กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #141  
เก่า 12-11-2014, 09:04
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๑๗. ให้มีจิตระลึกไว้เสมอว่า ร่างกายนี้จักต้องตายอยู่เสมอ อาจจักตายเดี๋ยวนี้ หรือขณะจิตข้างหน้านี้ก็ได้ อย่ามีความประมาทในชีวิต แล้วจงหมั่นพยายามเลี่ยงให้พ้นซึ่งอารมณ์เศร้าหมองของจิต ให้พิจารณาลงตัวธรรมดาเสียให้หมด ได้เมื่อไหร่ก็เป็นพระอรหันต์เมื่อนั้น ร่างกายที่เห็นอยู่นี้ อย่าไปคิดว่ามันจักอยู่นาน เพียรพิจารณาถึงความอนัตตาอยู่เสมอ ร่างกายภายนอก สัตว์ - วัตถุธาตุทั้งหลายก็เช่นกัน ที่สุดก็อนัตตาเหมือนกันหมด โลกนี้ทั้งโลกไม่มีอะไรเหลือ จักพึงยึดถือสิ่งใดกับโลกเล่า ถามจิตให้จิตตอบ และให้ยอมรับทุกอย่างตามความเป็นจริง อย่างเช่น ทำงานอะไรก็ให้เอาความสุขกาย - สุขใจเป็นที่ตั้ง และทำด้วยความเต็มใจไม่หวังผลตอบแทนในโลกธรรมทั้งปวง มีอารมณ์หวังเพียงอย่างเดียวคือทำเพื่อการละ การตัดซึ่งความโกรธ – โลภ - หลง นั่นคือการเข้าใจถึงซึ่งกำลังใจเต็ม การกระทำนั้นได้ชื่อว่าทำเพื่อพระนิพพาน ตรัสไว้เพียงสั้น ๆ แค่นี้ แล้วนำไปพิจารณาและปฏิบัติให้ดี

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2014 เมื่อ 09:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #142  
เก่า 14-11-2014, 09:42
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

(พระธรรม ที่ทรงตรัสสอนในเดือนสิงหาคม ๒๕๔๐)

ปกิณกธรรม

๑. จงอาศัยการกระทบให้เป็นประโยชน์ของการตัดกิเลส เห็นทุกข์มากเท่าไหร่ ยิ่งเบื่อทุกข์มากขึ้นเท่านั้น จิตจักปล่อยวางทุกข์ลงได้ในที่สุด แต่ต้องอาศัยปัญญาพิจารณาประกอบไปด้วย มิฉะนั้น เห็นทุกข์จักเกาะทุกข์ก็ยิ่งทุกข์ใหญ่ ถ้าหากมีปัญญาก็จักปล่อยวาง เนื่องด้วยเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง การที่จักพ้นทุกข์ได้ จักต้องรู้จักพิจารณาใช้ปัญญาใคร่ครวญอยู่เสมอ จึงจักปล่อยวางได้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2014 เมื่อ 12:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #143  
เก่า 17-11-2014, 08:39
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๒. พิจารณาร่างกาย พิจารณาอารมณ์ ทุกอย่างเกิดขึ้น - ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป อย่าเอาความไม่เที่ยงมาเกาะติดอยู่ในจิตให้เป็นทุกข์ พยายามรักษาอารมณ์เกาะพระนิพพานให้มาก ๆ อย่าห่วงใคร อย่ากังวลกับเหตุการณ์ใด ๆ ทั้งปวง ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อพระศาสนา เพื่อพระนิพพานจุดเดียว ปล่อยวางเรื่องภายนอกลงเสียบ้าง แม้ชั่วขณะหนึ่งก็ยังดี เพราะยังไม่ใช่พระอนาคามีผล การเจริญพระกรรมฐานต้องหมั่นฝึกให้ได้ทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ ก็ให้จิตจับมาเป็นกรรมฐานให้ได้ การเผลอนั้นย่อมยังมีอยู่เป็นธรรมดา พยายามประคองจิตอย่าให้หวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบมากนัก แล้วจักมีความสุขขึ้นในจิต

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2014 เมื่อ 15:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #144  
เก่า 26-11-2014, 16:54
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๔. มองเห็นร่างกายแล้ว ให้ดูอารมณ์ของจิตว่ายึดเกาะร่างกายในส่วนไหนบ้าง การมีอาการถูกกระทบกระทั่งใจ ก็เนื่องด้วยร่างกายเป็นเหตุ ใครจักเกลียด - จักโกรธ - จักกล้ว - จักติ - จักชม ก็เนื่องด้วยร่างกายเป็นต้นเหตุทั้งสิ้น ดังนั้น..การพิจารณารูปและนาม จักต้องย้อนไปย้อนมา จึงจักเกิดปัญญารู้เท่าทันรูป - นาม ตามความเป็นจริงได้ จงอย่าละความเพียรในการปฏิบัติ พึงเร่งรัดกำลังใจขอตนให้ตั้งมั่นอยู่ในการพิจารณารูป - นามอยู่เสมอ นั่นแหละคือหนทางที่จักไปพระนิพพานได้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2014 เมื่อ 17:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #145  
เก่า 01-12-2014, 08:40
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๕. การป้องกันคุณไสยทำร้ายกายและจิตให้ไม่สงบ จักต้องไม่มีอารมณ์ปฏิฆะหรือโกรธ เพราะการภาวนาคาถาต่าง ๆ เพียงเพื่อป้องกันเท่านั้น เจ้าไม่ได้ต่อสู้เพื่อทำร้ายเขา ให้ทำจิตให้สงบ ไม่คิดเป็นศัตรูกับใครเข้าไว้ อย่าโกรธ อย่าอาฆาต ภาวนาเพื่อป้องกันเท่านั้นเป็นพอ และจำไว้ว่า อย่าใช้บารมีของตนเองในขณะที่ภาวนาต่อสู้ ให้กำหนดจิตขอบารมีพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ หรือพระอริยสงฆ์องค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ จักทำให้เจ้าปลอดภัยจากอำนาจคุณไสยทั้งปวง และจงอย่าคิดว่าตนเองเก่ง ถ้าคิดว่าตนเองเก่งเมื่อไหร่ ดีเมื่อไหร่ พระทุกองค์ก็จักไม่ช่วยเจ้า

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2014 เมื่อ 10:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #146  
เก่า 03-12-2014, 15:26
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๖. ร่างกายที่เห็นอยู่นี้เป็นสมบัติของโลก ไม่มีใครสามารถเอาไปได้ โลกนี้ทั้งโลกกอปรไปด้วยธาตุ ๔ ดิน - น้ำ - ลม - ไฟ มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความเสื่อมไปในท่ามกลาง มีความสลายตัวไปในที่สุด เจ้าจักยึดถือร่างกายเป็นสรณะที่พึ่งไม่ได้ จักยึดถืออะไรในโลกเป็นที่พึ่งก็ไม่ได้ พิจารณาถึงจุดนี้ ฝึกฝนจิตให้รู้จักกับคำว่าธรรมดาให้มาก และยอมรับคำว่าธรรมดาให้มาก และจงรู้จักคำว่าไม่เบียดเบียนร่างกายตนเองให้มากจนเกินไป และรู้จักเมตตาร่างกายตนเองด้วย เพื่อความอยู่เป็นสุขของจิต ผู้อาศัยอยู่ในร่างกายนี้ และอย่ากังวลกับสิ่งภายนอกให้มาก จงเป็นผู้มีธุระน้อย หาความพอดีให้กับกายและจิตให้มาก ๆ จึงจักพบกับความสุขอย่างแท้จริง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2014 เมื่อ 17:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #147  
เก่า 09-12-2014, 12:02
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๗. การอาศัยความกระทบกระทั่งของอารมณ์ เป็นเครื่องวัดกำลังใจที่จักตัดกิเลส นั่นแหละเป็นของจริง ได้ก็รู้ ตกก็รู้ ใช้อริยสัจเป็นหลักสำคัญในการแก้ปัญหา อะไรที่เข้ามาในชีวิตก็จักต้องทนได้ เพราะต้องการที่จักไปพระนิพพาน ต้องทนได้กับทุก ๆ สภาวะ ให้ตรวจบารมี ๑๐ เข้าไว้ ขาดตัวใดตัวหนึ่งก็ต้องทำตัวนั้นให้เต็ม อย่าให้พร่องแม้แต่หนึ่งนาที แล้วการเจริญพระกรรมฐานก็จักคล่องตัวเอง ทำกำลังใจให้สงบ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจักดีขึ้นเอง อย่าหวั่นไหวในการกระทบ สิ่งใดรู้ว่าแพ้ก็ให้แพ้ไป ตั้งกำลังใจกันใหม่ แผ่เมตตาให้มาก ๆ การปฏิบัติอย่าเครียด คือเอาจริงเอาจังเกินไป อารมณ์ต้องเบา ๆ สบาย ๆ จงอย่าสนใจกรรมหรือการกระทำของผู้อื่น ให้ดูแต่กรรมของตนเองเป็นที่ตั้ง ดูกาย – วาจา - ใจของตนเอง เพียรให้อยู่ในศีล – สมาธิ - ปัญญาเท่านั้น อารมณ์เผลอย่อมมีบ้างเป็นธรรมดา ได้สติก็ตั้งต้นดึงเข้ามาใหม่

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2014 เมื่อ 13:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #148  
เก่า 15-12-2014, 14:29
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๘. เหตุการณ์บ้านเมืองเวลานี้ไม่ดี ไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าใครดีใครเลว เพราะกฎของกรรมเป็นของตายตัว จึงมิใช่ของแปลก เป็นเรื่องธรรมดาของกฎของกรรม นักปฏิบัติเพื่อต้องการพ้นทุกข์ จงเห็นกฎของธรรมดาเหล่านี้ให้มาก และยอมรับนับถือกฎของธรรมดาด้วย จิตจึงจักสงบเย็นลง ไม่โทษเขาหรือโทษใคร ให้เห็นทุกอย่างตามความเป็นจริงไว้เสมอ และจงอย่าได้มีความประมาทในชีวิต พร้อมตายและซ้อมตาย เพื่อเอาจิตเข้าสู่พระนิพพานไว้ด้วยความไม่ประมาท ให้จิตยอมรับนับถือกฎของธรรมดาให้มาก แล้วจิตจักเป็นสุข

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2014 เมื่อ 16:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #149  
เก่า 17-12-2014, 09:40
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

(พระธรรม ที่ทรงตรัสสอนในเดือนกันยายน ๒๕๔๐)

ปกิณกธรรม


สมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสสอนปกิณกธรรมไว้ มีความสำคัญดังนี้

๑. สถานการณ์บ้านเมืองก็เสื่อมลงทุกวัน แต่ให้พึงเห็นเป็นกฎของกรรมที่ไม่สามารถจักหลีกเลี่ยงได้ ให้เห็นทุกข์ของการเกิดมาในโลกมนุษย์นี้ กรรมทั้งหลายที่เกิดเนื่องด้วยความไม่รู้จักพอของมนุษยชาติ ด้วยจิตที่พร่องอยู่ในความโลภ - โกรธ - หลง มนุษย์จึงทำปัญหาให้เกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัย นี่เป็นกฎของธรรมดา อย่าไปโทษว่าใครดี ใครเลว ตราบใดที่จิตยังเข้าไม่ถึงความเป็นพระอรหันต์ ก็ยังนับว่ายังดีไม่พอ เพราะฉะนั้น..จักตำหนิใคร ให้ดูจิตของตนเองเสียก่อน เพราะจิตของตนเองยังเอาดีไม่ได้ ก็ไม่พึงไปติคนอื่นเขา ให้พิจารณาลงตัวธรรมดาเสียให้ได้ แล้วอย่าไปแก้จิตของคนอื่น ให้แก้จิตของตนเองอยู่นี้ให้ดีให้พอ แค่นั้นจิตก็จักเป็นสุข และเป็นที่พอใจของตถาคตเจ้าแล้ว

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-12-2014 เมื่อ 12:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #150  
เก่า 24-12-2014, 10:44
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๒. ในกรณีเรื่องอาหารอันเป็นคุณแก่ร่างกาย และเป็นโทษแก่ร่างกาย จิตละเอียดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นชัดมากเท่านั้น พระอรหันต์ท่านไม่ฉันเพราะอารมณ์โลภในรสของอาหาร หรือไม่ฉันเพราะเสียดายในอาหารที่จักเสียหรือเน่าแล้ว ท่านฉันเพื่อยังอัตภาพให้เป็นไป กล่าวคือเพื่อร่างกายมีสุขภาพอนามัยดี ไม่บังเกิดทุกขเวทนาขึ้นมาเบียดเบียนจิตผู้อาศัยอยู่ในกายนี้ เรื่องเหล่านี้คุณหมอน่าจักเข้าใจดี เพราะรู้หลักโภชนาในฐานะของความเป็นหมอ แต่จุดหนึ่งที่คุณหมอไม่รู้ก็คือ ร่างกายพร่องหรือขาดสิ่งใดบ้าง ต่างกับท่านพระ... ซึ่งจิตท่านละเอียดมาก เป็นผลจากการปฏิบัติของท่าน ทำให้ท่านไม่เบียดเบียนร่างกาย มิใช่ท่านเลือกฉัน กรณีนี้คุณหมอพึงต้องพิจารณาด้วย ร่างกายเมื่อบริโภคอาหารถูกกับสุขภาพ มีอนามัยพร้อม ร่างกายนี้ไม่มีเวทนาของทุกข์อันเกิดจากโภชนาการเป็นโทษ จิตที่อาศัยกายอยู่ก็เป็นสุข พร้อมที่จักปฏิบัติธรรมได้ผลสมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา จำไว้ว่าพระอรหันต์ท่านไม่เบียดเบียนจิตใจ และไม่เบียดเบียนร่างกายของท่านด้วย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2014 เมื่อ 11:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #151  
เก่า 29-12-2014, 12:00
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๓. ให้ดูร่างกายเข้าไว้ อย่าวางใจว่ามันจักดีขึ้นมาเป็นอันขาด การกินยาหรืออาหารก็แค่ระงับทุกขเวทนา หรือยังอัตภาพให้เป็นไปเท่านั้น อย่าพึงคิดว่าจักสามารถช่วยให้พ้นเจ็บพ้นตายได้ จุดนี้จักต้องสำรวจใจทุกครั้งที่กินอาหารและกินยาดูว่าหลงในรสหรือไม่ จักพอใจหรือไม่พอใจก็ผิดทั้งคู่ เช่นหลงคิดว่ากินยาแล้วเราจักไม่ตาย หรือหลงจักหาอาหารรสอร่อยอย่างนี้กินอีกหรือไม่ จุดทั้งหลายต่าง ๆ เหล่านี้จักต้องสำรวจใจ จึงจักทำให้จิตมีความละเอียดขึ้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #152  
เก่า 05-01-2015, 10:35
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๔. ร่างกายที่เห็นอยู่นี้ ไม่ช้าไม่นานเมื่อมีวิญญาณไปปราศแล้ว ก็เสมือนหนึ่งท่อนไม้ถูกทิ้งให้ทับถมจมปฐพี สภาพของร่างกายของใครก็เหมือนกันหมด แม้แต่ร่างกายของเราเอง แล้วในที่สุดก็เน่าเปื่อยผุพังไป พิจารณาให้จิตยอมรับนับถือกฎของธรรมดาให้ได้ แล้วจิตจักพร้อมที่จักวางร่างกายในทุก ๆ ขณะจิต คำว่าทุก ๆ ขณะจิต ไม่ได้หมายความว่าใกล้จักตายถึงจักวาง หรือมีลางมรณภัยใกล้เข้ามาถึงจึงจักวาง อย่างนั้นไม่ใช่ของจริง ประมาทเกินไป จักต้องพึงวางร่างกายให้ได้ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ปกติสุขอยู่นี้แล้ว พิจารณาให้เห็นความตาย ความไม่เที่ยงอยู่ทุก ๆ ขณะจิต ทำจิตให้พร้อมปล่อยวางร่างกายให้ได้ทุกเมื่อ นั่นแหละจึงจักเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้โดยง่าย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2015 เมื่อ 12:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #153  
เก่า 06-01-2015, 08:42
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๕. ร่างกายมิใช่ของเราก็จริงอยู่ แต่พึงพิจารณาน้อมจิต ให้เห็นร่างกายตามความเป็นจริง เท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็จัดว่าเห็นเช่นกัน แต่ยังไม่รู้แจ้งแทงตลอดในอาการ ๓๒ และธาตุ ๔ นั้น จึงเป็นเหตุให้ละ – ปล่อย - วางไม่ได้ หมั่นพิจารณาร่างกายให้มาก เพราะจุดนี้เป็นจุดใหญ่อันนำไปสู่ความพ้นทุกข์

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-01-2015 เมื่อ 13:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #154  
เก่า 08-01-2015, 10:37
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๖. ร่างกายที่เห็นอยู่นี้มีความไม่เที่ยงอยู่เป็นนิจ แต่ตราบใดที่มันยังไม่ตาย ก็มีความจำเป็นจักต้องดูแลไปตามหน้าที่ แต่มิใช่ห่วงใยให้มากจนเกินไป ให้ทำจิตวางอารมณ์พอสบาย ๆ จักได้ไม่ทุกข์ ไม่กังวลจนเกินไป แล้วทำทุกอย่างไปตามหน้าที่ รักษาอารมณ์จิตให้เป็นสุขก็เป็นพอ ดูอนาคต ดูได้ เตรียมได้ แต่ไม่ควรกังวล รักษาจิตให้อยู่กับปัจจุบันเท่านั้นเป็นพอ พอหรือไม่พอให้ดูอารมณ์ดิ้นรนของจิต ผู้รู้ ผู้ไม่ประมาท จักพร้อมทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต แต่เขาไม่ทุกข์ อะไรเกิดก็พร้อมรับทั้งกาย – วาจา - ใจ ด้วยความรู้และความไม่ประมาทนั้น

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-01-2015 เมื่อ 11:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #155  
เก่า 09-01-2015, 11:13
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๗. ร่างกายพังหรือจิตพังกันแน่ ให้สังเกตเวลารับทุกขเวทนา หรือแม้แต่สนทนา แยกอาการนี้ให้ถูก ถ้าหากความตายเข้ามาถึง ร่างกายพังแต่จิตไม่พัง แต่ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นี้ เวลาได้รับความกระทบกระทั่งทางอายตนะ จิตนี้แหละทำท่าจะพัง คือทนไม่ไหวไปทุกที เรียกว่าไม่รู้เท่าทันอารมณ์ของกิเลส ที่ปรุงไปตามกิเลสในขณะจิตนั้น ๆ ถ้าหากรู้เท่าทันเสียแล้วก็ปล่อยวาง กระทบแล้วก็ดับไป ไม่รู้สึกเศร้าเสียใจ ทุกข์ใจ หรือสุขใจแม้แต่ประการใด ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมดา จิตก็ไม่พัง กำหนดรู้ความสงบสุขของจิตเอาไว้ให้ดี แล้วจักเห็นหนทางวางเฉยในปฏิฆะและราคะได้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-01-2015 เมื่อ 13:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #156  
เก่า 12-01-2015, 15:06
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๘. เหตุการณ์ทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ขอจงอย่าเบื่อหน่ายเพราะเป็นเรื่องธรรมดา เป็นวาระของกฎของกรรมจักให้ผล ซึ่งเลี่ยงอย่างไรก็ไม่พ้นไปได้ ให้พิจารณาให้ชัด แล้วจักได้ประโยชน์จากกฎของกรรมอันนี้เป็นอันมาก มองธรรมภายนอกแล้วน้อมเข้ามาเป็นธรรมภายใน พิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้วจักได้ประโยชน์เป็นอันมาก

อนึ่ง..ให้เลี่ยงการตำหนิกรรมของบุคคลอื่นให้มาก ๆ เพราะไม่มีใครอยากเป็นคนเลว คนที่เขาได้กระทำการหลงผิดไป ก็ด้วยอกุศลกรรมเข้าครอบงำ เห็นผิดเป็นชอบ คิดว่าดีจึงทำไปตามนั้น บุคคลเหล่านี้น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง พิจารณาให้ลึกซึ้งแล้วจิตจักเป็นสุข วางกรรมภายนอกลงเสีย แล้วจักได้ระมัดระวังกรรมภายในให้ดีขึ้นด้วย อย่าละความเพียรในการปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพาน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2015 เมื่อ 16:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #157  
เก่า 14-01-2015, 16:00
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๙. อย่าเอาความดีไปแลกกับความชั่ว ใครเขาอยากชั่วก็ให้เขาชั่วไปแต่เพียงผู้เดียว ให้ดูตัวอย่างท่านพระ... เป็นหลัก ท่านอบรมจิตของท่านดีแล้ว จึงไม่เก็บความชั่ว และไม่โต้ตอบความชั่วด้วยอารมณ์จิตชั่วทั้งปวง พึงดูแล้วพึงปฏิบัติตามให้ได้ จิตจักได้เป็นสุข ใครดี - ใครเลว จิตที่อบรมดีแล้วไม่ยุ่งเกี่ยวกับกรรมของผู้ใด จึงเป็นสุขอย่างบรมสุข มองทุกอย่างตามความเป็นจริง พิจารณากฎของกรรมอันเป็นปัจจัตตังให้ชัดเจน แล้วจักวางอารมณ์เป็นอุเบกขารมณ์ได้มาก

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2015 เมื่อ 16:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #158  
เก่า 20-01-2015, 10:47
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๑๐. อย่าสนใจในจริยาของผู้อื่น แต่พึงให้เห็นธรรมดาของบุคคลผู้นั้น เพื่อประโยชน์ของการปล่อยวางให้เป็นไปในปกติธรรม กรรมใคร - กรรมมัน คนถ้ามีดีอยู่บ้างก็เกื้อหนุนส่งเสริม แต่ถ้าไม่ดี หรือดีน้อยแต่ชั่วมาก ก็ปล่อยวาง คนที่ไม่มีชั่วเลย มีแต่พระอรหันต์เท่านั้นจึงเป็นผู้มีดีหมดจดสมบูรณ์ นอกนั้นแม้กระทั่งพวกเจ้าเอง ก็จงอย่าพึงคิดเข้าข้างตนเองว่าดีแล้วเป็นอันขาด เพราะฉะนั้น จงเป็นผู้โจทย์ตนเองเอาไว้ดีกว่า อย่าไปตำหนิผู้อื่นอันหาประโยชน์ไม่ได้ ดูแต่ชั่ว แก้ความเลวของ กาย – วาจา - ใจ ของตนเองนั่นแหละ ได้ประโยชน์มากกว่า แล้วจักพบหนทางพ้นทุกข์อย่างแท้จริง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-01-2015 เมื่อ 12:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #159  
เก่า 22-01-2015, 09:48
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๑๑. เห็นความไม่เที่ยง เห็นความเปลี่ยนแปลงให้มาก ไม่ว่าภายใน - ภายนอกก็เหมือนกัน ไม่ว่าทั้งร่างกายและจิตใจ หรืออารมณ์ก็ไม่เที่ยง (สัพเพสังขารา อนิจจา) เห็นอันใดจักให้ได้ดังใจนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ทุกอย่าง มีแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่กับความเสื่อม แล้วก็ดับไป เมื่อหาความเที่ยงไม่ได้ดังนี้แล้ว จักหาความปรารถนาที่สมหวังมาจากไหน มองทุกอย่างให้เป็นสภาวธรรม ยอมรับตามความเป็นจริง แล้วปล่อยวาง จิตก็จักเป็นสุข จิตที่ยอมรับทุกอย่างตามความเป็นจริง จิตนั้นย่อมจักไม่ดิ้นรน กล่าวคือไม่เดือดร้อนไปด้วยประการใด ๆ ทั้งปวง (สัพเพธัมมา อนัตตา)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2015 เมื่อ 12:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #160  
เก่า 23-01-2015, 12:22
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๑๒. ให้เห็นความปรารถนาไม่สมหวังเป็นเรื่องธรรมดา จงอย่าผิดหวังหรือเสียใจ อันเป็นอารมณ์ความเศร้าหมองของจิต จุดนี้เมื่อกำหนดรู้แล้ว ให้พิจารณาลงตัวธรรมดา ความผิดหวังหรือเสียใจก็ไม่มีให้เห็น เป็นธรรมดาให้หมด ทุกสิ่งในโลกตั้งความหวังไว้ไม่ได้ ถ้าเราเอาจิตไปหวังผู้ใดนั้นเป็นการหาทุกข์ใส่จิตแล้ว ตั้งความหวังเมื่อไหร่ ทุกข์ก็เกิดขึ้นกับจิตเมื่อนั้น เพราะอาการของการผิดหวังย่อมมีตามมาเป็นธรรมดา

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2015 เมื่อ 13:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:27



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว