราะว่าเป็นเบี้ยแก้ยุคต้นของท่าน ท่านยังมีเวลามากในการทำ ค่อย ๆ บรรจงชุบอย่างละเอียด ทำให้เบี้ยแก้นั้นเรียบลื่น เงาวับ ปลอมยากสุด ๆ ประการที่สองก็คือ ให้หาเบี้ยแก้ที่ถักด้วยดิ้นเงินดิ้นทอง นั่นก็เป็นเบี้ยแก้ในยุคแรก ๆ เช่นกัน

ส่วนเบี้ยแก้ในยุคหลังนั้น กรุณาเถอะ..ไม่ว่าจะหุ้มตะกั่วเฉย ๆ หรือว่าถักเป็นลายธงชาติก็ดี โอกาสที่จะ "โดน" มีสูงมาก เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพ แม้ว่าจะไปหาหลวงปู่เจือมานานแล้วก็ตาม แต่ว่าพอไปถึง ด้วยความที่เป็นคนไม่นิยมการรบกวนครูบาอาจารย์ จึงไปยืน "ส่อง" วัตถุมงคลในตู้ของทางวัด ซึ่งตู้ก็ไม่ได้อยู่ไกลอะไรเลย อยู่หน้ากุฏิหลวงปู่นั่นเอง..! ปรากฏว่าหลวงปู่ท่านคงจะเห็น ออกมากวักมือเรียก บอกว่า "ท่าน..ถ้าอยากได้เบี้ยแก้มาเอาที่ผมนี่" พอได้ยินแค่นั้น กระผม/อาตมภาพก็เข้าใจทันทีว่า หลวงปู่ท่านเมตตาเตือนว่า "อย่าไปเอาจากที่ตรงนั้นเลย"

เนื่องเพราะว่าบริเวณนั้น ก็คือบุคคลที่ทำเบี้ยแก้ โดยการบรรจุปรอทเอง หุ้มเอง แล้วก็ถักเอง พร้อมกับจำหน่ายเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นโอกาสที่จะขลัง จะศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มี เนื่องเพราะว่าทำแบบ "ครูพักลักจำ" ไม่ว่าการ "กรึง" เบี้ย การลงจาร การเสก แม้กระทั่งคาถาในการบรรจุ ตัวเขาก็ไม่รู้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2024 เมื่อ 01:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 21-04-2024, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,763
ได้ให้อนุโมทนา: 152,221
ได้รับอนุโมทนา 4,420,931 ครั้ง ใน 34,350 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในส่วนนี้จึงอยากจะบอกกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าหากว่ามีเบี้ยแก้หลวงปู่เจือที่มั่นใจในที่มาจริง ๆ อย่างเช่นว่า เบี้ยแก้ที่ชุบรักหนาในยุคต้นก็ดี เบี้ยแก้ที่ถักด้วยดิ้นเงินดิ้นทองแล้วเราดูออกก็ดี ตลอดจนกระทั่งเบี้ยจิ๋ว ที่เรียกว่า "เบี้ยจั่น" ซึ่งทำออกมาหุ้มเงิน แล้วท่านมีจารหลังให้ก็ตาม

อีกรุ่นหนึ่งที่ค่อนข้างจะเสี่ยง แต่ว่าถ้าตาดีตาถึงก็ได้ของดีไป ก็คือรุ่นที่ทำบุญอายุ ๘๐ ปีของท่าน มีเคล็ดลับอยู่ที่ว่า พยายามเล็งดูที่ห่วง จะมีตัวเลข ๘๐ จิ๋ว ๆ ติดอยู่ ซึ่งโอกาสที่จะบังเอิญ
ไปได้ของดีแบบนั้นยากมาก ๆ

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงได้นำเอาเบี้ยแก้ตัวครู หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ไปถวายหลวงพ่อสิงห์โต ในฐานะศิษย์รุ่นพี่ เนื่องเพราะว่าท่านอายุมากกว่า ๕ ปี แล้วขณะเดียวกัน ก็เคารพครูบาอาจารย์คนเดียวกัน ก็คือหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง

เมื่อถวายท่านไป ท่านเองก็ดีอกดีใจ รีบนำขึ้นที่สมควรไว้ก่อนทันที เป็นเรื่องที่ชื่นใจทั้งผู้ให้ และชื่นใจทั้งผู้รับ ถ้าหากว่าวันดีคืนดี ท่านศึกษาวิชาการด้านนี้ แล้วสร้างเบี้ยแก้ออกมา เราก็จะมีเบี้ยแก้อีกสำนักหนึ่งที่จะพึ่งได้เลยทีเดียว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2024 เมื่อ 01:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว