|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#141
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : พระอาจารย์ครับ...?
ตอบ : เรียบเรียงไม่ถูก...ใช่ไหม ? ถาม : ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ? ตอนนี้ผมชั่งใจที่จะเปิดบริษัท หวังจะได้ลูกค้ามาเซ็นสัญญาด้วย โดยตั้งเป้าให้ได้ปีนี้ก่อนกันยายน ผมจะทำอย่างไรที่จะได้สองบริษัทขึ้นไปครับ ? ตอบ : ตั้งข้อเสนอที่ดีที่สุด เรียกร้องผลประโยชน์ของเราให้น้อยที่สุด พอคนเห็นว่าบริษัทของเราทำด้วยแล้ว มีโอกาสได้รับผลประโยชน์มากกว่า เขาก็จะมาเอง ถาม : ถ้าเปรียบเทียบกับราคาที่เขาลด ๕๐ เปอร์เซ็นต์ อย่างนี้ผมต้องลดลง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ตามเขาไหมครับ ? ตอบ : ไปตัดสินใจเอาเอง หลังจากออกนอกทุ่งนอกท่าไปมากแล้ว ตูเป็นพระ...มีหน้าที่สอนธรรม ไม่ได้มีหน้าที่สอนให้ทำมาหากิน...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:25 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#142
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เรื่องประวัติศาสตร์บ้างครับ ตอนที่พระเจ้าแปรรบกับพระศรีสุริโยทัย พระเจ้าแปรชนะ ทำไมจะต้องถอนทัพกลับ ?
ตอบ : ถ้าบอกว่าจิตตก คุณจะเข้าใจไหม ? เป็นผู้ชาย เป็นกษัตริย์ด้วย แต่ไปฆ่าผู้หญิง หมดอารมณ์ที่จะรบต่อ พูดง่าย ๆ ว่า สมัยก่อนถือว่าซวยไม่รู้จบ..! ถาม : เป็นมานะ หรือเป็นความเชื่อครับ ? ตอบ : เป็นความเชื่อด้วย ขณะเดียวกัน ตนเองเป็นพระมหากษัตริย์ ลูกผู้ชายดวลเดี่ยวกันก็พอแล้ว ดันไปฆ่าผู้หญิง สมัยนี้ความเป็นสุภาพบุรุษมีน้อยลง น้อยจนคุณไม่เข้าใจว่าทำไมท่านต้องถอนทัพกลับเมื่อไปฆ่าผู้หญิง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:26 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#143
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ตำแหน่งกลางช้าง เวลารบด้วยช้าง กลางช้างต้องฟาดฟันเองหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ต้องดูขบวนพยุหะตลอดจนกระทั่งความได้เปรียบเสียเปรียบของกองทัพทั้ง ๒ ฝ่ายออก เพราะว่าเป็นผู้คอยให้สัญญาณกองทัพของตัวเองว่าควรจะรุกหรือถอย ขณะเดียวกันถ้าอาวุธของเจ้านายหลุดมือก็ต้องส่งให้ทัน กลางช้างจะนั่งสูงกว่าเพื่อน เพื่อให้เห็นภาพรวมของการศึก เพราะฉะนั้น...คนที่จะเป็นกลางช้างจะต้องมีไหวพริบปฏิภาณในการแก้ไขสถานการณ์ที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:27 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#144
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : คนไทยจริง ๆ คือ คนขอมหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : คนไทยคือคนไทย แต่คนไทยที่มีความรู้สมัยก่อนเขาเรียกว่าขอม เหมือนกับที่สมัยนี้ที่เรียกว่าครู เพียงแต่ภาษาเปลี่ยนไปเท่านั้น ถาม : ขอมคือละโว้หรือเปล่าครับ ? ตอบ : ขอมมีมาแต่โบราณแล้ว เพียงแต่ว่าเป็นขอมประเภทไหน ? มีตั้งแต่ที่เขาเรียกพวกมอญหริภุญไชยว่าขอมดำ มีเรียกพวกเขมรว่าขอม และก็มีการเรียกคนที่มีความรู้ว่าขอม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:27 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#145
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : สมัยก่อนที่สถาปนากรุงศรีอยุธยา มีเมืองอโยธยาอยู่ก่อนหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : คุณรู้ไหมว่าในโลกนี้มีอยุธยากี่เมือง ? สมัยก่อนนี่เขาถือว่าเมืองใดเมืองหนึ่งที่ตั้งขึ้นมา ควรจะมีนามอันเป็นมงคล คำว่าอยุธยาคือไม่มีการรบ ถาม : ไม่ใช่ว่าอยากออกศึกสงครามหรือครับ ? ตอบ : ไม่ใช่...ไม่มีใครอยากจะได้ศึกได้สงคราม เลยตั้งชื่อเมืองว่าอยุธยา มีตั้งแต่โบร่ำโบราณแล้ว แต่ก็เห็นว่ารบกันแหลกราญทุกทีเหมือนกัน..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:28 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#146
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : พระพุทธรูปสร้างในสมัยพระเจ้าปเสนทิโกศล หรือสร้างในสมัยพระยามิลินท์ครับ ?
ตอบ : ถ้าว่ากันตามที่ทฤษฏีที่เขาเชื่อ นักประวัติศาสตร์เขาเชื่อ ก็เริ่มตั้งแต่สมัยพระยามิลินท์ แต่ถ้าหากว่าเป็นฉบับมุขปาฐะ เล่ากันปากต่อปาก ก็เชื่อว่าสร้างตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นดาวดึงส์ ถาม : การที่พระยามิลินท์แค่ทิ้งขยะ แล้วอธิษฐานยิ่งใหญ่อลังการขนาดนั้น เป็นเพราะว่า....? ตอบ : พุทโธ อัปปมาโณ คุณพระพุทธเจ้าประมาณไม่ได้ ท่านตั้งใจทำเป็นพุทธบูชา ก็เลยอาศัยบารมีพระพุทธเจ้าอธิษฐานขอจนยิ่งใหญ่ปานนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:28 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#147
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : สมัยก่อนเราทำการค้าได้โดยการผูกกับสำเภา เรามีตัวกลางที่ช่วย แต่สมัยนี้ไม่มีตัวกลาง ถ้าเราเป็นคนไทยจะทำการค้ากับต่างประเทศอย่างไร ?
ตอบ : ทำไมคุณไม่ไปถามรัฐบาลบิ๊กตู่ ? วิธีการต่าง ๆ มีเยอะแยะไป เพียงแต่ว่าคนไทยโง่แล้วอวดฉลาด ตั้งแต่อาตมายังแก้ผ้าวิ่งอยู่ สินค้าไทยหลัก ๆ ก็คือข้าว ไม้สัก ยางพารา ข้าวโพด ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เรามีงานวิจัยอะไรที่เพิ่มมูลค่าของยางพาราขึ้นมาบ้างไหม ? ก็ยังคงขายเป็นแผ่นยางอยู่เหมือนเดิม ในเมื่อคุณไม่มีการวิจัย ไม่มีการเพิ่มมูลค่า ไม่มีสิ่งที่ดึงดูดใจ ลูกค้าที่ไหนจะค้าขายกับคุณจนกระทั่งเจริญเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น...อย่าถาม ถ้าถามนี่อาตมาจะเผลอด่ารัฐบาลอีก เขารู้กันทุกคนแหละ แต่ถ้าทำอย่างนั้นแล้วผลประโยชน์จะไม่ถึงมือบางคน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:29 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#148
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ถ้าที่ไหนมีพระอรหันต์ ที่นั่นจะมีเทพพรหมปกปักรักษา ไม่ให้เกิดภยันตราย ทำนองเดียวกัน ถ้าเทพพรหมประเทศเราแข็งแรง ?
ตอบ : แล้วคุณไม่มีคิดว่าเทพพรหมที่อื่นเขาแข็งแรงด้วยหรือ ? ถาม : ทีนี้เทพพรหมที่แข็งแรง คนในประเทศต้องอุทิศส่วนกุศลหรือเปล่า ? ตอบ : ไม่จำเป็น...ขึ้นอยู่กับบารมีเก่าที่ท่านสั่งสมมาด้วย เมื่อได้รับมอบหน้าที่ให้ดูแลตรงนั้น ถ้าหากว่าบารมีท่านมาก ท่านก็สามารถที่จะใช้กำลังของท่านช่วยให้ที่นั้นเจริญรุ่งเรืองได้มาก แต่ถ้าคุณทำบุญแล้วรู้จักอุทิศให้ท่านก็เป็นการดี เอาแค่ที่นี่ คุณเห็นไหมว่าเมื่อเช้าตอนจัดงานแดดเปรี้ยงเชียว ตอนนี้ฝนมาแล้ว เมื่อวานนี้ฝนกระหน่ำตั้งแต่ตี ๒ ครึ่ง ยัน ๖ โมงเช้า นี่แหละคือเทพพรหมที่แข็งแรงขึ้น ขออะไรแล้วได้อย่างนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:30 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#149
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เรื่องคู่ครับ ผมจะอธิษฐานให้เจอคู่....?
ตอบ : ก็เอาแบบน้องปอย ทูอินวัน...! มีความเข้มแข็งของผู้ชาย และมีความอ่อนหวานของผู้หญิง ถาม : ผมควรจะอธิษฐานว่าอะไรดีครับ ? ตอบ : นั่นคู่ของมึง ไม่ใช่คู่ของกู...! มาให้กูอธิษฐานก็เป็นคู่ของกูสิวะ..! ถาม : ไม่ใช่ครับ ผมควรจะอธิษฐานแบบไหนดีครับ ? ตอบ : อยากได้แบบไหนก็อธิษฐานไปสิ ก็บอกว่าตัวเองจะเอาแบบน้องปอย อธิษฐานแบบนี้เลย...! เดี๋ยวนี้จีบสาวก็อันตรายมาก จะขอดูบัตรประชาชนก็เสียมารยาท จะไม่ขอดูบัตรประชาชนก็กลัวเธอจะมีคำนำหน้าว่า "นาย" คุยกับคนจีนอยู่คนหนึ่ง เชื่อไหมว่าคนจีนคนนั้นมีความคิดว่า ผู้ชายไทยเป็นกระเทยทุกคน อาตมาฟังแล้วอึ้งเลย แล้วอาตมาหน้าตาเหมือนไหม ? เขาก็งง ๆ สรุปว่าเห็นว่าพระไม่ใช่ผู้ชายกระมัง ? เวลาทัวร์จีนมาเมืองไทย ส่วนหนึ่งที่ได้รับการเสนอ ซึ่งไม่มีทัวร์ไหนยอมพลาดเลยก็คือ ไปดูทิฟฟานี่โชว์ แล้วจะไม่ให้คนจีนเขาเข้าใจผิดได้อย่างไร ? เพราะฉะนั้น...ไปอธิษฐานเอาเอง ถามคนอื่นก็เป็นคำอธิษฐานของคนอื่น เป็นความรักความชอบของเขา ไม่ใช่ของเรา ถาม : สามารถอธิษฐานขอได้ตอนไหนครับ ตอนทำบุญ หรือหลังจากทำสมาธิ ? ตอบ : ควรที่จะอยู่ในช่วงที่เราสร้างบุญใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา แล้วก็อธิษฐานไป เอาอย่างนางปติปูชิกาก็ได้ ทำบุญเมื่อไรก็อธิษฐานว่า "ขอให้ข้าพเจ้าได้ไปเกิดในสำนักของสามี" มหาเศรษฐีผู้เป็นสามีก็ปลื้มใจว่า เมียรักเราจริง ๆ ที่ไหนได้...นางปติปูชิกาตั้งใจจะกลับไปบนสวรรค์ตามเดิม เพราะว่าสำนักสามีของแกอยู่บนสวรรค์ ตัวเองเผลอหลุดลงมาเกิดคนเดียว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:33 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#150
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : มีคำถามของเพื่อนผมอยู่คนหนึ่ง ผมไม่อยากถามเลยครับ ?
ตอบ : แล้วคิดว่าตูอยากตอบไหม ? ถาม : คำถามมันง่ายครับ ? ตอบ : ง่ายแล้วทำไมไม่ตอบเอง ? ถาม : นาย ก. เป็นเจ้าของสิ่งของ ฝากนาย ข. ให้ไปถวายพระบางรูป นาย ก. ก็ลืมไปว่าเคยฝากไปถวายพระ อยู่ดี ๆ ก็บอก ข. เอาของสิ่งนี้ไปให้ นาง ค. ทีนี้ นาย ข. ที่โดนไหว้วาน...? ตอบ : ถ้าจำได้รีบเตือนสติเขา ถ้าจำไม่ได้ก็สร้างกรรมร่วมกัน เพราะตั้งใจถวายพระไปแล้ว ถาม : เป็นหนี้สงฆ์ใช่ไหมครับ ? ตอบ : ไม่ใช่...ยังเป็นของกึ่งกลางสงฆ์ คือตั้งใจถวายพระ แต่ไปไม่ถึงมือพระ ดีไม่ดีจะพา นาง ค. กลายเป็นกากเปรตไป ถาม : นาง ค. ไม่รู้เรื่อง กินเข้าไป จะโดนด้วยหรือครับ ? ตอบ : กินยาพิษโดยไม่รู้เรื่องตายไหม ? ถาม : โลกนี้อยู่ยากจริง ๆ ? ตอบ : รู้ว่าอยู่ยากแล้วยังจะอธิษฐานขอเมียอีก...! ตกลงจะเอาอย่างไรกันแน่ ? ถาม : เมียก็คือเพื่อนที่ดีครับ ? ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็ควรที่จะมีหลาย ๆ คน..! ถาม : หลายคนก็มากเกินความสามารถที่จะจัดการครับ ? ตอบ : ก็มาเป็นเพื่อนที่ดีไม่ใช่หรือ ? ในเมื่อเป็นเพื่อนที่ดี มีมาก ๆ ก็ยิ่งดี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:34 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#151
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : พระอาจารย์ครับ พระอาจารย์เคยเล่าเรื่องพระถังซัมจั๋ง ผมสงสัยครับว่าเล่าไปทำไม ?
ตอบ : อยากเล่า...! ถาม : ไม่ว่าจะพุทธมหายาน หรือวัชรยาน พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ คือแบบเดียวกันหรือเปล่าครับ ? ตอบ : บางส่วนก็ใช่ บางส่วนก็ไม่ใช่ ส่วนที่ใช่อย่างเช่น องค์พระศากยมุนีของมหายาน ก็คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา แต่คุณต้องไปศึกษาก่อนว่ามหายานเขามีแนวความคิดอย่างไร มหายานเขาเชื่อว่ามีพระพุทธเจ้าที่เป็นต้นธาตุต้นธรรมอยู่ แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ใช้กำลังฌานแบ่งพระพุทธเจ้าออกมา ๕ พระองค์ เรียกว่า พระธยานิพุทธะ ก็คือพระพุทธเจ้าที่เกิดจากอำนาจของฌาน ถ้าต้องการจะโปรดญาติโยมที่เป็นมนุษย์ทั่วไป ก็แบ่งกำลังลงมาเกิดเป็น มานุสีพุทธะ ก็คือพระพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์ทั่วไป เพราะฉะนั้น...ในส่วนของพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าของเขาที่เป็นมนุษย์ มานุสีพุทธะก็คือเจ้าชายสิทธัตถะของเรานั่นแหละ อย่างท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ของเขาก็มีเหมือนกัน แต่ว่าในส่วนอื่น ๆ นั้นไม่ใช่ ถ้าอยากจะศึกษาก็ได้ แต่ระวังว่าจะสับสนเสียเอง ถาม : แต่จริง ๆ การอวตารแบ่งร่างเป็นไปไม่ได้ แล้วที่เขาเชื่อว่าเป็นไปได้นั้นใช่หรือครับ ? ตอบ : ก็เขาเชื่อว่าอย่างนั้น ในเมื่อเป็นความเชื่อแล้วคุณไปค้านเขา เขาจะฟังไหม ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:36 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#152
|
||||
|
||||
![]()
ช่วงชีวิตที่อาตมามีรสชาติที่สุดคือ การศึกษาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ จะว่าไปแล้วเป็นเพราะคนเราขาดที่พึ่ง จึงแสวงหาที่พึ่งภายนอก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เราแสวงหาที่พึ่งภายใน "ทำตนเองเป็นเกาะ ทำตัวเองเป็นฝั่ง" เพื่อจะได้มีที่พึ่งพาอาศัยโดยไม่ต้องไปอาศัยผู้อื่น แต่เสียดายว่าพุทธบริษัทของพระองค์ มักจะแสวงหาที่พึ่งภายนอกเสียส่วนใหญ่
ศาสนาพุทธสอนเทวตานุสติ ให้คุณสมบัติของการเป็นเทวดานางฟ้าว่าต้องประพฤติปฏิบัติอย่างไร คุณสมบัติของการเป็นพรหมจะต้องประพฤติปฏิบัติอย่างไร คุณสมบัติของการเป็นพระวิสุทธิเทพ ผู้เข้าถึงพระนิพพานต้องปฏิบัติอย่างไร จัดเป็นเทวดานุสติ ด้วยความมั่นใจว่าศักยภาพของมนุษย์ที่เป็นเวไนยยะขึ้นไป สามารถที่จะปฏิบัติเพื่อเข้าถึงและเป็นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้เอง แล้วเรามาดูว่ามีสักกี่คนที่ทำเพื่อให้เป็นอย่างนั้น ? มีแต่แสวงหาสิ่งที่พึ่งภายนอกกันทั้งนั้น อาตมาสร้างหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมหน้าวัดท่าขนุน เพื่อให้เขาผ่านไปผ่านมาเห็น จะได้รำลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า เป็นพุทธานุสติ สร้างไปสร้างมากลายเป็นเจ้าพ่อ ขับรถผ่านบีบแตร "แปร๊น ๆ" ถวายเจ้าพ่อ ตูจะบ้า...! ถาม : อันนั้นบาปไหมครับ ? ตอบ : ไม่ได้บาปหรอก แต่อาตมาตั้งใจให้เขาล้านหนึ่ง ดันเอาแค่สลึงเดียว...! เห็นหรือยังว่าเขาเอาที่พึ่งที่ไหน ? เอาแต่ที่พึ่งภายนอกทั้งนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 18:38 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#153
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : อะไรก็ตาม ถ้าไม่มีธรรมกำกับ บรรลัยหมด รัชกาลที่ ๖ จึงได้พระราชนิพนธ์ว่า เมืองใดไม่มีทหารหาญ...........เมืองนั้นไม่นานเป็นข้า เมืองใดไร้จอมพารา...............เมืองนั้นไม่ช้าอับจน เมืองใดไม่มีพาณิชย์เลิศ...........เมืองนั้นย่อมเกิดขัดสน เมืองใดไร้ศิลป์โสภณ..............เมืองนั้นไม่พ้นเสื่อมทราม เมืองใดไม่มีกวีแก้ว.................เมืองนั้นไม่แคล้วคนหยาม เมืองใดไร้นารีงาม..................เมืองนั้นหมดความภูมิใจ เมืองใดไม่มีดนตรีเลิศ.............เมืองนั้นไม่เพริศพิสมัย เมืองใดไร้ธรรมอำไพ..............เมืองนั้นบรรลัยแน่เอย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-05-2017 เมื่อ 23:06 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#154
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : สมมติเวลาเราเกลียดใครสักคน เพราะเขาทำไม่ดีกับเรา แทนที่เราจะไปเกลียดเขา เราก็นึกถึงเขา เวลาสวดมนต์เราก็นึกถึงหน้าเขา ?
ตอบ : เหนื่อย....มึงก็สมมติว่าเรารักเขาก็จบ ทำไมต้องสมมติว่าเกลียดเขาด้วย สมมติว่ารักไม่ต้องเสียเวลาไปทำอะไรเลย ถ้าจะสมมติก็สมมติที่ดี ๆ หน่อยสิวะ จะได้ไม่เหนื่อยมาก ถาม : (ไม่ชัด) ตอบ : กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม มีผลกับตัวเรา ของคนอื่นบางทีก็มีผลกระทบ เพราะเขาไปแบกเอาไว้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 20:11 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#155
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เวลาเรารักษาศีล นอกจากปิดอบายแล้ว ทำไมการรักษาศีลจึงมีอานิสงส์มาก เป็นไปได้อย่างไร ?
ตอบ : สมมติว่าบุคคลคนหนึ่งไปเจอยักษ์ ยักษ์บอกว่า ถ้าแกทำอย่างนี้ ฉันจะให้อาหารแกชิ้นหนึ่ง เราทำตามนั้น ยักษ์หย่อนอาหารลงมาทับเราตายเลย นั่นแค่อาหารชิ้นเดียวนะ การรักษาศีลคล้ายคลึงกันตรงที่ว่า เป็นการกระทำความดี ซึ่งเป็นการควบคุมกาย วาจาของเราให้เรียบร้อย ซึ่งโดยปกติแล้วคนทั่วไปไม่มี ในเมื่อคนอื่นเขาไม่มี เราสร้างขึ้นมา เราจะรู้สึกว่ามากกว่าเขาทันทีทันใดเพราะว่าเขาไม่มี ในเมื่อเรายิ่งสร้างมากเท่าไร ระยะห่างของความไม่มีก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้น...ในเรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญา จึงเป็นเรื่องของผลานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับคนที่ไม่มี แต่ถ้าคนที่มี เขายังเห็นว่าเราห่างไกลเหลือเกิน เหมือนยักษ์ขนาดต่างกับคน เราก็เป็นแค่สะเก็ดฝุ่นในจักรวาลเท่านั้นเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 20:12 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#156
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : พระอาจารย์ช่วยขยายความเรื่องกิเลสให้หน่อยสิครับ เวลาฟังชื่นใจมากเลย ผมขี้เกียจอ่าน ?
ตอบ : ขี้เกียจอ่านหนังสือ แล้วไม่คิดว่าพระอาจารย์จะขี้เกียจตอบบ้างหรือ ? กิเลสอย่างหยาบ คือ กิเลสที่หลุดออกจากทางกาย ทางวาจาของเรา ซึ่งต้องแก้ไขด้วยศีล กิเลสอย่างกลาง ส่วนใหญ่เป็นอารมณ์ความคิดของเรา ก็คือ อยากได้โน่น อยากได้นี่ โกรธนั่น เกลียดนี่ ต้องแก้ด้วยสมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัวก็จะไม่ปรากฏ กิเลสอย่างละเอียด เขาเรียกอนุสัยกิเลส เป็นส่วนลึกที่นอนนิ่งอยู่ในใจของเรา ถ้าไม่ใช่สภาพจิตละเอียดจริง ๆ บางทีก็คิดว่าไม่มี อย่างเช่นว่ากามสัญญา ก็คือคิดว่าตัวเองไม่มีความต้องการระหว่างเพศแล้ว แต่ยังมีโอกาสนึกถึงอยู่ เขาเรียกกามราคานุสัย พวกนี้ต้องแก้ด้วยปัญญา พอพิจารณาเห็นโทษว่า เปลวไฟที่ลุกไหม้ทั้งเมืองหรือเผาไหม้ทั้งป่า ก็เกิดจากสะเก็ดเล็ก ๆ นิดเดียวเช่นนี้ ถ้าเรายังปล่อยให้เผาไฟไหม้ใจเราอยู่ โอกาสที่เราต้องเกิดมาทุกข์ทนยังมีอีกมาก ก็จะมาพิจารณา มาตัด มาละกันเอง ถาม : กิเลสอย่างกลาง ก็คือ ใช้วิปัสสนา หรือใช้สมถะครับ ? ตอบ : ใช้สมาธิก็ระงับได้แล้ว แต่คำว่าระงับคือดับลงชั่วคราว เป็นวิกขัมภนวิมุตติหรือตทังควิมุติ ยังไม่ใช่สมุจเฉทวิมุตติ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 20:14 |
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#157
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เราใช้สมถะบ่อย ๆ บางทีกามราคะจะดีขึ้นได้อย่างไรครับ โดยที่เราไม่ได้ใช้วิปัสสนา ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่ากำลังของสมาธิสามารถกดกิเลสดับลงได้ชั่วคราว แล้วที่ว่าดีขึ้นราคะหมดไปไหม ? ถาม : ไม่ครับ ? ตอบ : ก็ในเมื่อไม่หมด ต้องใช้วิปัสสนาจึงจะหมด สรุปว่าที่ดีขึ้นของคุณไม่ได้ดีขึ้นหรอก เพียงแต่ห่างออกมาเท่านั้น ถาม : ถ้าผมคิดว่า ผมเป็นมนุษย์ ผมก็มีราคะบ้าง อย่างนี้ถือว่าผมโง่ไหมครับ ? ตอบ : ก็ถ้าเป็นมนุษย์ทั่ว ๆ ไปไม่ถือว่าโง่ แต่ถ้าในสายตาผู้ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นก็โง่ฉิ...หายเลย...! ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมุมมองของใคร
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2019 เมื่อ 19:38 |
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#158
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : การปรับธาตุคืออะไรครับ ?
ตอบ : ต้องถามว่าปรับเพื่ออะไร ? ถาม : ปรับเพื่อสภาพร่างกายให้เข้าที่เข้าทาง ให้แลดูอ่อนเยาว์ ? ตอบ : ลักษณะอย่างนั้นจะปรับด้วยอะไร ? ปรับด้วยตัวยา ปรับด้วยการออกกำลังกาย ปรับด้วยการใช้สมาธิ สภาพจิตที่อยู่ในสมาธิ เวลาผ่านไปเหมือนอย่างกับเชื่องช้า สภาพจิตไม่ได้นึกว่าผ่านไปมาก สภาพร่างกายก็เลยดูอ่อนเยาว์ และท้ายที่สุดบรรดาผู้ที่ได้อภิญญาสมาบัติคล่องตัว อาศัยอำนาจของสมาบัติ ปรับธาตุ ๔ ที่พร่องในร่างกายให้เสมอกัน ก็เลือกเอาว่าจะปรับแบบไหน ถาม : ลดเรื่องอาหารไม่ได้ ? ตอบ : อะไรวะ...! แค่อาหารการกินแค่นี้ทำไม่ได้หรืออย่างไร ? กินน้ำตาลให้น้อยลง กินผักผลไม้ให้มากขึ้น ง่ายจะตายไป ถึงเวลากินเสร็จเรียบร้อยก็เป็นมะเร็งตาย เพราะว่ามีแต่ยา ก็เลยอ่อนเยาว์ เพราะว่ายังไม่ทันจะแก่ก็ตายแล้ว...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 20:15 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#159
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เมื่อนานมาแล้ว ผมฝึกกสิณไฟ ผมจะเห็นเหมือนไฟล้างโลก เป็นนิมิตหรือสัญญาเก่าครับ ?
ตอบ : เป็นปฏิภาคนิมิตที่เกิดขึ้น แสดงว่าของเก่าเคยมีอยู่ หรือไม่ก็ตกนรกบ่อย เห็นไฟจนชิน...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 20:16 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#160
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ถ้าเราภาวนา พ่อแม่เราจะได้บุญนั้นโดยอัตโนมัติด้วยไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าโมทนาก็ได้ ถ้าไม่โมทนาก็อด..! ถาม : ผมเคยอ่านเจอของท่านหนึ่ง เหมือนกับการที่เราทำบุญ พ่อแม่จะมีส่วนด้วย ? ตอบ : ถ้าเราทำจนกำลังสูงพอ ท่านจะคล้อยตามมา คำว่า "คล้อยตามมา" แปลว่าท่านมาประพฤติปฏิบัติอย่างเรา ถ้าทำอย่างนั้นถึงจะยกระดับของท่านได้ แต่ถ้าต้องการในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ ก็มีอย่างเดียวคือต้องเปิดใจรับ วิธีการเปิดใจรับก็คือพลอยยินดีด้วย ก็ได้แก่การอนุโมทนานั่นแหละ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 20:16 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|