กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 14-04-2024, 19:28
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 14-04-2024, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันที่สองของงานสงกรานต์ พรุ่งนี้จะมีการแห่หลวงพ่อทองคำ เพื่อให้ชาวบ้านได้สรงน้ำกัน

การที่สร้างหลวงพ่อทองคำ หลวงพ่อนาก หลวงพ่อเงินขึ้นมานั้น เกิดจากแนวคิดของกระผม/อาตมภาพที่ว่า กาญจนบุรีของเรายังไม่มีพระพุทธรูปสำคัญที่คนเขารู้จักกันทั้งประเทศ ถ้าพูดถึงฉะเชิงเทรา เราจะรู้ว่ามีหลวงพ่อโสธร พูดถึงพิษณุโลก เราจะรู้ว่ามีหลวงพ่อพระพุทธชินราช เป็นต้น แต่ถ้าพูดถึงกาญจนบุรี เราจะไม่รู้เลยว่าพระพุทธรูปสำคัญของเราคืออะไร ?

แต่กระผม/อาตมภาพเป็นคนประเภทที่ว่า "ถ้าไม่มีก็ต้องทำให้มี" จึงได้ปรึกษาหารือกับทางชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยที่ทางวัดจะเป็นผู้ลงทุนในการสร้างพระพุทธรูปทองคำ นาก และเงิน ส่วนทางด้านเทศบาลตำบลทองผาภูมิ มีหน้าที่ในการนำพระพุทธรูปออกแห่ปีละ ๑ ครั้ง เท่ากับว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว คาดว่าไม่เกิน ๓ ปี ก็จะติดตลาด

แต่ปรากฏว่าเมื่อสร้างหลวงพ่อเงินเสร็จ สร้างหลวงพ่อนากเสร็จ สร้างหลวงพ่อทองคำเสร็จ เพิ่งจะเริ่มแห่ได้ปีแรก การตอบรับดีมาก เพราะว่าขบวนแห่ยาวหลายกิโลเมตร..! แต่พอแห่เสร็จ COVID 19 ระเบิดตูม..! โดนสั่งห้ามจัดงานไปหลายปี เรื่องที่ควรจะติดตลาดตั้งแต่หลายปีก่อน ก็เลยเงียบ ๆ ไป ต้องรอจนกระทั่งเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เลิกระบาด แล้วเราค่อยมาเริ่มต้นกันใหม่

คราวนี้จากที่กระผม/อาตมภาพคิดแนวทางเอาไว้นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้รถยนต์ในการแห่เสมอไป เราอาจจะใช้วิธีนิมนต์หลวงพ่อทองคำขึ้นเสลี่ยง แล้วให้คนผลัดกันแบกก็ได้ หรือถ้าปีไหนสนุกขึ้นมา ก็เช่าช้างมาสัก ๓ เชือก ๕ เชือก นิมนต์หลวงพ่อทองคำขึ้นหลังช้างไปก็ได้ เพียงแต่ว่าแนวคิดของกระผม/อาตมภาพอาจจะโลดโผนเกินไป แล้วคนอื่นตามไม่ทัน หรือว่าเขาอาจจะอนุรักษ์นิยม เห็นว่าการแห่ด้วยรถยนต์ง่ายที่สุด ก็เลยยังไปไม่ถึงไหน

ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ในเรื่องของชุมชนนั้น ถ้าจะหาจุดเด่นที่ขายได้ ต้องไม่เหมือนกับที่อื่นเขา ถ้าเหมือนกับที่อื่นเขา ของเราต้องเด่นกว่า ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าเราแห่พระโดยรถยนต์ ที่ไหน ๆ เขาก็แห่โดยรถยนต์ แล้วจะเอาความต่างมาตรงไหน ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2024 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 14-04-2024, 23:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทั้ง ๆ ที่หลวงพ่อทองคำของเรา ต้องบอกว่าเป็นพระยุคใหม่ซึ่งสร้างด้วยทองคำ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพราะว่าเท่าที่พบมาก็คือ สร้างขึ้นมาขนาดหน้าตัก ๑๐ นิ้วบ้าง ๙ นิ้วบ้าง ๕ นิ้วบ้าง แต่ว่าองค์นี้หน้าตัก ๑๙ นิ้ว..! แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ในเมื่อเราขอความร่วมมือกับทางชุมชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะไปเรียกร้องอะไรมากมายไม่ได้ ต้องแล้วแต่เขาจะจัดให้

เรื่องของการทำงานชุมชน บางทีไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เราคิดจะถูกทั้งหมด เขาจะจัดการอย่างไร เขาอาจจะมีข้อจำกัด หรือว่าอาจจะมีงบประมาณจำกัด สมมติว่าเราเช่าช้างเชือกหนึ่งสัก ๕,๐๐๐ บาท ๓ เชือกก็ว่าไป ๑๕,๐๐๐ บาท แต่ถ้าเราเอารถยนต์มาวิ่ง จ่ายค่าน้ำมันอย่างเก่งก็พันเดียวเท่านั้น

ดังนั้น..การทำงานทุกอย่าง จึงเป็นเรื่องของการ "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" ถ้าถามว่าการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นหลักธรรมของพระพุทธเจ้าตรงไหน ? ก็คือเป็นหลักสมานัตตตาในสังคหวัตถุ ๔ สมานัตตตาแปลง่าย ๆ ว่าเสมอด้วยตนเอง คนเราส่วนมากไปแปลว่าเสมอต้นเสมอปลาย ถ้าอย่างนั้น คนทำความชั่วเสมอต้นเสมอปลาย แปลว่ามีหลักธรรมข้อนี้
ด้วย..!

สังคหวัตถุ ๔ ประกอบไปด้วยทาน คือการรู้จักแบ่งปันผู้อื่น เห็นใครลำบาก ก็ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ

ปิยวาจา พูดดีกับคนอื่น ไม่จำเป็นต้องพูดไพเราะก็ได้ เพราะว่าการพูดให้กำลังใจ บางครั้งด่ายังได้ผลมากกว่าพูดดี ๆ..!

อัตถจริยา ทำประโยชน์แก่คนอื่น ก็คือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน

และท้ายที่สุด สมานัตตตา รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราชอบอะไร คนอื่นก็ชอบใกล้เคียงกัน เราไม่ชอบอะไร คนอื่นก็ไม่ชอบใกล้เคียงกัน เมื่อเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะรู้ได้ว่า ถ้าเขาชอบอะไร เราควรจะทำสิ่งดี ๆ เหล่านั้นกับเขา เขาไม่ชอบอะไร เราก็ควรที่จะละเว้นไม่ทำสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นกับเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2024 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 14-04-2024, 23:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในเรื่องของ "ความเสมอต้นเสมอปลาย" จึงเป็นหลักธรรมที่สำคัญมาก ก็คือต้องประกอบไปด้วยกำลังใจที่มองรอบด้าน ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ก็คือใส่ใจในความคิดและการกระทำของคนอื่น แต่ว่าการใส่ใจในความคิดและการกระทำของคนอื่น ไม่ใช่ใส่ใจไปทุกคน หากแต่ว่าใส่ใจตามที่เสียงส่วนใหญ่เรียกร้องหรือว่าต้องการ ก็คือลักษณะของ "สามัคคีธรรม" หรือที่เรียกสมัยนี้ว่า "ประชาธิปไตย"

ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่ต้องการอย่างไร เราก็ทำตามนั้น เสียงส่วนน้อยมีความต้องการอะไร ถ้าสามารถที่จะสงเคราะห์ได้ก็ทำไป ถ้าสงเคราะห์ไปแล้ว ขัดกับความต้องการของเสียงส่วนใหญ่ ก็ต้องเว้นเอาไว้ก่อน จึงมีผู้รู้กล่าวว่า "เราไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่เราต้องทำให้ส่วนใหญ่พอใจได้"

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นวิธีการดำเนินชีวิต ตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาแบบหนึ่ง ก็คือเลือกเอาส่วนที่มีประโยชน์มากที่สุด ประโยชน์ในที่นี้ นอกจากประโยชน์ส่วนตน คือ อัตตัตถะ แล้ว ยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ของผู้อื่น คือ ปรัตถะ แล้วยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม คือ อุภยัตถะ ถึงจะได้ชื่อว่าเราทำตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง

ดังนั้น..ในการสร้างหลวงพ่อทองคำ หลวงพ่อนาก หลวงพ่อเงินขึ้นมา อันดับแรกเลย ถ้าเป็นประโยชน์ตนก็คือ เมื่อไรคนเขาถามว่าใครสร้าง เขาก็จะบอกว่า "หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุนสร้าง"

ถ้าสำหรับประโยชน์ของคนอื่นก็คือ เมื่อถึงเวลามีคนมากราบไหว้บูชา รายได้ต่าง ๆ ก็จะตกอยู่กับบุคคลรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นที่กิน ที่อยู่ ตลอดจนกระทั่งการบริการต่าง ๆ

แล้วท้ายที่สุด ถ้ากลายเป็นแหล่งเที่ยวสำคัญ ประโยชน์ก็จะตกแก่ส่วนรวม ถึงขนาดเป็นชื่อเสียงของจังหวัด หรือว่าเป็นชื่อเสียงของประเทศไปด้วย

ดังนั้น..หลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเราทำ ถ้าไม่คิดพิจารณา ก็ไม่สามารถที่จะสงเคราะห์เข้ากับหลักธรรมของพระพุทธเจ้าได้ แต่ถ้าหากว่ารู้จักคิดและพิจารณา เราจะเห็นว่าทุกอย่างสงเคราะห์เข้าในหลักธรรมของพระพุทธเจ้าได้ทั้งหมด เพียงแต่ว่าก่อให้เกิดประโยชน์มาก หรือประโยชน์น้อยเท่านั้นเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2024 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว