| 
		 
			 
			#101  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถ้านิมิตเห็นงู  หลวงพ่อเล็กบอกว่า  "งู  ถ้าไม่ใช่หญิง  ก็หมายถึงกิเลสตัวร้ายในใจของเราเอง"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#102  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			หลวงพ่อบอกว่า "โภชเนมัตตัญญุตา (การรู้จักประมาณในการกิน)  ถ้าคำแรกอร่อยเมื่อไร  คำที่สองต้องระวังให้มากไว้  มันจะกลายเป็นกินตามใจกิเลส!"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-12-2009 เมื่อ 15:42  | 
| สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#103  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			หลวงพ่อเล็กบอกว่า "การรักษาระเบียบวินัยที่เป็นของหยาบยังทำไม่ได้   แล้วการเข้าถึงธรรมที่เป็นของละเอียดจะเข้าถึงได้อย่างไร?"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#104  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			หลวงปู่จันทร์  วัดเจดีย์หลวง  ท่านบอกเอาไว้ว่า  "ถ้าอยากดัง  ก็อย่าหวังความสงบ!"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#105  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ในงานวันอาสาฬหบูชาที่ผ่านมา  มีคนถวายทองคำบูชาพระเขี้ยวแก้วเป็นจำนวนมาก  หลวงพ่อเล็กบอกว่า "ถ้าเผลอเกิดใหม่เป็นผู้หญิงก็จะมีเครื่องมหาลดาปสาธน์เหมือนนางวิสาขา  ถ้าเกิดเป็นผู้ชายได้พบพระพุทธเจ้า  แล้วอุปสมบทเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา   จะมีจีวรที่สำเร็จด้วยฤทธิ์ลอยมาสวมตัวให้"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#106  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			หลวงพ่อเล็กกล่าวว่า "ตัวมโนมยิทธินั้นมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยอยู่ในที่เดียวกัน  ก็คือเห็น    พอเห็นก็มั่นใจว่าต้องเป็นอย่างนั้น  แล้วก็ไม่ค่อยใช้ปัญญาตรองดู   จำไว้ว่า..ถ้าหากรับฟังสิ่งใดมาก็ตาม แล้วรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากล  ก็ให้ไปเทียบกับคำสอนของพระพุทธเจ้า หรือไม่ก็เทียบกับคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ถ้าออกนอกทางเมื่อไร ชักเท้ากลับได้เลย"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2009 เมื่อ 16:24  | 
| สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#107  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 หลังงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๘๐ ปี พระเทพเมธากร เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี วัดท่ามะขาม  หลวงพ่อเล็กได้กล่าวกับพระวัดท่าขนุนด้วยกันว่า   "เรื่องพวกนี้เราดูแล้ว  ถ้ารู้จักสลดใจ ก็ให้นำมาปรับปรุงกาย วาจา ใจของเรา  แต่ถ้าไม่รู้จักสลดใจ แถมยังรักษาอารมณ์ใจไม่เป็น  เราก็จะเตลิด  วันนี้อุตส่าห์ยอมยื่นอาหารให้กิเลสมันกินหน่อยหนึ่ง(ให้ไปออกงานด้วย)  ไม่อย่างนั้นมันจะอกแตกตาย พอกิเลสมันได้กินแล้ว  ก็ภาวนาต่อได้ จริง ๆ แล้วมันหลอกเรา คือ เราสั่งสมกำลังของเราเพื่อที่จะเอาไว้ฆ่ากิเลส หรือไม่ก็เพื่อที่จะเอาไว้ส่งตัวเราเองให้พ้นจากวัฏสงสาร แต่มันหลอกให้เราเสียพลังงานไปทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ  มันรั่วหมด  กำลังก็เลยไม่พอใช้งานสักที แล้วเราก็เต็มใจจะรั่วด้วย มันจึง โอ๊ย..! เครียดจะตายอยู่แล้ว  พอเราเชื่อว่ามันจะตาย เราก็เลยปล่อย พอปล่อยแล้วสบาย ก็เลยปล่อยมันอยู่เรื่อย ความจริงความรู้สึกที่ว่าจะตายแล้วนี่ กิเลสมันจะตายนะ ไม่ใช่เราจะตาย พอกิเลสมันกำลังจะตายแล้ว เราก็ดันไปเชื่อ แล้วก็คิดว่าเราจะตาย ก็เลยไปหยุด มันก็เลยไม่ตายสักที เรื่องพวกนี้ค่อย ๆ ดู ค่อย ๆ ทำไปเถอะ ได้นิดได้หน่อยเก็บสะสมเรื่อย ๆ เดี๋ยวได้มากเอง"  "เรื่องของการปฏิบัติ จริง ๆ แล้วเราต้องทุ่มเทกับมัน โดยเฉพาะการปฏิบัติที่ต่อเนื่อง เป็นเคล็ดลับที่สำคัญที่สุด ถ้าทิ้งช่วงเมื่อไรกิเลสมันเข้าได้ มันกลืนได้ เพราะฉะนั้น..เรื่องพวกนี้สำคัญที่เราต้องสู้จริง ๆ ไม่ใช่ถึงเวลาที่ว่าจะตาย เราก็คิดว่าจะตาย"    "เรื่องของธรรมเนียมเป็นเรื่องเราต้องรู้ไว้ ถึงเวลาจะใช้ได้ อย่างเช่นว่า การตั้งตาลปัตรเทศน์  ตาลปัตรต้องอยู่ซ้ายมือเสมอ  คัมภีร์เทศน์จะต้องอยู่ขวามือ กระโถนก็อยู่ขวามือ แต่อยู่เยื้องไปข้างหลัง เรื่องพวกนี้ถ้าเรารู้ก็จะทำได้ถูก ถ้าไม่รู้ก็จะทำผิด"
		
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2009 เมื่อ 11:21  | 
| สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#108  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			เถรีได้ยินหลวงพ่อพูดถึงเรื่องการสร้างวัตถุมงคลว่า  "เดี๋ยวนี้เขาเห็นการสร้างพระเป็นของเล่น จึงได้สร้างเอา ๆ   เพราะคิดว่าจะได้บุญ  บุญนั้นก็ได้  แต่กรรมที่จะต้องไปใช้นี่สิ..!" 
		
		
		
		
		
		
			กุมภา ๕๓ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-09-2014 เมื่อ 12:23  | 
| สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#109  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			หลวงพ่อบอกว่า  "ตา  หู  จมูก  ลิ้น กาย  ใจ  เป็นบ่อเกิดของกิเลสทั้งนั้น" 
		
		
		
		
		
		
			มกรา ๕๓ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-02-2010 เมื่อ 17:27  | 
| สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#110  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ในเนื้อเพลงมะเมียะ มีการสยายผมลงเช็ดพระบาท 
		
		
		
		
		
		
		
		
	
	เจ้าชายผู้เป็นดวงใจ สะท้อนถึงวัฒนธรรมประเพณี ชาวเหนือแต่โบราณ ที่ดูเหมือนผ่านตาพระอาจารย์ เคยเมตตาเล่าไว้ว่า...อันกุลสตรีชาวเหนือนั้น แสดง ความภักดีต่อสามีอย่างสูงสุดด้วยการปล่อยผมของ ตนลงเช็ดเท้าให้  | 
| สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#111  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			หลวงพ่อ : พรหมวิหารสี่แก้ราคะได้อย่างไร? 
		
		
		
		
		
		
			เถรี : .............. หลวงพ่อ : ในเมื่อเราเห็นว่าทุกข์ เรารักเขาก็อย่าไปสร้างทุกข์ให้เขา สงสารเขาก็อย่าไปไปสร้างทุกข์ให้เขา ไม่ไปผูกเวรผูกกรรมกับใครเขา เถรี : ![]() กุมภา ๕๓ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 28-02-2010 เมื่อ 05:45  | 
| สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#112  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า "ทุกครั้งที่อารมณ์ทรงตัวได้ดี  ให้คิดว่าเป็นโอกาสของเราแล้ว  รีบพยายามกอบโกยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้    เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว  จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งทำกันใหม่อีก" 
		
		
		
		
		
		
			กันยา ๕๑ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-02-2010 เมื่อ 15:26  | 
| สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#113  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า "พระศรีอาริยเมตไตรย  ท่านสงเคราะห์หลวงพ่อหลายวาระ  โดยผ่านร่างทรงชื่อว่า ปรีชา  ทรงธรรม  พวกเราต้องเคยได้ยินชื่อ   
		
		
		
		
		
		
			ท่านบอกว่าท่านจะสงเคราะห์อย่างไร ช่วยอย่างไร ถึงเวลานั้นจะเอาของมาถวาย และก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ ท่านนั่งคุยกันอยู่ข้างบน แต่คนข้างล่างเอามาถวายแทน ท่านเป็นร่างทรงที่พระศรีอาริย์ให้การสงเคราะห์โดยเฉพาะ ไม่ได้ทรงเปะปะอะไรทั่วไป เป็นการสงเคราะห์เฉพาะคนเลย และท่านก็พยากรณ์เกี่ยวกับวัดท่าซุงไว้หลายอย่าง...ซึ่งตรง" ถาม : อยากรู้ครับ ตอบ : ถ้าบอกได้บอกไปแล้ว ตุลา ๕๑ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-02-2010 เมื่อ 19:20  | 
| สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#114  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			งานพิธีเป่ายันต์ ปี ๒๕๕๑ พระอาจารย์กล่าวว่า  " การที่เราจะทำ ความดีอะไร ที่จะให้ในหลวงทรงมีกำลังใจ   ที่จะอยู่นาน ๆ ก็คือ การที่เราสร้างความดี  ใน ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ในหลวงทรงโปรดที่สุด  เพราะพระองค์ท่านทรงปฎิบัติมาทั้งชีวิต" 
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#115  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  " ผู้ที่แสวงหาทางหลุดพ้น คือ ผู้ที่เห็นภัยของสังสารวัฏ" 
		
		
		
		
		
		
			กรกฎา ๕๑ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#116  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์ท่านสอนว่า "สำหรับนักปฏิบัติแล้ว จะงานเล็กงานใหญ่ทุ่มเทกำลังเท่ากัน  เพื่อความไม่ประมาท   งานเล็กถ้าทุ่มเต็มที่ก็เสร็จเร็ว งานใหญ่ทุ่มเต็มที่เดี๋ยวก็เสร็จเอง  และถ้าไม่เสร็จ....การทุ่มเทเต็มที่ก็เป็นคำตอบแก่ตัวเองอยู่แล้ว"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#117  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์เคยบอกว่า  "ในการพูดธรรมะให้ผู้อื่นฟัง การที่จะทำให้คนอื่นฟังเข้าใจได้ง่าย อยู่ตรงที่ว่า สามารถเรียงลำดับเรื่องราวได้หรือไม่ ? 
		
		
		
		
		
		
			อย่างแรก ต้องมี อุเทศ คือ รู้ว่าธรรมะที่เราจะกล่าวนั้น มาจากที่ใด ? เกิดขึ้นด้วยเหตุใด ? เหมาะแก่จริตผู้ฟังนั้นหรือไม่ ? อย่างที่สอง ต้องมี นิเทศ คือ ต้องขยายเนื้อความธรรมะนั้นให้แตกออกอย่างกว้างขวางได้ อย่างที่สาม ต้องมี ปฏินิเทศ ต้องย่อสรุปในธรรมะนั้นในตอนท้ายให้ได้ ท่านบอกว่า บางทีพูดยาวไปเรื่อย คนฟังจะจับใจความไม่ได้ เราก็ต้องมาสรุปให้เขาฟังอีกที พระทั่วไปไม่พ้นจากการใช้วิธีการนี้หรอก" มกรา ๕๒ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-03-2010 เมื่อ 12:38  | 
| สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#118  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์เคยบอกว่า "ในบรรดาสังขารทั้งหลาย จิตสังขาร น่ากลัวที่สุด  เรามักไปปรุงแต่ง คิดเอาไว้ก่อน" 
		
		
		
		
		
		
			จิตสังขาร = การปรุงแต่งของจิต ตุลาคม ๕๑ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-03-2010 เมื่อ 12:39  | 
| สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#119  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			หลวงพ่อหยิบ หนังสือมนต์พิธี (เล่มสีเหลือง)ให้   แล้วสั่งให้เปิดไปที่หน้า ๗๓ บรรทัดที่ ๑  
		
		
		
		
		
		
			ท่านบอกว่าเป็นคาถาแก้เขินอาย ท่องคาถานี้แล้วจะแกล้วกล้า อาจารย์ให้คาถานี้หลวงพ่อมาอีกที หลวงพ่อจะใช้สวดก่อนที่จะขึ้นปาฐกถาธรรม คาถานี้คือ สีหะนาทัง นะทันเต เต ปะริสาสุ วิสาระทา มิถุนา ๕๑ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวเล็ก : 03-07-2014 เมื่อ 18:10  | 
| สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#120  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			หลวงพ่อบอกให้มารับหนังสือมนต์พิธี  ท่านบอกให้เปิดไปที่หน้า  ๓๑   คาถาเมตตานิสังสะสุตตะปาโฐ 
		
		
		
		
		
		
			ท่านบอกว่า ถ้าสวดคาถานี้แล้ว ใจจะสงบ ไม่ครั่นคร้าม ไปที่ใดจะมีแต่ภูตผีเทวดาเมตตา หน้า ๖๓ ก็เช่นกัน คาถากะระณียะเมตตะสุตตัง ท่านยังบอกให้เปิดไปที่หน้า ๗๒ ตั้งแต่ "นะโม เม สัพพะพุทธานัง" ไปจนถึง "โคตะโม สักยะปุุงคะโว" เป็นคาถาที่เอ่ยถึงพระนามของพระพุทธเจ้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ท่านบอกให้สวดคาถานี้ด้วย สิงหา ๕๑ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 03-03-2010 เมื่อ 15:50  | 
| สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]()  | 
	
	
		
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
		
  | 
	
		
  |