ภาพบรรยากาศ หลวงพ่อและคณะไปอินเดีย - ดาร์จีลิงก์ - สิกขิม

[ตัวเล็ก]

เวลา ๑๕.๕๐ น. (อินเดีย) ออกจากเมืองราวังกลาไปเมืองกังต็อก อีก ๓ ชั่วโมงก็จะถึง








ฝนตก ถนนลื่น โปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง


ทดสอบตับ..ถ้าแข็งแรงก็ไม่ทรุด..!


ถนนดีขึ้นมาหน่อย


ถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก ช้ำทั้งนอกทั้งใน..!


ดาวไม่ยอม..คุณหลอกดาว..!


ในที่สุดความจริงก็ปรากฏ..!


วีรบุรุษผู้กอบกู้สถานการณ์


จะผ่านได้ไหมหนอ ? ทางเหมือนกับโดนทับมิดไปแล้ว..!


หลงดีใจว่าถึงแล้ว แต่คุณก็หลอกดาวจนได้






ขอรับรองด้วยเกียรติของลูกเสือ ว่าถนนดีไม่มีฝุ่นเลย..!






มีเจ้าหน้าที่ชี้ทางลัดให้หลบหินถล่ม เขาบอกว่าสภาพถนนดีกว่า


ช่าย..ดีกว่าโลกพระจันทร์ตั้งเยอะ..!




มีรถสวนมาบ้างค่อยใจชื้นขึ้นมาบ้าง..กูยังไม่หลงทาง..!

หลังจากเขย่าตับไตไส้พุงรวมกันดีแล้ว ก็มาเจอกับถนนสายเดิมที่เราเลี่ยงมา


เป็นที่น่ายินดีว่ายังไม่หลงทาง




ต้องจอดรออีก ๒ คันว่าหลงทางหรือเปล่า ?

[ตัวเล็ก]

หกโมงเย็นจะครึ่งแล้ว ถ้าหลงเราก็ไม่ได้หลงคนเดียวแน่นอน


มีอุโมงค์กับเขาเหมือนกัน แต่สั้นนิดเดียว


เข้าอุโมงค์หน่อย จะได้ทันสมัย


เกือบโดนฝังทั้งคันไปแล้ว..!


ทุ่มกว่าแล้วเพิ่งเข้าเขตเมืองกังต็อก


ถึงโรงแรมแล้ว เย้..เรารอด..!

[ตัวเล็ก]

วันศุกร์ที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๙.๐๕ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) พาคณะเข้าที่พัก
ณ โรงแรม เดอะ เมเปิล เรสิเดนซี่ เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย














ห้องน้ำพอทน ที่เห็นบนหัวคือหม้อต้มน้ำร้อน

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๓.๓๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ประธานชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน
ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีแห่งที่ ๒๓ (วัดท่าขนุน)
บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเพื่อออกอากาศผ่านช่อง YouTube
ณ ห้องพักหมายเลข ๔๐๕ โรงแรม The Maple Residency เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย




บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ณ ห้องพักหมายเลข ๔๐๕
โรงแรม The Maple Residency เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย


เวลา ๐๖.๑๐ น. (๐๗.๔๐ น.บ้านเรา) หมอกท่วมเมือง อากาศ ๑๙ องศาเซลเซียส


สวัสดีค่ะ (รูปสาวไทยในล็อบบี้โรงแรม)


ออกมาก็เจอคำเตือนให้ไปทางนี้ อีกด้านลื่นมาก






เพิ่งเห็นหน้าตาโรงแรมและป้ายชัด ๆ ตอนนี้เอง








ถนนด้านหน้าโรงแรมเกือบจะเป็นป่าธรรมชาติ สงบเงียบดีมาก


ตั้งชื่อถนนเพื่อเป็นเกียรติแก่ด็อกเตอร์พิมราว รามจี เอ็มเบ็ดการ์ ผู้ฟื้นฟูศาสนาพุทธในอินเดียยุคใหม่


แท็กซี่จะมาวันละครั้ง แปลว่าผิดเวลาโปรดเดินเอง..!


คนแถวนี้น่าจะมีนิสัยแบ่งชนชั้น เพราะว่าสร้างบ้านไปตามไหล่เขา สูงต่ำตามความชอบใจ


เหวลึกข้างถนน มีน้ำตกด้วย


กลับมารอเวลากิน เจอถังที่ร้องเรียกให้ใช้ผมด้วย

[ตัวเล็ก]

การตกแต่งในล็อบบี้โรงแรมที่เน้นศาสนาพุทธ




มีพระพุทธศาสนามหายานและความเชื่อแบบจีนแทรกมาด้วย


มีแนวฝรั่งมังค่า ๑ ชิ้น


ชิ้นนี้คือฮินดูที่ออกแบบได้เท่มาก


เพิ่งมีโอกาสขอถ่ายรูปกับนายสุเรศวร์ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) และคณะ รับประทานอาหารเช้า
ณ ห้องอาหาร โรงแรมเดอะเมเปิล เรสิเดนซี่ เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย






การตกแต่งในห้องอาหาร เข้ามาก็เจอพระพุทธรูปเลย




ด้านซ้ายมือของห้องอาหาร




ด้านขวามือของห้องอาหาร




ห้องน้ำชายเก่างั่กเชียว..!




ใครจะกินอะไรโปรดเลือกกันเอาเอง


เมื่อเช้าสำหรับวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๕

[ตัวเล็ก]

แปดโมงเช้าเราก็เข้าห้องเรียน เอ๊ย..เดินทางไปไหว้พระ


ขึ้นรถแล้ว ฝนตกได้แล้วจ้าาาา..!


การจลาจล เอ๊ยย..การจราจรติดขัด


ผีเสื้อยักษ์บนสะพานลอย ฝนตกเลยเห็นแค่เงา


ขาไปก็ติด ขามาก็มาก


ออกนอกเมืองแล้ว ฝนหยุด แต่ก็ขับไม่ง่ายอย่างที่คิด


ใครเมารถอย่าดูคลิปนี้ เพราะว่าถ่ายตามจังหวะขับโดยไม่ได้ฝืนไว้เลย


นึกเสียว่ามาสร้างบ้านพักตากอากาศ


กว่าจะถึงวัดรุมเต็กธรรมจักร


รูปหมู่หน้าวัด คนถ่ายน่าจะเมารถ ฮ่า..ฮ่า..!


ห้ามถ่ายรูป ไม่ได้ห้ามถ่ายคลิป ฮ่า..ฮ่า..!

พอพวกเราหมดธุระฟ้าก็ปิด คนอื่นจะได้ชมหรือไม่ก็ช่าง ลำเอียงอย่างสุด ๆ

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๕ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) นำคณะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมสถานที่
ณ วัดรุมเต็กธัมมจักรา เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย










ตำรวจเฝ้าวัดให้ไปช็อปปิ้งก่อน ในขณะที่รอออกใบอนุญาตเข้าชมวัด


เส้นไม่ใหญ่พอ..ห้ามเอารถเข้า


ไม่ไกลหรอก..วันนี้ถึงแน่


ใกล้แล้วครับ รถคันนั้นเป็นของบ้านที่เห็น


ภัตตาคารก่อนขึ้นถึงวัด


ป้ายประวัติตรงทางขึ้นวัด


ตกนกเอี้ยงสาลิกาได้ ๑ ตัวตรงป้ายวัด








รูปท้าวจตุโลกบาลหน้าวิหารใหญ่ ห้ามถ่ายรูปนะจ๊ะ


รูปท่านกรรมาปะที่ ๑๖ มหาเถระอันดับ ๓ ของนิกายวัชรญาณ รองจากทะไลลามะและปันเชนลามะ


จากขวามาซ้าย กรรมาปะองค์ที่ ๑ ท่านมาระปะ ท่านมิลาเรปะ มหาเถระองค์สำคัญของนิกายกาคิวปะ


อาสนะท่านกรรมาปะที่ ๑๖ พลังงานเพียบเลย..!




บรรจงถ่ายให้คุ้มกับที่เขาห้าม


ไม่เสียยี่ห้อ "เจ้าแม่น้ำพริกสละ"


ไปไหว้พระสถูปทองคำบรรจุรูปหล่อท่านกรรมาปะ ที่สถาบันกรรมานาลันทาภายในวัด


ห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด..!


หมดธุระก็ฟ้าปิด หุ..หุ..!

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) และคณะ รับประทานอาหารกลางวัน
ณ ร้านขายยาข้างวัดรุมเต็กธัมมจักรา เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย




จานใหญ่มาก จานเดียวก็อิ่มไป ๓ วันแล้ว..!






ยังมีตามมาอีก


สุดยอดผู้ช่วย ทำหน้าที่ได้เข้มแข็งมาก..!




เวลา ๑๑.๓๕ น. เดินทางไปวัดรุมเต็กธัมมจักราเก่า


ทางไปวัดรุมเต็กธัมมจักราเก่า

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๑.๔๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) นำคณะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมสถานที่
ณ วัดรุมเต็กธัมมจักรา (วัดดั้งเดิม) เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๒.๒๕ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒)
นำคณะสักการะรูปปั้นองค์กรรมาปะ ที่ ๑ และ ท่านมิลาเรปะ
ณ ผนังผาห่างจากวัดรุมเต็กธัมมจักรา (วัดดั้งเดิม) ๒ นาที เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย












ต้นแอปริคอตที่วัดรุมเต็กธัมมจักรา (เก่า)




















วัดนี้ห้ามถ่ายรูปเจ้าข้าเอ๊ยยยยย..!





เดินทางต่อเพื่อสักการะรูปท่านกรรมาปะ ที่ ๑ และท่านมิลาเรปะ


๒ นาทีก็ถึงแล้ว..หลวงพ่อถ่ายเอง..ฮ่า..ฮ่า!

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๒.๔๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒)
นำคณะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมแนวทางปฏิบัติของแม่ชี
ณ สำนักแม่ชีกรรมา โชเกล เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย

[ตัวเล็ก]

ณ สำนักแม่ชีกรรมา โชเกล มืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย


ไปเยี่ยมสำนักแม่ชีกรรมา โชเกล มีหมามาต้อนรับ ฮ่า..ฮ่า..!










อย่าไปห้ามเรื่องถ่ายรูปเลย "เจ้าแม่น้ำพริกสละ" แกเป็นคนอนุญาตเอง..!


พระแก้วองค์นี้รับถวายไปจากเมืองไทย อยู่ในตู้กระจกจึงถ่ายได้แค่นี้




ของส่วนตัวซึ่งหัวหน้าแม่ชีใช้สวดมนต์




เกือบอุ้มกลับไปทำวัวธนูแล้ว..!


ชุดนี้ตั้งถวายอยู่หน้ารูปกรรมาปะที่ ๑๖


เวลา ๑๒.๕๕ น. (อินเดีย) เดินทางกลับเข้าเมืองกังต็อก






ใช้เวลาเดินทางเกือบ ๕๐ นาที


ถึงเข้าเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

[ตัวเล็ก]

มาที่สถาบันทิเบตศึกษานัมเกล เพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์


โอ้โฮเว้ย..มากันขนาดนี้..!


นายสุเรศวร์รีบซื้อตั๋วก่อนที่จะโดนเหยียบตาย..!


พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์ทิเบต




หลังเล็กหน้าพิพิธภัณฑ์เป็นศาลท้าวมหาราช

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๔๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) นำคณะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทิเบตศึกษา
ณ สถาบันทิเบตศึกษานัมเกล เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย








คนเข้าชมเป็นร้อย คอยดูฝีมือ "เจ้าแม่น้ำพริกสละ"


แม่เจ้าประคุณเล่นองค์ประธานกลางพิพิธภัณฑ์ก่อนเลย..!




















ให้สัญญาณว่าถ่ายได้เมื่อไร ถึงคนเป็นร้อยก็จะมีจังหวะว่างพอดี


คัมภีร์พระไตรปิฎกสารพัดรูปแบบ


แหวนและกำไลงาช้างเก่าแก่มาก


กปาละสำหรับใช้ในพิธีกรรม ทำจากกะโหลกศีรษะคนจริง ๆ..!


เครื่องดนตรีในศาสนพิธีทำจากกระดูกคน


หลายคนเล็งชุดนี้กันตาเป็นมัน ฮ่า..ฮ่า..!




ซื้อวัชระแกะจากหินเขี้ยวหนุมาน ๑ อัน ราคา ๑๕,๐๐๐ รูปี




ก้อนอิฐที่องค์ทะไลลามะวางศิลาฤกษ์พิพิธภัณฑ์หลังนี้


อาคารหลังพิพิธภัณฑ์ห้ามคนนอกเข้า

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๑๕ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) นำคณะเข้าสักการะพระเจดีย์แห่งสันติภาพ
ณ สถาบันทิเบตศึกษานัมเกล เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย








งานนี้ย่ำต๊อกไปนะจ๊ะ










เลี้ยวขวาหน้าสถาบันทิเบตศึกษา แล้วเดินขึ้นเนินไปประมาณ ๕ นาที


รูปหมู่ฝีมือมัคคุเทศก์สุเรศวร์


เดินจงกรมรอบพระเจดีย์ เสกวัชระแก้วผลึกไปด้วย








เข้าไปชมการสวดมนต์ทำวัตรของพระทิเบตในหอสวดมนต์




เดินกลับมาขึ้นรถที่ลานจอดรถข้างล่าง


เดินทางกลับที่พัก ขึ้นรถฝนก็ตกตามธรรมเนียม


ลำเอียงขนานแท้เบยแม่คุณ..!


ถนนปิดรถเข้าไม่ได้ ต้องลงตรงนี้แล้วเดินเข้าไป


ขออภัย..เขาเขียนว่าอะไรหรือครับ ?


ที่พักอยู่ข้างหน้าแล้ว..สู้..สู้..!


ถึงห้องพักแล้ว..รอดตายไปที..!

[ตัวเล็ก]

วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๒.๐๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ประธานชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน
ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีแห่งที่ ๒๓ (วัดท่าขนุน)
บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเพื่อออกอากาศผ่านช่อง YouTube
ณ ห้องพักหมายเลข ๔๐๕ โรงแรม The Maple Residency เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย








พืชตระกูลหานช้างร้อง หรือ ตำแยดง ที่ข้างอาคาร ๓๐๐ ปี วัดรุมเต็กเก่า เมื่อวานลืมลงให้ดู




สองต้นนี้ก็อยู่ที่เดียวกัน มัคคุเทศก์เรียกว่าต้นดอกงูเห่า ไม่รู้ว่าบ้านเรามีหรือเปล่า ?


วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๕ เวลา ๐๕.๐๐ น. (อินเดีย) ถ่ายจากหน้าต่างที่พัก


อากาศชื้นมาก ฝนตกทั้งวัน ห้องพักไม่มีเครื่องปรับอากาศ จึงเห็นประโยชน์ของเครื่องเป่าผม ๕๕๕






เขาใช้พระพุทธรูปเป็นเครื่องประดับโรงแรมเท่านั้น


เคาน์เตอร์รีเซฟชั่น รออยู่นานกว่าที่จะว่างให้ถ่ายรูปได้


ช่างดูหรูหราหมาเห่าเสียเหลือเกิน..!


ยามเช้าจากหน้าต่างห้องที่พักมา ๒ วัน


รถมารอขนกระเป๋าไปโรงแรมใหม่


วันนี้กระเป๋าจะเดินทางไปโรงแรมแห่งใหม่ก่อน ตัวคนไปตามโปรแกรมแล้วถึงตามกระเป๋าไป


ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ชางกู อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๓,๗๕๓ เมตร ต้องตรวจสอบออกซิเจนก่อนไป

[ตัวเล็ก]

วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) และคณะ
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม The Maple Residency เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย










รสชาติเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ? พวกเรามาเร็วเกินไปเขาทำให้ไม่ทัน อิ่มแล้วถึงได้มา

[ตัวเล็ก]

รถยนต์ของวันนี้เป็นยี่ห้อ Toyota Crysta ป้ายทะเบียนนครรัฐสิกขิม


เป็นนโยบายบังคับของนครรัฐสิกขิม ที่จะหางานหาเงินให้คนของเขา


ได้อารมณ์เดียวกับนั่งรถในเมืองไทย


มีการ "แหกตา" ระบบอัตโนมัติด้วย


เวลา ๐๘.๓๐ น. ออกเดินทางตรงเวลาเป๊ะ


ไปทาง Tsomgo ๓๕ กิโลเมตร


อากาศควรจะดีครึ่งวัน ไม่อย่างนั้น "เจ้าแม่น้ำพริกสละ" อาจจะโดนยำเป็นน้ำพริกกะปิแทน..!


วันนี้ต้องมักใหญ่ใฝ่สูง หนทางมีแต่ขึ้นกับขึ้น


ตะกายฟ้าหาดาวไปเรื่อย ๆ


มีแต่ชนชั้นสูง


เข้าเมืองลับแลอีกแล้ว


มาติดที่ด่านตรวจชายแดน


ใช้รถพื้นเมือง แต่ไม่มีไกด์พื้นเมือง (นายสุเรศวร์เป็นอินเดียน) จนต้องใช้กำลังภายในช่วยถึงผ่านได้..!


โฉมหน้าคณะผู้ก่อการดี..!


ผ่านด่านมาก็เหมือนกับเข้าเมืองลับแล

[ตัวเล็ก]

ตะกายฟ้าคว้าดาวไปเรื่อย ๆ มีแต่ขึ้นกับขึ้น


ตื่นเต้นขึ้นไปอีก..!


จุดไหนอันตรายมาก ก็จะมีธงมนต์คอยคุ้มครอง




ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว


จากมืดเหมือนเข้าถ้ำ ขอเพิ่มสำนวน "มัวเหมือนผ่านหมอก"








หลุดออกมาได้เหมือนกับอยู่คนละโลก






มีน้ำตก มีจุดชมวิว มีร้านอาหาร มีร้านขายของที่ระลึก


เหมือนอยู่ข้างห้วงรักเหวลึก










ตกเหวพอปีนกลับได้ ตกหลุมรักเมื่อใด ไม่คิดแม้แต่จะปีน ๕๕๕


ใครชอบเล่นเสียวเชิญได้ที่นี่..!
























มีน้ำตกเป็นระยะไป ใครชอบตรงไหนเชิญแวะได้เลย


ขาไปได้ดูแค่นี้ ขากลับน่าจะได้เห็นเหวบ้าง