กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 23-07-2009, 07:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พอเราเห็นอะไร แล้วมีอารมณ์ปล่อย มันก็เป็นธรรมดา เมื่อมันเป็นธรรมดา ก็เห็นว่ามันไปลงตรงกฎแห่งกรรมตลอดค่ะหลวงพ่อ
ตอบ : จริง ๆ ท้ายสุดแล้ว เราทำไปก็ไปลงตรงจุดที่ว่า เราทำแล้วเราได้ ในเมื่อเราทำเองทำไมเราจะรับมันไม่ได้ จะว่าเป็นกฎของกรรม ก็คือกรรมของเรานั่นแหละ เราทำเอง

คำว่าธรรมดา มีอยู่ในทุกระดับ ปุถุชนมีคำว่าธรรมดาของปุถุชน กัลยาณชนมีคำว่าธรรมดาของกัลยาณชน อริยชนมีคำว่าธรรมดาของอริยชน แต่ละขั้นตอนของธรรมดามันไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับแต่ละระดับกำลังใจของแต่ละคน

แต่ว่าคำว่าธรรมดานี้มันหากินได้ตั้งแต่ต้นยันปลาย เพราะท้ายสุดของธรรมดาก็คือ ไม่มีอะไรเป็นของเรา ก็ธรรมดามันเป็นอย่างนั้นเอง จะเอาให้ได้ดั่งใจมันก็ไม่ได้ ในเมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ช่างมัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-11-2009 เมื่อ 14:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 23-07-2009, 07:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การคิดเป็นมโนกรรมได้อย่างไร?
ตอบ : ทันทีที่เราคิดมันสร้างเหตุแน่ ๆ แล้ว เมื่อสร้างเหตุ ผลมันจะมา มามากมาน้อยก็แล้วแต่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-10-2016 เมื่อ 21:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 23-07-2009, 09:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เกี่ยวกับเรื่องทาน ?
ตอบ : ในส่วนของสาธารณประโยชน์ ทำแล้วเกิดประโยชน์แก่คนอื่นมากก็ใช่ แต่ขณะเดียวกันเราต้องไม่ลืมว่าเนื้อนาบุญก็สำคัญ ไม่เช่นนั้นก็จะเหมือนกับอังกุรเทพบุตร ตั้งโรงทานเพื่อสาธารณะ ๘๐ โรง ตลอดสองหมื่นปี ไปเกิดเป็นเทวดาที่อานุภาพน้อยที่สุด เพราะว่าไปทำบุญในช่วงที่โลกว่างจากศาสนา คนไม่มีศีลไม่มีธรรม

แต่ว่าให้ทำไปเถอะ จะมากจะน้อยก็ทำไป มีโอกาสแล้วเราทำ ไม่ละ...ไม่เว้น บุญใหญ่ก็เอา บุญเล็กก็เอา กวาดให้หมด ใครจะว่างกก็ช่าง..!

ถาม : การเลือกเนื้อนาบุญ ?
ตอบ : การเลือกนั้นมีปัญญาบารมีคุมอยู่ ก็คือในเมื่อทำแล้วก็ควรจะให้ได้ผลมากที่สุด แต่ว่าขณะเดียวกันถ้ามีโอกาสทำ แม้ทำแล้วผลน้อยกว่าปกติ ก็ยังทำอยู่ ทำเพราะรู้ว่าสิ่งนั้นดีเราจึงทำ ไม่ใช่ว่าตั้งหน้าตั้งตาจะเอาบุญอย่างเดียว ถ้าตั้งหน้าตั้งตาจะเอาบุญอย่างเดียว ในอภิธรรมเขาบอกว่า เป็นโลภเจตนา จะไปลดส่วนบุญลง

ถาม :
ทำบุญให้ได้อานิสงส์เต็ม ?
ตอบ : ให้ดูว่าบริสุทธิ์โดยสี่ส่วนหรือเปล่า ถ้าบริสุทธิ์โดยสี่ส่วน เจตนาบริสุทธิ์ ทำเพื่อหวังตัดสละออกในความโลภนั้นหรือเปล่า
วัตถุทานบริสุทธิ์ ได้มาโดยถูกต้องตามศีลธรรมและกฎหมาย ไม่ได้ลักขโมยหรือช่วงชิงหลอกลวงใครมา
ผู้ให้บริสุทธิ์ มีศีลตามเพศภาวะของตน ตั้งใจให้เพื่อเป็นการตัดความโลภจริง ๆ ไม่ได้ให้เพราะอยากอวดคนอื่นเขา ไม่ได้ให้เพราะอยากให้คนอื่นเขาเห็นว่าเราเป็นคนดี
และท้ายสุดผู้รับบริสุทธิ์

ถ้าบริสุทธิ์โดยสี่ส่วนก็แปลว่าอานิสงส์เต็มสมบูรณ์ จะประกอบด้วยโลภเจตนาหรือไม่ ไปว่ากันในส่วนละเอียดเอาทีหลัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2020 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 23-07-2009, 10:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อคะ..เวลาอยู่ของอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง ตอนนี้หดสั้นกว่าเมื่อก่อนค่ะ ?
ตอบ : กิเลสเศร้าหมองเสียแล้ว..!

ถาม : เมื่อก่อนเราอยู่กับตรงนั้นได้นาน ตอนนี้จะไปต่อก็ไปไม่ได้ เพราะว่าชินกับอารมณ์ไม่เข้าไปยึด ?
ตอบ : ต่อไปจะแย่กว่านี้ คือ พยายามจะช่วยคิดก็ไม่ยอมขึ้น

ถาม : ใช่เลยค่ะ คิดแล้วไม่ขึ้น หนูก็พยายาม ?
ตอบ : เมื่อแย่ขนาดนั้นแล้ว ต่อไปจะแย่กว่านั้นอีก แค่คิดยังไม่คิดเลย ค่อย ๆ ทำไป อันนั้นแย่ในลักษณะของโลกียบุคคลทั่ว ๆ ไป แต่สำหรับนักปฏิบัติแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะว่าเราทำมาทั้งชีวิตก็หวังตรงนี้ แต่ว่าอย่าไปทดสอบเพราะว่ากิเลสอาจจะกำเริบได้ ถ้าเราทดสอบแปลว่าเราประมาท

ถาม : พยายามจะสร้างอารมณ์ ให้กลับ ๆ ๆ ไปหากิเลส ?
ตอบ : กิเลสตื่นขึ้นมา เดี๋ยวก็โดนงับตาย..!

ถาม : ทำไปเรื่อย ๆ ถ้ามาเมื่อไร เท่ากับข้อสอบมาแล้ว ?
ตอบ : ไม่ใช่ เราต้องไม่หวังว่ากิเลสจะมา พยายามหลบเลี่ยงทุกวิถีทาง เพราะว่าคนที่จะรบในการศึก จะต้องมีความรู้และแน่ใจว่าในการศึกครั้งนั้นเราจะชนะ ไม่อย่างนั้นรบไปเราก็แพ้ จะไปบอกว่าเราแพ้ศึกครั้งนี้แต่ยังไม่ได้แพ้สงคราม อย่าไปเอา วิธีนั้นปล่อยให้นักการเมืองเขาใช้กัน

แพ้ศึกแต่ไม่ได้แพ้สงคราม เข้าใจความหมายไหม แพ้เฉพาะครั้งนี้ แต่ภาพรวมทั้งหมดยังไม่ได้แพ้ แต่ในสายตาชาวบ้านเราแพ้ราบอย่างเห็น ๆ เลย

ถาม : แล้วบางครั้งเวลาที่เราเจอคนอื่น บางทีไม่ได้อยากคุย อยากอยู่กับสมาธิของตนเองมากกว่า แต่ที่ต้องคุยเพราะอยากรักษาน้ำใจเขา ?
ตอบ : อันนั้นดูตัวเราในส่วนที่ว่า เราสามารถรักษากำลังใจไม่ไหลตามสิ่งที่เป็นในปัจจุบันได้ไหม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2020 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 23-07-2009, 21:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปกติเวลาหลวงพ่อท่านเทศน์หรือเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง ก็จะมีคุณสุรจิตรที่คอยเวียนถวายค่ากัณฑ์เทศน์ให้หลวงพ่อตลอด เงินที่ถวายหลวงพ่อแต่ละครั้ง ก็ ๑ บาทบ้าง ๒ บาทบ้าง เห็นดังนี้แล้ว หลวงพ่อท่านก็เลยเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า

"ที่เมืองจีนเขามีการเรี่ยไรเพื่อหล่อพระพุทธรูปองค์ใหญ่ พระท่านก็ไปประกาศเรี่ยไร มีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอาชีพกวาดถนน เกิดศรัทธาอยากจะถวาย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินอยู่อีแปะเดียว ตัดสินใจถวายร่วมด้วย พระที่เรี่ยไรนั้นอยู่ในอารมณ์ไหนไม่รู้ เห็นว่าเงินมันน้อยเหลือเกินก็เลยโยนคืนให้

'จะเอาไปทำอะไร...ก็เอาไป บริจาคมาแค่นี้ พระองค์ใหญ่ตั้งหลายวา' ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยเก็บอีแปะนั้นไว้

เมื่อพระท่านเรี่ยไร ได้ทองแดงทองเหลืองจำนวนมากพอที่จะหล่อพระแล้ว ก็ปรากฏว่าหล่อไม่ติด ครั้งแรกพอทุบเบ้าออกมาเนื้อทองแล่นไม่ทั่ว ต้องเริ่มต้นทำแบบใหม่ ครั้งที่สองก็เป็นแบบนั้นอีก ครั้งที่สามก็เป็นแบบนั้นอีก หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านประสบการณ์สูง เรียกพวกลูกวัดและบรรดากรรมการวัดทั้งหมดมาสอบถาม ว่าในช่วงที่ออกไปเรี่ยไรขอทองแดง ทองเหลืองจากชาวบ้าน มีเหตุอะไรผิดปกติบ้างหรือเปล่า

ท่านก็ไล่สอบถามพระไปทีละสาย ๆ จนไปเจอพระสายนี้ บอกว่ามีหญิงคนหนึ่งที่เขากวาดถนนอยู่ เขาบริจาคมาหนึ่งอีแปะเห็นว่ามันน้อยไปก็เลยโยนคืนให้ ปรากฏว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสพาพระทั้งวัดไปขอขมาแล้วขอเหรียญอีแปะนั้นคืน

เมื่อได้เหรียญอีแปะนั้นแล้ว ก็เอาใส่ลงไปเพื่อหล่อพระ ทุบแบบออกมา ปรากฏว่าเป็นองค์พระบริบูรณ์ สมบูรณ์ทุกประการ และที่อัศจรรย์ที่สุดก็คือ อีแปะเหรียญนั้นไม่ละลาย แต่ไปติดอยู่ตรงหน้าอกพระ ตรงหัวใจพอดี

หลวงพ่อเจ้าอาวาสจึงขอรายละเอียด ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นเขามีอาชีพกวาดถนน เงินเดือนแทบไม่พอยาไส้ อีแปะเหรียญนั้นเขาซื้อข้าวต้มเปล่าได้ถ้วยเดียว และเป็นอาหารประจำวันของเขา มันเป็นทานตัดชีวิตเลย เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าแค่บาทเดียวนะจ๊ะ มากพอที่พระจะปาราชิกเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 24-07-2015 เมื่อ 14:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 24-07-2009, 14:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "สมัยที่ไปอยู่เกาะพระฤๅษีใหม่ ๆ เขาก็ถวายอาหารที่ดีที่สุดกับพระ......ผัดเผ็ดคุณวรนัส (เหี้ย)..!

ถ้าหากว่าหน้าฝนใหม่ ๆ พวกนี้จะออกหากินกันเยอะ เพราะว่าหน้าแล้งแล้วส่วนใหญ่อาหารไม่ค่อยมี พวกนี้ก็จะโดนล่าประจำ

ตอนแรกอาตมาก็ตักมาดู ปลาอะไรวะ กระดูกเป็นสามเหลี่ยมสามแฉก พอนึกว่าอะไรวะ เล่นโผล่มาเลย ตัวเบ้อเร่อ ต่อหน้าต่อตา แถมทวงส่วนกุศลด้วยว่า 'กินผมต้องให้บุญผมด้วย'

ตั้งแต่นั้นมาเลยติดนิสัย ติดนิสัยตรงที่ว่าเวลาจะฉันอาหารจะอุทิศส่วนกุศล ตั้งใจว่าเธอทั้งหลายที่สละเลือดเนื้อร่างกายเพื่อเป็นอาหารอยู่ในขณะนี้ บุญตั้งแต่ต้นที่เราทำมาจนถึงบัดนี้ มีประโยชน์ความสุขแก่เราเท่าไหร่ ขอให้เธอทั้งหลายโมทนาได้รับประโยชน์ความสุขนั้นด้วยเถิด

ก็เลยชิน โดนทวง จึงให้เขาบ่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2020 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 24-07-2009, 17:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยเขียนกลอนให้หลวงตาค่ะ ใช้เวลา ๒ นาทีเท่านั้น

วัชชีสามัคคีพร้อม เพรียงกัน
เยศผู้รุกราน ถ้วนหน้า
ระบือก้องสถาน ชมพูทวีปเฮย
ชัยชนะที่งามพร้อม เพียบด้วย ความดี
อินทราบ่งบอกชี้ วานวงศ์
ทะยานเยี่ยมยรรยง ยิ่งฟ้า
วังเวียงเพียงผจง ฉุดรั้งอยู่ฤๅ
โสฬสยังมิข้อง หมายมุ่งนฤพาน


สังเกตคำหน้าของแต่ละวรรคค่ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 24-07-2009, 23:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาไปหล่อพระ เราต้องขออนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยหรือคะ?
ตอบ : ควรจะทำการบวงสรวงบอกกล่าว เรามานึกถึงในหลวง เราจะทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่านต้องกราบขอบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต หรือแม้กระทั่งในหลวงยังเคารพพระพุทธเจ้าเลย บุคคลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเราจะทำอะไรส่งเดชได้ ถ้าหากว่าทำส่งเดชก็แปลว่ากำลังใจของเรายังไม่เคารพท่านจริง ๆ ในเมื่อไม่เคารพท่านจริง ๆ มันก็มีการปรามาสพระรัตนตรัยเป็นปกติอยู่แล้ว คือ ไม่เห็นความสำคัญ ถ้าอย่างนั้นก็เจริญยาก

เวลาบวงสรวงกราบขออนุญาต ถ้าอนุญาตก็ขอให้มีนิมิตหมายอย่างชัดเจนเลยว่าอนุญาตให้ทำ หรือได้มโนมยิทธิขึ้นไปกราบทูลขอด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง

ถาม : ถ้าหากมีนิมิตมาบอกก่อนล่ะคะ?
ตอบ : ถ้ามีนิมิตมาบอกก่อน ให้ขอซ้ำ ขออีกครั้ง ไม่อย่างนั้นไม่เชื่อ ถ้าหากว่าสองครั้งแล้ว ขออีกครั้งก็ได้ จะได้มั่นใจจริง ๆ

ถาม : ตอนนี้ยังหาที่หล่อพระไม่ได้ หาได้ยาก
ตอบ : เพราะว่าข้ามขั้นตอน ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก็คือ กราบขออนุญาต
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-11-2010 เมื่อ 19:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 24-07-2009, 23:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในกรณีที่เราทำบูชาโดยส่วนตัว อย่างทำเป็นรูปพระออกมา?
ตอบ : แม้กระทั่งจะเอารูปเพื่อนไปใส่เสื้อ ยังต้องบอกมันเลย นี่แค่ปุถุชน แล้วเรื่องของพระท่าน สมควรที่จะมีความละเอียดลออให้มากเข้าไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-11-2010 เมื่อ 19:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 26-07-2009, 12:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "ต้องบอกว่าคนก็คือคน ถ้าหากว่าเป็นคนแล้วมันไม่ยุ่งก็ไม่ใช่คน วันก่อนชอบใจอาจารย์บรรเจิด ท่านอาจารย์บรรเจิด เทวธมฺโม เป็นเจ้าอาวาสวัดประจำไม้ เป็นญาติของพระครูปลัดปรีชา เขาไปสวดมนต์ฉลองพระใหม่ นัดแนะไว้ว่าหกโมงครึ่งอาหารต้องพร้อม

ปรากฏว่าแปดโมงแล้วอาหารยังไม่เสร็จ พระครูก็บ่นตั้งแต่หกโมงครึ่งยันแปดโมง บ่นไปบ่นมาอาจารย์บรรเจิดก็พูดประโยคหนึ่ง เราได้ยินแล้วชอบใจ 'จะเอาอะไรกับมันนักหนา ก็มันเป็นคน ถ้าหากมันพร้อมสมบูรณ์ก็เป็นเทวดาไปแล้วสิ' ท่านเข้าใจปลง

ต่อไปใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็แสดงว่ามันยังเป็นคน ดีพร้อมสมบูรณ์เป็นเทวดาไปแล้ว อย่างน้อยก็ช่วยได้ เราจะได้ไม่ต้องไปปรี๊ดแตก "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-11-2010 เมื่อ 19:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 26-07-2009, 14:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถามถึงพระโลสกะ ที่บิณฑบาตแต่กลับไม่ได้ข้าวฉันสักมื้อเลย

ตอบ : ได้ฉันก่อนตายครั้งหนึ่ง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านอยู่ได้ ต้องบอกว่าอยู่ด้วยแรงกรรม เพราะท่านขาดทานบารมีอย่างแรงเลย ไม่ทราบว่าความดีอย่างไรทำให้ท่านเกิดเป็นคนและมีวาสนาได้บวชพระ

เขาบอกว่าท่านบวชพระ เป็นพระใหม่ ถึงเวลาเดินบิณฑบาตก็อยู่ท้ายแถว ชาวบ้านใส่ข้าวไม่ถึงตำแหน่งท่าน ข้าวก็หมดเสียก่อน ท่านไม่ได้ข้าวสักเม็ดเดียว

พระอุปัชฌาย์ก็เลยให้ท่านอยู่หัวแถวในวันรุ่งขึ้น ชาวบ้านก็คิดว่าเมื่อวานนี้เราใส่จากหัวแถวไปท้ายแถวทำให้ตรงท้ายแถวไม่ได้ วันนี้จะใส่จากท้ายแถวมาหัวแถวบ้าง ปรากฏว่าท่านก็อดอีก

พระอุปัชฌาย์ก็บอกว่าถ้าเช่นนั้นคุณอยู่ตรงกลาง ชาวบ้านก็คิดอีกว่าเมื่อวานเราใส่จากท้ายแถว วันก่อนเราใส่จากหัวแถว แล้วท่านไม่ได้ วันนี้จะแบ่งเป็นสองพวก ใส่จากหัวแถวและท้ายแถว พอถึงตรงกลางก็หมดอีก

พระสารีบุตรเห็นดังนั้นก็เลยรู้ว่าเป็นกรรมของเขาจริง ๆ พยายามช่วยแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ บอกเอาอย่างนี้แล้วกัน คุณอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวผมจะบิณฑบาตมาเลี้ยงเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นท่านก็เลยได้ฉันอาหารเต็มที่ครั้งเดียวในชีวิต พอร่างกายสบายก็มาพิจารณาธรรมแล้วเห็นทุกข์ ตั้งแต่เกิดมาไม่รู้อยู่มาได้อย่างไร ไม่ได้กิน ต้องบอกว่ากรรมรักษา พอท่านสลดใจจิตก็เลยปลดออกจากร่างกาย กลายเป็นพระอรหันต์ แล้วขอนิพพานตอนนั้นเลย เห็นโทษจริง ๆ ไม่อยากอยู่อีกแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 26-07-2009, 14:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วหลวงพ่อท่านก็เล่าอีกว่า "มีสามเณรอยู่รูปหนึ่ง บุญดีเกินเหตุ เวลาบิณฑบาตท่านเกิดอารมณ์กรรมฐานขึ้นมา ก็เลยบอกพระอุปัชฌาย์ น่าจะเป็นพระสารีบุตร

สามเณรบอกว่า ท่านผู้เจริญกระผมจะเข้าปฏิบัติกรรมฐาน ถ้าหากว่าท่านออกบิณฑบาต ช่วยเหลืออาหารไว้ให้กระผมด้วย พระสารีบุตรท่านก็เมตตา แล้วถามสามเณรว่าอยากกินอะไร สามเณรบอกว่าอยากกินต้มปลาตะเพียน (สั่งได้ด้วยนะ) พระสารีบุตรก็บอกว่าไม่แน่ใจว่าจะมีหรือเปล่า สามเณรบอกว่า มั่นใจว่าถ้าไม่ได้ด้วยบุญของพระอาจารย์ก็จะได้ด้วยบุญของผมเอง มั่นใจขนาดนั้น แล้วท่านก็ไปเจริญกรรมฐานเป็นพระอรหันต์ตอนนั้น พระสารีบุตรไปบิณฑบาตได้ต้มปลาตะเพียนมาจริง ๆ

เป็นประเภทบุญดีจนเมนูสั่งได้ก็มี ประเภทบุญไม่ได้เรื่อง จนกระทั่งในชีวิตได้กินเพียงครั้งเดียวก็มี ถ้ามีโอกาสจะรวบรวมมาเป็นเนื้อหาสั้น ๆ เอาไว้ให้อ่านเล่น ไม่รู้จะมีเวลาทำหรือเปล่า เพราะว่าต้องไปค้นพระไตรปิฎก รายละเอียดบางอย่างอ่านมานานแล้วนึกไม่ออก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 26-07-2009, 19:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนี้พบกับวิบาก เกี่ยวกับพ่อแม่และบริวาร ตรงนี้วางกำลังใจไม่ถูกค่ะ ต้องใช้กรรมฐานกองไหนคะ ?
ตอบ : พรหมวิหาร ๔ ข้ออุเบกขา

ถาม : ตอนนี้ทะเลาะกับลูก แล้วเรางอนเขา ตรงนี้จะเป็นกรรมหรือไม่ ?
ตอบ : เป็น..เดี๋ยวลูกเขาก็งอนเราบ้าง มีโอกาสก็ไปขอโทษเขา

ถาม : แต่ตัวเราไม่ผิด ?
ตอบ : ถ้าไม่ผิดก็ยอมรับว่าผิดเสียก็หมดเรื่อง ที่ทะเลาะกันก็เพราะคิดว่าเราไม่ผิด ความจริงเราผิดตั้งแต่เกิดมาแล้ว ถ้าไม่ผิดก็คงไม่เกิดมาเจอเรื่องแบบนี้

ถาม : ตอนนี้วางกำลังอย่างไร ?
ตอบ : บอกแล้วว่าช่างมัน อุเบกขาเอาไว้

ถาม : กำลังใจตกมาก ขอคำสอนยาว ๆ ได้ไหมคะ ?
ตอบ : นี่ก็ยาวมากแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2020 เมื่อ 20:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 26-07-2009, 22:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "เคยสังเกตหรือเปล่าว่าอย่าไปตั้งความหวังกับคนอื่น จนป่านนี้เราก็ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือ คนอยู่ที่ไหนมันก็เป็นคนไปเรื่อย ให้มันเป็น มนุสสะ มนุสโส มนุสสภูโต หรือ มนุสสเทโว มันก็ไม่ค่อยเป็น ในเมื่อมันไม่ค่อยเป็น ทีนี้เราไปหวังว่าเขาจะเป็น ทีนี้คนผิดหวังก็เราเอง เอวัง ก็มีด้วยประการละฉะนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-07-2009 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 26-07-2009, 23:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนถามเรื่องการเรี่ยไรเงินทำบุญต่าง ๆ ว่าสมควรหรือไม่อย่างไร

หลวงพ่อท่านตอบว่า "เสมอตัวกับขาดทุน ไม่มีกำไร ถ้าเขาทำบุญด้วยก็เสมอตัว ถ้าเขาไม่ทำด้วยเราจะขาดทุน ดีไม่ดีเราจะโกรธเขาด้วย แล้วถ้าเขาไม่ทำด้วยไม่พอ ยังด่าเราด้วยนี่ยิ่งไปกันใหญ่

ถ้าหากจะทำ พึงใช้ปัญญาพิจารณาให้รอบคอบ ว่าบุคคลใดเป็นผู้มีศรัทธา บุคคลใดเป็นผู้ไม่มีศรัทธา แล้วก็เลือกบอกบุญ บอกเขาแค่ว่าจะทำอะไร ส่วนเขาจะช่วยหรือไม่ช่วยเรื่องของเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 27-07-2009, 12:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)

ตอบ : ไม่ต้องไปหามันหรอก มันเกิดจากใจที่ปรุงแต่ง คราวนี้การปรุงแต่งของฝ่ายชั่วมันปรุงแต่งไปในด้านของรักโลภโกรธหลง เพราะฉะนั้นตัวเราเองเป็นได้ทั้งสัตว์นรกและเทวดา มันอยู่ที่ว่าเราจะปรุงแต่งใจไปทางไหน

ถ้าหากว่าเราปรุงดี ๆ ระดับเชลล์ชวนชิมก็อาจจะเป็นระดับวิสุทธิเทพไปนิพพานเลย ฉะนั้นปรุงให้ดี ๆ นะจ๊ะ อุตส่าห์ล้างไห ล้างหม้อมาตั้งนานแล้ว เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือให้ดี ๆ ตอนนี้อยู่ที่ฝีมือปรุง ส่วนผสมทุกอย่างมีครบแล้ว ครูบาอาจารย์เขามีหน้าที่บอกสูตรนี้ทำอย่างไรบ้าง คนทำคือตัวเรา คนอื่นไม่สามารถจะทำแทนเราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 27-07-2009, 15:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "พอก้าวไปอีกจุด ๆ หนึ่งมันจะมีตัวอุเบกขา คือ ความไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์กระทบต่าง ๆ เจ้าตัวนี้ก็คือ ช่างมัน เรื่องของเขา เราก็อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 27-07-2009, 16:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนถามว่า "ยันต์เกราะเพชรนี่กันโรคไข้หวัด ๒๐๐๙ ได้ด้วยใช่หรือไม่ครับ"

หลวงพ่อบอกว่า "ถ้าเรามั่นใจ สำคัญอยู่ตรงความมั่นใจของเรา สมัยโรคเอดส์ระบาดใหม่ ๆ อาตมาฟันธงเลย เราไม่เป็นแน่นอนเพราะเรามียันต์เกราะเพชร ไปถามหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกว่ากันได้ ท่านบอกว่าไสยศาสตร์ซึ่งเป็นของละเอียดยังกันได้ นับประสาอะไรกับของหยาบอย่างพวกโรคภัย ทำไมจะกันไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 27-07-2009, 17:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนถามถึงการโหลดคลิปต่าง ๆ ในเว็บ ว่าเป็นการผิดศีลข้อ ๒ หรือไม่

หลวงพ่อบอกว่า "ถ้าเขาอนุญาตให้โหลดก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาไม่อนุญาตแล้วยังหาวิธีไปโหลดจนได้ก็ผิด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 27-07-2009, 18:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,488 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การบวงสรวง ที่มีไก่หรือหัวหมูอยู่ในพิธีด้วย ตรงนั้นมีความหมายว่าอย่างไรคะ?
ตอบ : ไม่มีอะไร ท่านท้าวมหาราชท่านขอไว้เป็นสัญลักษณ์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-11-2010 เมื่อ 18:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:14



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว