กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 11-12-2014, 19:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับเด็กนักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ว่า "ถ้าหากว่าเรียนดีกีฬาเด่นก็ครบถ้วน ถ้าหากว่าดีด้านเดียวก็กลายเป็นว่าขาดไปส่วนหนึ่ง เพราะฉะนั้น..บอลจตุรมิตรสามัคคี ระยะหลังเทพศิรินทร์ผูกปีแพ้ ปีนี้ชนะได้ ขนาดอาตมาไม่ใช่ศิษย์เก่าเทพศิรินทร์ยังดีใจแทนเลย ชนะได้สักที ขืนแพ้นานไปเดี๋ยวเฉา คือประเภทแพ้แล้วแพ้อีกแล้วไม่ท้อถอยนั้นหายาก ต้องมีแพ้บ้างชนะบ้างจะได้มีกำลังใจ พระพุทธเจ้าตรัสว่า อัตตา หะเว ชิตัง เสยโย การชนะตนได้เป็นดีที่สุด ชนะอย่างอื่นไปก็เท่านั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2014 เมื่อ 20:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 11-12-2014, 19:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "รองานสร้างมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำนี้เสร็จแล้ว เฮียจั๊วก็คงสบายใจ อายุ ๗๐ กว่าแล้ว ขอทิ้งผลงานเอาไว้อีกสักชิ้นหนึ่ง ตอนนี้อยู่ในระหว่างที่ถ่ายแบบเป็น ๑ ต่อ ๑ ก็คือขนาดเท่าของจริง แต่คราวนี้ก็ต้องใช้ระยะเวลา น่าจะประมาณอีกเดือนหนึ่ง กว่าแบบจะเสร็จ ช่วงนี้เขาว่าอยู่ในระหว่างหาวัสดุ พอดีเขามีไม้สักทองใหญ่ที่เป็นไม้เก่า เหลือจากซ่อมเรือพระราชพิธีกับซ่อมพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทอยู่ อาตมาบอกว่าขนมาได้เลย

ปกติแล้วค่าถ่ายแบบจะเป็น ๕ เปอร์เซ็นต์ของราคาที่เซ็นสัญญา ก็แปลว่าอาตมาจะต้องจ่ายประมาณ ๖๒๕,๐๐๐ บาท แต่เขาทำให้ฟรี ๆ และเป็นช่วงจังหวะพอดี จะทำงานทีไรจะมีคนเข้ามาพอดี จึงเชื่อแล้วว่าขอให้ทำตามที่หลวงพ่อบอกเถอะ ท่านเตรียมทุกอย่างไว้แล้วแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2014 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 11-12-2014, 19:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บรรดาพิณพาทย์ สะล้อ ซอ ซึง เครื่องสายเก่า ๆ ฟังแล้วเย็น พวกดนตรีรุ่นใหม่ ๆ พวกร็อก พวกพังก์ นี่ประเภทฟังแล้ว รัก โลภ โกรธ หลง กำเริบ เฮฟวี่เมทัล..ใช่ไหม ? ฟังกันหูจะพัง ต้องพวกหูเหล็กถึงจะฟังได้ คาดว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้อายุมากหน่อย ต้องมีปัญหาเรื่องการได้ยินอย่างแน่นอน

งานสงกรานต์ที่จังหวัดกาญจนบุรี จะเป็นเวลาโชว์เครื่องเสียง บรรดารถต่าง ๆ บ้านต่าง ๆ จะเอาเครื่องเสียงมาเปิดกันสนั่นหวั่นไหวไปหมด บางทีอาตมาวิ่งรถผ่านไปประมาณ ๑ กิโลเมตร โดนเครื่องเสียงอัดจนเหนื่อยเลย กระแทกตึง ๆ อัดจนแทบจะตาย บ้านโน้นก็ขนโฮมเธียเตอร์มา บ้านนี้ก็เครื่องเสียง ไอ้นั่นเปิดรถทั้งคัน ดูแล้วลำโพงประมาณ ๒๐ ตัว แล้วเขาทนฟังของเขาได้อย่างไรก็ไม่รู้ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2014 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 13-12-2014, 07:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อเคยเห็นดวงแก้ววิเศษของหลวงพ่อวัดท่าซุงบ้างไหมครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าแก้วจักรพรรดิ เคยเห็นออกจะบ่อยไป เคยถ่ายรูปลงเว็บเอาไว้ด้วย เป็นดวงแก้วที่ประหลาดมาก ถ้าเราดูด้วยสายตา จะเหมือนเป็นเนื้อหินอ่อนทึบลาย ๆ แต่พอไฟส่องกลับใสสว่าง เป็นเรื่องประหลาดดีเหมือนกัน มีทั้งองค์ใหญ่และองค์เล็ก

ส่วนของอาตมาเอง เป็นแบบที่โบราณเรียกว่าแก้วอินทนิล ถ้าสมัยนี้คงเรียกว่าแก้วมรกต ขนาดน่าจะประมาณกำปั้น แล้วก็จะมีเป็นแก้วสุริยกานต์กับแก้วจันทรกานต์อีกอย่างละ ๑ ดวง ของอาตมาไม่ใช่แก้วจักรพรรดิอย่างของหลวงพ่อวัดท่าซุงท่าน เป็นคนละอย่างกัน แก้วสุริยกานต์จะเป็นสีแดง จันทรกานต์จะเป็นสีน้ำเงิน ทั้ง ๒ อย่างนี้เขาบอกว่าห้ามพกด้วยกัน แต่อาตมาพกมาตลอด โดยเอาแก้วอินทนิลไว้ตรงกลางก็หมดเรื่อง เขาบอกว่า ๒ อย่างนี้พลังจะหักล้างกันเอง จนอาจจะสร้างความวิบัติให้กับเจ้าของ แต่คราวนี้ของอาตมามีแก้วอินทนิลองค์ใหญ่อยู่ ก็เลยเอากั้นกลางไว้เป็นกรรมการห้ามมวย

แก้วอินทนิลเคยลงภาพไว้ในเว็บท่าขนุน ลองไปหาดูแล้วกัน แต่ว่าสองอย่างหลังนี่ไม่กล้าลง ที่ไม่กล้าลงเพราะบางคนเขาบอกว่าเนื้อแก้วเป็นเพชร ถ้าเพชรขนาดนั้นนี่อาตมาประมาณราคาไม่ถูกหรอก ใหญ่กว่าไข่นกพิราบตั้งเยอะ ประมาณไข่ไก่ขนาดกลางเห็นจะได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-12-2014 เมื่อ 14:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 13-12-2014, 12:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าในเรื่องของมีดต้องดูชาวบ้าน ชาวบ้านมีมีดเหน็บเล่มหนึ่งกับมีไฟ เข้าป่าไปไม่อดตายหรอก มีดเล่มเดียวหากินได้สารพัด แล้วมีดชาวบ้านเขาใช้อยู่ทุกวัน ๆ สวยอย่าบอกใครเลย มีดของเราเผลอหน่อยเดียวก็ทิ้งให้สนิมกิน มีคนเคยถามว่ามีดหมอลับได้หรือเปล่า ? อาตมาขอยืนยันว่าตั้งแต่เด็ก ๆ มา เห็นมีดหมอหลวงพ่อเดิมเขาลับใช้งานกันเป็นปกติทุกเล่ม เพราะว่าสมัยก่อนมีดหมอคือมีดใช้งาน เพียงแต่ว่ามีพุทธคุณ ต้องระมัดระวังเก็บไว้ในที่สูง เขาลับใช้กันเป็นปกติ

โดยเฉพาะพวกเสือพวกโจรหนังเหนียว ๆ นี่เจอมีดหมอหลวงพ่อเดิมเข้าไปเปื่อยหมด มีดหมอถ้าลับใช้งานให้ระมัดระวังอย่าให้บาดตัวเอง เพราะว่าแผลจะรักษาไม่หาย เคล็ดลับก็คือใช้ด้ามมีดหมอฝนกับน้ำแล้วทาแผลถึงจะหาย ตอนหลังพอหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านออกน้ำมันชาตรีมา อาตมาก็เลิกฝนด้ามมีดหมอ ใช้น้ำมันชาตรีทาแทน

หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ออกทั้งมีดทั้งดาบ แต่ว่าคนไม่ค่อยได้กัน เพราะว่าของท่านพิธีการทำยาก เตรียมโลหะเตรียมอะไรกว่าจะทำได้แต่ละเล่ม หลวงปู่ยิ้มท่านเป็นปรมาจารย์เก่ายุคไล่ ๆ กับหลวงปู่ศุขโน่น สมัยก่อนเจ้าเมืองกาญจนบุรี พอเวลาเข้ากรุงเทพฯ มาถวายรายงานข้อราชการ บรรดาเจ้าใหญ่นายโตก็ถาม “เจ้าคุณ..มีของขลังของหลวงพ่อเฒ่ายิ้มมาหรือเปล่า ?” สมัยก่อนการเดินทางยาก ถ้าไม่ใช่หน้าที่ราชการจริง ๆ ไม่ค่อยมีใครอยากไปหรอก
ทางเมืองกาญจน์ ฯ ป่าเสือป่าช้างทั้งนั้น เพราะฉะนั้น..ถ้ามีคนมาจากเมืองกาญจน์ เขาก็ขอเอาดื้อ ๆ เลย

หลวงปู่ยิ้มท่านเป็นอาจารย์ของหลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว หลวงปู่ดี วัดเหนือ หลวงปู่สอน วัดทุ่งลาดหญ้า หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ นั่นก็ลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้มทั้งนั้น ว่ากันว่าหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ ก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้ม แต่ว่าหลวงปู่เปลี่ยนท่านมีพื้นฐานการปฏิบัติมาก่อน ก็เลยไม่ได้ไปเรียนนานแบบคนอื่นเขา พอไม่ได้ไปเรียนนาน หลายคนเลยไม่ได้นับหลวงปู่เปลี่ยนเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้ม ถ้าถามว่าหลวงปู่เปลี่ยนอาวุโสระดับไหน ? อาวุโสระดับท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัด แล้วตั้งหลวงปู่ดีเป็นพระใบฎีกาฐานานุกรมของท่านได้ แสดงว่าท่านต้องบวชก่อนอย่างน้อย ๑๐-๒๐ ปี

ถ้าถามว่าหลวงปู่สอน วัดทุ่งลาดหญ้า เก่งแบบไหน ? ก็ต้องดูหลวงพ่อลำไย ลูกศิษย์ท่านก็พอ ส่วนหลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวนนี่มาอีกสายหนึ่งเลย จากหลวงปู่ม่วงก็เป็นหลวงปู่เพิ่ม หลวงปู่ซ้ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2014 เมื่อ 16:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 13-12-2014, 14:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เหมือนกับมีวันนี้วันเดียว ถ้าเราทำหน้าที่ของเราดีที่สุดแล้ว ถึงเวลาก็สามารถจากไปอย่างสง่างามที่สุด ไม่ต้องให้ใครเขาตำหนิ ไม่ต้องให้ใครเขาด่าว่าตามหลังไป

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ทำ ๆ ไปก่อนอย่าเพิ่งเล่นตัว ขอให้เข้าใจว่าตราบใดที่เรายังอยู่ในโลกมนุษย์ เรายังต้องกินต้องใช้อยู่ การทำงานของเราก็ถือเป็นการปฏิบัติธรรม ก็คือช่วยให้เราเห็นความทุกข์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ถาม : แล้วจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์แก่โลกมากกว่านี้ ?
ตอบ : ถ้าเราไม่ทำตัวให้เป็นภาระแก่โลกก็พอแล้ว

ถาม : ปลูกผัก ปลูกข้าว ก็มีแมลง ต้องฆ่า ?
ตอบ : เขามีวิธีการอยู่เยอะแยะไป มีทั้งวิธีทางธรรมชาติหรือวิธีทางสารเคมีก็เลือกไป อาตมาเคยทำมาก่อน ที่บ้านก่อนหน้านี้เป็นสวนผัก แต่ปรากฏว่ามาระยะหลัง พอรัฐบาลสนับสนุนสินค้าส่งออก สมัยนั้นก็จะเน้นเรื่องข้าว ไม้สัก ข้าวโพด ยางพารา น้ำตาล ฯลฯ รอบบ้านเขาก็เปลี่ยนไปปลูกอ้อยกันหมด คราวนี้พอเนื้อที่เป็นพันเป็นหมื่นไร่กลายเป็นไร่อ้อยหมด ก็เหลือผักอยู่แค่กระจุกเดียว แมลงมีเท่าไรก็มารุมอยู่ตรงนั้น ก็ต้องหาวิธีว่าทำอย่างไรเราถึงจะป้องกันได้

คราวนี้จะไปซื้อสารเคมีอะไรก็ลำบาก ก็ต้องใช้วิธีปลูกพืชที่แมลงไม่ชอบเอาไว้ ก็มีพวกกระเพรา ดาวเรือง พวกผักที่ส่งกลิ่นฉุน ๆ กลบกลิ่นผักอื่นหมด แมลงก็หาไม่เจอ เพียงแต่ว่าถ้าที่หลายไร่จะลำบาก เราจะดูแลยาก ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ต้องลงทุนปลูกผักกางมุ้ง


ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ก็ไม่จำเป็น ต้องประเภทแบ่งกันคนละครึ่ง เอ็งกินไปครึ่งหนึ่ง เหลือให้ข้าครึ่งหนึ่ง

ปลูกผักกางมุ้งจ้ะ ยอมลงทุนสักนิดหนึ่ง ทำประตู ๒-๓ ชั้น ถึงเวลาเดินเข้าซองไปก่อน เปิดประตูหนึ่งเข้าซองย้อนมา แล้วเปิดอีกประตูหนึ่งค่อยเข้าไปในแปลงผัก ก็พอที่จะกันได้ แต่ถ้าเล็ก ๆ ไม่พอให้แมลงกินหรอก ต้องทำเยอะหน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2014 เมื่อ 16:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 13-12-2014, 14:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และรูปปั้นพระยาพิชัยดาบหัก ควรจัดโต๊ะหมู่บูชาอย่างไรคะ ?
ตอบ : เอาพระประธานเป็นหลัก หลังจากนั้นก็เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รูปปั้นพระยาพิชัยดาบหักให้อยู่ล่างสุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2014 เมื่อ 16:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 13-12-2014, 14:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเราได้บางสิ่งมาแบบบังเอิญ ?
ตอบ : คำว่าบังเอิญในโลกนี้ไม่มี ทุกอย่างเป็นไปตามวาระบุญวาระกรรม

ถาม : แล้วจะตีความอย่างไร ?
ตอบ : ก็ไม่ต้องตีความอะไร มีโอกาสไปวัดก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว แต่ถ้าให้ดีกว่านั้นคือวัดใจของเราว่ามีความดีหรือเปล่า? ถ้าไม่มีก็เร่งสร้างขึ้นมา ถ้ามีอยู่แล้วก็เร่งทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2014 เมื่อ 16:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 13-12-2014, 14:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัตถุมงคลจำเป็นต้องมีหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าเรามั่นใจในความดี นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ได้เป็นปกติ ไม่ต้องมีก็ได้ แต่คราวนี้เนื่องจากว่าเราเองต่อให้เก่งขนาดไหน โอกาสเผลอย่อมมี ในเมื่อโอกาสเผลอมี ถ้าหากว่ามีพระติดตัวไว้หน่อยก็จะมั่นใจได้มากกว่า

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ได้..สำคัญที่ว่าเรานึกถึงพระได้ไหม ? ตื่นเช้ามาขออาราธนาบารมีท่านช่วยคุ้มครองรักษา ถ้าวันนี้เราหมดอายุขัยตายลงไป หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายถึงแก่ชีวิต ก็ขอไปอยู่กับท่าน ให้ตั้งใจอย่างนั้น

ถาม : ควรเลือกวัตถุมงคลแบบไหน ?
ตอบ : ความจริงจะบอกว่าเอาที่เราศรัทธา แต่บางคนบอกว่าต้องตรงกิเลสด้วย คือเอาที่เราชอบด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2014 เมื่อ 16:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 14-12-2014, 13:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไปทอดกฐินที่วัดอัปสรสวรรค์ ?
ตอบ : วัดอัปสรสวรรค์เป็นวัดที่มีพระประธานมากที่สุด พระประธานในโบสถ์ ๒๘ องค์ เขาสร้างตามความที่มีในพระไตรปิฎกว่า พระพุทธเจ้าท่านพบพระพุทธเจ้าในอดีตมาทั้งหมด ๒๔ พระองค์ แล้วในกัปแรกที่พระองค์ท่านได้รับพยากรณ์มีพระพุทธเจ้าอีก ๓ องค์ รวมกับตัวพระองค์ท่านเป็น ๒๘ พระองค์ เขาก็เลยสร้างพระพุทธรูป ๒๘ พระองค์เป็นพระประธาน เอาทีเดียวให้คุ้ม

ถาม : แล้ว ๓ องค์รุ่นแรกเลย คือ.. ?
ตอบ : ๓ องค์รุ่นแรกคือพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า ตัณหังกร เมธังกร และ สรณังกร เกิดในกัปเดียวกับพระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกร แต่ว่าผ่านไปแล้ว พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันของเรา ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้านามว่าทีปังกร แล้วมีพระพุทธเจ้าถัดมาอีก ๒๔ พระองค์ถึงได้ตรัสรู้

ถาม : ๓ องค์รุ่นแรกนี่คือก่อนองค์พระพุทธเจ้าทีปังกร ?
ตอบ : ก่อนหน้านั้นมีสามล้านกว่าพระองค์ พระพุทธเจ้ามีพระนามว่าทีปังกรเป็นองค์ที่ ๔ ของ ๒๔ องค์ล่าสุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2014 เมื่อ 16:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 14-12-2014, 13:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : .(ไม่ชัด)... ลำบากไหม ?
ตอบ : ลำบากไหม ? อาตมาไม่เคยคิดตั้งเลย เพราะรู้ว่าความดีไม่พอที่จะไปถวายพระนามให้พระพุทธเจ้าท่าน แต่เห็นเขานิยมตั้งกันจัง

ถาม : พระสมเด็จองค์ปฐม ก็คือองค์ที่พิษณุโลก ?
ตอบ : คำว่าสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐม เกิดขึ้นโดยหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเรียก ก็แปลว่าเกิดขึ้นไม่นาน แต่องค์ที่พิษณุโลก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าศรีทรงธรรมปิฎก หรือที่เรียกว่าสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ต้องบอกว่ายุคสมัยห่างกันเยอะ

ถาม : แล้วองค์ที่พิษณุโลกกับองค์ปฐมที่วัดท่าซุง เรานึกถึงองค์ไหน ?
ตอบ : ไหว้แล้วเรานึกถึงพระองค์ไหนก็เป็นพระองค์นั้นแหละ พระพุทธรูปเขาสร้างไว้เป็นพุทธานุสติ คือเป็นเครื่องระลึกถึง เพราะฉะนั้น..เราจะนึกถึงพระพุทธเจ้าพระองค์ไหน ก็ไหว้แล้วก็นึกเอา

ถาม : ถ้าเราคิดถึงทุกองค์ละคะ ?
ตอบ : ก็เรานึกถึงทุกพระองค์ได้ไหมเล่า ? ถ้านึกถึงทุกองค์ได้ก็เท่ากับได้ไหว้ทุกพระองค์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2014 เมื่อ 16:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 14-12-2014, 13:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า "เครื่องประดับถ้าเป็นวัสดุงาช้าง อย่าใส่ไปต่างประเทศนะจ๊ะ บางประเทศนี่เขาจับติดคุกเลย อาตมาไปต่างประเทศยังต้องปลดมีดหมอด้ามงาช้างออก ถึงเราจะมั่นใจว่าเครื่องไม่ดังก็เถอะ แต่ถ้าดังขึ้นมานี่เฮงจริง ๆ

ไปเขมรขากลับระหว่างที่นั่งพักอยู่ ก็มีเจ้าหน้าที่ของสายการบินของเขา มาขอให้ช่วยดูหมอให้หน่อยว่า ก็คือเขาถามเรื่องยุ่ง ๆ ในชีวิตทั้งนั้น ดูไปดูมามีโยมเอาลูกมายกให้อีก มัวแต่ไปเห่อเด็กอยู่ จะได้เวลาเขาประกาศให้ขึ้นเครื่อง ก็รีบเดินผ่านไป เครื่องร้องเสียลั่นเลย ลืมอาราธนาจนได้ พอเสียงดังนี่ต้องรีบขอพระ อย่าให้เขาหาเจอนะครับ ไม่อย่างนั้นผมซวยแน่ ๆ เลย สรุปว่าหาไม่เจอ ท้ายสุดเลยอ้าปากให้เขาดูว่า ใช่ครอบฟันอันนี้หรือเปล่าที่ทำให้เครื่องดัง ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2014 เมื่อ 16:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 14-12-2014, 20:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากการสนทนาตอบปัญหาธรรมกับโยม พระอาจารย์ได้กล่าวว่า "พวกเราส่วนใหญ่ถนัดในการภาวนา แต่ไม่ถนัดในเรื่องของการพิจารณา พอมาพูดถึงในเรื่องของการพิจารณา การตัด การละอะไร บางทีเราไม่เข้าใจ ฟังก็รู้แค่ผิว ๆ เพราะฉะนั้น..จึงต้องวิ่งไปชนกับกิเลสเอง..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2014 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 14-12-2014, 20:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมพระพุทธเจ้าถึงไม่บวชให้ "นาค" ?
ตอบ : สัตว์เดรัจฉานมีปัญญาไม่เพียงพอที่จะบรรลุมรรคผล เพราะว่าอยู่ในภพภูมิที่ต่ำกว่า มีปัญญาไม่พอที่จะพิจารณาให้รู้ทั่วถึงธรรม หลัก ๆ ของสัตว์เดรัจฉานมีแค่ กิน นอน สืบพันธุ์ หลบภัย มีอยู่ส่วนหนึ่งที่ท่านไม่ได้บอกก็คือ วิสัยของผู้มีพิษมักโกรธ ในเมื่อตัวเองไม่มีโอกาสได้มรรคผลก็แปลว่าระงับโกรธไม่ได้ เดี๋ยวอาละวาดขึ้นมา คนอื่นจะเดือดร้อนกันมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2014 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 15-12-2014, 19:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เจ้าพ่อหลักเมืองกาญจนบุรีเป็นพรหม ปกติต้องเป็นภุมมเทวดาไม่ใช่หรือครับ ?
ตอบ : ปกติเจ้าพ่อหลักเมืองต้องเป็นอากาศเทวดา แล้วก็มักจะเป็นชั้นจาตุมหาราช เท่าที่เจอ ๆ มาก็มีของกรุงเทพฯ เรานี่เป็นชั้นดาวดึงส์ ของเมืองกาญจน์ฯ เมืองสำคัญ ทรัพย์ใต้ดินมาก ทองคำเยอะ..จึงเป็นพรหมเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 15-12-2014, 19:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะอ่านหนังสือสอบ แต่สมาธิความจำไม่ค่อยดี ?
ตอบ : รู้ตัวว่าสมาธิไม่ดีก็นั่งสมาธิสิวะ..! มีคำตอบอยู่ในตัวแล้ว ฝึกซ้อมสมาธิบ่อย ๆ ใช้คาถาท่านปู่พระอินทร์ช่วย

ถาม : มีวิธีทำบุญอะไรที่จะช่วยอานิสงส์ให้มีปัญญา ?
ตอบ : คงทำยาก อานิสงส์เรื่องปัญญาก็คือสมาธิ เพราะสมาธิก่อให้เกิดปัญญา จิตสงบปัญญาจะมีเอง ถ้าสร้างธรรมทานก็ต้องรอชาติหน้าถึงจะได้ผล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 15-12-2014, 19:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไม้พะยูงเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : พะยูงมีอยู่ ๓ สี คือ พะยูงดำ จะมีสีดำเข้มไปเลย พะยูงปกติ จะมีสีน้ำตาลออกดำ ใช้ไปนาน ๆ จะดำไปเอง พะยูงทอง สีน้ำตาลแดง จะแดงสวยมาก แต่หายาก ส่วนใหญ่ที่เป็นน้ำตาลแดงไม่ค่อยมีเท่าไร ใหม่ ๆ จะสีแดง พอนาน ๆ ไปสีจะเข้มขึ้น คนจีนชอบเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ ใช้ไปเช็ดไปจนดำเมี่ยมเลย เขาเรียกว่าไม้จันทน์ม่วง

ถาม : กี่ปีถึงจะใช้ได้ ?
ตอบ : ต้องรอจนโต ๕๐-๖๐ ปีขึ้นไป เดี๋ยวนี้วัดทางภาคอีสานลำบากมากเลย เพราะบางคนจะไปหาซื้อ "ต้นนี้สองแสน หลวงพ่อขายไหม ? ถ้าหลวงพ่อไม่ขายหลวงพ่อนอนเฝ้าให้ดีนะ เผลอเมื่อไรจะเอาฟรี..!" คิดดู..พระไปกิจนิมนต์ครึ่งชั่วโมง กลับมาหายไปทั้งต้นแล้ว..!

ประเทศจีนนิยมกันเพราะชื่อเป็นมงคล ใช้งานไปหลายร้อยปีก็ยังคงสภาพ ไม่ผุพังง่าย ๆ บ้านเศรษฐีเขาอยากได้ไปทำเฟอร์นิเจอร์จึงซื้อไม่อั้น ราคาแพงเท่าไรก็ซื้อ บ้านเราก็ขายกันไป ระยะหลังต้องชั่งกิโลขาย เพราะราคาแพง ตอนที่อาตมาทำพระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช จ่ายค่าไม้ชุดแรกไปสองแสนกว่าบาท ได้ไม้ไม่กี่ชิ้นหรอก มีพะยูงดำติดมาท่อนเดียว

มีไม้ที่หายากเกือบจะเป็นไม้เฉพาะถิ่นไป เช่น ไม้เทพทาโร บางคนเรียกตะไคร้ต้น มีกลิ่นหอมคล้าย ๆ ตะไคร้หอม ทางปักษ์ใต้ชอบเอามาทำเป็นของที่ระลึก ไม้หลุมพอ เนื้อละเอียด สวยมาก คุณสมบัติคล้ายไม้สัก คือปลวกไม่กิน ต้อง "นายหัว" ที่รวยจริง ๆ ถึงจะสร้างบ้านด้วยไม้หลุมพอได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-12-2014 เมื่อ 10:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 15-12-2014, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไม้งิ้วดำละครับ ?
ตอบ : ไม้งิ้วดำพบได้ทุกภาค แต่หายากสุด ๆ ร้อยวันพันปีจะเจอสักต้นหนึ่ง อาตมาเองเจอที่เป็นต้นจริง ๆ อยู่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง ตอนที่ไปเลื่อยกับพระครูแสงช่วงยังเป็นฆราวาส ท่อนแค่แขน ใช้เลื่อยเหล็กไฮสปีดเลื่อยอยู่ครึ่งค่อนชั่วโมงกว่าจะขาด แสดงว่าเหนียวกว่าเหล็กอีก..!

ที่เขาขายกันอยู่ส่วนมากบอกว่าเป็นไม้งิ้วดำ แต่เขาลืมไปว่า ไม้งิ้วดำเป็นไม้เนื้อเบา เพราะว่าก็คือต้นไม้ประเภทเดียวกับนุ่นนั่นแหละ แต่ว่าเป็นสีดำ เป็นไม้ตระกูลเดียวกับต้นนุ่น ที่ขายอยู่จะมี ๒-๓ อย่างด้วยกัน ถ้าเป็นไม้ดำแล้วเสี้ยนเป็นสีน้ำตาลลาย ๆ ถ้าดูจะเห็นลายเสี้ยนค่อนข้างชัด แล้วเนื้อไม้หนักมากจะเป็นไม้มะเกลือ ถ้าหากว่าเป็นสีดำแล้วลายเสี้ยนไม้หรือลายเนื้อไม้ออกสีชมพูหน่อย จะเป็นไม้มะริด ถ้าหากว่าสีดำสนิทเลยจะเป็นไม้ดำดง ปัจจุบันนี้ที่ขายกัน ร้อยละ ๙๐ เป็นไม้ดำดง บางคนที่มีจรรยาบรรณหน่อยก็เรียกว่า "ไม้ดำ" แต่คนซื้อมักจะทึกทักเอาเองว่าเป็นไม้งิ้วดำ

ไม้ดำดงนี่แหละที่พวกไร้จรรยาบรรณมักจะเอามาแหกตาเราว่าเป็นไม้งิ้วดำ บางทีก็เอาไม้มะเกลือมาบอกว่าเป็นไม้งิ้วดำ แต่ไม้มะเกลือที่เขาบอกว่างิ้วดำ ถ้าเราเห็นแล้วชอบใจก็ซื้อมาเถอะ มะเกลือแพงจะตายไป

ที่บ้านอาตมาเคยมีมะเกลืออยู่ต้นหนึ่ง ขนาดใหญ่ ๓ โอบกว่า ตั้งแต่เด็ก ๆ อาตมาก็เห็นอยู่อย่างนั้นแล้ว น่าจะสูงถึง ๔๐ เมตร มีคนเขามาขอซื้อพี่ชายไปสี่แสนบาทของสมัยนั้น ถามว่าเอาไปทำอะไร เขาบอกว่าเอาไปทำโลงจำปา โห..ไม้อย่างนั้นทำโลงใครจะแบกไหววะ ? เพราะหนักมาก ขอซื้อไม้ต้นเดียวไปสี่แสน ราคาสมัยที่ทองบาทละสองพันกว่าบาทเอง

ตอนเด็ก ๆ พอถึงเวลาแม่ก็จะเก็บลูกมะเกลือต้นนั้น เอามาตำกับกะทิให้พวกอาตมากินถ่ายพยาธิ จะมีเคล็ดลับว่าต้องใช้เท่าอายุ อย่างเช่นว่า ๑๐ ขวบก็ใช้มะเกลือ ๑๐ ลูก ๒๐ ขวบก็ ๒๐ ลูก ห้ามกินเกินอายุ แล้วก็ห้ามเก็บค้างคืน ถ้าเก็บแล้วมักจะเป็นพิษ ต้องตำแล้วผสมกะทิกินตอนนั้นเลย ที่ตำผสมกะทิเพราะกะทิช่วยให้ถ่ายง่าย พอถึงเวลาถ่ายพรวดออกมานี่ บางทีพยาธิไส้เดือนยั้วเยี้ยไปหมด พยาธิเมาขนาดโดนถ่ายออกมา แสดงว่าถ้าไม่ใช่คนตัวใหญ่ก็เป็นพิษนะ แต่ว่าถ้าเก็บหลาย ๆ ชั่วโมงจะเป็นพิษถึงตาบอดได้ คนรุ่นหลังบางทีไม่รู้ เขาบอกว่าถ่ายพยาธิด้วยมะเกลือ ตำเสร็จแล้วก็แช่ตู้เย็นไว้ ค่อยไปกินทีหลัง..เสร็จหมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-12-2014 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 15-12-2014, 19:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ต้นนั้นขึ้นมากี่ปีได้ครับ ?
ตอบ : อาตมาเกิดมาก็เห็นอยู่ต้นขนาดนั้นแล้ว ทุกปีจะมีนกกระจาบไปทำรัง เพราะต้นสูงและเปลาะมาก ใคร ๆ ก็ขึ้นไปกวนไม่ได้ คงเป็นไม้ประเภทที่เขาเรียกว่าไม้จ้าวป่า ขึ้นเด่นมากเลย ตอนเตี่ยไปหักร้างถางพงก็ทิ้งเอาไว้ต้นเดียว ต้นอื่นโดนโค่นหมด ไม้แดงต้นใหญ่ ๆ ก็โค่นหมด ตอนหลังมีคนมาขอขุดเอาตอไปทำเฟอร์นิเจอร์กัน

พวกเราสมัยก่อนกว่าจะขุดได้แต่ละตอ ทั้งขุดทั้งสุมทั้งเผากว่าจะทำไร่ได้ สมัยนี้อยากได้ทำเฟอร์นิเจอร์ก็ใช้รถขุดกันกระจายหมด ไม่ต้องเสียเวลาจ้างเขาขุดเหมือนสมัยก่อน สมัยก่อนมีพวกรับจ้างขุดตอ แล้วก็รับจ้างขุด "ขยองเดือน" ก็คือก้อนหินที่จมดินอยู่ จะไปตกลงกันว่าก้อนนี้ราคาเท่าไร สมมติว่า ๒๐๐ บาท บางคนน้ำตาจะร่วง ตกลงกันไว้ ๒๐๐ บาท เพราะดูข้างบนไม่น่าจะใหญ่ สรุปว่า
หินก้อนนั้นขุดไปครึ่งไร่กว่า..! เวลาหักร้างถางพงป่าใหม่ ๆ นี่ต้องขุดตอ ขุดหิน เก็บออกให้หมดจะได้ทำไร่ไถนาได้สะดวก พื้นที่หักร้างถางพงใหม่ ๆ นี่ไม่มีใครอยากไถให้หรอก ไถทีผาลไถหักหมด

พวกรถไถเก่ง ๆ นี่เขาเก่งจริง ๆ ไม่รู้ว่าเอาฝีมือมาจากไหน ? โดยเฉพาะแถวเพชรบูรณ์ พวกคนขับรถไถฝีมือเซียนทั้งนั้น เนินเขาสูงขนาดที่รถตะแคงข้างแต่เขาไถได้ แถวบ้านโยมมีไหม ? แรก ๆ ก็บอกว่า “ไถไม่ได้หรอก รถคว่ำตายห่..!” ไถไม่ได้ก็ไม่เป็นไร กินข้าวกันก่อน เลี้ยงเหล้าเข้าไปครึ่งขวด..หนึ่งขวด พอเมา ๆ ก็ไปไถให้ ตอนแรกไม่เอาหรอก..บอกว่ากลัวรถคว่ำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวเล็ก : 16-12-2014 เมื่อ 13:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 15-12-2014, 19:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,874 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าจะปลูกต้นไม้ ๒ ข้างทางให้สวย ควรเอาต้นอะไรดี ?
ตอบ : เอาเป็น ๒ ข้างถนนใช่ไหม ? ถ้าหาได้นะ เอาต้นตำเสาของปักษ์ใต้ ทางอีสานเรียกต้นมันปลา ของเราเรียกต้นกันเกรา ทรงจะเหมือนกับฉัตร แล้วดอกหอมอย่าบอกใครเลย ขนาดแห้งแล้วก็ยังหอม

ถาม : อย่างนั้นต้องไปหาทางปักษ์ใต้ ?
ตอบ : ตลาดต้นไม้มีเยอะแยะไป บอกตาแดงหรือคุณมงคลของเราก็ได้ ไปพักเดียวก็เอามาให้แล้ว เพราะเขาขายไม้พวกนี้อยู่ พรรคพวกกันเองเขาก็ไม่ได้คิดกำไรเท่าไรหรอก จะเอากี่ต้นก็สั่งเขา

ที่ปักษ์ใต้เขาเรียกต้นตำเสาเพราะว่าส่วนใหญ่เขาเอาไว้ทำเสา เป็นไม้ที่เนื้อแข็งแล้วก็เหนียวมาก แต่ที่อาตมาติดใจก็คือติดใจดอก ออกเป็นช่อสีเหลืองอ่อน ๆ หอมอย่าบอกใครเลย คนแก่ ๆ สมัยก่อนเก็บมาซุกไว้ในตู้เสื้อผ้า ทำให้ผ้าหอมติดทนนาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว