|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#141
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า “นามสกุลดีมาก ที่ชมว่านามสกุลดีเพราะว่าสนธิตรงตามหลักบาลีเป๊ะ ๆ ไม่เหมือนกับสมัยนี้ ตั้งนามสกุลส่งเดช ตั้งชื่อส่งเดช จะเอาแต่ตัวเลขมงคล อ่านก็ไม่ออก แปลก็ไม่ได้ หลายต่อหลายคนก็เปลี่ยนไป ๗ - ๘ รอบแล้ว ก็ยังเปลี่ยนอยู่นั่นแหละ
ถ้าหากว่าจะทำอะไรเกี่ยวกับภาษาไทย โน่น..ต้องนึกถึงปราชญ์แห่งภาษาไทย สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ในหลวงรัชกาลที่ ๖ นั่นสุดยอดนักปราชญ์ภาษาไทยเลย แค่ที่พระองค์ท่านพระราชทานตั้งนามสกุลให้ทั่วประเทศ ก็ต้องบอกว่าอัจฉริยภาพที่หาใครเสมอเหมือนไม่ได้” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:09 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#142
|
||||
|
||||
![]()
“อย่างต้นตระกูลของพลอากาศเอกสิทธิ เศวตศิลา เป็นชาวต่างชาติ นามสกุลอลาบาสเตอร์ อลาบาสเตอร์คือหินอ่อนสีขาว พระองค์ท่านก็แปลงนามสกุลมาเป็น “เศวตศิลา” หินขาวเหมือนกัน
หรือไม่ก็อย่างท่านอาจารย์ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ชื่อเดิมก็คือคอร์ราโด เฟโรจี สามารถออกเสียงเป็นไทย แถมยังใกล้เคียงต่างชาติอีกด้วย ไปดูชื่อพระตำหนักที่นครปฐมสิ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ สุดยอด..ได้ทั้งภาษาอังกฤษ ได้ทั้งภาษาไทย ได้ทั้งภาษาบาลี “ชาลี” แปลว่าความเจริญรุ่งเรือง มาจาก "ชาละ" ของบาลี แล้วชาลี..ชื่อฝรั่งชัด ๆ ให้เราคิดจนหัวแตกก็คิดไม่ออก ..(หัวเราะ)..” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-12-2018 เมื่อ 20:37 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#143
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวกับผู้สูงอายุที่มาทำบุญว่า “มาสี่ขาแล้วนะ ..(หัวเราะ).. เขาว่า “เมื่อเด็กมีสี่ขา เดินไปมาร้องแง ๆ” ใช่ไหม ?
ตอนเด็กมี ๔ ขา หนุ่มสาวมี ๒ ขา แก่ไปมี ๓ ขา ก็พวกเรานี่แหละ ตอนแก่มีไม้เท้าเพิ่มมาอีกขาหนึ่ง แต่สมัยนี้วอล์คเกอร์บางรุ่นก็มีเกิน ๔ ขานะ บางท่านมีวอล์กเกอร์แบบล้อมรอบตัวเลย ถึงเวลาก็เปิดคอกเดินเข้าไป แล้วก็ค้ำรอบข้าง ไม่มีลูกหลานช่วยก็ต้องอาศัยวอล์คเกอร์ ต้องอาศัยไม้เท้าเอา มีพระบาลีอยู่บทหนึ่งแปลเป็นไทยว่า “ไม้เท้าของผู้เฒ่า ดีกว่าลูกเต้าอกตัญญู” โห..แสบมาก เพราะว่ามีพราหมณ์อยู่ท่านหนึ่ง มอบสมบัติทรัพย์สินทั้งหมดให้กับลูก ปรากฏว่าลูกไล่ออกจากบ้าน ไม่ยอมเลี้ยง ต้องไปเป็นขอทาน ไปเจอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เข้าไปขอความเมตตาให้ช่วยสงเคราะห์ด้วย เพราะว่าลูกไม่เลี้ยง พระองค์ท่านบอกว่า จะให้คาถาไปบทหนึ่ง ให้ไปยืนประกาศกลางตลาด ถ้าหากว่ามีคนสนใจมาก ๆ แล้วถามว่าเพราะเหตุใดถึงว่าแต่พระคาถานี้ ? ก็ให้เล่าเรื่องให้เขาฟัง แล้วท่านก็ให้คาถาไปเป็นภาษาบาลี แปลเป็นไทยว่า “ไม้เท้าของคนเฒ่า ดีกว่าลูกเต้าอกตัญญู” พอพูดไป ๆ คนมาล้อมมากขึ้น ๆ มีคนถามว่าหมายความว่าอย่างไร ? แกก็เล่าให้ฟังว่ามอบสมบัติให้แล้วลูกไม่ยอมเลี้ยง ไล่ออกจากบ้านมา เรื่องก็ลือไปทั้งเมือง ท้ายสุด..ลูกโดนคนตราหน้าว่าอกตัญญู ทนอยู่ไม่ได้ ต้องมารับพ่อกลับไปเลี้ยง ดังนั้น..บางคนเขาบอกว่า ถ้าหากว่าลูกเต้าไม่กตัญญูให้ท่องคาถานี้ ..(หัวเราะ).. ถ้าจะเอาขลังอย่างเดียวก็ลองดู แต่อาตมาว่าปฏิบัติจะดีกว่า” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:12 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#144
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “สมัยอยู่วัดท่าซุง แต่ละงานพวกอาตมาจะเตรียมเครื่องสังฆทานไว้ ๓๐๐ ชุด เพื่อที่จะได้มีหมุนเวียนในการถวายหลวงพ่อ ก็กะว่าก่อนจะหมด ๓๐๐ ชุด จะต้องมีเวียนกลับมาเพื่อให้เราจำหน่ายให้กับบุคคลที่ต้ังใจผาติกรรมไปถวาย ปรากฏว่าอยู่ ๆ ทำไมถึงขาดช่วงลงได้ ดูไปดูมาหายไปเยอะมาก ก็เลยให้ตำรวจทหารไปถามดูว่าเกิดอะไรขึ้น ? มีใครยกเครื่องสังฆทานไปทางด้านไหนหรือเปล่า ? ปรากฏว่ามีโยมจากอีสานมาสองคันรถบัส บอกว่าเครื่องสังฆทานที่นี่ถูกดี ก็เลยช่วยกันเหมาซื้อยกกลับบ้านไปเลย คันรถหนึ่ง ๔๐ คน สองคันรถล่อไป ๘๐ ชุด..! โทษเขาไม่ได้ด้วยนะ เพราะว่าเป็นการเข้าใจผิด และไม่เป็นหนี้สงฆ์ด้วย เพราะว่าเขาผาติกรรมคือชำระแล้ว เพียงแต่ไม่ใช่ราคาตลาด เป็นอะไรที่อนาถมาก ..(หัวเราะ)..
เรื่องตลก ๆ ในวงการสงฆ์แบบนี้มีเยอะมาก แต่บางทีก็เป็นเรื่องตลกที่หัวเราะไม่ออก ถ้าไม่ได้เจอด้วยตัวเองก็ไม่นึกว่าจะเป็นไปได้ ในความรู้สึกของคนทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าคุณไปวัดไหน ถ้าหากว่าไม่ได้พกพาปัจจัยไทยธรรมไปเอง ก็ไปผาติกรรมเครื่องสังฆทาน หรือบูชาดอกไม้ธูปเทียนที่วัด เพื่อไปไหว้พระหรือว่าไปถวายหลวงพ่อ ปรากฏว่าที่นี่เขาเข้าใจอย่างไรว่าพวกเราวางขาย ช่วยกันซื้อจนเกือบหมด ถ้าเปิดร้านแล้วขายดีแบบนี้ก็สบายเลย ..(หัวเราะ)..” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:14 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#145
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “มีโยมคนหนึ่งไปพักอยู่ที่วัดเกือบเดือน มีบาดแผลที่แข้งที่ขาที่ไหล่เต็มไปหมด เดินกระย่องกระแย่ง ถามว่าไปโดนอะไรมา ? ปรากฏว่าไปเดินผ่านราชประสงค์ตอนระเบิดพอดี เขาบอกว่าเก็บชีวิตตกมาได้ ก็เลยรีบเข้าวัดทำบุญ ทั้งที่มีแผลเต็มตัว พวกที่วางระเบิดฆ่าตัวตายนี่ไม่ได้คิดถึงบาปบุญคุณโทษอะไรเลย ไม่ว่าคุณจะหวังผลทางการเมืองหรือหวังผลทางอะไรก็ตาม ที่เจ็บที่ตายเป็นชีวิตผู้บริสุทธิ์ล้วน ๆ”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:15 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#146
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “สรุปว่าเอาไว้บรรจุไม้เท้าใช่ไหม ? ..(หัวเราะ).. อาตมาเคยเห็นที่เขาใส่แบบพิมพ์เขียวหรือไม่ก็รูปถ่ายแบบใหญ่ ๆ นี่เล่นเอาไว้บรรจุไม้ถือ
ไม้ถือวัดท่าขนุนตามตำราครูบาอาจารย์ให้หันหัวไปทิศตะวันตก หันปลายไปทิศตะวันออก อย่าหันผิดนะ มีโทษด้วย ทางด้านหัวใช้ตัดเคราะห์ ใช้สอนกรรมฐาน แล้วก็สงเคราะห์คนตามคำอธิษฐาน ขอให้เขาสำเร็จ ถ้าสอนกรรมฐานใช้คาถา “นะโมพุทธายะ” ถ้าตัดเคราะห์ใช้ “ภะสัมสัมวิสะเทภะ” ถ้าให้สำเร็จว่า “สัมปฏิจฉามิ” ด้านปลายให้ลาภอย่างเดียว ท่านเตือนว่า ถ้าไม่มียถากัมมุตาญาณ รู้ว่าวาระกรรมเขาจะให้ผลดีจริง ๆ แล้วไปสงเคราะห์ส่งเดชด้วยการใช้ปลายให้ลาภเขา ตัวเองจะโดนตัด คำว่าตัดก็คือของเรามีเท่าไรก็ต้องให้คนนั้นไป เพราะฉะนั้น..ด้านปลายโปรดอย่าใช้ส่งเดช มีอยู่เที่ยวหนึ่งตอนที่ยังอยู่บ้านอนุสาวรีย์ชัย อาตมาก็วางไม้ครูไว้บนพาน ก็มีเรืออากาศโทนายทหารอากาศท่านหนึ่ง เห็นอาตมาไม่ยอมใช้ปลาย เขาก็เอาหัวไปชนเอง ปรากฏว่างวดนั้นทะลึ่งถูกหวยอีก อาตมาเลยต้องเก็บไม้ครูไปเลย ขนาดเอาหัวชนเองยังถูกหวยได้..! อาตมาเอาใส่พานวางไว้บนหลังตู้ เขาบอกว่าขอให้ช่วยใช้ปลายเคาะหัวให้หน่อย อาตมาบอกว่าไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าขอมากขอน้อยเท่าไร พอไม่เคาะให้ก็เลยเอาหัวไปชนเอง ก็ได้เหมือนกัน” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:16 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#147
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “เข้าใจคำว่ากุมารไหม ? “กุ” ภาษาบาลี แปลว่า ในความเกลียด “มาระ” แปลว่าผู้ฆ่า กุมาระ หรือ กุมารี แปลว่าผู้ฆ่าซึ่งความเกลียด เพราะฉะนั้น..เด็กจะน่ารักทุกคน แต่ต้องเป็นลูกคนอื่นนะ เป็นลูกเราเมื่อไรก็เด็กนรกชัด ๆ ..(หัวเราะ)..
จะว่าไปแล้วโบราณเราบัญญัติศัพท์ลึกซึ้งมาก แต่ละอย่างถ้าเราเข้าถึงรากศัพท์จะรู้ว่าโบราณเก่งสุดยอด แต่ว่าบางทีขนาดราชบัณฑิตก็จนแต้ม พระยาอนุมานราชธนท่านชำระพจนานุกรม ตัดสินใจไม่ได้ว่า ตูดกับก้นต่างกันตรงไหน ? ให้คำจำกัดความไม่ได้ ท่านเจ้าคุณก็เครียด ท้ายสุด..หมดวันแล้วกลับบ้านดีกว่า สมัยโน้นก็แต่งชุดราชปะแตน ใส่หมวกถือไม้เท้าด้วย ท่านก็เดินก๊อก ๆ ๆ กลับบ้าน ต้องบอกว่า ด้วยความที่ท่านทำงานเพื่อแผ่นดิน เทวดาจึงดลใจ เดินผ่านวงเด็กเล่นกันอยู่ เขาเล่นทอยกอง “ถ้าเอ็งแพ้โดนเตะตูดนะ” อีกคนบอกว่า “ตูดเตะไม่ได้ เอ็งต้องเตะก้น” คนแรกถามว่า “แล้วก้นกับตูดต่างกันตรงไหน ?” “อ๋อ ตูดใช้ขี้ ก้นใช้นั่ง เพราะฉะนั้น..เอ็งเตะได้แต่ก้น” เท่านั้นแหละ ท่านเจ้าคุณฟ้าแจ้งจางปางเลย กลับไปเขียนคำบรรยายได้เลยว่าตูดกับก้นต่างกันตรงไหน ลักษณะนี้เรียกว่าเทวดาดลใจ เห็นหมดท่าจริง ๆ ท่านก็ช่วยยื่นมือมาสงเคราะห์ เพราะว่าสิ่งที่ท่านเจ้าคุณพระยาอนุมานราชธนทำก็เพื่อประโยชน์ของคนทั้งชาติ” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:18 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#148
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ท่านมีอาชีพให้หวย ใครไปหาหลวงพ่อเนื่องถ้าอยากได้หวยงวดนั้นเลย ให้ตัดท้ายเล่นตัวเดียว ถูกแน่ ๆ ท่านให้จนไม่อยากจะให้ ท่านก็เขียนขึ้นกระดานไว้ให้เลย หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า "เล่นหวยหลวงพ่อเนื่องต้องรู้เคล็ด ให้ตาม ๒๐ งวด"
อาตมากราบเรียนถามว่า "ตาม ๒๐ งวด ตามอย่างไร ?" ท่านบอกว่า งวดที่หนึ่ง ถ้าเราเล่น ๑๐ บาท งวดที่ ๒ ให้เล่น ๒๐ บาท งวดที่ ๓ ให้เล่น ๓๐ บาท งวดที่ ๔ ให้เล่น ๔๐ บาท ท่านบอกว่า ถ้าออกงวดไหนเราจะได้คุ้ม ถามว่าแล้วทำไมต้องตามเยอะขนาด ๒๐ งวด ? ท่านบอกว่า บุญคนไม่เท่ากัน ถ้าหากว่าคนที่ไม่ได้สร้างบุญทางด้านนี้มา ถ้าเขาเล่นด้วย ตัวเลขจะเคลื่อน เราต้องตามไปเรื่อยจนกว่าจะถึงวาระบุญของเรา ซึ่งจะไม่เกิน ๒๐ งวด แล้วท่านก็บ่นตอนที่หลวงพ่อเนื่องมรณภาพ ท่านบอกว่า “ไอ้พวกนี้นะ พระอรหันต์ทองคำทั้งองค์ มันไม่ขอธรรมะเลย มันขอกันแต่หวย” อาตมาเองก็โดนด่าไปด้วย เพราะว่าสมัยก่อนก็ไปขอหวยเหมือนกัน ..(หัวเราะ).. ก่อนบวชก็ไม่ได้คิดที่จะไปขอธรรมะ เพราะไม่ทราบจริง ๆ ว่าท่านเป็นพระอรหันต์ หลวงพ่อวัดท่าซุงมาบอกตอนท่านมรณภาพแล้ว บอกว่าขอหวยจนพระอรหันต์มรณภาพไปทั้งองค์..! ท่านบอกว่า หวยหลวงพ่อเนื่องถ้าอยากได้งวดนั้นเลย ให้ตัดท้ายเล่นตัวเดียว อาตมาเองเล่นหวยไม่เป็น เป็นแต่แทงตรง ๆ ก็เลยไม่รู้ว่าตัดท้ายเล่นอย่างไร แต่พี่ชายเขาเล่นเป็น โดยเฉพาะไปดักเอาหวยหลวงพ่อวัดท่าซุง” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:20 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#149
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวถึงปฏิทิน ““ทินนะ” แปลว่าวัน “ปฏิ” แปลว่ากลับ ที่กลับเพราะว่าเขาพลิกทีละหน้า
แบบเดียวกับปฏิวัติ “วัตนะ” ก็หมุนวน “ปฏิวัติ” ก็หมุนกลับ ก็แปลว่าถอยหลังเข้าคลองน่ะสิ ..(หัวเราะ)..” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:21 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#150
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “โยมถวายของแบบนี้ต้องเช่ารถให้อาตมาคันหนึ่งนะ ไม่อย่างนั้นขนไปไม่ได้ ..(หัวเราะ).. สมัยก่อนหลวงตาจันทร์ยังอยู่ ไปวัดป่าชัยรังสี ท่าน ถวายตู้เย็น ถวายเครื่องคอมพิวเตอร์ ถวายเครื่องพิมพ์ ถวายข้าวสารเป็นกระสอบ ท้ายสุดก็ถวายรถกระบะพร้อมคนขับไปด้วย ไม่อย่างนั้นพระขนของกลับไม่ได้”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:21 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#151
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “เล่นเอาทองคำหย่อนไว้ในซองนี้ โยมบอกว่าให้หล่อพระทองคำ แต่เขียนมาอย่างชัดเจนว่าทองคำขาว ตูละเครียด..! ที่หนักกว่านั้นก็คือส่งแผ่นทองเหลืองไปลังหนึ่ง เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่า "ร่วมหล่อพระพุทธรูปทองคำครับ" อาตมาคงต้องใช้กสิณเปลี่ยนทองเหลืองเป็นทองคำเสียก่อน..!
ต่อให้การทำบุญก็ต้องมีปัญญาประกอบด้วย พระพุทธเจ้าเอ่ยถึงหลักธรรม เราจะเห็นว่าแทบทุกหมวดจะมีปัญญาประกอบท้าย จะหล่อพระพุทธรูปทองคำ แต่ส่งทองเหลืองไปให้ อาตมาก็อึ้งเหมือนกัน” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2018 เมื่อ 15:19 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#152
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวกับพระนิสิตว่า “ปริญญาเอก ๓ เดือนทำไม่ทันหรอก อย่าคิดว่าปีกว่า ๆ นะ ต่อสถานภาพปีละ ๕๐,๐๐๐ บาท ค่ารักษาสถานภาพนักศึกษาแพงมาก ปีละ ๕๐,๐๐๐ บาท อาตมาให้ทุนการศึกษาเด็กได้ตั้งเยอะ
ต้องบอกว่ารุ่นของคุณไม่แข็ง ที่ไม่แข็งก็คือไม่มีใครเป็นผู้นำ อย่างของพวกผมถึงเวลาก็ผูกขาติดกันเลย ๖ รูป ๗ รูป แล้วบุกไปหาท่านอาจารย์พร้อม ๆ กัน ถึงเวลาท่านอาจารย์ตรวจผ่านเสร็จ กำหนดวันสอบให้ผมเลย ไปถึงก็วิ่งหาท่านอาจารย์เอื้อย ช่วยประกาศลงเว็บเลยครับ ไปกดดันท่านอาจารย์ ไม่อย่างนั้นแล้วเราไม่ได้สอบหรอก เพราะว่ายิ่งช่วงท้าย ๆ มกราคม กุมภาพันธ์ งานของอาจารย์จะมาก เพราะว่าปริญญาโทก็ประดังเข้ามาด้วย อาจารย์บางท่านคุมวิทยานิพนธ์เกินที่ สกอ.เขากำหนดไว้ ปกติปริญญาเอกเขาให้คุมคนละ ๖ เล่ม บางคนคุม ๒๐-๓๐ เล่ม แต่ใช้วิธีทยอยออกเป็นชุด ๆ กลัว สกอ.เขารู้ อาตมาเคยดูทีหนึ่ง ๙ เล่ม บอกว่าไม่ไหวแล้ว มากกว่านี้เดี๋ยวจะไม่มีคุณภาพ ฉะนั้น..ถึงเวลาก็ส่งสอบไปชุดแรก ๖ เล่ม สอบเสร็จแล้วชุดหลังดึงเกมไว้ก่อน รออีกสัก ๒ เดือนให้เขาลืม ๆ หน้าแล้วค่อยส่งไปใหม่อีก ๓ เล่ม ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาจำได้ว่าไอ้นี่คุมมาตั้งหลายเล่มแล้วยังมีอีก ..(หัวเราะ)..” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:25 |
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#153
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : สกอ.ดูของมหาวิทยาลัยสงฆ์ด้วยหรือครับ ?
ตอบ : เขาคุมหมด เพราะว่ามหาวิทยาลัยสงฆ์ก็รับงบประมาณเหมือนกัน อยู่ในกำกับของรัฐ กติกาทุกอย่างเหมือนกันหมด ต้องทำตั้งแต่ มคอ.๒ มคอ.๓ มคอ.๕ มคอ.๗ ทำ SAR ทำอะไรให้ยุ่งกันไปหมด จะต้องมีงานวิจัยทุกเทอม เพื่อน ๆ จะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว บอกว่าที่ยากที่สุดคือหนังสือ งานวิจัยไม่ยากเท่าไรหรอก ใช้เวลาทำน้อย แต่หนังสือนี่ยาก แล้วงานวิจัย ๑ เรื่อง หนังสือ ๑ เล่ม ขอผู้ช่วยศาสตราจารย์ได้ งานวิจัย ๒ เรื่อง หนังสือ ๒ เล่ม ขอรองศาสตราจารย์ได้ พระอาจารย์เล็กมีหนังสือ ๒๐ กว่าเล่ม ไม่ขออะไรเลย ..(หัวเราะ).. ขอแล้วมีประโยชน์อะไร ? เงินเดือนเพิ่มมาแค่ ๑๐,๐๐๐ บาท งานหนักกว่าเดิมอีกตั้งเยอะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:26 |
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#154
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : หลวงพ่อพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ?
ตอบ : กุมภาพันธ์ก็น่าจะได้เจอท่าน เพราะว่าลงไปยกช่อฟ้าให้กับวัดรัตนานุภาพ พระอย่างท่านหายาก อิสลามไปทำบุญเต็มวัดเลย หลวงพ่อพระเทพศีลวิสุทธิ์ รูปนี้เป็นพระครูปลัดของท่าน (พระครูปลัดนัทกฤต วัดบ้านห้วยน้ำขาว) ตัวเจ้าของฐานานุกรมอยู่ที่นราธิวาส ฐานานุกรมมาอยู่กาญจนบุรี ตั้งแต่สมัยท่านยังเป็นเจ้าคณะอำเภอ ท่านชวนว่า “หลวง..ลงมาช่วยกันหน่อย” ท่านบอกว่า ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอ รักษาการเจ้าคณะจังหวัด รักษาการเจ้าคณะตำบล และเป็นเจ้าอาวาส คนเดียว ..(หัวเราะ).. ท่านว่าตำแหน่งที่นี่เยอะจริง ๆ แต่หาพระรับงานไม่ได้ จะเห็นว่าหลวงหว่างท่านไปลิบเลย ตั้งใจทำงาน ตำแหน่งก็ไหลมาเทมา เพราะว่าที่ว่างมีเยอะ ดูอย่างเจ้าคุณชรัส สมัยเป็นมหา เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเทศน์รุ่นเดียวกัน เดี๋ยวนี้เป็นเจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดไปแล้ว ตอนท่านหนึ่งไปอยู่ปฏิบัติธรรม บอกให้ไปหาท่านเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี บอกท่านว่ามาจากวัดท่าขนุน กลายเป็นแขกวีไอพีไปเลย ..(หัวเราะ).. ตอนอบรมนักเทศน์ กินนอนอยู่ห้องเดียวกัน ๑๕-๑๖ วัน ต้องบอกว่าท่านใจถึงมาก สมัยเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสอยู่วัดช้างให้ ไม่มีอะไรเลย เป็นมหาชรัส ประโยค ๖ ปริญญาโทธรรมดา พอยอมสละลงไปอยู่วัดตานีนรสโมสร ตำแหน่งมาพรวด ๆ เลย อันดับแรกเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง หลังจากนั้นก็ขึ้นเป็นรองเจ้าคณะจังหวัด ขึ้นเป็นเจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าคุณ ไล่พรวดไปเลย เพราะว่าตำแหน่งว่างเยอะ ถึงเวลาก็โทรมา “อาจารย์เล็ก ขอหนังสือสวดมนต์ ๓,๐๐๐ เล่ม” ถามว่า “มีคนเยอะขนาดนั้นเลยหรือ ?” “เดี๋ยวผมเอานักเรียนมาสวดมนต์” อาตมาก็นึกว่าคนจะเข้าวัดไปสวดมนต์ ไม่ใช่หรอก..เอานักเรียนมา แล้วก็ไปตั้ง มจร. ปัตตานี ท่านบอกให้ลงไปช่วยสอนหนังสือหน่อย บอกท่านว่าไกลเกินไป ให้หาคนอื่นเถอะ ถาม : ท่านไม่ใช่คนพื้นที่ใช่ไหมครับ ? ตอบ : ไม่ใช่ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:30 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#155
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : มีโยมรถยนต์ยางแตก มาขอพักตอน ๔ ทุ่มกว่า ผมก็ไม่อนุญาต เพราะไม่รู้ว่าจะมายัดของอะไรหรือเปล่า หน้าที่เจ้าอาวาสสามารถห้ามเขาเข้ามาได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้ ปกครอง ดูแล สอดส่อง ให้พระภิกษุสามเณรและฆราวาสที่อาศัยอยู่ในวัดทำตามกฎหมาย มติ คำสั่ง และระเบียบมหาเถรสมาคม ซึ่งสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายและพระธรรมวินัย กฎหมายเขาระบุไว้ชัดเลย ระวังไว้ได้ก็ดี ชี้แจงเขาไปก็แล้วกัน บอกเขาว่า "อาตมาไม่รู้จักโยมมาก่อน เพราะฉะนั้น..ขอโทษด้วยที่ระแวง เพราะว่าด้านนี้มียาเสพติดเยอะ" พูดให้วัดเราเสียไว้ก่อน แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-12-2018 เมื่อ 20:36 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#156
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : (ถามเรื่องการปวารณาวันออกพรรษา) ?
ตอบ : ปวารณาวันออกพรรษา แต่ว่าให้รักษาผ้าครองจนถึงเช้าวันเทโวฯ ก็คือทำตัวเหมือนอยู่ในพรรษาไปจนถึงได้อรุณวันเทโวฯ แต่ถ้าอย่างผมก็ทำตัวอยู่ในพรรษาตลอดปีตลอดชาติ ขืนใช้อานิสงส์กฐินแล้วผมเป็นคนมักง่าย เดี๋ยวก็ลืมเท่านั้น ถาม : จะไปแจ้งพระที่วัดให้รับทราบ ให้รักษา ? ตอบ : เป็นหน้าที่เจ้าอาวาสต้องแจ้งเขา ถึงเวลาเข้าพรรษา พระต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง มีเหตุอะไรถึงลาได้ ไม่ใช่หาเหตุไปกันเอง ถาม : มีพระทะเลาะกัน ไปกลางพรรษาเลยครับ ? ตอบ : นั่นเขาไม่รักศีล...ก็ปล่อยเขาไปเถอะ ถาม : บวชเข้าพรรษา ทะเลาะกันในวัด เขาขอไปเอง ? ตอบ : ถ้าลักษณะอย่างนั้นไปเจอรุ่นน้องมีหวังจะได้ไปนั่งท้ายเขา คือถ้าพรรษาเดียวกัน ต่อให้เราบวชวันที่ ๑ มกราคม ก็ต้องนั่งท้ายเพื่อนพรรษานั้น เพราะว่าเราไม่ได้พรรษา แต่ถ้าคนละพรรษากัน เรามีสิทธิ์นั่งหน้าเขา แต่ว่านับเป็นพรรษาเดียวกันกับรุ่นน้อง ถาม : (ไม่ชัด) ? ตอบ : พรรษาหลังนับให้ เพียงแต่พรรษาหลังจะไม่ได้อานิสงส์กฐิน เพราะว่าออกพรรษาวันลอยกระทง ซึ่งหมดกาลกฐินพอดี ถาม : ถ้าพรรษาหลัง นับพรรษาได้ แต่ไม่ได้อานิสงส์กฐินใช่ไหมครับ ? ตอบ : ไม่ได้อานิสงส์กฐิน ก็แปลว่าต้องรักษาผ้าครองต่อไป แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:32 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#157
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า “ยายหนูชื่อดีมากเลย “ธรรมฐิตา” แปลว่าตั้งมั่นอยู่ในธรรม ห้ามนอกลู่นอกทางนะจ๊ะ”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:33 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#158
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “คุณชายเมื่อครู่นี้เขาเป็นฐานันดรศักดิ์รุ่นเดียวกับหม่อมเยี่ยม ก็ต้องว่ากันตามสภาพ เวลาหม่อมเยี่ยมอยู่ พวกเราก็ไม่เคยนึกหรอกว่าเขาเป็นคุณชาย บางคนก็เรียก “ไอ้” เลย ..(หัวเราะ).. แต่ว่าคนอื่น ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น คนอื่น ๆ ต้องยกย่องท่านตามฐานะ”
ถาม : ถ้าคุณธรรมดาละครับ ? ตอบ : คุณก็คือลูกของหม่อมหลวง ถ้าหม่อมหลวงจะเรียกคุณชายก็ได้ เรียกคุณหม่อมก็ได้ ถาม : ถ้าคุณสำหรับท่านที่ได้ทุติยจุลจอมเกล้าฯ เรียกคุณหญิง ? ตอบ : ส่วนใหญ่ถ้ายังไม่มีคู่เรียกไม่ได้ ต้องเรียกคุณเฉย ๆ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:34 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#159
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ลูกสาวมีสอบสัมภาษณ์มหาวิทยาลัยสัปดาห์หน้า จะบนขอความช่วยเหลือได้ที่ไหน ?
ตอบ : เห็นแก่หมื่นหนึ่งจะรับฝาก ..(หัวเราะ).. บอกเขาให้ภาวนาคาถาท่านปู่พระอินทร์ไว้ ขอความคล่องตัวเยอะ ๆ อุทิศส่วนกุศลให้ท่านปู่ด้วย ว่าร่วมสร้างพระทองคำแล้ว ให้ท่านก่อนค่อยขอความช่วยเหลือทีหลัง ..(หัวเราะ).. แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:35 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#160
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “เด็กสมัยนี้เดินก้มหลังไม่เป็น คนนี้เขาก้มหลังแล้วยังเกรงใจ ก็ใช้วิธีเดินเป็ดเลย ..(หัวเราะ)..
โบราณจะถือมาก โดยเฉพาะถ้าอาวุโสน้อยกว่าแล้วไปเดินกรายหัวผู้ใหญ่ ไม่ให้ความเคารพนี่เขาด่ายันโคตร ยันเหง้า ยันตระกูล ว่าไม่ได้สั่งสอน จะเห็นว่าอย่างรุ่นอาตมาโดนบังคับ เดินผ่านผู้ใหญ่ต้องก้มหลัง ทุกวันนี้ขนาดเป็นพระแล้ว เวลาเดินผ่านพระผู้ใหญ่ก็ก้มจนหน้าจะไถพื้น เพื่อนบางทีก็สงสัยถามว่า “ทำอะไรวะ ?” “กูคนแก่ พ่อแม่ครูบาอาจารย์สอนมา กูก็ทำอย่างนี้แหละ”” แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:36 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|